ให้คนรุ่นต่อไป จะได้รู้และศึกษา แผ่น ฟิมล์ที่ถึงการ อวสาน ในเวลาต่อมา

พ่อผู้เขียนทําโรงหนังมืออาชีพ ทําจากจิตและวิญญาน อย่างแท้จริงทําโรงหนังถึง สองโรง มีทับเที่ยงภาพยนตร์และโรงหนังคิงส์ตรัง เริ่มโรงแรก ในยุคสงครามโลก ทําโรงภาพยนตร์เกือบ30ปี หอภาพยนตร์ยกให้ท่านคือตํานานนักสู้ผู้บุกเบิกโรงหนังโรงแรกของ จ.ตรัง

นายเว้ง จิตต์แจ้งอดีตนักเรียนเก่าปีนัง ทําโรงหนังด้วยความรู้ ความสามารถใจรักเครื่องเสียงสีแสงและเครื่องฉาย ซ่อมเองได้มีทักษะและชํานาน มีพรสวรรค์งานด้าน นี้เรียนจบสาขานี้ ที่ปีนังประเทศมาเลเซีย จบรุ่นหนึ่งสอนโดย อ.ชาวอังกฤษและอ.จีนใช้ตําราภาษาอังกฤษและจีน. ท่านจึงได้ความรู้มากทําโรงหนังสิ่งที่ท่านหนักอกหนักใจที่สุดคือช่วงปี2483-2489 ช่วงนั้นไม่มีสายหนัง ผจก.โรงหนังต้องไปติดต่อเองที่กรุงเทพฯ.

ต้องพกเงินสดๆไปซื้อหนังดีๆ มาฉายหรือสัญญานําหนังมาฉายแบ่ง รายได้คนละครึ่งเพราะที่ตรัง เมื่อ60ปีก่อน คนนิยมดูหนังมาก โรงหนังสแตนอโลน คสาสิกมีคุณค่า ได้ความรู้ ทําให้เด็กและผู้ใหญ่เกิดปัญญา สมัยนั้นไม่มีสื่ออื่นใดนอกจากวิทยุ พ่อแม่จึงพาลูกมาดูหนังประจํา

คุณพ่อเล่าว่า. ยุคหลังสงครามโลกหนังอเมริกันและยุโรป มีน้อยมาก มีแต่หนังของเอเซีย เช่นจีน ญี่ปุ่น อินเดียซึ่งคน. ไม่ค่อยนิยม

โขคดี ก่อนหน้านี้ คุณพ่อซื้อหนังในสต๊อก ไว้หลายเรื่อง เช่นหนังคาวบอยบิลลี่เดอะคิต หนังตลก ชาลีแชมปลิ้น ตลกอ้วนผอม จึงเอาหนังเก่าของเราเอง มาปัดฝุ่นทําโฆษณาประชาสัมพันธ์ใหม่ หนังคาวบอยหานักพากย์ดีๆ คนชอบได้เฮ มาดูกันมาก ถือเป็นยุคข้าวยากหมากแพงโชคดีชาวตรังมีสวนยางพารา โชคดีอยู่บ้างที่พ่อมี เพื่อนในวงการภาพยนตร์มาก. พักพวกส่งหนังมาให้ใส่กล่องไม้ฉําฉา ส่งมาทางรถไฟส่งถึงที่บ้าน นายเว้ง จิตต์แจ้ง มีเรื่องขุนช้างขุนแผนฉบับปี2484 มล.รุจิรา ณ.อยุธยา มาพากย์ให้

และอีกเรื่องพระเจ้าช้างแผือก ฉบับคุณปรีดี พนมยงค์. และเรือง โตนยาช้างฯลฯ

คุณพ่อเล่าว่าตั้งแต่ปี2486-2496ไปกรุงเทพฯประจํา. สิ่งที่สําคัญคือไป บ.หนังดัง คือ บ.สหศินีม่า อยู่ที่เฉลิมกรุง บ,จัดจําหน่ายหนังฝรั่งดีๆ

คุณภาพคุณพ่อได้พบกับ คุณชุณห์บินฑานนท์ท่านเป็นประธาน บริษัทนี้

และคุณพ่อได้พบ ทําสัญญากับ คุณประภาศ นิลอุบล และคุณแท้ ประกาศวุฒิสาร สองท่านผู้บริหารจึงได้หนังดีมาฉายที่ตรังได้ตลอด.ทั้งปี ,แต่หนังบ.นี้ราคาค่อนข้างสูง

พ่อเล่าว่ามีอีก บ.หนึ่งราคา ถูกลงหน่อย คือของ บ.เอเซียฟิลม์เจ้าของผู้จัดการคือคุณหิรัญ เงยไพบูรณ์เป็นคนกวางตุ้งเลยถูกคอกัน ใครๆเรียก เฮียเฮี้ยง ในวงการเรียกหนังกระป๋องแดง เพราะกระดาษที่ติดฝา กระป๋องหนังสีแดงเห็นชัดๆ พบทีไร เฮียเฮี้ยง พาไปกินข้าวที่เยาวราชเพราะ เอเซียฟิลม์มี2สาขามีที่เวิงนครเกษมและถนนเจริญกรุง

ยังมีบ.จัดจําหน่ายหนังจีนของฮ่องกงและไตหวัน ผู้จัดการชื่อเควินเป็นคนสิงค์โปร์ บ.อยู่ห้าแยก ใกล้โรงหนังโอเดียน คุยภาษากวางตุ้งถูกคอท่านให้หนังดังเรื่องแม่นํ้าวิปโยคมาฉายที่ตรังและหนังจีนอีกหลายเรื่อง

คุณพ่อให้ช่างภาพภ่ายรูปโรงหนังโอเดียน ไว้2ภาพเป็นของพ่อทีเก็บไว้นานถ่ายประมาณปี2496ภาพยังคมชัด

คุณพ่อโกวิท จิตต์แจ้งท่านเสียชีวิตเดือนกันยายนปี2536 ได้รับโปรดเกล้าพระราชทานเพลิง จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่9

วิวัย จิตต์แจ้งเขียน เรียบเรียง

เครดิตขอบคุณ เจ้าของภาพ