Mobile Version / สำหรับโทรศัพท์มือถือ ยินดีต้อนรับท่านผู้มาเยือน www.peoplecine.com ท่านยังไม่ได้ log in นะครับ เข้าใช้งานระบบ / สมัครสมาชิก/ ลืมรหัสผ่าน

ร่วมทดสอบ Peoplecine mobile Beta0.1


รูป
ตามไปดูหนังกลางแปลงเจ้าของ ผู้ตอบหลังสุด
-งานศาลเจ้า สุขุมวิท65 ต้นปีที่ผ่านมา.. 2/12/2560 18:47
-กะสะมา ภาพยนตร์ อ.น้ำพอง 087-806-8088.. 3/11/2560 14:44
-ฝากไว้สัก จอ ครับหน่วยๆเล็ก อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น.. 3/11/2560 14:36
-รายการ the avengers travels ตอน หนังกลางแปลง...ยังไม่มีคนตอบ
-ระบบฟิล์มยังอยู่นะครับ กับงานแก้บน.. 1/10/2560 23:15
-งานฉลองพัดยศครับยังไม่มีคนตอบ
-ยังไม่ได้ตั้งชื่อ.. 28/7/2560 20:54
-จำปาทอง งานวัดเสม็ด - อำปึล อ.เมืองสุรินทร์ 16 เมษายน 2560.. 19/6/2560 15:26
-นันทวัน ที่วัดช่างปี่ อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ 15 มีนาคม 2560.. 15/6/2560 22:42
-ฉายหนังงานวัด..งานสรงน้ำพระธาตุ..วัดบ้านปงแม่ลอบ อ.แม่ทา จ.ลำพูน.. 15/6/2560 22:41
-ลงงานบวชที่อำพวา.. 5/6/2560 18:56
-ลงงานขาวดำต่่ออีกครับ.. 8/5/2560 19:05
-ลงงานขาวดำ ครับ.. 26/4/2560 12:45
-จัดกันไปกับงานประจำปีศาลจ้าว.. 22/4/2560 4:48
-งานวัดจัดไป.. 16/4/2560 19:27
-งานวัดย้อนยุคที่ระยองครับ.. 16/4/2560 19:26
เลือกหน้า [1] [2] [3] [4] [5] [6] [7] [8] [9] [10] [11] [12] [13] [14] [15] [16] [17] [18] [19] [20] [21] [22] [23] [24] [25] [26] [27] [28] [29] [30] [31] [32] [33] [34] [35] [36] [37] [38] [39] [40] [41] [42] [43] [44] [45] [46] [47] [48] [49] [50] [51] [52] [53] [54] [55] [56] [57] [58] [59] [60] [61] [62] [63] [64] [65] [66] [67] [68] [69] [70] [71] [72] [73] [74] [75] [76] [77] [78] [79] [80] [81] [82] [83] [84] [85] [86] [87] [88] [89] [90] [91] [92] [93] [94] [95] [96] [97] [98] [99] [100] [101] [102] [103] [104] [105] [106] [107] [108] [109] [110] [111] [112] [113] [114] [115] [116] [117] [118] [119] [120] [121] [122] [123] [124] [125] [126] [127] [128] [129] [130] [131] [132] [133] [134] [135] [136] [137] [138] [139] [140] [141] [142] [143] [144] [145] [146] [147] [148] [149] [150] [151] [152] [153] [154] [155] [156] [157] [158] [159] [160] [161] [162] [163] [164] [165] [166] [167] [168] [169] [170] [171] [172] [173] [174] [175] [176] [177] [178] [179] [180] [181] [182] [183] [184] [185] [186] [187] [188] [189] [190] [191] [192] [193] [194] [195]
จำนวนหัวข้อทั้งหมด 3120

"หนังกลางแปลง" จอที่แปรเปลี่ยนไป...


ผมและครูนุได้ให้สัมภาษณ์ไว้ก่อนไปงานที่บางแสนครับ...
ขอขอบคุณเวปและหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ...

"หนังกลางแปลง" จอที่แปรเปลี่ยนไป

หนังกลางแปลง แหล่งบันเทิงบนลานกว้าง ในกระแสการเปลี่ยนแปลงที่เชี่ยวกราก วันนี้-พรุ่งนี้ จะเป็นอย่างไร?

