Mobile Version / สำหรับโทรศัพท์มือถือ ยินดีต้อนรับท่านผู้มาเยือน www.peoplecine.com ท่านยังไม่ได้ log in นะครับ เข้าใช้งานระบบ / สมัครสมาชิก/ ลืมรหัสผ่าน

ร่วมทดสอบ Peoplecine mobile Beta0.1


รูป
หนังฝรั่งในอดีต ทุกยุค ทุกสมัยเจ้าของ ผู้ตอบหลังสุด
-JURASSIC PARK 1993 ตอนกำเนิดใหม่ ไดโนเสาร์.. 18/1/2563 17:09
-MIDWAY 2019.. 11/1/2563 14:35
-CLEOPATRA คลีโอพัตรา.. 9/1/2563 14:54
-สวัสดีปีใหม่-2563/HAPPY NEW YEAR-2020 BY TALK ABOUT MOVIE .. 8/1/2563 21:41
-THE GREAT ESCAPE 1963 “แหกค่ายมฤตยู” .. 8/1/2563 21:41
- Star Wars: The Rise of Skywalker สตาร์ วอร์ส: กำเนิดใหม่สกายวอล์คเกอร์ยังไม่มีคนตอบ
-Top Gun Maverick ยังไม่มีคนตอบ
-007 GOLDENEYE 1995 ตอน รหัสลับทลายโลก.. 15/12/2562 18:34
-007 THE LIVING DAYLIGHTS 1987 ตอน..พยัคฆ์สะบัดลาย.. 14/12/2562 20:25
-007-คนที่4(1987-1989) แอ๊กชั่นถึงใจสุดขีดความระห่ำ.. 14/12/2562 13:29
-หนังแอ๊กชั่นเพลง น่าสะสม “ถนนโลกีย์”STREETS OF FIRE(1984).. 14/12/2562 13:28
-007 GOLDFINGER ตอน จอมมฤตยู 007.. 13/12/2562 21:34
-007 DIAMONDS ARE FOREVER 1971.. 12/12/2562 20:45
-007 YOU ONLY LIVE TWICE 1967.. 10/12/2562 22:19
-Wonder Woman 1984ยังไม่มีคนตอบ
-007 ON HER MAJESTY S SECRET SERVICE 1969.. 7/12/2562 20:42
เลือกหน้า [1] [2] [3] [4] [5] [6] [7] [8] [9] [10] [11] [12] [13] [14] [15] [16] [17] [18] [19] [20] [21] [22] [23] [24] [25] [26] [27] [28] [29] [30] [31] [32] [33] [34] [35] [36] [37] [38] [39] [40] [41] [42] [43] [44] [45] [46] [47] [48] [49] [50]
จำนวนหัวข้อทั้งหมด 790

Big Gameเกมส์ล่าประธานาธิบดี . หนังแอ๊คชั่นเรื่องใหม่ที่น่าดูชมวางโปรแกรมเข้าฉายในไทย.วันที่ 16 เมษายน.2558.นี้โดย แฮนด์เมดดิสทริบิวชั่น.









                                                               เตรียมพบกับหนังแอ็คชั่นสุดมันส์จากผู้กำกับ Rare Exports ที่ครั้งนี้ยังอยู่ยังใจกลางฟินแลนด์ แต่เปลี่ยนแนวมาบู๊สุดกู่กัBig Game เกมส์ล่าประธานาธิบดี..

แซมมูแอล แจ็คสัน สวมวิญญาณเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ ฯ ที่ต้องหลบหนีการเรียกค่าไถ่กลางอากาศทำให้เขาได้มาพบกับเด็กหนุ่มท้องถิ่นวัย 13 ปีที่เข้ามาช่วยเหลือเขาจากการหนีการตามล่า !!..แบบมันส์นันสต๊อบ..กำหนดฉายในโรงภาพยนตร์ วันที่ 16 เมษายน.2558. นี้ครับ.

