แฟนหนังไม่มีการเข้าแถว ใครมาก่อนซื้อก่อนต้องแย่งกันหน่อย เพราะห้องตั๋วมีช่องขายเพียง2ช่อง ชั้นล่าง 2บาท ชั้น
บนพิเศษ4บาท ห้องขายตั๋วสร้างเป็นไม้ทั้งหลัง ขนาด4*5 เมตร(20ตารางเมตร) สูง 6เมตร สามารถยกเคลื่อนที่ได้ ใน
ห้องทำงานกัน3คน ต้องเตรียมตัว เตรียมเงินทอน เหตุการณ์ที่ไม่เคยปรากฏคือทุกคนที่มาต้องซื้อตั๋วให้ได้ กลัวว่าจะไม่
ได้ดูหนังเรื่องนี้จึงเกิดความวุ่นวายเป็นที่สนุกสนาน คนหัวเราะ ยิ้มกันอย่างมีความสุข คงเป็นตอนแย่งซื้อตั๋วสนุกล่ะตอน
นี้ เอามือกำเงินยัดเข้าไปในห้องขายตั๋ว คิดดูชิองหนึ่งมี4.5มือ พอได้ตั๋วแล้วก็ต้องกำตั๋วไว้ให้แน่น ตอนดึงออกยาก ดึง
เข้าๆออกๆ กว่าจะเอามือออกมาได้ก็เหนื่อย บางที่เงินตกจากมือ เงินหล่น ยุ่งกันใหญ่ ทุกคนตะโกนบอกคนขายว่า ของ
ผม4ใบ ของฉัน 2ใบ ของเรามาก่อน3ใบ ไม่รู้ใครเป็นใคร ฟังไม่ทัน ยิ่งตอนชุนละมุน มีคนหัวใสนำเก้าอี้หรือลังไม้ ของ
ร้านค้าข้างๆมาต่อขึ้นยืนขอซื้อทางช่องระบายอากาศซึ่งมีหลายช่อง ถือเงินบอกให้ผมก่อนๆ ทุกคนเฮโลเข้าไปจนห้อง
ตั๋วชุดเกือบพัง คุณแม่ยิ่งเลยเพิ่มจุดขายตั๋วอีก1จุดบริเวณห้องทำงานข้างโรง จึงผ่อนคลายไปได้ นี่คือปรากฎการณ์ใหม่
เพราะหนังสุภาพบุรุษเสือไทยสร้างประวัติการณ์
ผู้เขียนได้มีโอกาสได้เจอบุคคลหลายท่านที่อยู่ในเหตุการณ์ครั้งนั้น อย่างเช่นคุณอนันต์ สหวิศิษฐ์ ปัจจุบันท่านมีอายุ70
กว่าปี อดีตท่านเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนควนปริง ท่านเป็นแฟนพันธุ์แท้ทับเที่ยงภาพยนตร์ ดูทุกเรื่องรวมทั้งสุภาพบุรุษ
เสือไทยด้วย เพราะว่าคุณพ่อของอาจารย์อนันต์ ชื่อลุงเขียว สหวิศิษฐ์เป็นคนฉายหนังทับเที่ยงภาพยนตร์สมัยนั้น หนัง
เรื่องสุภาพบุรุษเสือไทย คุณลุงเขียวเป็นคนจัดฟลิม์ฉายเองทุกรอบ พร้อมทีมงานของคุณแท้ที่มาช่วย อีกท่านคือคุณลุง
ตา เจ้าของโรงแรม และร้านอาหารโกเต็ง อยู่ในเหตุการณ์ตลอด รู้รายละเอียดหมด ปัจจุบันลุงตาอายุได้87ปีแล้ว ท่าน
ได้พบคุณสุรสิทธิ์ และคุณแท้ในปีพ.ศ.2492ที่ตรัง
และมีอีกหลายท่านพูดตรงกันว่า ดูหนังเรื่องนี้สนุกจริงๆ บางตอนดูแล้วกดดันมาก เช่นตอนโจรปล้นแล้วประกาศว่า “ไอ้
เสือไทยปล้น ไอ้เสือไทยปล้น”ทำให้เข้าใจผิดว่าพระเอกต้องหนีเข้าป่า คนดูสงสารพระเอกที่ถูกอ้างชื่อ ออกปล้น คนดู
ลุ้นช่วยพระเอกตลอดเรื่อง ทุกรอบที่ฉายคนดูแน่นตลอดจนต้องเสริมเก้าอี้เสริมก็เต็ม ตั๋วยืนก็มี เรื่องนี้แฝงข้อคิดหลาย
ตอนตอนเสือไทย บุกไปพบเสือดง ชนิดมันหยด ซัดกันตัวต่อตัว ดุเดือด ตื่นเต้น เร้าใจ เพราะลูกน้องทั้ง2 ฝ่ายต่างก็มา
