Mobile Version / สำหรับโทรศัพท์มือถือ ยินดีต้อนรับท่านผู้มาเยือน www.peoplecine.com ท่านยังไม่ได้ log in นะครับ เข้าใช้งานระบบ / สมัครสมาชิก/ ลืมรหัสผ่าน

ร่วมทดสอบ Peoplecine mobile Beta0.1


รูป
หนังจีนในอดีต ทุกยุค ทุกสมัยเจ้าของ ผู้ตอบหลังสุด
-ท้อไม่ท้อขอเป็นซาเซียน.. 20/9/2555 15:08
-หนังเก่าราคาถูกจากร้านโลตัส.. 20/9/2555 14:50
-รบกวน ท่านพี่แอ๊ด สำหรับน้องๆและเพื่อนสมาชิกอีกครั้งครับ.. 20/9/2555 11:30
-ใหญ่เต็มฟัด ฉายเมื่อไหร่มันส์เมื่อนั้น.. 15/9/2555 13:46
-นึกถึงทีมเสียงเอก เสียดายหนังใหม่ๆไม่ค่อยเห็นพากย์ร่วมกันแล้ว.. 13/9/2555 18:55
-โปรเจคท์ตามล่าเสียงโรง .. 8/9/2555 11:53
-หน้ากาก ตำรวจ แตะไม่ได้.. 7/9/2555 16:08
-18 ตุลาคม ฉายซะที ... Cold War.. 5/9/2555 19:10
-คนตัดคนภาคเกาจิ้งตัดเองฉบับ รีมาสเตอร์.. 5/9/2555 15:00
-สหมงคลฟิลม์ เสนอ..."เก่งกั๊กเฮง!! Chicken and Duck Talk (1988) "นำแสดงโดย ริคกี้ ฮุย แซม ฮุย ไมเคิล ฮุย สามพี่น้องผนึกกำลังฮา...... 5/9/2555 11:34
-ไอ้หนุ่มหมัดขี้เมา - Kung Fu Of Eight Drunkards ... เมิ่งเฟย เฉินซิง อู๋หม่า.. 5/9/2555 11:17
-คน พ.ศ.ไหน Peace Hotel (1995) .. 5/9/2555 8:30
-นนทนันท์เอนเตอร์เทนเม้นท์ ภูมิใจเสนอ...."โคตร ระหัส...อัดโลก! THE FINAL TEST (1987)"นำแสดงโดย เฉียนเสี่ยวห่าว หยวนหัว โหลวหนันกวาง และ ดาราดังคับขัง.. 4/9/2555 13:49
-หลินเจิ้นอิง ก่อนจะเป็นอาจารย์ผีกัด เคยชกมวยไทยมาก่อนนะ.. 31/8/2555 23:37
-ดีเดือดกับเลือดบ้า - Into The Fire.. 30/8/2555 18:57
-นนทนันท์เอนเตอร์เทนเม้นท์ ภูมิใจเสนอ...."พ่อสั่งลุยIN THE BLOOD (1988)" นำแสดงโดย:หลิวเต๋อหัว เฉียนเสี่ยวห่าว ต่งเปียว อู๋หม่า.. 30/8/2555 18:52
เลือกหน้า [1] [2] [3] [4] [5] [6] [7] [8] [9] [10] [11] [12] [13] [14] [15] [16] [17] [18] [19] [20] [21] [22] [23] [24] [25] [26] [27] [28] [29] [30] [31] [32] [33] [34] [35] [36] [37] [38] [39] [40] [41] [42] [43] [44] [45] [46] [47] [48] [49] [50] [51] [52] [53] [54] [55] [56] [57] [58] [59] [60] [61] [62] [63] [64] [65] [66] [67] [68] [69] [70]
จำนวนหัวข้อทั้งหมด 1116

งูเกงกอง


งูเกงกอง หนังต้นฉบับจากเขมร ในยุคนั้นถือว่าดังมากเลยทีเดียว ถ้าท่านใดมีข้อมูลโปรดโพสต่อได้เลยครับ
+
+

