ร่วมทดสอบ Peoplecine mobile Beta0.1
จำนวนหัวข้อทั้งหมด 790
BACKDRAFT เปลวไฟกับวีรบุรุษ กับฟิล์มหนังเต็มเรื่องที่เหลืออยู่ในในห้วงเวลาสุดท้าย |
ข้อมูลคร่าวๆ ของภาพยนตร์เรื่องนี้
ผู้สร้าง: อิมเมจิน เอ็นเตอร์เทนเมนท์
ผู้จัดจำหน่าย: ยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส
ผู้นำเข้ามาฉายในประเทศไทย: ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล พิคเจอร์ส (ยูไอพีั) ประมาณปี พ.ศ. 2534 - พ.ศ. 2535
นัีกแสดง: เคิร์ต รัสเซลล์, วิลเลียม บอลด์วิน, เจนนิเฟอร์ เจสัน ลี, สก็อต เกล็น, โรเบิร์ต เดอ นิโร
ผู้กำกับ: รอน โฮเวิร์ด
วันที่เข้าฉายในอเมริกา: 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2534
ประเภทภาพยนตร์: แอ็คชั่น, ดราม่า, อาชญากรรม
ความยาว: 137 นาที
ข้อมูลเทคนิค: ระบบฟิล์ม 35 ม.ม. สัดส่วนภาพ 2.35 : 1 ระบบเสียง ดอลบี้ สเตอริโอ / ระบบฟิล์ม 70 ม.ม. ระบบเสียงคิวซาวด์ 6 ช่องเสียง
ตระกูล แมคคาร์ฟี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ดับเพลิงโดยสายเลือดที่สามารถทำหน้าที่ผจญเพลิงได้อย่างห้าวหาญจนเป็นที่รักใคร่ของชาวเมือง จนวันหนึ่ง นักผจญเพลิง แมคคาร์ฟี ต้องจบชีวิตท่ามกลางกองเพลิง ขณะที่กำลังดับเพลิงอาคารแห่งหนึ่งต่อหน้าต่อตาลูกชายวัยเพียง 5 ขวบที่คอยติดตามมาดูพ่อดับเพลิงเสมอจนกลายเป็นภาพติดตา กระทั่งเติบโตขึ้นมา เค้าได้เป็นนักผจญเพลิงผู้เก่งกาจ (เคิร์ต รัสเซลล์) ตามรอยเท้าพ่อ อย่างที่ตั้งใจไว้ แต่เค้าก็ต้องผจญกับปัญหาหลายๆ ด้าน ควบคู่กันไปด้วย เช่น ปัญหาครอบครัว ที่กำลังจะหย่ากับภรรยา ปัญหาการขัดขวางการกลับมาของน้องชาย (วิลเลียม บอลด์วิน) ที่ ต้องการพิสูจน์ให้พี่ชายเห็นว่าเค้าเป็นนักดับเพลิงที่ดีได้ แต่เค้าต้องขัดขวางเพราะไม่ต้องการเห็นภาพซ้ำเดิมแบบที่เค้าเห็นพ่อจบชีวิตลง หรือแม้กระทั่งปัญหาที่มีผู้ก่อกวนเมือง โดยการวางเพลิงเผาสถานที่ต่างๆ ซึ่งต้องสืบหาร่วมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน (โรเบิร์ต เดอ นีโร) ทำให้เป็นที่มาของความขัดแย้งในตนเอง และงานอย่างหนัก เค้าจะทำอย่างไรกับการจัดการปัญหาต่างๆ เหล่านี้
ความเห็น |
[1]