"หนังกลางแปลง" เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของความบันเทิงที่คู่เคียงกับสังคมไทยมานาน โดยเฉพาะชาวบ้านร้านตลาด และชาวชนบทที่อยู่ห่างไกลความเจริญ ไม่ว่า ณ ที่ใดก็ตาม เมื่อมีการตั้งจอหนังบนลานกว้างและเปิดเพลงดังกระหึ่มในยามเย็น เสียงเพลงที่ดังกังวานนั้น เหมือนจะปลุกให้ผู้คนเกิดความคึกคักมีชีวิตชีวา ก่อนที่จะพากันออกมานั่งหาความสุขสำราญดูหนังกลางแปลงในค่ำคืนนั้น

หนังกลางแปลงสามารถจะมองในเชิงสังคมได้หลายมิติ ทั้งในแง่ของแหล่งความบันเทิงที่ไม่ต้องเสียเงิน เป็นจุดสังสรรค์นัดพบของผู้คนในชุมชน และยังสะท้อนให้เห็นฐานะและรสนิยมความบันเทิงของชุมชนนั้นๆ อีกด้วย หรือแม้กระทั่งเป็นแหล่งพบรักของคนหนุ่มสาว หนังกลางแปลงก็มีบทบาทในเรื่องเหล่านี้ โดยเฉพาะหนุ่มสาวตามชนบท ซึ่งหนังกลางแปลงมีส่วนทำให้ดอกรักบานสะพรั่งในใจคนหนุ่มสาว จนร่วมหอลงโรงเป็นคู่ชีวิตมามากต่อมากแล้ว

ในอดีต หนังกลางแปลง มีความรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก นอกเหนือจากจะเป็นความบันเทิงที่สามารถจะเคลื่อนย้ายไปได้ทุกแห่งหนแล้ว หนังกลางแปลงยังถือเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการโฆษณาประชาสัมพันธ์อีกด้วย ดังจะเห็นได้ว่ามีหลายบริษัทได้ใช้หนังกลางแปลงนี่แหละ เป็นเครื่องมือสำคัญในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ได้อย่างทั่วถึง ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ที่ทุรกันดารสักเพียงใด รถที่ถูกดัดแปลงเป็นรถฉายหนังกลางแปลงก็สามารถจะเดินทางไปถึงได้

แต่ครั้นเทคโนโลยีการฉายหนังในรูปแบบใหม่เกิดขึ้น นับตั้งแต่เครื่องฉายหนังวีดิโอเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น จึงส่งผลกระทบต่อวงการหนังกลางแปลงทันที และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าหนังกลางแปลงจะยังมีอยู่ แต่ก็ต้องปรับตัวขนานใหญ่ และเมื่อเข้าสู่ยุคหนังแผ่น หนังกลางแปลงก็เหมือนถูกกระแสลมแห่งการเปลี่ยนแปลงโหมพัดอย่างรุนแรง จนทุกวันนี้จึงทำให้คนที่มีอาชีพเกี่ยวกับการรับจ้างฉายหนังกลางแปลง บางรายก็ต้องเลิกรา บางรายต้องปรับตัวเพื่อแสวงหาความอยู่รอด เว้นเสียแต่เป็นรายใหญ่ที่มีเงินทุนหนาจริงๆ และสามารถจะซื้อหนังใหม่ๆ จากสายหนังหรือบริษัทในกรุงเทพฯ เอาไว้ทีละหลายๆ เรื่อง สำหรับนำไปฉายเป็นกลางแปลงเท่านั้น

บรรดาศูนย์รวมเกี่ยวกับการรับจ้างฉายหนังกลางแปลงทั่วประเทศ ทั้งระบบใหม่และระบบเก่า รวมถึงการเป็นแหล่งของชุมชนคนรักระบบเครื่องฉายภาพยนตร์ ฟิล์มภาพยนตร์ โปรเจคเตอร์ เครื่องฉายหนัง โรงหนัง หนังกลางแปลง คนฉายหนัง คนทำหนัง นักพากย์ โฮมเธียเตอร์ หนังเก่า หนังใหม่ และมียังบริการฉายหนังกลางแปลงในงานพิธี งานเทศกาลหนัง...รวมทั้งรับจัดงานอีเวนท์ต่างๆ ด้วยนั้น เว็บไซต์ www.peoplecine.com ถือเป็นศูนย์รวมใหญ่ที่นอกจากจะบริการฉายหนังกลางแปลงแล้ว ยังมีเครือข่ายผู้รับจ้างฉายหนังกลางแปลงทั่วประเทศอีกด้วย

