CD / DVD มันอ่านเขียนด้วยแสง วัสดุบันทึกมันเป็นน้ำยาเคมีคล้ายๆฟิล์มถ่ายรูป เวลามัน fade จึงไปพร้อมๆกันทั้งแผ่น ทำให้อ่านข้อมูลไม่ได้เลย
Harddisk มันอ่านเขียนด้วยแม่เหล็ก แผ่นจานฉาบโลหะไว้คล้ายๆเทปรีล ตัวจานโลหะไม่ fade เพราะอยู่ในกล่องปิดสนิท แต่ถ้าบันทึกข้อมูลทิ้งไว้นานๆ แม่เหล็กอาจจางลงจนอ่านข้อมูลไม่ได้ แต่วิธีแก้ก็เหมือนเทปครับ ถ้าเราเอามาลบ และเขียนทับ สัญญาณแม่เหล็กมันก็จะเข็มขึ้นมาอีกรอบ ก็จะช่วยรักษาอายุของข้อมูลเราได้ครับ
วิธีใช้ Harddisk ผู้ใช้คอมอย่างพวกเราควรจะทราบไว้ (เท่าที่ผมนึกออก)
1 Harddisk ทุกๆตัวถูกออกแบบให้ติดๆดับๆได้เพื่อประหยัดไฟและลดความร้อน ซึ่งควบคุมโดยระบบปฏิบัติการ ประมาณชั่วโมงนึงที่เปิดเครื่องใช้งานอาจมีการติดๆดับๆประมาณ 20 ครั้ง และอาจมากกว่านั้นถ้าเป็น notebook โดยรอบการติดๆดับๆจะมีจำนวนรอบประมาณ 5 แสนครั้งก็จะพัง โดย Harddisk ยี่ห้อ Western digital อาจทนได้ถึง 7 แสนครั้ง Hitachi จะต่ำแค่ประมาณ 5 แสนครั้ง ตัวเลขการนับรอบสามารถดูได้โดยใช้โปรแกรม smartmontools โดยทั่วไปถ้าเปิดใช้งานเครื่องทุกวัน ประมาณ 3 ปีก็จะถึง 4-5 แสนแล้วครับ (นี่คือที่มาว่าทำไมharddisk ประกัน
3 ปี) ถ้าเสียดายข้อมูล ก็อย่าทนใช้ไปจนถึง 6 แสนครับ ถ้ามอร์เตอร์หัวอ่านพัง มันจะกู้ข้อมูลอะไรไม่ได้เลย แต่ถ้า harddisk ไม่ได้เอามาเสียบใช้ตลอดเวลาก็อาจจะอยู่ได้นานหน่อย
2 Harddisk โดยทั่วไป ประกอบด้วยจานบันทึกข้อมูลหลายแผ่นซ้อนกันอยู่ และมีหัวอ่านอยู่จานละหัว แต่หัวอ่านของทุกจานจะขยับไปพร้อมๆกัน เมื่อเราต้องก๊อปปี้ไฟล์หลายๆไฟล์พร้อมๆกันให้ทำการเลือกไฟล์ทีเดียวให้ครบทุก จากนั้นให้ก๊อปวางทีเดียว รอให้มันก๊อปเสร็จก่อน จึงค่อยทำอย่างอื่นต่อ เหตุผลคือ harddisk มันไม่ได้บันทึกข้อมูลแต่ละไฟล์ต่อๆกัน แต่มันจะกระจายๆเก็บ ขึ้นอยู่กับว่าตอนที่เราสั่งบันทึกในตอนแรกหัวอ่านมันคาอยู่ตรงใหน มันจะบันทึกตรงนั้น แต่ตอนอ่านข้อมูล ตัว Windows มันฉลาด มันจะทำการตรวจสอบตำแหน่งข้อมูลก่อน แล้วให้หัวอ่านกวาดจานทีเดียว แล้วค่อยเอาข้อมูลมาต่อๆกันในหน่วยความจำ ทำให้ไม่ต้องขยับหัวอ่านบ่อยๆ แต่ถ้าเราไปทำงานอื่น หรือก๊อปปี้แฟ้มอื่นในขณะที่งานก่อนหน้านั้นมันยังไม่เสร็จ ตัว Windows มันจะจัดลำดับการอ่านข้อมูลไม่ได้ หัวอ่านจึงวิ่งเข้าๆออกๆ ทำให้อ่านข้อมูลได้ช้า และพังเร็ว Harddisk ส่วนมากติด BAD เพราะพฤติกรรมคนใช้ชอบลากๆวางๆไฟล์แบบนี้ อย่างไรก็ตามถ้าเลี่ยงไม่ได้ หรือจำเป็นต้องใช้งานในลักษณะนี้เป็นแระจำ ผมแนะนำให้เปิดใช้งาน AHCI ซึ่งเป็นการจัดลำดับการอ่านข้อมูลที่ตัว harddisk เลย ซึ่งจะช่วยรักษา harddisk ให้อายุยืนขึ้น และทำงานเร็วขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม การเปิดใช้งาน AHCI ทำได้เฉพาะบน Windows7 กับ Harddisk ที่เป็น SATA เท่านั้น และต้องให้ช่างเปิดให้นะครับ ถ้าทำผิดขั้นตอน จะทำให้เครื่องบู๊ตไม่ได้ครับ
3 ระบบจ่ายไฟต้องนิ่ง ปัญหาไฟไม่นิ่งเกิดจาก power supply จายไฟได้ไม่พอกับจำนวนอุปกรณ์ในเครื่อง อันนี้สำคัญมาก harddisk ส่วนมากพังเพราะสาเหตุนี้ วิธีสังเกตุคือ ลองใช้โปรแกรม Hardware monitor ที่แถมมากับ mainboard ลองตรวจดูแรงดัน +5 , -5 ,+12,-12 มันไม่ควรจะตกเกิน 1 volt ถ้ามันแกว่งมาก แสดงว่าไฟไม่พอให้เปลี่ยน power supply เป็นตัวที่จ่ายวัตตได้สูงขึ้น ปัญหาที่เกิดกับ harddisk คือ บน windows อยู่ดีๆ harddisk หาย พอ boot เครื่องใหม่ก็กลับมา ใช้ๆไปก็หายอีก เครื่องแฮ๊งเวลาเขียนไฟล์ ไฟล์เล็กๆอ่านได้ ไฟล์ใหญ่ๆอ่านแล้วเครื่องค้าง... ถ้าไฟตกตอนที่ harddisk กำลังเขียน มันจะเขียนไม่ได้ windows มันเป็นว่าเขียนไม่ได้ มันก็จะนึกว่า harddisk พัง พอ harddisk กลับมาใช้ได้อีก มันจะทำการ mark ตกแหน่งนั้นเป็น BAD SECTOR นานๆไป harddisk จะติด bad เยอะขึ้นเรื่อยๆครับ ถ้าไฟตกตอนมันกำลังอ่านข้อมูล เครื่องจะจอฟ้า หรือไม่ก็นิ่งไปหลายนาที
4 External Harddisk มักจะแถมสายห่วยให้มา เนื่องจากปัญหาจากข้อ 3 สาย USB โดยทั่วไปที่แถมมาใช้สายเส้นเล็ก จึงจ่ายไฟได้ไม่พอ ทำให้ harddisk พังได้ครับ แนะนำให้ใช้สายแบบที่มี 2 หัว มันจะไปแบ่งไฟมาจาก usb 2 port ทำให้ดึงกระแสได้เยอะขึ้น
5 หลีกเลี่ยงการต่อ harddisk external จาก usb hub เนื่องจากกระแสไม่พอ เครื่องจะมองไม่เห็น harddisk และอาจพังได้ครับ เท่าที่เคยได้ยินมา มี usb hub ยี่ห้อ Belkin เท่านั้นที่ทำมาให้ใช้กับ harddisk external ได้ครับ นอกจากนั้นถ้าต่อแล้วใช้ได้ ก็คือ ฟลุ๊กครับ อีกอย่างก็คือช่องต่อ usb ทางด้านหน้า case สำหรับเครื่องประกอบ ข้างในมันเป็น hub นะครับ ถ้าเลี่ยงได้ให้ต่อออกมาจากทางด้านหลัง case จะดีกว่าเพราะ usb port ทางด้านหลังมันออกมาจาก mainboard โดยตรง ถ้าเป็นยี่ห้อ ASUS นี่เขารับประกันเรื่องพลังไฟ USB กันเลยดีเดียว