สำหรับฟิล์มภาพยนตร์เรื่องนี้ เว็บมาสเตอร์ได้ซื้อมาเป็นสมบัติส่วนตัวเมื่อเดือนกรกฎาคม ปีที่ผ่านมา จากการตรวจสอบภายนอกอย่างคร่าวๆ พบว่าเป็นเนื้อฟิล์มแบบเซลลูลอยด์ (เนื้อธรรมดา) จำนวน 5 ม้วน ซึ่งเป็นกากหนังที่ผ่านการใช้งานมาพอสมควร และเจ้าของฟิล์มก็ต่อฟิล์มหนังที่ทำให้เนื้อในของหนังเท่าเดิม และเหลือช่วง End Credit ไว้เล็กน้อย แต่จำนวนม้วนลดลง ขณะที่ยกฟิล์มเพื่อตรวจดูสภาพอยู่นั้น ก็เริ่มมีกลิ่นน้ำส้มสายชูชึ้นมา อันเป็นอาการของโรคน้ำส้มสายชู หรือ "วิเนก้า ซินโดรม" (Vinegar Syndrome) ซึ่งเป็นโรคที่เกิดขึ้นเฉพาะกับเนื้อฟิล์มเซลลูลอยด์ ถ้าไม่ดำเนินการอนุรักษ์ สิ่งที่หายสาบสูญไปพร้อมกับความเสียหายของฟิล์มนั่นคือ เสียงพากษ์ไทย ในหนังเรื่องนี้ครับ
ที่ผ่านมาเว็บมาสเตอร์ไม่มีโอกาสได้นำฟิล์มมาตรวจเช็คสภาพอย่างละเอียดเนื่องจากติดเวลาทำงาน กระทั่งผ่านไปได้ปีเศษก็เลยนำฟิล์มมาตรวจสภาพ
+
+
เริ่มจากม้วนท้ายๆ ก่อน นั่นคือม้วนที่ 4 และม้วนที่ 5
ม้วนที่ 4 (ภาพบน) โดยรวมถือว่าไม่มีปัญหาเรื่องอาการของโรคน้ำส้มสายชู นอกจากรอยความเสียหายของหนามเตย และบางช่วงที่ขาดจากกัน จึงได้ทำเครื่องหมายไว้อย่างชัดแจ้ง เพื่อรอซ่อมแซมในคราวต่อไป
ม้วนที่ 5 (ภาพล่าง) ในช่วงประมาณ 10 นาทีสุดท้าย มีความเสียหายเกิดขึ้น มีความยาวประมาณ 3 - 4 นาที ก่อนจบ End Credit (อยู่ตรงก่อนรอยที่ทำเครื่องหมายด้านใน)
+
+
มาที่ 3 ม้วนแรก ซึ่งถือว่ามีอาการอย่างเห็นได้ชัด
ม้วนแรก จำเป็นต้องตัดออกเป็นสองตอน ในภาพบนนั้น เริ่มมีอาการบ้าง เครื่องฉายสามารถลากผ่านได้ เลยถอดออกมาและแยกเก็บไว้อีกที่หนึ่ง
ขณะที่ภาพล่าง ฟิล์มบิดงอและส่งกลิ่้นเปรี้ยว ขณะนี้เตรียมเข้ารับการบำบัดตามขั้นตอนการอนุรักษ์ด้วยวิืธีการเป่า ซึ่งต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง หรืออาจจะหลายวัน จนกว่ามันจะใช้ได้จึงค่อยรีบนำไปแปลงเป็นไฟล์ดิจิตอลในคราวต่อไป
ส่วนม้วนที่สอง และม้วนที่สาม อยู่ระหว่างเตรียมการบำบัดเช่นกันครับ และจะมีรายงานเป็นระยะๆ
+
+
เมื่อเช้าครูนุโทรมาสะกิดๆไว้บ้างแล้ว ตกบ่ายมีเวลา ผมเลยแว้บเข้ามาดูอาการกันหน่อย
เห็นจากรูป ยังไม่ได้จับต้องของจริง เลยไม่ฟันธง 100%