ช่วย และมีอาวุธฉากนี้จึงสุดมัน เสียงโห่ เฮ และกระทืบเท้า ทั้งโรงทับเที่ยง เชียร์พระเอกเป็นสุภาพบุรุษ สู้กับผู้ร้าย
อย่างสมศักดิ์ศรี เสือคงถูกยิงตาย ถูกใจแฟนหนัง เสือไทยรับบทโดย สุรสิทธิ์ สัตยวงศ์ เสือคงรับบทโดย ประชุม จุลละ
ภมร ทั้ง2ท่านแสดงได้ดีมาก ทีมพากษ์ก็ถูกใจชาวตรังยุคนั้น พากษ์สดทุกรอบ
คุณพ่อเล่าว่าคณะของคุณแท้เดินทางโดยรถยนต์จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางเพชรเกษม ระยะทางถึงตรัง1100กิโลเมตร
เป็นถนนสายเก่าเมื่อ60ปีก่อน เดินทางลำบากมากทางเป็นหลุมเป็นบ่อ ด้วยความมานะพยามของคุณแท้ ได้นำหนัง
สุภาพบุรุษเสือไทยล่องใต้ ใช้เวลาเป็น10วัน กว่าจะมาถึงตรัง พอมาถึงชุมพรต้องแยกเข้าทางจังหวัดระนองเพราะมีเส้น
ทางเดียว ถนนคดเคี้ยว มีแต่ภูเขา และป่า ทางเปลี่ยวและเงียบ ไม่มีรถสัญจร มาถึงเมืองตรังก็เย็นมากแล้วประมาณ5โมง
เย็น เหตุการณ์วันนั้นมีชาวตรังมารอต้อนรับอยู่หน้าโรงหนังทับเที่ยง
คุณพ่อวางแผนต้อนรับคณะฉายหนังชุดนี้ เดินทางมา8-10คน คุณแท้ จองโรงแรมอยู่หน้าสถานีรถไฟตรังชื่อโรงแรมทับ
เที่ยง พักสบาย อากาศดี เป็นตึก3ชั้น ปัจจุบันถูกรื้อไปแล้ว คุณสุรินทร์ โตทับเที่ยงสร้างขึ้นมาใหม่เป็นโรงแรมชั้นหนึ่งคือ
โรงแรมธรรมรินทร์ ในปัจจุบัน มีคุณภิญโญ เต็งรัง เป็นผู้จัดการ
อาหารเช้าที่คุณแท้ คุณสุรสิทธิ์ ไปทานปี2492 ชื่อร้านกาแฟโกกุน กาแฟอร่อย มีอาหารเช้าครบชุด ขนมจีบ ซาลาเปา
หมูย่าง ปาท่องโก๋ โจ้ก มีคุณพ่อพาไปทานทุกเช้า ส่วนอาหารเย็นเป็นบางมื้อที่ภัตตาคารนำมุ้ย คุณพ่อดูแลท่านอย่างดี
พาไปเที่ยวด้วย โดยจัดทีม มีคุณจรุง ญาณารณพ ผู้จัดการโรงหนังทับเที่ยง คุณหวั่น วงศ์วิวัฒน์ หัวหน้าช่างไฟโรงหนัง
ทับเที่ยง และอาปู ขับรถมาให้คณะ เป็นรถโอเปิ้ล สีน้ำเงินเข้ม รถของคุณพ่อ พาไปสระกระพังสุรินทร์ ไปน้ำตกเขาช่อง
จังหวัดตรัง พ่อบอกว่าได้ถ่ายภาพคุณแท้ คุณสุรสิทธิ์ไว้ 4 ภาพ เมื่อปี พ.ศ.2492
ผู้เชียนโชคดี มีโอกาสได้พบคุณสุรสิทธิ์ สัตยวงศ์ เมื่อปีพ.ศ.2524 ขณะนั้นท่านมีอายุได้58ปี รูปหล่อมาก แต่งตัวดี ใน
ตอนนั้นผู้เขียนมีตำแหน่งเป็นหัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ โรงแรมชวลิต โรงแรมบาสเดอร์ กรุงเทพฯ ทำงานอยู่กับคุณ
ประเดิม เขมะศรีสุวรรณ โฆษกระดับประเทศมีชื่อเสียงดังมาก เป็นนักสื่อสารมวลชน คุณประเดิมนัดคุณสุรสิทธิ์ไว้แต่ติด
ประชุมจึงได้ให้ผมต้อนรับคุณสุรสิทธิ์แทน ผมตื่นเต้นมากที่ได้พบพระเอกตัวจริง เสียงจริง ที่แสดงสุภาพบุรุษเสือไทย