สำหรับ www.peoplecine.com นั้น มี แอ๊ด หรือ นิธิวิทย์ ธานินทร์สุรวุฒิ เป็นผู้ก่อตั้ง ซึ่งคลุกคลีอยู่กับวงการนี้มาโดยตลอด และมี อนุกูล วิมูลศักดิ์ อดีตเด็กวิ่งรับ-ส่งฟิล์มหนังกลางแปลง และคนในครอบครัวแทบทุกคนล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้องกับหนังกลางแปลง โดยปัจจุบันเข้ามาทำหน้าที่เป็นเว็บมาสเตอร์ของ www.peoplecine.com และติดตามความเคลื่อนไหวในวงการหนังกลางแปลงอย่างต่อเนื่อง

ดังนั้น คำบอกเล่าและการสะท้อนความคิดในแง่มุมเกี่ยวกับหนังกลางแปลงในยุคปัจจุบัน นอกจากจะทำให้เห็นสภาพที่กำลังเกิดขึ้นกับวงการนี้แล้ว ยังจะทำให้เห็นทิศทางในอนาคตของหนังกลางแปลง ที่นับวันจะต้องเจอกับมรสุมแห่งการเปลี่ยนอย่างเลี่ยงไม่ได้

1.ความเจ็บปวดของหนังกลางแปลง

เป็นที่ทราบกันดีว่า ทุกวันนี้เครื่องฉายหนังแผ่นระบบต่างๆ ได้หลั่งไหลเข้ามาสู่ตลาดในเมืองไทยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะสินค้าที่ผลิตในบ้านเรา และที่ทะลักมาจากประเทศจีน ใครๆ ก็สามารถจะซื้อมาฉายหนังดูในบ้านได้ เพราะราคาก็เพียงไม่กี่ร้อยเท่านั้น แน่นอนที่สุดมันจึงส่งผลกระทบกับคนที่มีอาชีพรับจ้างฉายหนังกลางแปลงอย่างรุนแรง และไม่สามารถจะเลี่ยงได้เลย

"นี่เป็นความเจ็บปวดของคนในวงการหนังกลางแปลง เดี๋ยวนี้แทบจะทุกหลังคาเรือน ไม่ว่าจะอยู่บ้านนอกไกลแสนไกล ก็สามารถจะซื้อเครื่องฉายเครื่องเล่นซีดีได้ อีกอย่างราคาก็แสนถูก เพราะฉะนั้น ภาพความเฟื่องฟูของหนังกลางแปลงที่ผมเคยเห็นในยุคก่อน โดยบางเจ้าหรือที่ศัพท์คนหนังกลางแปลงเรียกว่า 'หน่วย' นั้น มีรถสำหรับตระเวนฉายหนังกลางแปลงกว่า 30 คันจอดเรียงรายยาวเหยียด เดี๋ยวนี้ไม่มีแบบนั้นแล้วนะ บางรายที่เล็กๆ ก็ถึงกับเปลี่ยนอาชีพไปเลย"

นั่นเป็นฉากแรกที่ แอ๊ด ได้บอกเล่าให้รับรู้ถึงสภาพหนังกลางแปลงในยุคนี้

"รายที่อยู่รอดนั้น ต้องมีเงินทุนมากๆ จึงจะอยู่ได้ เพราะสามารถจะซื้อเครื่องฉายยุคใหม่และหนังดังมาฉายได้ หรือไม่บางรายก็ต้องปรับตัว...อย่าลืมว่าทุกวันนี้หนังไม่ว่าจะเป็นหนังไทยหรือหนังต่างประเทศไม่ได้ทำหนังโดยใช้ฟิล์ม แต่ทำหนังระบบดิจิทัล เพราะฉะนั้น หนังที่ใช้ระบบฟิล์ม 35 มม. จึงเป็นแต่หนังเก่า แล้วคนที่มีอาชีพรับจ้างฉายหนังกลางแปลงในบ้านเราส่วนมาก มีแต่เครื่องอาร์คระบบเก่าที่ใช้ฉายกับหนังฟิล์ม 35 มม. มันจึงกลายเป็นปัญหาใหญ่อย่างมากสำหรับคนทำอาชีพนี้ซึ่งเป็นรายเล็กรายน้อย"