ความเห็น

[1]


อ๋อเข้าใจแล้วครับ นี่ก็แสดงว่ายังไม่มีต้นฉบับจริงออกมาวางขายในบ้านเรา




  ผมเคยได้ดูตัวอย่าง เรื่องนี้ ที่บ้านท่านเจี๊ยบแล้วครับ (ฉายจากฟิล์ม)คิดว่าน่าจะเป็นฉบับดั้งเดิม100% ครับ น่าจะหายากด้วย    ที่ท่านอาจารย์นุจะนำไปทำสำเนาลงแผ่น    เป็นหนังที่น่าดูอีกเรื่องนึง  จากที่ดูตัวอย่าง  สยองเหมือนกัน  มีงูทะลักออกมาจากท้องคนด้วย  โฮ!   สุดยอด    ตอนผมเด็กๆ  รู้สึกจะคุ้นๆ เหมือนกัน สำหรับหนังเรื่องนี้  เหมือนจะเคยดูกลางแปลง แล้วมีฉากแหกพุง แล้วมีงูทะลักออกมา   ผมวิ่งหนีเลยครับ  กลัวมาก  กับฉากพวกนี้  เหมือนกับเรื่อง "แม่นาคพระโขนง" ผมก็วิ่งหนีเหมือนกันเวลาถึงฉากแหกพุง  แหกไส้ ...    จนน้าต้องวิ่งไล่จับ   แหม๋  อะไรจะปานนั้น ... 




เห็นด้วยกับข้อมูลของความเห็นที่ 2  ซึ่งเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง และขออนุญาตเสริมข้อมูลเพิ่มเติมเล้กน้อย

งูเก็งกอง เวอร์ชั่นแรก สร้างประมาณ ปี 2515 ระบบ35 มม. ภาพไม่ซีรีมาสโครป  และสร้างก่อนเขมรแดงเข้ายึดครองอำนาจรัฐบาลของนายพลลอนนอล ในปี 2518   โดยเข้ามาฉายในประเทศไทย ประมาณปี 2521 ตอนนั้นผมกำลังเริ่มเป็นวัยรุ่น   พอจะจำความได้พอสมควร  นางเอกก็คือ ดีเศวต ครั้งแรกผมได้ยินแล้วนึกว่าผู้ชาย หรือชื่อพระเอก แต่จริงแล้วเป็นนางเอก ซึ่งได้เข้ามาแสดงหนังคู่กับ คุณยอดชาย เมฆสุวรรณ เรื่อง น้ำใจพ่อค้า  และได้แสดงหนังไทยอีกหลายเรื่อง อาทิ รักข้ามขอบฟ้า ได้แสดงร่วมกับ คุณสมบัติ  เมทะนี และคุณอรัญญา  นามวงษ์   ซึ่งก่อนเขมรแตก ปี 2518 ซึ่งสายสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมและภาพยนตร์ระหว่างไทยกับเขมรได้มีการแลกเปลี่ยนกันดี 

หนังเรื่องนี้ ได้พากษ์เสียงไทยในพิลม์ โดย คุณรอง เค้ามูลคดี  คุณสมพงษ์ วงษ์รักไทย ป้าจุรี โอศิริ  และมีเพลงประกอบเป็นเพลงเพลงลูกกรุง ชื่อเพลงอะไรนั้น ผมจำไม่ได้แล้วระยะนานกว่า 30 ปี   ผมได้กลับมาดูอีกหนึ่งประมาณ ปี 2537 ที่หอภาพยนตร์แห่งชาติ ซึ่งตอนนั้นตั้งอยู่ที่บริเวณถนนพระอาทิตย์ และมีการฉายหนังให้ประชาชนดูฟรีทุกเย็นวันศุกร์ สภาพภาพหนังตอนนั้น(ปี 2537 ) สีจางมากออกเป็นสีแดงแล้ว และเส้นลายบนภาพยังมีน้อยอยู่  