ขอขอบคุณข้อมูลจากเวบ Filmzlap ครับ.







ความเห็น

[1]


คลิปภาพยนตร์ตัวอย่างซับไทยของหนังเรื่องนี้ครับ.


https://www.youtube.com/watch?v=l_R2QBIGcSA




ชื่อภาษาไทยอย่างเป็นทางการของภาพยนตร์เรื่องนี้คือ.เกมส์ล่าประธานาฮิบดี..ครับ.พร้อมกับหนังตัวอย่างซับไทยอย่างเป้นทางการของภาพยนตร์เรื่องนี้โดย.บ.แฮนเมดดิสทริบิวชั่น.ผู้สั่งซื้อภาพยนตร์เรื่องนี้เข้ามาฉายในไทย.คลื๊กชมหนังตัวอย่างที่ลิ้งด้านล่างครับ..


https://www.youtube.com/watch?v=SuKscTvPXrk




บทวิจารณ์ของภาพยนตร์เรื่องนี้.โดย.คุณอภินันท์ บุญเรืองพะเนาครับ...จากเวบManager..
ภาพยนตร์เรื่อง..
บิ๊กเกม” ผลงานชิ้นนี้ของผู้กำกับ “จาลมารี เฮเลนเดอร์
นำเสนอเรื่องราวของตัวละครสองสามกลุ่มที่มาบรรจบพบกันในเหตุการณ์สำคัญของ
เรื่อง ส่วนแรกเกี่ยวข้องกับเด็กชายชาวป่าในประเทศฟินแลนด์นามว่า “ออสการิ”
ซึ่งโดยแบบแผนวิถีชีวิตชุมชนที่เขาอาศัยอยู่ เมื่ออายุย่างเข้าจะครบ 13 ปี
หนึ่งคืนหนึ่งวันก่อนอายุจะเข้า 13 ปีเต็มนั้น
เด็กน้อยจะต้องออกไปใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวในป่าลึกเพื่อพิสูจน์ว่าเขาโต
เป็นผู้ใหญ่แล้ว ขณะที่ความเป็นลูกผู้ชายเต็มตัวก็จะถูกยืนยันในคืนวันหนึ่งนี้เช่นเดียวกัน
แต่ก็อย่างที่หนังเสนอให้เราเห็น “ออสการิ” นั้นดูเป็นเด็กที่ไม่ค่อยเข้าพวกเท่าไหร่ ยิ่งเมื่อเทียบกับพ่อของเขาในวัย 13 เหมือนกันแล้ว สมัยนั้น พ่อของเขาล่าหมีได้ ขณะที่ออสการิ
อย่าว่าแต่หวังจะล่าหมีได้สักตัวเหมือนกับพ่อ แม้เพียงจะง้างธนูยิงยังปวกเปียกไม่มีแรง ซ้ำมิหนำ ธนูที่ยิงออกไปแต่ละดอก ก็ตกเปาะแถวๆ ลานหญ้าอย่างไร้พละกำลัง
ความตลกของเรื่องมันจึงเริ่มตั้งแต่ตรงนี้ที่เด็กน้อยพยายามจะแสดงท่าทีให้
ดูเก๋าเพื่อว่าจะได้รับการยอมรับจากผู้ใหญ่...เด็กน้อยที่มารับบทออสการิ
คือ “ออนนิ ทอมมิลล่า” เพียงแค่เห็นหน้าตาเขา
คุณก็จะอดขำออกมาไม่ได้แล้วล่ะ
แม้จะพยายามปั้นสีหน้าให้ดูซีเรียสจริงจังเพียงใด
แต่โดยลักษณะโหงวเฮ้งมันออกไปทางฮามากกว่า
(และถ้าจะขออนุญาตแนะนำต่อสักเล็กน้อยเกี่ยวกับดารารุ่นจิ๋วคนนี้
คือบทบาทของเขาในหนังเรื่อง Rare Exports : A Christmas Tale
ที่ได้รับคำกล่าวชมสูงมากในแง่ของการเป็นหนังที่ดูสนุก)
                           