แต่เท่าที่เห็น คิดว่ายังเป็นช่วง"เริ่มต้น"ของอาการเสื่อมสภาพอยู่ครับ ถ้าได้หัวฉายที่เดินฟิล์มนิ่มๆเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว น่าจะยังฉายดูตามปกติได้อยู่ด้วยซ้ำ อาจเริ่มรู้สึกภาพโยนๆบ้างเป็นบางช่วง ไม่นิ่งสนิททีเดียว หรืออาจหลุดโฟกัสบ้างเล็กน้อย
หากเป็นหัวฉายที่ไม่ค่อยถนอมฟิล์ม อย่างตระกูลโตกีว่าหัวเล็กทั้งหลาย คงไม่แนะนำละครับ อาจมีปัญหาระหว่างฉายได้
ถ้าได้ผึ่งลมไว้ตลอด ไม่เก็บในที่อับ ผมคาดเดาว่าน่าจะซื้อเวลาได้อีก 3-6 เดือน ก่อนที่อาการจะทรุดหนักจนสังเกตได้ชัดเจน และหมดอายุขัยในอีกซัก 1-2 ปี
แต่ถ้าเก็บในกล่องปิดมิดชิดหรือที่อับละก็...อาจสิ้นชีพในไม่ถึงปีก็เป็นได้ครับ
ปอลอ ตายห่าน เพิ่งนึกออกว่ามีหนังที่เป็นฟิล์มธรรมดา แล้วผมยัดๆใส่กล่องกระดาษไว้อยู่ จำได้ว่าล่าสุดก็เริ่มมีปัญหาเป็นบางม้วน ปีสองปีผ่านไป ป่านนี้มิเจ๊งยกกล่องแล้วรึเนี่ย --"
น่าเสียดายจริงๆ
ถ้ามีโอกาสอยากนำมาบันทึกเสียงเก็บไว้จังเลยครับ หาเสียงแท้ๆ จากฟิล์มยากมาก เสียงจาก vcd ก็ไม่ค่อยแจ่ม
รายงานความคืบหน้า
วันนี้คลี่เฉพาะม้วนที่สามออกมาก่อน แล้วก็เป็นไปตามคาด นั่นคือ ฟิล์มบิดงอแล้วครับ
ขณะเดียวกันก็ถือโอกาสทำการทดลองการบำบัดฟิล์มที่มีอาการ ด้วยวิธีการเป่า ส่วนวิธีการก็ดัดแปลงจากคลิปจาก Youtube "เมื่อฟิล์มมาถึงหอภาพยนตร์" เนื่องจากพื้นที่ไม่เอื้ออำนวย ตอนนี้ก็เลยอยู่ระหว่างการตัดสินใจทำอะไรบางอย่างกับฟิล์มเรื่องนี้
เมื่อใช้การบำบัดด้วยการเป่า แล้วก็เช็คดู ฟิล์มก็ยังบิืดอยู่อย่างเดิม แต่สิ่งที่ปรากฏให้เห็น นั่นคือ กลิ่นเปรี้ยวเริ่มเจือจาง ความยืดหยุ่นของฟิล์มที่ดูบอบบางคล้ายกับกระดาษบางๆ ก็เริ่มคืนสภาพขึ้นมาได้นิดหน่อย ซึ่งก็คงต้องดำเนินการกันต่อไป แม้ว่ากลิ่นเปรี้ยวจะโชยเข้ามาในบ้านบ้างเป็นครั้งคราว (ตอนเป่านั้นเราเป่าออกไปข้างนอกครับ) และอาจจะต้องหยุึดทำก่อน ก่อนที่คุณแม่จะกลับเข้าบ้านในเร็วๆ นี้
ถึงคุณมนตรี (Samsonite) เกี่ยวกับเสียงไทยจากฟิล์ม ก็เล็งๆ ไว้เหมือนกัน ใจจริงอยากจะทำมันทั้งภาพและัเสียงเลยครับ (แต่ต้องบอกไว้ก่อนว่าฟิล์มมีรอยต่ออยู่หลายช่วง) คำนวณค่าใช้จ่ายคร่าวๆ ก็หนักเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน ตอนนี้ก็ได้แต่ลุ้นม้วน 2 และม้วน 3 ก่อนครับ เพราะอาการหนักกว่าเพื่อน