ความเห็นของผมคิดว่า หนังเรื่องงูเก็งกองถือว่าเป็นภาพยนตร์คลาสสิกเรื่องหนึ่งของชนชาติกลุ่มประเทศในอินโดจีน

 




ขออภัยผมขอแก้ไขข้อมูลและเพิ่มเติมข้อมูล  หนังเรื่อง งูเก็งกอง เวอร์ชั่นแรก ที่แสดงโดย ดี เศวต และเจีย ยุทธร  ซึ่งออกฉายเมื่อปี 2513 (1970) เป็นครั้งแรกทั้งในประเทศกัมพูชาและประเทศไทย ไม่ใช่ ปี 2515 (ผมจำข้อมูลคลาดเคลื่อน)  ซึ่งอำนวยการสร้าง กำกับการแสดง และบทภาพยนตร์ โดย  เตียลิมกุน  จัดจำหน่ายในประเทศไทย โดย ดารารัฐ  (ดูจากภาพโปรเตอร์หนัง)  และได้มีการสร้างต่อในภาคสอง ในระยะเวลาต่อมา

ที่มา  http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%87%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B9%87%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%87





ดูข้อมูลตรงนี้ดีกว่าครับ

เมื่อสี่ปีกว่ามานี้ มีภาพยนตร์เขมรเรื่องหนึ่งที่เข้ามาฉายทำรายได้เป็นเงินล้านมาแล้วเรื่องหนึ่งคือ "งูเกงกอง" สร้างความเกรียวกราวให้กับบรรดาผู้ชมอย่างมาก หลังจากนั้นผู้สร้างภาพยนตร์เรื่อง "งูเกงกอง" ก็ได้มาสร้างภาพยนตร์เรื่อง "งูเกงกอง ภาค 2" ในเมืองไทย โดยให้ดาราไทย อรัญญา นามวงศ์ แสดงนำคู่กับดาราเขมร ปรากฏว่า ทำรายได้เงินล้านอีกเช่นกัน

 

สำหรับภาพยนตร์เรื่อง "ธิดางูเกงกอง" ซึ่งเป็นภาพยนตร์เรื่องใหม่ โดย "ดีเศวต" ดาราตุ๊กตาทองฝ่ายหญิงของเขมร แสดงนำคู่กับพระเอกตุ๊กตาทองเขมรชื่อ กวงซัมอึง โดยเฉพาะภาพยนตร์เรื่องนี้ส่งประกวดภาพยนตร์ชิงตุ๊กตาทองของเขมร ได้รับรางวัลตุ๊กตาทองถึง 7 รางวัล เป็นหลักประกันได้อย่างดีว่า "ธิดางูเกงกอง" นี้คงจะสร้างความยิ่งใหญ่และพิลึกพิลั่นยิ่งกว่า "งูเกงกอง" ทั้งสองภาคที่ผ่านมา

 

กรุงเกษมฟิล์ม ได้เซ็นสัญญาซื้อกรรมสิทธิ์ในการจัดฉายในประเทศไทยแต่ผู้เดียว ได้บันทึกเสียงลงในฟิล์ม 35 มม. เป็นที่เรียบร้อย วัฒนเดช จินศิริวรรณ แห่งกรุงเกษมฟิล์มได้เปิดเผยว่า

 

"ภาพยนตร์เรื่องนี้มีเค้าโครงเรื่องที่แปลกกว่าเรื่อง "งูเกงกอง" ที่สร้างมาแล้วทั้งสองภาค และเทคนิคในการถ่ายทำก็เหนือกว่า ซึ่งมั่นใจว่าผู้ชมจะไม่ผิดหวัง และ "ธิดางูเกงกอง" เรื่องนี้ทางสยามมหรสพได้ให้โปรแกรมเข้าฉายที่โรงภาพยนตร์แกรนด์ และสามย่านรามาไว้เรียบร้อยแล้ว โดยจะเข้าฉายต่อจาก "นางสาวมะลิวัลย์" ครับ

 

ต่ออีกนิดนะครับ
จากหนังสือฟิล์มแอนด์สตาร์ส เล่มที่ 38 เดือนกันยายน 2548


+


รักข้ามขอบฟ้า...สื่อสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา โดย มนัส กิ่งจันทร์