สิ่งที่แอ๊ดเปิดประเด็นต่อมา ซึ่งเป็นเรื่องน่าเศร้าสำหรับวงการหนังกลางแปลงก็คือ ไม่มีหน่วยงานใดๆ เลยที่เข้ามาช่วยเหลือดูแลคนที่มีอาชีพนี้ ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมากทุกจังหวัดและในกรุงเทพฯ ซึ่งต่างจากอาชีพอื่นๆ บางอาชีพ ซึ่งได้รับการอนุรักษ์ไว้ให้เป็นมรดกเก่าแก่ และมีการช่วยเหลือจากภาครัฐ แต่สำหรับหนังกลางแปลงไม่มีเลย ด้วยเหตุนี้เอง คนรับจ้างฉายหนังกลางแปลงที่มีอยู่ตามตัวจังหวัดและตามอำเภอต่างๆ จึงต้องดิ้นรนกันเอง

"คุณคิดดูก็ได้นะ ฉายหนังเก่าจะคิดราคาแพงก็ไม่ได้ ถ้าคิดราคาแพง เจ้าภาพไปจ้างหมอลำซิ่งไม่ดีกว่าเรอะ...เด้งหน้าเด้งหลัง เห็นเนื้อเห็นหนังจริงๆ ด้วย เพราะฉะนั้น หน่วยฉายหนังเล็กๆ ในระดับอำเภอและหมู่บ้าน ถ้าคิดราคาแพงก็ไม่มีใครจ้างหรอก"

นอกจากนี้แล้ว แอ๊ด ยังบอกอีกว่า คนรับจ้างฉายหนังกลางแปลงรายเล็กรายน้อยนั้น จะปรับเปลี่ยนเพื่อให้ทันกับยุคสมัยก็ลำบาก เพราะว่าจะต้องใช้เงินทุนสูง เพราะการซื้อเครื่องฉายยุคใหม่


ความเห็น

[1]


นอกจากนี้แล้ว แอ๊ด ยังบอกอีกว่า คนรับจ้างฉายหนังกลางแปลงรายเล็กรายน้อยนั้น จะปรับเปลี่ยนเพื่อให้ทันกับยุคสมัยก็ลำบาก เพราะว่าจะต้องใช้เงินทุนสูง เพราะการซื้อเครื่องฉายยุคใหม่อย่างเครื่องฉายโปรเจคเตอร์นั้น ราคาเครื่องละเป็นล้าน หรือไม่บางเครื่องก็หลายล้าน จึงทำให้เจ้าของหนังกลางแปลงเล็กๆ ไม่สามารถจะซื้อหามาได้

2.หนังกลางแปลงแลกข้าว

ในท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคหนังแผ่น และเครื่องฉายระบบดิจิทัล จึงทำให้เครื่องฉายหนังระบบเก่า ฉายได้กับหนังที่ใช้ฟิล์ม 35 มม. ซึ่งได้กลายเป็นหนังเก่า และไม่มีบริษัทหนังใดผลิตหนังที่ใช้ฟิล์มออกมาแล้วนั้น คนที่เคยมีอาชีพรับจ้างฉายหนังจึงจำยอม และต่างก็ดิ้นรนกันไป

"คุณเคยได้ยินมั้ยที่ว่า 'หนังกลางแปลงแลกข้าว'...มันน่าเศร้าใจนะ คือ คนที่เคยมีอาชีพนี้ก็ไม่รู้จะไปทำอะไร เพราะมีเครื่องฉายหนังเก่า และหนังที่ฉายก็ต้องเป็นหนังเก่า จะปรับเปลี่ยนเป็นหนังล้อมผ้า หรือหนังเร่ก็ไม่มีคนดู เจ้าภาพที่จัดงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานบวช งานศพ ก็ไม่มีใครมาจ้างอีก เพราะหนังมันเก่า สุดท้ายก็ต้องดิ้นรนโดยฉายหนังแลกข้าวก็เอา เพื่อความอยู่รอดนั่นแหล"