อีกส่วนหนึ่ง หนังกล่าวถึงการเดินทางของท่านประธานาธิบดีแห่งสหัฐอเมริกาที่ต้องมาตกระกำ
ลำบาก เพราะพวก “ผู้ก่อการร้าย”
ได้ลอบทำร้ายท่านในระหว่างการเดินทางโดยเครื่องบิน และบังเอิญว่า
หลังจากเครื่องบินตก แคปซูลช่วยชีวิตของท่านประธานาธิบดีได้ไปตกลงที่ป่าลึกตรงที่เด็กน้อยออสการิของเรากำลังหน้ำดำคร่ำเครียดกับการพิสูจน์ความเป็นผู้ใหญ่ของตนเอง
แล้วเหตุการณ์หลังจากนั้น ท่านประธานาธิบดีก็ต้องหลบหนีการไล่ล่าของพวกผู้ก่อการร้าย
โดยมีเด็กชายออสการิเป็นเหมือนผู้ช่วย

       

       เพราะความเป็นหนังตลก ผสมแอ็กชั่นเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งจะว่าไป
ไม่น่าจะเรียกว่าแอ็กชั่นการต่อสู้ได้เสียด้วยซ้ำ
เพราะมีการกระทำจากคนฝ่ายเดียวคือผู้ร้าย
ส่วนทางฝ่ายประธานาธบดีต้องหนีเอาตัวรอดอย่างเดียว กระนั้นก็ดี
ผมกลับรู้สึกชื่นชมว่า คนทำหนังเรื่องนี้เฉลียวฉลาดในการ “ตัดแปะ”
เอาการค่อนแคะเหน็บแนมแซมไว้ตามจุดต่างๆ ได้อย่างแยบยล
มันต่างจากหนังวิพากษ์อเมริกันหรือท่านผู้นำแห่งอเมริกาเรื่องอื่นๆ
ที่มักจะมาพร้อมกับพล็อตที่เชื่อถือได้และเรื่องราวที่เข้มข้นขึงขัง
แต่การวิพากษ์ของบิ๊กเกมมันเหมือนชิ้นส่วนของเครื่องบินที่ตกหักกระจัด
กระจายและเราต้องค่อยๆ ไล่เก็บชิ้นชิ้นส่วนเหล่านั้น
แล้วนำมาต่อกันเป็นจิ๊กซอว์เพื่อให้ได้ภาพทางความคิด


       

       ด้วยเหตุนี้
ผมถึงไม่ได้มองว่าผลงานชิ้นนี้จะเป็นแค่เพียงเรื่องราวอันสุดระทึกของการ
สังหารผู้นำ
หากแต่มันจะตอกย้ำวิธีคิดตลอดจนชวนตั้งคำถามต่อประเทศอันยิ่งใหญ่
อย่างอเมริกา เปิดเรื่องมาแรกๆ
ชื่อประเทศของอเมริกาก็เด่นหราอยู่บนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันอย่างมีนัยยะ
สำคัญ มันคือการแสดงแสนยานุภาพผ่านสัญลักษณ์
ทั้งถ้อยคำที่เป็นชื่อประเทศและขนาดของเครื่องบินลำใหญ่เบิ้มเต็มจอ
(เทียบกับฮอของฝ่ายก่อการร้ายแล้วคนละเรื่อง)
ยิ่งเมื่อหนังเดินทางไปถึงตอนที่ท่านประธานาธิบดีได้พบเจอกับเด็กน้อยออสกา
ริ ก็ทำเอารอยยิ้มเราแตกปริอย่างมิอาจเก็บกลั้น
เพราะคำพูดของท่านประธานาธิบดี (ซามูเอล แอล. แจ็กสัน) นั้นประกาศลั่นว่า
“ยูไม่รู้จักไอหรือ ไอคือประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกานะ”