ช่วงที่ผ่านมา (29 ก.ย. ถึงวันนี้) จัดการกับม้วนที่ 1 (ครึ่งหลัง) และม้วน 3 ที่เป็นปัญญา จนในที่สุดเลยออกมาเป็นแบบนี้ ซึ่งไม่มีหลงม้วนแน่นอน เพราะมีหลายเลขกำกับไว้
ที่ต้องทำแบบนี้ไม่ใช่เป็นการซอยหนัง คือ เนื่องจากฟิล์มมันมีรอยต่ออยู่หลายจุด เลยจำเป็นต้องตัดรอยต่้อเดิมให้แยกจากกันเพื่อสะดวกในการนำไปบำบัดด้วยการเป่า (แบบบ้านๆ) ซึ่งฟิล์มแต่ละม้วน มีอาการบิดงออย่างเห็นได้ชัด หลังจากบำบัดแล้วก็ม้วนเก็บไว้เพื่อตรวจสภาพเป็นระยะๆ จนกว่าจะนำมันไปเทเลซีน ซึ่งก็ยังไม่รับรองว่าเครื่องจะสามารถลากผ่านได้หรือไม่
+
แต่...มาดูรีลที่ใส่ฟิล์มสิครับ
ไอระเหยที่ระบายออกมาจากฟิล์ม ซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรด ทำให้รีลขึ้นสนิมในชั่วพริบตา
แต่ตอนม้วนฟิล์ม ต้องใช้ผ้าปิดปากปิดจมูกครับ และใช้พัดลมเป่าระบายออกไปด้วย
+
+
ส่วนม้วนที่สอง ที่ตอนแรกคาดเดาว่าน่าจะไปไม่รอด
หลังจากกรอใส่รีลดู เริ่มมีอาการเบื้องต้นนิดนิด ไม่ถึงกับหนักเหมือนม้วน 1 ครึ่งหลังกับม้วน 3 ที่ถอดฟิล์มออกมารอบำบัดด้วยการเป่า แต่ก็ไม่ประมาท จึงต้องติดตามกันต่อไป
นอกจากการบำบัดด้วยการเป่า ก็จะตรวจดูม้วนที่ 2, 4 และ 5 เพื่อซ่อมแซมกันต่อไปครับ
+
โห สับซะละเอียดเลย --"
๊อัพเดทล่าสุด
เป็นอันว่าฟิล์มภาพยนตร์เรื่องนี้ ตายสนิท อย่างถาวร ยกเรื่องแล้วครับ...
คราวนี้เยิ้มเป็นน้ำทั้งหมด คงไม่ต้องทำอะไรแล้วละครับ นอกจากทิ้งลงถังขยะสถานเดียว
คงต้องโทษตนเองที่ชะล่าใจปล่อยไว้ซะข้ามปี ตอนนั้นก็ติดงานประจำด้วย เรียกว่าไม่สามารถสละเวลามาเช็คสภาพฟิล์มได้อย่างเต็มที่ ถ้าทำได้ คงได้ยลโฉมกันไปแล้ว
จากเหตุที่เกิดขึ้น ต่อไปนี้ถ้าเจอฟิล์มหนังที่เป็นเนื้อธรรมดา คงต้องรีบจัดการถ่ายทอดเป็นไฟล์วิดีโอโดยพลัน
น่าเสียดายทรัพยากรครับ นี่ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ผมได้ทำโครงการรีมาสเตอร์เสียงไทยจากฟิล์มขึ้นมาครับ ผมกลัวว่ามันจะสูญหายไปตามกาลเวลา เป็นโชคดีของผมที่ได้เสียงเรื่อง หวงเฟยหง และใหญ่สั่งมาเกิด 2 มาต่อยอดยืดอายุให้ยืนยาวต่อไปอีกนานในไฟล์ hd 1080p งานที่ได้น่าพอใจเป็นที่สุดครับ
หมด หมด หมดกัน...