นี่เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นสภาพคนที่มีอาชีพรับจ้างฉายหนังรายเล็กๆ ที่ถูกกระแสเทคโนโลยีเกี่ยวกับเครื่องฉายหนังยุคดิจิทัลโหมซัดจนซวดเซ

แต่ปัญหาใหญ่ที่มากกว่านั้น ซึ่งจะทำให้อาชีพฉายหนังกลางแปลงเหลือไม่มากนัก นอกเหนือจากเครื่องฉายหนังระบบใหม่ๆ จะมีราคาแพงแแล้ว ก็ยังมีอีกหนึ่งปัญหาที่คนอาชีพนี้ต้องเจอ

"ปัญหาใหญ่อีกปัญหาหนึ่งก็คือเรื่องลิขสิทธิ์ เพราะปัจจุบันนี้มีกฎหมายเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ด้วย...นี่ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่คนมีอาชีพรับจ้างฉายหนังกลางแปลงต้องเจอ และจะเป็นปัญหาใหญ่มาก"

ทุกวันนี้คนทำธุรกิจฉายหนังกลางแปลงทั้งระดับกลางและระดับเล็กๆ ต้องแสวงหาหนทางและต้องปรับเปลี่ยนวิธีการทำมาหากิน ไม่ว่าจะเป็นการรับจ้างฉายหนังย้อนยุค หรือเดินสายพ่วงไปกับวงดนตรีลูกทุ่ง ก็ล้วนแล้วแต่เป็นการแสวงหาความอยู่รอดทั้งสิ้น

3.คำบอกเล่าอดีตเด็กรับ-ส่งฟิล์มหนัง

"เท่าที่จำความได้ ตอนเด็ก สมาชิกในครอบครัว ก็คือ คุณพ่อและญาติๆ ก็เป็นลูกน้องในทีมงาน “สมานมิตรภาพยนตร์” กาญจนบุรี ซึ่งเริ่มดำเนินกิจการมาตั้งแต่ก่อนผมเกิดเสียอีก วันไหนที่มาตั้งจอฉายที่วัดไชยชุมพลชนะสงคราม, วัดเทวสังฆาราม และวัดถาวรวนาราม พ่อถึงจะพาผมไปดู พอโตขึ้นมาได้สักหน่อย วีดิโอ เทป VHS ก็เข้ามา แล้วก็ “ฟรีทีวี” ซึ่งมีรายการที่หลากหลายขึ้น รวมทั้งละครหลังข่าว ซึ่งช่วงแรกๆ หนังกลางแปลงก็เจอผลกระทบอย่างไม่มีทางเลี่ยง ซึ่งก็รวมถึง “สมานมิตรภาพยนตร์” ด้วย ภาพที่เห็นเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะย้ายติดตามครอบครัวไปหลายที่ นั่นคือ บรรดาอุปกรณ์ซึ่งถูกปล่อยทิ้งจนหมดสภาพ"

นี่คือความทรงจำของ "อนุกูล วิมูลศักดิ์" ซึ่งคลุกคลีกับหนังกลางแปลงมาตั้งแต่เด็กๆ เขาเล่าว่า...

ระหว่างที่ย้ายติดตามครอบครัวอยู่นั้น ก็ได้มาอยู่ที่จังหวัดกำแพงเพชรช่วงหนึ่ง และนั้นคือจุดเริ่มต้นของการดูหนังกลางแปลงอย่างจริงจัง ช่วงนั้นวีดิโอ เทป ราคาถูกลงก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกครอบครัวสามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ แม้แต่ครอบครัวผมก็ไม่มีโอกาสที่จะเป็นเจ้าของ ดังนั้น “หนังกลางแปลง” เป็นแหล่งบันเทิงที่เข้าถึงได้ เพราะตอนอยู่ที่กำแพงเพชรนั้น จะมีบริการหนังกลางแปลงจากจังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งมีศูนย์รวมอยู่ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารในตัวจังหวัด (และยังเป็นผู้ได้รับสิทธิจากค่ายหนัง เฉพาะในเขตภาคเหนือตอนล่างในเวลานั้น) เข้ามาฉายแทบทุกสัปดาห์ โชคดีที่ครอบครัวเคยไปขายของขบเคี้ยว และน้ำอัดลมในวัด เวลามีหนังกลางแปลงมาฉายตลอด ก็เลยเจอกับเจ้าของบริการหนังกลางแปลง หรือไม่ก็ลูกน้อง ซึ่งเป็นคนฉาย เป็นคนฉีกตั๋ว ผลพลอยได้ก็คือได้สิทธิพิเศษเข้าชมฟรี