       

       สถานการณ์นี้ทั้งชวนขำและชวนคิดไปด้วยในตัว
ผมไม่ได้มีอคติอะไรต่ออเมริกาหรืออเมริกันชน
หากแต่ถ้อยคำประกาศดังกล่าวที่หนังเอามาใช้
มันได้ปอกเปลือกวิธีคิดบางอย่างของอเมริกามาให้เราได้เห็น
ความยิ่งใหญ่ของอเมริกาประมาณว่าทุกคนบนโลกต้องรู้จัก
แม้แต่เด็กน้อยที่อยู่ตามไร่ปลายดอยก็ควรรู้
การมองอเมริกาเป็นเหมือนโลกหรือเจ้าโลก จริงๆ ไม่ใช่แค่อเมริกาที่ประกาศเอง
บางที คนชาติอื่นๆ อย่างเราก็ทำทียอมรับอยู่ในตัว
ชื่อหนังภาษาไทยหลายเรื่องก็เป็นไปในทำนองนั้น อย่างเช่น “ด่วนยึดโลก”
(White House Down) หรือ 2012 วันสิ้นโลก, ยึดด่วน วันสิ้นโลก
(Snowpiercer) ซึ่งโลกที่สิ้น ก็คือประเทศอเมริกา...
        

สิ่งนี้อาจดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ
และด้านหนึ่งก็คือการหวังผลในด้านที่พอได้ยินชื่อเรื่องก็ฟังดูใหญ่
น่าตื่นเต้นและเรียกความสนใจจากคนดูหนังได้ (ก็นะ ใครจะไม่ตื่นเต้นล่ะ
โลกโดนยึดหรือสิ้นโลกขนาดนั้น) แต่ลองคิดเล่นๆ ใช่หรือไม่ว่า มันก็ “อาจจะ”
สะท้อนสำนึกแห่งการยอมรับในความเชื่อที่ว่า
อเมริกานั้นคือศูนย์กลางอันยิ่งใหญ่ของโลก ยิ่งใหญ่จนเปรียบเป็นโลกไปแล้ว
ซึ่งเมื่อเทียบกับของไทยเรา อย่างหนังของคุณทรนง ศรีเชื้อ เรื่อง “2022
สึนามิ วันโลกสังหาร” ก็ใช้คำว่า “วันโลกสังหาร” แทนที่จะเป็น
“วันสังหารโลก” จุดนี้ ลองคิดเล่นๆ
ว่ามันอาจจะเป็นผลพวงมาจากสำนึกบางส่วนก็ได้ อย่างของไทยเรา
อาจไม่ค่อยมีสำนึกว่าชาติของเรายิ่งใหญ่เทียมเท่ากับโลก
เราเป็นเพียงประเทศหนึ่งซึ่งเป็นสมาชิกของโลกเท่านั้น ดังนั้น
ต่อให้ทำหนังหายนะ โลกก็จึงยังอยู่
แต่ประเทศเราต่างหากที่โดนธรรมชาติเล่นงาน
เพราะสำนึกของเราไม่เคยคิดว่าเราคือเจ้าแห่งโลก

       

       กลับไปที่ตัวหนัง ผมคิดว่าหนังให้ความตลกขึ้นมาอีกมาก
เมื่อให้ทั้งสองคนได้ใช้ชีวิตด้วยกัน แม้เพียงช่วงสั้นๆ
แต่มันก็สะท้อนให้เห็นถึงโลกสองใบที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้ว
ขั้วที่หนึ่งคือเด็กน้อยที่กำลังแสวงหาความกล้าหาญให้แก่ชีวิต
ส่วนอีกขั้วคือผู้นำที่เชื่อว่าตนเองนั้นยิ่งใหญ่ถึงกับใช้คำว่า “ที่ผ่านมา
ฉันสามารถบัญชาการกองทัพทั้งกองทัพให้รุกรานที่ไหนก็ได้”
นี่คือความจริงหรือมิใช่ ไม่ว่าในที่ไหนๆ
อเมริกาก็พร้อมจะเอาสงครามลงไปหย่อนได้ทุกที่ อย่างไรก็ดี
ในสถานการณ์แบบนี้ กลางป่าลึกถึงเพียงนี้
ไม่ว่าคุณจะยิ่งใหญ่มาจากไหนเพียงใด ก็ไร้ค่า เพราะ...
“แม้แต่โทรสั่งพิซซ่า ยังไม่มีปัญญาจะสั่ง”