เข้าแล้ว ผมรายงานตัวกับท่านว่าผมชื่อ นายวิวัย จิตต์แจ้ง เป็นหัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์โรงแรมชวลิตแอมบาสซาเดอร์
ผมอยู่ตรังเป็นลูกคุณเว้ง จิตต์แจ้ง เจ้าของโรงหนังทับเที่ยงที่ตรัง คุณสุรสิทธิ์ถูกใจมากรีบถามถึงคุณพ่อทันที และได้
คุยกันต่อเป็นชั่วโมง
ท่านเล่าถึงตอนที่ท่านมาโรงหนังทับเที่ยงว่าตอนนั้นชาวตรังต้อนรับท่านอย่างคึกคัก ท่านบอกว่าคุณพ่อผมพาท่านไป
เที่ยวน้ำตกเขาช่อง มีคุณแท้ ไปด้วยกัน และเที่ยวสระกระพังสุรินทร์ ได้ถ่ายรูปที่น้ำตกไว้4ภาพ และคุยกันอีกหลายเรื่อง
ก่อนแยกจากกันท่านบอกว่าท่านพักอยู่ ซอย วชิรธรรมสาธิต 101/1 สุขุมวิท และให้เบอร์โทรศัพท์ผมไว้ หลังจากนั้นไม่
ได้พบกันอีกเลย จนกระทั่งท่านได้เสียชีวิตลงเมื่อปีพ.ศ.2526
หลายปีที่ผู้เขียนได้ตามหาภาพทั้ง4ภาพตามคำบอกเล่าของคุณพ่อและคุณสุรสิทธิ์ จนกระทั่งเมื่อวันที่1 ธันวาคม2557
ผมได้ภาพประวัติศาสตร์นี้ที่ร้านนพเก้า จังหวัดตรัง เป็นบ้านของตระกูลญาณารณพ มีคุณฟ้า อดีตศึกษานิเทศก์และคุณ
ประภาศรีได้เก็บภาพนี้ไว้64ปีแล้ว ผมได้ก๊อปปี้ภาพมาครึ่งตัว เป็นภาพคุณสุรสิทธิ์ถ่ายกับคุณอาจรูญ(ผู้จัดการโรงหนัง
ทับเที่ยง) ที่น้ำตกเขาช่องปี2492 ปีที่คุณสุรสิทธิ์นำเรื่องสุภาพบุรุษเสือไทยมาฉายที่จังหวัดตรัง อีกภาพหนึ่งเป็นภาพอา
จรูญ ในชุดเครื่องแบบเทศมนตรีตรัง ส่วนภาพอื่นๆได้จากคุณแท้ ประกาศวุฒิสาร และคุณโดม สุขวงศ์จากหอภาพยนตร์
แห่งชาติ ตอนเดินทางมาตรังครั้งนั้น มากันหลายคนคุณพ่อจำได้เพียง3ท่าน ผู้เขียนจึงต้องหาข้อมูลว่ามีใครบ้างที่มาโรง
หนังทับเที่ยงภาพยนตร์ในปี2492 และโชคดีที่คุณแท้ได้บันทึกไว้เป็นหนังสือของมูลนิธิหนังไทย และหอภาพยนตร์ ผู้ที่
เดินทางมาโรงหนังทับเที่ยงภาพยนตรฟ์มีดังนี้เช่น คุณสุธรรม นาวานุเคราะห์ คุณประชุม จุลละภมร ม.ลชูเกียรติ นิลรัตน์
คุณอุโฆษ จันทร์เรือง คุณแท้ ประกาศวุฒิสาร คุณสอางค์ ทิพย์ทัศน คุณสุรสิทธิ์ สัตยวงศ์ ทุกท่านมาโชว์ตัว และพากษ์
หนังสุภาพบุรุษเสือไทย ปีพ.ศ.2492(งานฉลองรัฐ)
อดีตท่านนายกรัฐมนตรี ม.ร.ว คึกฤทธิ์ ปราโมช ท่านกล่าวถึงหนังสุภาพบุรุษเสือไทยไว้ว่า ผมไปดูมาแล้ว เห็นว่าดีสม
ความตั้งใจ ที่ถูกคะยั้นคะยอให้ไปดู ลูกศิษย์ ลูกหาถามว่าหนังสุภาพบุรุษเสือไทยเป็นยังไง ก็ตอบอย่างอาจารย์ว่า ดูแล้ว
ไม่เป็นทุกข์ สนุกดีและเขาก็ถ่ายทำอย่างสนุกจริงๆ ท่านเขียนชมในหนังสือพิมพ์ สยามรัฐปี2492 มติตรังฉบับหน้าพบ
หนังอมตะดังระดับโลก วิมานลอย Gone With The Win โปรดติดตามตอนต่อไป