Mobile Version / สำหรับโทรศัพท์มือถือ ยินดีต้อนรับท่านผู้มาเยือน www.peoplecine.com ท่านยังไม่ได้ log in นะครับ เข้าใช้งานระบบ / สมัครสมาชิก/ ลืมรหัสผ่าน
รูป
หนังไทยในอดีต ทุกยุค ทุกสมัยเจ้าของ ผู้ตอบหลังสุด
-แล้วพรุ่งนี้เราคงจะรู้กัน” แดน วรเวช – เอ๊ะ ละอองฟอง จับมือพิชิตภารกิจทางดนตรี ถ่ายไดอารี่มูฟวี่ 30 วันบนเกาะคิวชู ประเทศญี่ปุ่น.เข้าฉายวันที่ 25 ธันวาคม.2558.นี้ในโรงภาพยนตร์... 6/11/2558 23:29
-มาดพยัคฆ์ ภาพยนตร์สารคดีชีวิตนักชกหน้าหยก สามารถ พยัคฆ์อรุณ" ยอดนักชกขวัญใจชาวไทย.ที่น่าสนใจ. .. 26/10/2558 17:19
-เกิดมาลุย ภาค 2ยังไม่มีคนตอบ
-Hand in the Glove หนังโรแมนติกไทย-ญี่ปุ่นที่เป็นการสร้างร่วมกันระหว่างสองชาติ.ไทยและญี่ปุ่น... 14/10/2558 9:25
-หอแต๋วแตก แหกนะคะ...หนังไทยใหม่เรื่องล่าสุดของ พจน์ อานนท์ ที่เตรียมเข้าฉายวันที่ 22 ตุลาคม.2558.นี้... 7/10/2558 21:53
-“มอญซ่อนผี”หนังผีเรื่องใหม่จาก ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น... 1/10/2558 19:08
-The Down "เป็นคนธรรมดามันง่ายไป" หนังไทยเชิงสารคดีที่น่าดูมากๆภาพยนตร์เรื่องแรกของนิตยสาร a day ที่ไม่ควรพลาดชม... 22/9/2558 9:57
-ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร : นักบู๊พเนจรผู้ทรนง เป้า ปรปักษ์ กับชีวิตต้องสู้และปั้นปลายชีวิตที่น่ายกย่อง... 11/9/2558 19:52
- 'คน อก หัก' (LoveH20).. 13/8/2558 17:34
-มนต์เลิฟสิบหมื่น..... 1/8/2558 22:27
-ตำนาน.ประวัติชีวิตที่ต้องสู้ของ. พันนา ฤทธิไกร.. 21/7/2558 11:02
-แม่เบี้ย 2558ยังไม่มีคนตอบ
-คนอกหัก หนังไทยเรื่องใหม่จากค่ายโมโนฟิล์มวางโปรแกรมเข้าฉายในวันที่ 27 สิงหาคม.2558.นี้ครับ.... 16/7/2558 8:34
-สุภาพบุรุษเสือไทย.. 12/7/2558 23:13
-ฟ.ฮีแลร์ ( F. Hilaire) 2015.. 9/7/2558 2:09
-นายทองดีฟันขาว THONGDEE THE WARRIOR.. 28/6/2558 23:40
เลือกหน้า [1] [2] [3] [4] [5] [6] [7] [8] [9] [10] [11] [12] [13] [14] [15] [16] [17] [18] [19] [20] [21] [22] [23] [24] [25] [26] [27] [28] [29] [30] [31] [32] [33] [34]
จำนวนหัวข้อทั้งหมด 533

เทพมงคล ขอนแก่น เสนอ ภาพยนตร์ไทย "ด้วยเกล้า" นำโดย จรัญ มโนเพชร /สันติสุข พรมศิริ/จินตหรา สุขพัฒน์