       

       ภาพของท่านประธานาธิบดีในเรื่องนี้
จึงแตกต่างจากที่เราเห็นโดยสิ้นเชิงในหนังเรื่องอื่นๆ
มันชวนให้คิดถึงคำพูดชาร์ลี แชปปลิน ที่กล่าวไว้ทำนองว่า
ถ้าคิดจะเล่นกับอำนาจ มันต้องเล่นด้วยอารมณ์ขัน
เหมือนที่ชาร์ลีล้ออำท่านผู้นำอย่างฮิตเลอร์ในหนังของเขา
งานชิ้นนี้จากผู้กำกับฟินแลนด์
ก็ให้ภาพผู้นำที่แสนจะปวกเปียกและอวดอ้างสรรพคุณตัวเอง
เบื้องหน้าที่โลกเห็น
คือผู้ยิ่งใหญ่ที่สามารถจะบัญชาการสงครามที่ไหนก็ได้บนโลกนี้ แต่เบื้องหลัง
นุ่งกางเกงขาสั้น เสื้อยืด
และแอบกินขนมคุกกี้แบบที่ต้องสำทับลูกน้องคนสนิทว่าอย่าให้เมียรู้เป็นอัน
ขาด
แต่นั่นก็ดูเหมือนว่าจะยังไม่ฮาเท่ากับตอนที่ท่านผู้นำได้ใช้ชีวิตกับเด็ก
น้อยออสการิ ที่ท่านพยายามทำให้เด็กน้อยเห็นว่า บางที
เราอาจจะไม่ต้องเก๋าจริงก็ได้ แค่ทำให้ “ดูเก๋า” ก็พอ
ด้วยการยกวีรกรรมฉี่เล็ดกางเกงขณะขึ้นประกาศแถลงการณ์ในครั้งหนึ่ง
แต่สุดท้ายก็โดนเด็กน้อยตอกหงายหลังตึง ว่าแค่เสแสร้งแกล้งทำให้ “ดูเก๋า”
เท่านั้นไม่พอหรอก เพราะสุดท้ายแล้ว เราต้อง “เก๋าจริงๆ”
ถึงจะน่ายอมรับจริงๆ (แน่นอนว่า เมื่อไปถึงบทสรุป เราจะพบว่า
ทั้งสองตัวละครเกิดการผ่านพ้นแบบเดียวกัน คือ ไม่ใช่แค่ “ดูเก๋า” แต่พวกเขา“เก๋าจริงๆ”)..






