Plot

The story begins with Eddie "Hudson Hawk" Hawkins (Bruce Willis), a master burglar and safe-cracker, attempting to celebrate his first day of parole from prison with a cappuccino. Before he can get it, he is blackmailed by various entities, including his own parole officer, a minor Newark Mafia family headed by Cesar Mario, and the CIA into doing several dangerous art heists. Throughout the movie, Hudson attempts to enjoy a cappuccino, but is foiled each time.

The holders of the various players' puppet strings turn out to be a "psychotic American corporation", Mayflower Industries, run by a husband-and-wife team Darwin Mayflower (Richard E. Grant) and Minerva Mayflower (Sandra Bernhard) and their blade-slinging butler, Alfred (Donald Burton). The company, headquartered in the Esposizione Universale Roma (E.U.R.) in Rome, is seeking to take over the world by reconstructing "La Macchina dell'Oro", a machine purportedly invented by Leonardo da Vinci (Stefano Molinari) which converts lead into gold. A special assembly of crystals needed for the machine to function are hidden in a variety of Leonardo's artworks: the maquette of the Sforza, the Da Vinci Codex, and a scale model of DaVinci's helicopter design.

Sister Anna Baragli (Andie MacDowell), initially his tail and later his refuge (and subsequent love interest), is an operative for a secretive Vatican counter-espionage agency, called the Vatican Organization,^{[citation needed]} which makes an unexplained arrangement with the CIA to assist in the Roman portion of Hudson's mission, though apparently intending all along to use the connection to foil the robbery at St. Peter's Basilica.

Gates is killed by Alfred, the butler. Later, the Mario Bros. attempt to kill Hawk inside an ambulance, but are killed when their driver crashes the ambulance as a result of Hawk sticking needles in Antony's face. Immediately afterwards, Hawk meets CIA head George Kaplan (James Coburn) and his CIA agents: Snickers (Don Harvey), Kit Kat (David Caruso), Almond Joy (Lorraine Toussaint), and Butterfinger (Andrew Brynarski), who take him to Darwin and Minerva Mayflower. Hawk successfully steals the Da Vinci Codex from another museum, but eventually refuses to steal the helicopter design, and Tommy "Five-Tone" Messina (Danny Aiello), Hudson's friend and partner, fakes his death so they can escape. However, they are found and attacked by the CIA Agents. Kit Kat and Butterfinger take Anna to the castle. Tommy trips Snickers, causing his bomb launcher to shoot a bomb onto his head. Hudson and Tommy escape while Snickers and Almond Joy are killed when the bomb goes off.

The movie culminates in a showdown at Leonardo's castle, between the remaining CIA agents, the Mayflowers, and the team of Hudson, Five-Tone, and Baragli, to stop the Mayflowers from successfully operating the machine, during which Kit Kat and Butterfingers are betrayed and killed by Minerva. Tommy fights Darwin and Alfred inside Darwin's limo, while Hudson fights George Kaplan on the roof, and knocks him on top of the limo. Alfred, though wounded, jumps out of the limo with Darwin and plants a bomb on it, with Tommy trapped inside and George on the hood, and it explodes just as it falls over a cliff. Darwin and Minerva force Hawk to put together the crystal powering the machine, but Hawk intentionally leaves out one small piece. As a result, when the Mayflowers try the machine, it explodes and kills Minerva. In the battle that follows, Darwin is electrocuted and Hawk battles Alfred, and eventually decapitates him on his own blades. Hudson and Baragli escape the castle and discover that Tommy survived the crash due to airbags and sprinklers inside the limo. The movie ends with Hudson finally drinking a cappuccino

บรู๊ซ วิลลิส , แดนนี่ โอเอลโล่ , แอนดี้ แม็คโดเวลล์ และ.แซนดร้า เบิร์นฮาร์ด พบกันในภาพยนตร์แอ็คชั่นผจญภัย สุดมันส์ฮากว่าครั้งไหนๆเวิลลิส เป็น เอ๊ดดี้ "เดอะ ฮอว์ค" ฮอว์คกิ้นส์ หัวหน้าขโมยชื่อกระฉ่อนโลก ที่หลังจากใช้ชีวิตในคุกมานานถึง 10 ปี ตอนนี้เขาพร้อมออกมาใช้ชีวิตอย่างกลับตัวกลับใจ แต่มันไม่ง่ายสำหรับคนอย่างเขา เมื่อฝ่ายมาเฟียและ.ซีไอเอรวมหัวกันบังคับให้เอ๊ดดี้กับคู่หูของเขา.(ไอเอ ลโล่).ขโมยผลงานบรรลือโลกทั้ง 3 ชิ้นของ ลีโอนาโด ดาวินชี่ จากพิพิธภัณฑ์ที่มีระบบรักษาความปลอยดภัยแน่นหนาที.่สุดมาให้ได้ ฟังดูเหมือนง่ายใช่ไหม แต่ผิดมหันต์! เพราะในระหว่างเตรียมการโจรภรรมสะท้านโลก ฮอว์คเกิดปิ๊งรักกับแม่ชีสาวสวย.(แอนดี้ แม็คโดเวลล์).ในเวลาเดียวกันก็ถูกตามล่าจากมิเนอร์ว่า.(เบิร์นฮาร์ด).และ. ดาร์วิน เมย์ฟลาวเวอร์.(ริชาร์ด อี แกรนท์).คู่วายร้ายจอมละโมบที่ต้องการงานศิลปะทั้งสามชิ้นนี้มาใช้เป็นส่วน หนึ่งของแผนการยึคครองโลก มันคือเภารกิจสุดระทึกเมืองเหยี่ยวแซงค์มือเทวดาอย่างฮอว์ค ต้องลงมือพิทักษ์โลกให้ปลอดภัย พิชิตหัวใจหญิงที่หมายปอง เพื่อที่จะหัวเราะทีหลังให้ดังกว่า!