เมื่อเร็ว ๆ นี้ กระทรวงการต่างประเทศและสถานทูตไทยในกรุงพนมเปญ จัดโครงการสานสัมพันธ์ด้านวัฒนธรรมระหว่างไทยกับกัมพูชาขึ้น หลังจากที่เกิดเหตุประท้วงจนนำไปสู่การจลาจลเผาสถานทูตไทยในกรุงพนมเปญเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2546 ที่ผ่านมา เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ผู้ประกอบการเกี่ยวกับภาพยนตร์ไทยและละครไทย ไม่กล้าที่จะเข้าไปประกอบกิจการต่อ ด้วยเกรงว่าจะถูกประท้วงอีก โครงการสานสัมพันธ์ดังกล่าวมีการนำอดีตดารายอดนิยมของกัมพูชาซึ่งคนไทยรู้จักดีคือ ดีเสวต นางเอกสาวจากเรื่อง งูเกงกอง มาร่วมงานด้วย ส่วนฝ่ายไทยก็นำพระเอกนางเอกที่เคยแสดงภาพยนตร์ร่วมกับดีเสวต คือ สมบัติ เมทะนี อรัญญา นามวงศ์ ไปร่วมกระชับสัมพันธไมตรี โดยงานนี้ตั้งใจว่า จะฉายภาพยนตร์เรื่อง รักข้ามขอบฟ้า ซึ่งดาราทั้งสามคนดังกล่าวแสดงร่วมกันเพื่อเป็นพยานแห่งความสัมพันธ์ด้านความบันเทิงระหว่างไทยกับกัมพูชาให้ชมด้วย

งานนี้ ภาพยนตร์จึงได้เข้ามาทำหน้าที่อีกบทบาทหนึ่งในด้านการเชื่อมสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศ นอกเหนือไปจากการให้ความบันเทิง แต่น่าเสียดายว่า พอถึงวันงานจริง กระทรวงการต่างประเทศก็ไม่สามารถค้นหาภาพยนตร์เรื่อง รักข้ามขอบฟ้า ซึ่งเคยออกฉายครั้งแรกในเมืองไทยเมื่อปี 2514 กลับมาฉายได้อีกตามที่ประกาศไว้ แม้ว่าจะได้ใช้ความพยายามอย่างยิ่งยวดแล้วก็ตาม

ความจริงแล้ว สัมพันธภาพด้านความบันเทิงระหว่างไทยกับกัมพูชานั้นมีมาช้านานแล้ว หากแต่เป็นเรื่องระหว่างเอกชนโดยตรง ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นธุรกิจเกี่ยวกับการซื้อขายแลกเปลี่ยนภาพยนตร์ซึ่งกันและกันและมีการนำภาพยนตร์เรื่องนั้น ๆ กลับไปฉายยังประเทศของตนเอง

หากย้อนกลับไปดูอดีตก็จะพบว่า ชาวกัมพูชาให้ความสนใจชมภาพยนตร์ไทยมานานแล้วเพราะมีภาพยนตร์ไทยหลายเรื่องถูกส่งเข้าไปฉายในกัมพูชาโดยเฉพาะในยุคมิตร ชัยบัญชา-เพชรา เชาวราษฎร์ เป็นพระเอกนางเอก จากหลักฐานที่พบมาพบว่า เคยมีกากฟิล์มภาพยนตร์ 16 ม.ม.บางเรื่องที่กลับมาจากกัมพูชา ซึ่งแม้ฟิล์มต้นฉบับที่ฉายในไทยจะเป็นการฉายแบบพากย์สด ๆ แต่กากฟิล์มภาพยนตร์ที่ได้รับกลับมานั้นปรากฏว่า เป็นภาพยนตร์ที่มีการบันทึกเสียงพากย์ภาษาเขมรลงไว้ในฟิล์มด้วย ซึ่งการบันทึกเสียงนี้ น่าจะเป็นผู้จำหน่ายฝ่ายไทยเป็นผู้จัดทำขึ้นเพื่อความสะดวกในการฉาย ซึ่งถือเป็นหลักฐานอย่างหนึ่งที่ลบล้างคำพูดของผู้สร้างภาพยนตร์ 16 ม.ม.ของไทยบางคนในยุคนั้นที่ชอบอ้างว่า ไม่สามารถบันทึกเสียงลงในฟิล์มได้...