                         ขณะเดียวกัน อีกฟากหนึ่งซึ่งเป็นฝั่งผู้ร้าย บิ๊กเกมก็เล่นกับ “ฝันร้าย” หรือความปริวิตกเกี่ยวกับภัยก่อการร้ายของอเมริกาได้อย่างน่าขัน คือที่ผ่านมา การนิยามคำว่า “ผู้ก่อการร้าย” ในสายตาของโลกตะวันตก มักจะเป็นกลุ่มคนสักกลุ่มหรือกองกำลังสักกองที่มาพร้อมกับอุดมการณ์อัน หรูหรายิ่งใหญ่ ในนามของนู่นนี่นั่น อย่างที่รู้กัน แต่ผู้ก่อการร้ายในหนังเรื่องนี้ที่จงใจมาเล่นงานประธานาธิบดี กลับเป็นไอ้โรคจิตลูกมหาเศรษฐีที่ไหนก็ไม่รู้ซึ่งไม่มีอุดมการณ์ความฝันอะไร มากไปกว่าการได้จับกุมท่านผู้นำที่ยิ่งใหญ่แล้วถ่ายรูปไว้อัปอวดชาวโลกทางโซ เชียลมีเดีย พูดไปจึงคล้ายตลกร้ายที่เหน็บโดนทั้งสองฝ่าย ผู้ร้ายก็บ้าได้ดี ส่วนประธานาธิบดีก็ดูงกๆ เงิ่นๆ เกินกว่าจะทำใจยอมรับได้ว่านี่คือผู้นำของประเทศที่ว่ากันว่าเป็นเจ้าโลกมา ตลอด
       
       ในความเป็นหนัง “บิ๊กเกม” มันแตกต่างไปจากหนังลักพาตัวหรือทำร้ายประธานาธิบดีเรื่องอื่นๆ เพราะนี่คือการล้อเลียนและอำเพื่อความขำฮา ดูแล้วได้ความตลกมากกว่าจะหวังถึงความลุ้นระทึกในฉากแอ็กชั่น กระนั้นก็ดี ในท่าทีที่ดูตลกโปกฮาเกี่ยวกับการไล่ล่าและเอาตัวรอด หนังยังมีอีกส่วนที่อาจจะพูดได้ว่าซีเรียสที่สุด นั่นคือฉากในห้องทำงานที่ไหนสักแห่งในอเมริกาที่ประกอบไปด้วยบรรดาคนใหญ่คน โตซึ่งมารวมตัวกันเพื่อหาทางช่วยเหลือท่านประธานาธิบดี ในนี้ต่างหากที่น่าตระหนกยิ่งกว่า.

           
ภาษิตที่ว่า “สนิมเกิดแต่เนื้อในตน” น่าจะสอดรับกับสถานการณ์ในหนังได้ค่อนข้างเหมาะเจาะ ตั้งแต่ต้นๆ เรื่อง เราจะเห็นแล้วล่ะว่า ใครบางคนนั้นแอบกบฎทรยศต่อท่านผู้นำ และเบื้องลึกเบื้องหลังลงไปกว่านั้น มันยังมีสิ่งที่น่าประหวั่นพรั่นพรึงยิ่งกว่าภัยก่อการร้ายอีกหลายเท่า สัจธรรมความจริงของผู้นำ ไม่ว่าในที่ไหนๆ ในโลกก็คล้ายไม่ค่อยแตกต่างกันนัก หนึ่งคือ ถ้าไม่ทำตัวเองให้ดูแย่เอง ก็มักจะเป็นว่ามีพรรคพวกคนใกล้ตัวนั่นแหละทำให้เละ หรืออย่างเรวร้ายที่สุดก็คือจ้องจะเล่นงานหัวหน้าเพื่อให้ตัวเองได้ก้าวขึ้น มานั่งเก้าอี้แทน
       “ภัยนอก” ที่ว่าแน่ๆ แต่ “ภัยใน” ก็ไว้วางใจไม่ได้เช่นกัน
       
        “บิ๊กเกม” เป็นหนังที่ขายอารมณ์ขันครับ มันอาจจะไม่ใช่หนังขำแบบตลกยิงมุก แต่ตลกแน่ๆ เชื่อสิ!



เลือกหน้า
[1]
จำนวนหัวข้อทั้งหมด 4

กลับขึ้นข้างบน / กลับหน้าแรก

ค้นกระดานข่าว:


ถูกเปิด: ถูกคลิ๊กแล้ว: 112935386 ตอนนี้มีผู้เข้าชม : 1 ล่าสุด :พีเพิลนิวส์ , Tongkam , เอก , Pojja , กิต , H.Teo , Oil , หลอม , ya , นายโจ้ ,