ด้วยเกล้า เป็นภาพยนตร์ไทย ที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2530 กำกับและเขียนบทโดย บัณฑิต ฤทธิ์ถกล เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 40 ปี ในปี พ.ศ. 2529 และพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบ ๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๓๐ นำแสดงโดย จรัล มโนเพ็ชร , จินตหรา สุขพัฒน์ , สันติสุข พรหมศิริ ได้รับรางวัลภาพยนตร์เกียรติยศแนวสร้างสรรค์ยอดเยี่ยม ประจำปี พ.ศ. 2530 และรางวัลเพลงนำภาพยนตร์ยอดเยี่ยม พ.ศ. 2530

 



ความเห็น

[1]


  • จรัล มโนเพ็ชร รับบท เสาคำ
  • สันติสุข พรหมศิริ รับบท คำนึง น้องชายของคำปั๋น เป็นทหารพราน และชอบพอกับเสาแก้ว
  • จินตหรา สุขพัฒน์ รับบท เสาแก้ว ลูกสาวคนรองของเสาคำ
  • กฤษณ์ ศุกระมงคล รับบท อ้าง ลูกชายคนรองของเสาคำ ได้ทุนในหลวงไปเรียนการเกษตรที่เมืองนอก และกลับมาทำงานโครงการหลวง
  • โรม อิศรา รับบท สำอาง ลูกชายคนสุดท้องของเสาคำ หนีออกจากบ้านไปคบค้ากับชาวดอย คนขายฝิ่น ลูกน้องขุนส่า
  • ไกรลาศ เกรียงไกร รับบท คำปั๋น เพื่อนบ้านของเสาคำ
  • ศศิวิมล ศรีสง่า รับบท ติ๊บ เมียคำปั๋น
  • นฤมล นิลวรรณ รับบท แม่เลี้ยงบัวเรียน นายทุนเงินกู้ เจ้าของบ่อน้ำประจำหมู่บ้าน

  • +
    +
    +
    +



    +
    +
    +
    +



    +
    +
    +
    +


    หนังเรื่องนี้ผมประทับใจมากๆทั้งเนื้อเรื่องและนักแสดง ผมก้อพยายามเสาะหาทางเชียงใหม่แต่ไม่มีวี่แวว (ท่านวัฒน์สันป่าตองก็ต้องการไม่น้อยทีเดียว)  และนั่งเรื่องนี้ผมผมเอาหนังสือพิมม์ไปนั่งรองก้นนั่งดูหนังกลางแปลงกะแฟนคนแรกของผม... สุดยอดครับที่ได้เห็นภาพนี้อีกครั้ง (ทำให้ผมต้องนั่งทบทวนความหลังเกือบสิบนาที) ฟิล์มดีมากๆเลยครับท่านโอ


    ขอบคุณครับคุณขวัญเมือง ผมเองก็รู้สึกเช่นกันว่าเป็นหนังไทยที่น่าประทับใจอย่างที่คุณขวัญเมืองว่าไว้จริงๆ




     สีแจ่ม แจ่ม  ดูสบายตา ไม่มีฝนตกสักเม็ด.....เมือนฟิล์มห้องแล๊ป.....ท่านโอ....เก็บฟืล์มได้ดีขนาดนี้...เยิ่ยมเลยครับ....เก็บได้ยังไงเนี่ย....สงสัยคงนอนหลับในห้องแอร์มานาน...24 ...ปี....ตื่นขึ้นมา...ยังแจ่มแจ๋วเหมือนอายุ  30  นะครับท่านโอ........ขอบคุณ....ที่หาฟิล์มหนังที่ดูยากมากๆ มาเผยแพร่ให้สมาชิกได้ชมกันเป็นขวัญตา...นะครับ..


    ขอบคุณครับและจะพยายามแสวงหาต่อไปครับ ท่านพี่นักพากย์ภูธร




      สุดบรรยายเลยครับ  ฟิล์มใสกิ๊กมากๆ  เหมือนหนังเพิ่งสร้างเสร็จและออกจากแล็ปใหม่ๆ   ก็ยังไม่เคยได้ดูเลยเรื่องนี้เลย   แหม  ถ้ามีโอกาสได้เยี่ยมเยียน คงต้องมีการขนหนังเก่าๆกิ๊กๆ มาฉายดูกันจนหมดโกดังเลยเป็นแน่.....  คงต้องทั้งคืนกระมัง จริืงมั๊ยครับ  ...