เอางี้ละกันครับครูนุ
ฟิล์มส่วนที่ยังไม่เสีย อย่าเพิ่งทิ้ง เก็บไว้ก่อน มีโอกาสเมื่อไหร่ก็ส่งมาเลยครับ ผมทำลงแผ่นให้ฟรีๆเลย ถือว่าเอาไว้ดูเล่นแก้เซ็ง&ปลอบใจไปละกัน
เมื่อวาน เช็คฟีล์มที่บ้านหลายเรื่องเลย โอเควันนี้ยังอยู่รอดปลอดภัย แต่วันหน้าก็คงไม่รู้ แต่ยังไงก็คงต้องหาจังหวะเจียดเงินลงแผ่นดิจิตอล ซะก่อนแล้ว
เนื้อฟิล์มทอง (โพลีเอสเตอร์) ไม่ค่อยห่วงเท่าไหร่ ระวังเรื่องความชื้นเข้าเท่านั้นเอง นี่ก็เสียไปอีก 2 เรื่อง คือ เจ้าของฟิล์มเก็บดีไปหน่อย ผลก็คือเหนียว ติดแน่นหนึบ ดึงฟิล์มออกมา ก็จะมีรอยคราบติดในเนื้อฟิล์มด้วย เรียกว่าถ้าเอาไปฉาย ก็เห็นเจ้าคราบที่ว่า ปรากฏบนจอด้วย ตอนนี้กำลังหาทางคลายออกอยู่ หรือไม่งั้นก็ตัดใจปล่อยทิ้งไปเลย เดี๋ยวหาก็อบปี้จากที่อื่นมาทดแทน
หลังชำระฟิล์มตัวนี้เสร็จ ก็มารื้อฟิล์มหนังเรื่อง "อเมริกัน พาย แอ้มสาวให้ได้ก่อนปลายเทอม" ซึ่งเป็นภาคแรก สีเริ่มเฟดบ้างแล้ว แต่เสียงไทย เป็นของทีมพากย์ซีวีดี ทั้งคุณโอ๊ต จักรกฤษณ์ หาญวิชัย และท่านอื่นๆ ซึ่งเป็นเสียงเดียวกับในวิดีโอ เทป VHS กับวีซีดี
ล่าสุดค่าย MVD เอามาผลิตแผ่นดีวีดี ซึ่งเป็นเวอร์ชั่น Unrate มีบางฉากซึ่งเป็นฉากเดียวกัน แต่มีความต่างไปจากฉบับปกติ ซึ่งก็รวมถึงฟิล์มที่ผมถืออยู่ด้วย แต่เสียงพากย์ไทย ไม่ดีเลย ถ้าเอาแต่เสียงมาโมแบบที่คุณมนตรี (Samsonite) คงไม่ยากเย็นเท่าไหร่นัก ตอนนี้เอามาลงแว็กซ์ (นั่นคือ น้ำมันมะกอก) ลดอาการความชื้นเข้าไปได้ชั่วคราว เหลือ 3 ม้วนสุดท้ายที่จะทยอยทำต่อไปครับ
เลือกหน้า
[1]
จำนวนหัวข้อทั้งหมด 16
ถูกเปิด: ถูกคลิ๊กแล้ว: 112925207 ตอนนี้มีผู้เข้าชม : 1 ล่าสุด :GermanFoup , HelenViefs , DonaldSap , Davidfable , พีเพิลนิวส์ , AntonGeods , เอก , Carlosincof , autogNer , Pojja ,
จำนวนหัวข้อทั้งหมด 16
กลับขึ้นข้างบน / กลับหน้าแรก
ถูกเปิด: ถูกคลิ๊กแล้ว: 112925207 ตอนนี้มีผู้เข้าชม : 1 ล่าสุด :GermanFoup , HelenViefs , DonaldSap , Davidfable , พีเพิลนิวส์ , AntonGeods , เอก , Carlosincof , autogNer , Pojja ,