การได้กลับมาซึ่งฟิล์มภาพยนตร์ไทยจากประเทศกัมพูชานี้เอง ทำให้ผู้แสวงหาภาพยนตร์ไทยเก่า ๆ มีความหวังว่า จะได้เจอภาพยนตร์ของตนเองอยู่ที่ประเทศกัมพูชาบ้าง แต่เมื่อเจาะข่าวเข้าไปจริง ๆ ก็พบว่า ก่อนที่จะเกิดสงครามในกัมพูชาได้มีการขนย้ายฟิล์มและอุปกรณ์ฉายภาพยนตร์กลับเข้าเมืองไทยก่อนแล้ว ส่วนที่ยังขนย้ายไม่ทัน ก็คงจะถูกทำลายไปหมดสิ้นเพราะภัยสงครามแล้ว

ในต่างจังหวัดที่มีชายแดนติดกับกัมพูชาอย่างเช่น จังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ ซึ่งมีประชาชนส่วนหนึ่งใช้ภาษาเขมรเป็นภาษาพูดพื้นเมือง ก็เคยได้รับอิทธิพลความบันเทิงจากภาพยนตร์กัมพูชาเพราะมีผู้นำเข้ามาฉายให้ดูอยู่บ่อย ๆ จำได้ว่า ช่วงที่ผมเป็นเด็ก ๆ ก็มีโอกาสได้ดูภาพยนตร์กัมพูชาที่เข้ามาฉายในจังหวัดบ้านผมอยู่หลายเรื่อง บางเรื่องก็มีการนำมาฉายในโรงหนังประจำจังหวัด บางเรื่องก็เข้ามาฉายแบบหนังกลางแปลง ที่พอจำได้ก็เช่นเรื่อง ถล่มฤทธิ์พญายักษ์ ปัญจะเทวี นางผมหอม ซึ่งภาพยนตร์กัมพูชาในยุคนั้น ส่วนใหญ่จะมีเนื้อหาเหมือนกับละครทีวีแนวจักรๆวงศ์ๆ ของไทยในยุคหนึ่ง แต่ว่าช่วงที่ภาพยนตร์เหล่านี้เข้ามาฉายนั้น ละครทีวีไทยยังไม่แพร่หลายไปถึงต่างจังหวัด ทำให้ภาพยนตร์กัมพูชาเหล่านี้เป็นที่นิยมของคนในยุคนั้นอย่างมากเพราะดูแล้วสนุก ตื่นเต้นกับอภินิหารแถมยังให้ข้อคิดคติเตือนใจแบบทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วด้วย

ภาพยนตร์กัมพูชาที่คนไทยรู้จักมากที่สุด ก็คือเรื่อง งูเกงกอง แสดงโดยนางเอกสาว ดีเสวต ซึ่งมีการนำเข้ามาฉายในเมืองไทยหลายครั้ง สร้างชื่อเสียงให้กับดีเสวตอย่างมาก (ปัจจุบันฟิล์มภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้ทำสำเนาเป็นเทปวีดีโอเก็บรักษาไว้ที่หอภาพยนตร์ฯ แล้ว) งูเกงกอง จึงถือเป็นภาพยนตร์กัมพูชาที่สร้างกระแสให้คนไทยหันมาชมภาพยนตร์กัมพูชาเพิ่มมากขึ้น โดยไม่จำกัดว่า ใครจะเป็นพระเอกหรือนางเอก ทำให้บรรดาผู้จำหน่ายภาพยนตร์ในไทยสั่งภาพยนตร์กัมพูชาเข้ามาฉายถึงเมืองกรุงเพิ่มมากขึ้นเช่นเรื่อง บัวขาวน้อย สังข์ทอง กากี กระเป๋าทอง ทิพย์สุดา ธาวรีกรรแสง นางผมหอม ฯลฯ เป็นต้น