หนังเป็นเรื่องของจอมโจรอัจฉริยะนาม ฮัดสัน ฮอว์ค(Willis) ที่เพิ่งออกจากคุกมาหมาดๆ แต่ก็ถูกบีบให้ไปขโมยสิ่งประดิษฐ์สุดวิเศษของลีโอนาโด ดา วินซี่ ที่สามารถทำให้ตะกั่วธรรมดากลายเป็นทองคำได้ อันทำให้เขาต้องเจอกับ แอนนา (Andie MacDowell) สาวสวยผู้มากับความลับ, คู่ผัวเมียสติแตก ดาร์วิน กับ มิเนอร์ว่า เมย์ฟลาวเวอร์ (Richard E. Grant กับ Sandra Bernhard) ผู้ว่าจ้างแกมบังคับให้ฮอว์คทำงาน พร้อมด้วยขบวนการนักฆ่าอีกเพียบที่ฮอว์คต้องไปต่อยตีด้วย เฮ่อ แล้วงานนี้เหยี่ยวเทวดาของเราจะเอาตัวรอดได้มั้ยหว่าเนี่ย

บทหนังแทบไม่มีอะไรเลยครับ แค่เดินเรื่องไปเรื่อยๆ แต่มันสนุกดีนะครับ เพราะพล็อตมันเดินหน้าไปเรื่อยๆ แบบทีเล่นทีจริง เลยมีอะไรให้ขำๆ อยู่เรื่อยๆ หนังโทนเบาๆ น่ะครับ คือผมว่าถ้าท่านรู้ว่าต้องไปเจออะไรก่อนดูก็คงจะไม่ทำให้ผิดหวังจนเกินไป ผมเชื่อว่าสาเหตุหนึ่งที่หนังออกมาแล้วโดนด่ากันตอนฉายน่าจะมาจาก คนดูส่วนใหญ่คาดว่าจะได้ดูหนังแอ๊คชั่นแนวโจรกรรมแบบมันส์ๆ ล่ะมั้งครับ แต่พอออกมาเป็นแนวตลกติงต๊องก็เลยส่ายหน้ากันเป็นแถบ ดังนั้นก็ขอเตรียมการรับรู้ท่านเอาไว้เลยนะครับว่าหนังมันติงต๊องครับ

ความสนุกของหนังก็อยู่ตรงที่ตัวละครแต่ละรายมันเอกลักษณ์แบบบ้าๆ กันทุกคน บทฮอว์คของ Willis ก็ดูเป็นโจรอารมณ์ดีตามสูตรน่ะครับ, MacDowell นางเอกของเรื่องก็น่ารักดี, Aiello ก็บ้าไปกับ Willis ได้ดี แต่พวกที่ฮาจริงๆ ก็คือเหล่าร้ายครับที่ขนกันมาเพียบ และสติแตกกันทุกตัว Grant กับ Bernhard ที่มาเป็นคู่สามีภรรยาเมย์ฟลาเวอร์ก็เรียกเสียงฮาได้ดีครับ คือคู่นี้มันดีกันตีกันแบบชั่วโมงเว้นชั่วโมงครับ เป็นตัวการ์ตูนกันไปเลย แล้วยังมีเหล่านักฆ่าที่มาตามล่าฮอว์ค ซึ่งแต่ละคนก็บ้าๆ ทั้งนั้น มีอะไรให้ฮาได้ตลอด ดังนั้นจะว่าไปก็เหมือนเรามานั่งดูตัวละครบ้าๆ มารวมกันนั่นแหละครับ

อีกอย่างที่ผมซูฮกพี่ฮอว์คคือ แกไม่ใช้นาฬิกาครับ ตามปกติเวลาโจรจะขโมยต้องอาศัยนาฬิกาบอกเวลาใช่มั้ยฮะ เช่น อีก 5 นาทีตัดไฟ แต่พี่ฮอว์คใช้ร้องเพลงครับ พูดง่ายๆ ใช้เพลงจับเวลาแทน ดังนั้นเวลาว่างๆ แกกับคู่ซี้อย่างทอมมี่ (Danny Aiello) ก็จะมานั่งทวนกันว่า เพลงนี้ยาวกี่นาที มันดูบ้าดีครับ (ผมล่ะจำไปชั่วชีวิตเลยว่า เพลง Side By Side ยาว 6 นาทีน่ะ) นั่นเลยทำให้หนังมีเพลงประกอบดีๆ ใช้อยู่ตลอดครับ ก็เป็นอีกส่วนที่ทำให้หนังมันดูได้เรื่อยๆน่ะ มีฮา มีตัวละครต๊องๆ มีเพลงดีๆ จะขาดก็แต่บทเท่านั้นเอง แต่ไอ้อะไรที่ผมพล่ามนั่น ถ้าท่านรับได้น่ะครับ เชื่อเถอะว่าถ้าคงจะพอมองข้ามเรื่องบทได้แน่ๆ