    ป๊าด.......เอางั้นเลยเหรอพี่ป๊อบ หุหุ


    ฉายที่ศาลหลักเมืองขอนแก่นเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา (06 มิย.54) ครับ





    เข้าใจว่าฟิล์มเนกาทีฟคงพังไปแล้ว (มั้ง)





    หนังเรื่องนี้เป็นก็อบปี้ที่ทำออกมาฉายเมื่อวันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2549 ครับ เคยไปดูรอบสื่อมวลชนกับผู้สื่อข่าวหนังสือหนังที่พารากอนมาแล้ว บัตรยังเก็บไว้อยู่เลย

    จะว่าไปแล้ว หนังเรื่องนี้ถูกนำมาฟื้นฟูใหม่ทั้งหมด เพราะเนกาตีฟเดิมใกล้จะม้วยแล้วครับ เลยต้องนำมาเทเลซีนและตัดเป็นเนกาตีฟชุดใหม่ขึ้นมาแทนทั้งหมด ทั้งนี้สิ่งที่ได้เพิ่มเติมขึ้นมาก็คือ ระบบเสียง 5.1 ที่ถูกมิกซ์ขึ้นใหม่ ควบคู่ไปกับซาวด์แทรคเดิม แบบเดียวกับที่ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2530 ที่โรงภาพยนตร์ในเครือของไฟว์สตาร์ ซึ่งมี เอเธนส์ เป็นหลัก (ในวันนั้นมีหนังไทยเข้าฉายอีก 3 เรื่อง คือ เกิดมาลุย 2 , ข้าจะใหญ่ใครอย่าขวาง และเพชรสลัม สำหรับรายได้ของหนังเรื่องนี้ กลับสวนทางกันอย่างสิ้นเชิง)

    เมื่อนำมาฟื้นฟูใหม่ + มาตรฐานของแล็บไทย คุณภาพก็เลยออกมาอย่างที่เห็น




    มิน่า ทำไมถึงดูสีแปลกๆ 


    ซาวด์ดำ ไม่ใช่สีฟ้าด้วยครับ ตกลงฟิล์มต้นฉบับพังไปแล้วใช่มั๊ยครับ
    แล้วฟิล์มชุดนี้ ใช้เนกาทีฟตัวไหนครับ ยัง งงๆๆ.. ขอบคุณครับ



    อ้าว.....จอ แพมมี่ ภาพยนตร์ ........55555555555  ดูตั้งนาน



    ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


    เว้นระยะนานไปหน่อย สำหรับกระทู้หนัง "ด้วยเกล้า" นี้ ก็เลยต้องรีบตอบ เพราะสัปดาห์หน้าผมก็ได้แต่ติดตามเพียงไม่กี่วัน จะโพสต์ต่อก็ไม่สะดวกแล้ว

    สำหรับหนังเรื่องนี้ อย่างที่บอกไว้ก็คือ เนื่องจากปี พ.ศ. 2549 เป็นปีที่มีความสำคัญนั่นก็คือเป็นปีที่วโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองสิริราชสมบัติ ครบ 60 ปี ทำให้สมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย และบริษัทไฟว์สตาร์ ได้ตัดสินใจที่จะนำภาพยนตร์เรื่องนี้กลับมาฉายอีกครั้ง โดยมีสปอนเซอร์ร่วมสนับสนุนอยู่หลายแห่ง

    ขณะเดียวกัน ฟิล์มเนกาตีฟของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ใกล้ที่จะเสื่อมสภาพ กล่าวคือ ถ้าไม่ทำก็ต้องพังแน่นอน ซึ่งในงานนี้ก็ได้บุคคลในวงการให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ เช่น บริษัท ฟูจิ ฟิล์ม ก็สนับสนุนฟิล์มให้ฟรีๆ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย บริษัท กันตนา ฯ ก็สนับสนุนเรื่องอุปกรณ์ในการจัดทำโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเช่นกัน ซึ่งนั่นก็รวมไปถึงตัวอย่างภาพยนตร์เรื่องนี้ในเวอร์ชั่นใหม่ด้วย ซึ่งเส้นซาวด์ที่พิมพ์ตอนนั้นก็ยังแบบเก่า ยังไม่เป็นสีฟ้าเหมือนตอนนี้ครับ (จริงๆ แล้ว ปี พ.ศ. 2549 ก็เริ่มมีเส้นซาวด์สีฟ้าออกมาแล้ว แต่มีเฉพาะหนังฝรั่ง เพราะตอนนั้นทางแล็บเพิ่งจะทดลองพิมพ์มั้ง)