งูเกงกอง ถือว่าเป็นภาพยนตร์ที่มีส่วนก่อให้เกิดการผสมผสานทางวัฒนธรรมภาพยนตร์ระหว่างไทยกับกัมพูชาเพราะหลังจากภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉายแล้ว ทำให้ผู้สร้างทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชา ต่างก็เชื้อเชิญดาราของแต่ละฝ่ายไปร่วมแสดงภาพยนตร์ของตนเอง อย่างเช่นเรื่อง งูเกงกอง ภาค 2 ซึ่งเป็นการสร้างและกำกับของเตียลิมกุน เจ้าเก่าที่ครั้งนี้ได้ดึงตัว อรัญญา นามวงศ์ นางเอกฝ่ายไทยไปร่วมแสดงด้วย น่าเสียดายว่า ฟิล์มภาพยนตร์ชุดนี้ไม่มีเหลือแล้ว แม้จะเคยมีผู้ไปพบกระเป๋าใส่ฟิล์มภาพยนตร์เรื่องนี้หลงเหลืออยู่ แต่ฟิล์มที่เก็บอยู่ในกระเป๋ากลับเป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องอื่นไป

แต่ภาพยนตร์ที่สื่อถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยกับกัมพูชา เป็นการลงทุนร่วมสร้างร่วมกันและยังให้พระเอกนางเอกของทั้งสองประเทศมาแสดงร่วมกันเป็นครั้งแรก ก็คือเรื่อง รักข้ามขอบฟ้า โดยมี สมบัติ เมทะนี-อรัญญา นามวงศ์ เป็นพระเอกนางเอกฝ่ายไทย ส่วนพระเอกนางเอกฝ่ายกัมพูชาคือ เจียยุทธร-ดีเสวต โดยมี ส.อาสนจินดาเป็นผู้เขียนบทประพันธ์และกำกับการแสดง นำออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2514 ที่โรงภาพยนตร์คาเธ่ย์ เยาวราช น่าเสียดายที่จนบัดนี้ ก็ยังตามหากากฟิล์มภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้เลย

ไม่แต่เฉพาะ รักข้ามขอบฟ้า เท่านั้น ในช่วงเวลาเดียวกัน ค่ายอัมพรภาพยนตร์ โดยอัมพร ประทีปเสน ผู้สร้างฝ่ายไทยก็ได้ดึงตัวนางเอก ดีเสวต มาแสดงคู่กับพระเอกใหม่ ยอดชาย เมฆสุวรรณ (หนังเรื่องแรกของยอดชาย) ในภาพยนตร์เรื่อง น้ำใจพ่อค้า ด้วยซึ่งเป็นภาพยนตร์ 16 ม.ม. แต่เฉพาะท่อนเพลงประกอบจะถ่ายด้วยฟิล์ม 35 ม.ม.เสียงในฟิล์ม กำกับการแสดงโดยอัมพร ประทีปเสน ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2514 ที่โรงภาพยนตร์เมืองทอง ประตูน้ำ ซึ่งปัจจุบันหอภาพยนตร์ฯ ได้เก็บรักษาฟิล์มภาพยนตร์เรื่องนี้ไว้เรียบร้อยแล้ว

น้ำใจพ่อค้า จึงเป็นภาพยนตร์อีกเรื่องหนึ่งที่ดาราไทยและกัมพูชาได้แสดงร่วมกัน ...ก่อนที่ภัยสงครามจะมาทำให้สัมพันธภาพทางภาพยนตร์ระหว่างไทยกับกัมพูชาจบสิ้นลง.