นอกจากนี้ก็ยังมี “หนังขายยา” จากหลายบริษัททั้งที่ขายยา และไม่ขายยา เช่น เครื่องดื่มบำรุงกำลัง น้ำอัดลม ฯลฯ แวะมาสลับสับเปลี่ยนบ้าง ทำให้ตอนนั้นได้ดูหนังตามกระแสที่หลากหลาย แม้จะช้ากว่าก็ตาม บางครั้งก็ฉายโต้รุ่ง ผลก็คือต้องอดนอนในวันรุ่งขึ้น ยังดีที่วันที่พวกเขามาฉายนั้นเป็นวันศุกร์ หรือวันเสาร์ซึ่งไม่ต้องไปโรงเรียน ต่างจาก “หนังขายยา” ซึ่งมาในวันธรรมดา ซึ่งก็ดีอย่างหนึ่งที่เลิกเร็ว เพราะฉายแค่เรื่องเดียว เนื่องจากมีพักขายยาช่วงกลางเรื่อง นานๆ จะเห็นฉายสองเรื่องโดยมีการพักขายยาตอนเปลี่ยนเรื่อง หรือไม่ก็แยกในส่วนของการขายยาออกไปต่างหาก หนังก็ฉายไป ที่ขายยาก็ขายไป

4.โฮม เอ็นเตอร์เทนเมนท์-ดีวีดี

อนุกูล มองถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนและส่งผลกระทบต่อหนังกลางแปลงว่า...หลังจากที่ครอบครัวย้ายมาอยู่นครสวรรค์ในปลายปี พ.ศ. 2532 การดูหนังกลางแปลงก็ยังไม่ทิ้ง

จนกระทั่งปี พ.ศ. 2540 ซึ่งเป็นภาวะฟองสบู่แตก เวลานั้นก็มีเทคโนโลยีของ โฮม เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ก็บังเกิดขึ้น ทั้ง “ดีวีดี” ที่เข้ามาแทนที่ “เลเซอร์ดิสก์” ซึ่งครั้งหนึ่งมันถูกจำกัดเฉพาะคนที่มีฐานะ และการถือกำเนิดของ “ดีวีดี” นี้เอง ที่ส่งผลให้โฮม เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ที่เคยพัฒนาขึ้นมาก่อนหน้า ซึ่งแต่ก่อนมีราคาสูงพอสมควร ทั้งเครื่องเล่นและตัวแผ่น ราวๆ ปี พ.ศ. 2537 นั่นคือ “วีซีดี” จนกระทั่งหลังปี พ.ศ. 2540 วีซีดีก็เริ่มได้รับความนิยม เนื่องจากเครื่องเล่นและตัวแผ่นมีราคาถูกลง และสามารถหาซื้อได้ไม่ยาก ทุกครอบครัวต่างก็มีกันทั้งนั้น

การเข้ามาของวีซีดี (รวมทั้งดีวีดีที่ราคาถูกลงในภายหลัง) ก็ส่งผลกระทบต่อ “หนังกลางแปลง” อีกครั้ง และดูเหมือนว่าจะยิ่งกว่าครั้งที่วีดิโอ เทป VHS เข้ามาตีตลาดเสียอีก ซ้ำยังเป็นผลพลอยได้ให้กับกลุ่มบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับการละเมิดลิขสิทธิ์หนังอีกด้วย ดังนั้นในช่วงเวลาดังกล่าวจึงพบเห็น “หนังชนโรง” วางจำหน่ายอยู่ทั่วไป ประกอบกับหลังปี พ.ศ. 2545 เมื่อการจัดจำหน่ายหนังเกิดการเปลี่ยนแปลง จากแต่เดิมที่บริการหนังกลางแปลงเคยเป็นผู้ได้รับสิทธิกลายเป็นรูปแบบผูกขาดเบ็ดเสร็จ ภายใต้เงื่อนไขของผู้จัดจำหน่าย