    อย่างที่บอกครับ เพราะเมื่อตอนที่ผมไปดูเมื่อตอนที่ จุ้ยเจริญภาพยนตร์ เอามาฉายกลางแปลง เมื่องานหลวงพ่อเดิม เดือนกุมภาพันธ์ ปี พ.ศ. 2534 เป็นเรื่องที่สอง ต่อจาก แม่เบี้ย (เวอร์ชั่น ภัสสร) กับที่ดูในพารากอน พ.ศ. 2549 แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด แต่ด้วยศักยภาพของเครื่องไม้เครื่องมือในแล็บเท่าที่มี ภาพเลยไม่สดสวยเหมือนตอนที่ดูครั้งแรก เพราะครั้งแรกที่ดูนั้นภาพเป็นสโคป คมชัดตลอดเรื่อง ตัวฟิล์มนั้นยังเป็นแบบฟิล์มธรรมดาอยู่เลย ล้างและพิมพ์ฟิล์มที่ ซีเนคัลเลอร์แล็บ เพราะหนังไทยค่ายไฟว์สตาร์ ในยุค 80 จะล้างและพิมพ์ที่นั่น

    (ถ้าฟิล์มเดิมยังอยู่ในสภาพดีๆ แล้วละก็รีบตะครุบได้เลย แต่แนวโน้มคงเป็นไปได้น้อยมาก เพราะมันจะเน่าไปเสียก่อน เว้นเสียแต่ว่าไปได้มาในรูปแบบฟิล์มทอง ซึ่งเป็นการนำเอาไปพิมพ์ใหม่ แต่ก็จะเจอในสภาพสีเฟดแทน เพราะฟิล์มทองยี่ห้อที่ใช้ในยุคนั้นเป็นอั๊กฟ่าครับ)

    จะว่าไปแล้ว กรณีของฟิล์มหนังเรื่องนี้ ก็สะท้อนอะไรออกมาได้หลายๆ อย่าง โดยเฉพาะในแง่ของการอนุรักษ์ เพราะถ้าเป็นเมืองนอก เค้าคงไม่ปล่อยปละละเลยให้เนิ่นนานขนาดนี้ สังเกตได้เลยครับ โดยเฉพาะหนังเก่าหลายๆ เรื่อง เค้าจะนำมาสำเนาลงเนกาตีฟชุดใหม่อยู่เรื่อยๆ ตามกำหนดวาระ ที่สำคัญอีกอย่างก็คือ ความพิถีพิถัน รวมไปถึงเครื่องไม้เครื่องมือนั้นก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เราจึงได้เห็นหนังเก่า (ทั้งหนังจีน หนังฝรั่ง) กลับมาในรูปแบบดีวีดี หรือแม้แต่เทคโนโลยีความบันเทิงระดับ HD อย่างบลู-เรย์ เค้าก็ยังนำภาพยนตร์ที่เคยออกดีวีดีมาแล้ว นำกลับมาหากินได้อีกอยู่เรื่อยๆ ไม่มีวันจบสิ้นครับ




    เลือกหน้า
    [1]
    จำนวนหัวข้อทั้งหมด 17

    กลับขึ้นข้างบน / กลับหน้าแรก

    ค้นกระดานข่าว:


    ถูกเปิด: ถูกคลิ๊กแล้ว: 112928295 ตอนนี้มีผู้เข้าชม : 1 ล่าสุด :GermanFoup , HelenViefs , DonaldSap , Davidfable , พีเพิลนิวส์ , AntonGeods , เอก , Carlosincof , autogNer , Pojja ,