+


ซ้ายมือ คือ รูปใบปิดภาพยนตร์จากประเทศกัมพูชาที่เคยฉายในบ้านเราส่วนหนึ่ง

ส่วนรูปขวามือ คือ ดีเสวต ซึ่งเป็นภาพถ่ายเมื่อต้นปี พ.ศ. 2546 จากเว็บผู้จัดการออนไลน์ครับ


+


ภาพโฆษณาประชาสัมพันธ์ของหอภาพยนตร์แห่งชาติ ซึ่งมีรูปใบปิดด้วย (หนังเรื่อง "งูเกงกอง" ทำออกมา 2 แบบครับ)

 

ส่วนใบปิดหนังเหล่านี้ ร้านใหญ่จัดทำ (แหล่งใบปิดหนังเก่าที่เยอะที่สุด แต่ราคาก็...หนักเอาการ) ไม่มีแล้วครับ เพราะเจ้าของร้านเคยบอกว่ามีอยู่ช่วงหนึ่งที่ทางการกัมพูชามาขอซื้อเหมาไปทั้งหมด คาดว่าคงจะเป็นช่วงหนึ่งที่ดีเสวตได้เข้ามาบ้านเรา เพื่อมาดูงานที่กันตนา และเวิร์คพอยต์ ตามที่เป็นข่าว



ขอขอบคุณ คุณอนุกูลมาก ที่ได้ค้นคว้าข้อมูลภาพยนตร์กัมพูชาได้ความกระจ่างยิ่งขึ้น  ซึ่งภาพยนตร์กัมพูชาที่มีลักษณะวิถีชีวิตสังคม ศาสนา วัฒนธรรมที่เหมือนกับประเทศไทยมากที่สุด จะแตกต่างๆตรงที่ภาษาพูดและภาษาเขียน แต่คล้ายคลึงกันถ้าพิจารณาดูดีๆ  ในอดีตที่ผ่านสังคมไทยเราให้ความสนใจเกี่ยวกับข้อมูลและต้นฉบับหนังไทย ไม่เก็บรักษาไว้และมีการบันทึกไว้ ตลอดจนภาครัฐก็ไม่ได้ให้ดูแลเอาใจใส่อย่างแท้จริง  ภาพยนตร์ไทยหรือภาพยนตร์เพื่อนบ้านใกล้เคียง หรือภาพยนตร์ต่างประเทศที่เข้ามาฉายในประเทศไทย ย่อมถือว่าเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของไทยเรา  ภาพยนตร์นอกจากจะให้ความบันเทิงเป็นหลัก และได้สอดแทรกความรู้ คติสอนใจ เปิดโลกทัศน์ในต่างแดน ตลอดจนเทคโนโลยีที่ทันสมัย

ภาพยนตร์กัมพูชา อีกเรื่องหนึ่งที่เคยเข้ามาฉายในประเทศไทย ซึ่งผมได้ดูหนังกลางแปลงตอนวัยรุ่นประมาณปี 2523  ตั้งเป็นเรื่องไทยว่า  เลือดในสายฝน (ผมไม่แน่ใจชื่อถูกหรือไม่) แสดงโดย นักแสดงทีมเดียวกับเรื่อง งูเก็งกอง คือ ดีเสวต  เจียร ยุทธร  เด็กหญิงวิจิตร  สมาชิกท่านใดมีพอจะมีข้อมูลเรื่องนี้บ้าง หากมีแล้วช่วยกันนำเสนอเพื่อเป็นความรู้ต่อไป




ดูตอนเด้ก ตอนนั้นหนังดังมากๆเลยนะ ดูไปก้กลัวไป จนเกลียดงูมาถึงทุกวันนี้นะครับ...




เลือกหน้า
[1]
จำนวนหัวข้อทั้งหมด 10

กลับขึ้นข้างบน / กลับหน้าแรก

ค้นกระดานข่าว:


ถูกเปิด: ถูกคลิ๊กแล้ว: 112746728 ตอนนี้มีผู้เข้าชม : 1 ล่าสุด :Acerlomo , Vilianappw , JerryUnelf , IlyiaMug , HoustonDab , Irinefi , Julieiz , ThomasovBeauh , Bobbyerihor , Keithustval ,