6 ปัญหา harddisk ติด bad อาจเปิดจากไฟไม่นิ่ง ทำให้ windows มันกา bad sector มาให้เราแบบมั่วๆ ให้แก้โดยการ format แบบปรกติ (ติ๊ก quick format ออก) มันก็จะกลับมาเป็นปรกติ เพราะมันเป็นการบังคับ windows มันจะทำการตรวจสอบ bad sector ใหม่ให้ *** ห้ามทำการ Low level format เด็ดขาด เพราะอาจทำให้มันพังไปเลย และเคลมไม่ได้ด้วย ***
7 Harddisk บางรุ่นจะเจาะรูเล็กๆไว้ที่ฝารูนี้เล็กมากแต่จะมีคำเตือนตัวใหญ่ๆ หรือวงกลมวงใหญ่ๆแสดงบอกไว้ (ส่วนมากจะเป็น harddisk ของ notebook) รู้นี้ใช้ระบายอากาศ เวลาจานมันหมุนจะข้างในจะเกิดลมหมุน หัวอ่านจะใช้ลมนี้พยุงตัวเองให้ลอยอยู่เหนือจาน (ไม่แตะจานเวลาอ่านข้อมูล) ถ้าเราไปอุดรูนี้เข้าโดยไม่ตั้งใจ มันจะปรับความดันอากาศไม่ได้ หัวอ่านจะครูดกับจาน ทำให้ติด bad sector เร็วขึ้น
ถ้าใช้ Windows ไม่ว่าจะ version อะไร ให้ใส่ ram ไว้เยอะๆครับ ผมแนะนำให้ใส่ไว้ 4 กิ๊กเลยเพราะตอนนี้แรมถูกมาก ถ้ามีแรมเยอะ harddisk จะถูกใช้งานน้อยครับ ( windows ใช้ harddisk เป็นกระดาษทดเลข เสริมถ้าแรมมีไม่พอ และธรรมชาติของ windows มันใช้แรมเยอะครับ)
นอกนั้นก็ไม่มีอะไรครับ ระวังเรื่องการกระเทือน เวลาใส่ harddisk ให้พยายามขันน๊อตให้มันแนบสนิทกับ case ครับ จะช่วยระบายความร้อนได้เร็ว และที่สำคัญคือ harddisk ทุกตัวจะมีรูน๊อตอยู่ด้านละ 4 รู เราไม่จำเป็นต้องขันให้ครบทุกรูนะครับ แค่ด้านละ 2 ตัวก็พอครับ เพราะ case บางรุ่นมันปั๊มมาไม่ได้มาตรฐาน เราไปยึดน๊อตแน่นทุกตัวมันจะไปเพิ่มความเครียด(Strain)ให้กับตัว harddisk ครับ
ถ้ารักษา harddisk ได้ตามนี้ ข้อมูลอันมีค่าก็จะอยู่กับเราไปอีกนานครับ
เสียดายนะครับที่แผ่น CD ไม่มีแถบสีบอกข้างแผ่นเหมือนถ่านไฟฉาย ไว้ให้เรากดดูว่าใกล้เจ๊งหรือยัง จะได้ก๊อปข้อมูลออกไปใส่แผ่นใหม่ :-)
ตอนนี้ราคา harddisk ปั่นป่วนทั่วโลกเนื่องจากน้ำท่วมที่เมืองไทย ราคาจึงขึ้นไปเกือบ 3 เท่า ดังนั้นถ้าไม่จำเป็นอย่าเพิ่งรีบซื้อหรือประกอบเครื่องใหม่ตอนนี้ ให้รอช่วง มีนา-เมษา ราคาถึงจะกลับมาเหมือนเดิม
*ไม่มีอ้างอิงนะครับ เล่าจากประสบการณ์ที่เคยทำร้านคอมมาก่อน