"โดยส่วนตัวนะ สถานการณ์และสภาพสังคมมันเปลี่ยนไป ผมเชื่อว่า ฝ่ายการตลาดของค่ายหนัง หรือผู้จัดจำหน่ายหนัง เขาต้องทราบอยู่แล้ว หนังกลางแปลงคือปลายน้ำ ซึ่งมีผู้บริโภครายย่อยชุดสุดท้ายที่ได้สัมผัส และไม่ต้องเสียเงินเลย ต้องไม่ลืมว่าผู้บริโภคหลัก จะอยู่ที่โรงภาพยนตร์ ก็เลยมุ่งเน้นไปที่ต้นน้ำมากกว่า ส่วนหนังจะทำเงิน หรือขาดทุนนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ส่วนกลางน้ำก็คือ โฮม เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ทั้งวีซีดี ดีวีดี หรือ บลูเรย์ ซึ่งทำรายได้เสริม หลังจากหนังออกจากโรงมาบ้าง ทีนี้พอมีการละเมิดลิขสิทธิ์ มันส่งกระทบทั้งหมดเลย ทั้ง ต้นน้ำ กลางน้ำ และ ปลายน้ำ

5.หนังกลางแปลงคือปลายน้ำ

เนื่องจาก “หนังกลางแปลง” มีราคาขั้นต่ำในการรับงานที่กำหนดไว้ ซึ่งคนภายนอกไม่ค่อยรู้ ดังนั้นเวลาเจ้าภาพจะจ้างไปฉายจึงต้องกำหนดราคาโดยกะประมาณเอง หรือจากการบอกต่อของผู้ที่เคยไปติดต่อ นอกจากนี้ยังมีตัวแปรอีกอย่างก็คือ ลักษณะชุดฉาย หรือตัวหนังที่จะฉาย หากเป็นชุดใหญ่ หรือต้องการหนังใหม่ฉายชนโรง ราคาก็สูงขึ้น เป็นต้น

ในกรณีนี้ อนุกูล ยกตัวอย่างว่า "สิ่งที่เห็นได้ชัด ก็คือ แถวบ้านผมนี่แหละ ตอนย้ายมาอยู่ใหม่ๆ ช่วงปี พ.ศ. 2533 ถึง พ.ศ. 2535 ยังได้ดูหนังปิดวิกเก็บเงิน เดือน 2 ครั้งคือช่วงต้นเดือน กลางเดือน ครั้งละ 3-4 เรื่อง ต่อมาก็นานๆ ครั้ง และหายไปช่วงก่อนเกิดวิกฤตการณ์ฟองสบู่แตก มาเห็นปิดวิกอีกทีก็ตอน “นางนาก” กับ “สุริโยไท” และตอนปี พ.ศ. 2547 ก็มีหนังกลางแปลงซึ่งไปเช่าหนังมาจากบริษัทแห่งหนึ่งเพื่อมาปิดวิก ทั้งๆ ที่บริษัทดังกล่าวมีนโยบาย “ห้ามปิดวิก” และ “ห้ามวิ่งหนัง”

นี่ยังไม่นับรวมงานวันเกิดของเจ้าอาวาส ต้นเดือนมกราคม 2 คืน, งานวัดซึ่งเป็นงานประจำปี ในเดือนกุมภาพันธ์ 5 คืน, งานศาลเจ้า เดือนมีนาคม 5 คืน และงานลอยกระทง 2 คืน ช่วงหลังมานี้เมื่อกว่าจะได้ดูหนังต้องรอไปอีกปี ยกตัวอย่างเช่น งานวัดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปีก่อน หนังกลางแปลงฉาย “ปัญญา เรณู” ภาคแรก ทั้งๆ ที่เวลานั้นในโรงกำลังฉายภาคสองอยู่

เพราะฉะนั้น...ช่วงที่ผ่านมา ก็สังเกตได้จากงานประจำปี ที่เป็นงานวัด หรืองานศาลเจ้าบางแห่งในต่างจังหวัด ซึ่งเมื่อก่อนเคยมี “หนังกลางแปลง” แต่เดี๋ยวนี้ “ไม่มี” หนังกลางแปลงในงานแล้ว เนื่องจากผู้จัดงานได้ตัดไปโดยปริยาย และเปลี่ยนไปเป็นการแสดงดนตรีลูกทุ่งแทน ซึ่งได้รับความนิยมมากกว่า"

6.ลมหายใจอีกเฮือกของหนังกลางแปลง

หากมองถึงความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับหนังกลางแปลงในขณะนี้แล้ว เกี่ยวกับเรื่องนี้ อนุกูล วิมูลศักดิ์ ที่คลุกคลีและเฝ้ามองดูวงการหนังกลางแปลงมาโดยตลอด แยกแยะให้เห็นว่า

อีกสิ่งหนึ่งที่หนังกลางแปลงกำลังเผชิญอยู่ นั่นคือ การเข้ามาของ “ดิจิทัล” เนื่องจากโรงภาพยนตร์หลายแห่งทั้งในกรุงเทพฯ และ ต่างจังหวัด ทยอยเปลี่ยนเครื่องฉายจากระบบฟิล์มเป็นดิจิทัล และหนังหลายเรื่อง ก็ถูกส่งเป็นไฟล์บรรจุในฮาร์ดดิสก์ที่มีระบบป้องกันอย่างแน่นหนา รวมทั้งกำหนดเวลาการใช้งานด้วย ดังนั้น ความจำเป็นในการพิมพ์ฟิล์มก็เหลือน้อยลง เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นนั่นเอง

"โดยส่วนตัว ก็มองว่าในเวลานี้ก็เริ่มมีการปรับตัวบ้างแล้ว เช่น ให้เช่าเครื่องเสียงกลางแจ้ง เพราะยังไงก็สามารถต่อยอดออกมาได้ ส่วนหนังกลางแปลงก็เป็นงานเสริมไป จากการติดตามก็พบว่าช่วงนี้ยังมีผลกระทบเกิดขึ้นบ้างไม่มากนัก ประกอบกับยังมีความไม่ชัดเจนในหลายๆ เรื่อง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่จะได้เห็นต่อจากนี้ ซึ่งเป็นผลพลอยได้ไปแบบเต็มๆ นั่นคือ ผู้ประกอบการงานพรีเซนเทชั่นที่เป็นงานใหญ่ ที่ใช้โปรเจคเตอร์แบบในโรงภาพยนตร์อยู่ก่อนแล้ว (แต่จะฉายเฉพาะที่มีงานสำคัญเท่านั้น) กับผู้ที่ให้บริการเช่าโปรเจคเตอร์ สำหรับฉายภาพจากกล้องวีดิโอที่เป็นบรรยากาศของงาน ซึ่งก็เริ่มมีบางรายที่หันมาฉายหนังแล้ว แม้จะเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ก็ตาม"

แม้ว่า ณ เวลานี้ หนังกลางแปลง ยังอยู่คู่กับสังคมไทย แต่ หนังกลางแปลง ก็ต้องแปรผันไปตามยุคสมัย โดยไม่สามารถจะต้านทานได้

แน่นอนที่สุด...ความสุขสำราญเบิกบานใจ จากจอ หนังกลางแปลง ก็ย่อมจะแปรเปลี่ยนเช่นกัน และมันคงเหลือไว้ซึ่งความทรงจำที่ดีงาม สำหรับคนที่เคยชื่นชอบเท่านั้น

หมายเหตุ : ภาพได้รับความร่วมมือจาก www.peoplecine.com

Tags : หนังกลางแปลง • วิก • สายหนัง • ภาพยนตร์ไทย




ภาพจากหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ...คอลัมน์จุดประกาย
+
+
+
+


แถวบ้านหาซื้อไม่ได้ครับ T_T


พี่นิรันส่งมาให้ครับ


อนิจจาหนังไทยบนแผ่นฟีล์มกำลังจะถึงจุดจบ ทำอย่างไรจึงจะให้คงอยู่เหมือนเดิม


เลือกหน้า
[1]
จำนวนหัวข้อทั้งหมด 5

กลับขึ้นข้างบน / กลับหน้าแรก

ค้นกระดานข่าว:


ถูกเปิด: ถูกคลิ๊กแล้ว: 112896591 ตอนนี้มีผู้เข้าชม : 1 ล่าสุด :GermanFoup , Carlosincof , autogNer , HoustonDab , Lindahoisy , DJWrepe , zubdokaback , Jabeabe , FuriousPelt , toplinkmd ,