Mobile Version / สำหรับโทรศัพท์มือถือ ยินดีต้อนรับท่านผู้มาเยือน www.peoplecine.com ท่านยังไม่ได้ log in นะครับ เข้าใช้งานระบบ / สมัครสมาชิก/ ลืมรหัสผ่าน

ร่วมทดสอบ Peoplecine mobile Beta0.1


รูป
ตำนานนักพากย์ผู้ยิ่งใหญ่เจ้าของ ผู้ตอบหลังสุด
-เสียงพากย์ไทยในหนังเรื่อง Batman v Superman Dawn of Justiceยังไม่มีคนตอบ
-แด่นักพากย์นาม...เทพปราณี.. 20/4/2560 18:12
-ม้วนเทปรีล มหาราช - พงษ์พิทักษ์ พากย์ไทย.. 17/4/2560 21:32
-นันทวันน้อย นักพากย์เมืองสุรินทร์.. 2/4/2560 20:53
-โกญจนาท นักพากย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งสายอีสาน.. 30/3/2560 18:28
-ท้าวนพดล ณ คำชะโนด.. 8/3/2560 11:16
-ขอไว้อาลัยแด่...โกญจนาท.. 23/1/2560 16:17
-อาโต๊ะ,อาเกรียง ทีมพันธมิตร - น้องเจน ประภัสรา และ The Public Mansionยังไม่มีคนตอบ
-สัมภาษณ์อาเล็ก ดอกคำใต้ยังไม่มีคนตอบ
-เขมราช จิตรกรนักพากย์ ยังไม่มีคนตอบ
-“น้าต๋อย เซมเบ้” คืนไมค์ พากย์การ์ตูน “เซเลอร์มูน”ยังไม่มีคนตอบ
-โกญจนาท..... 16/4/2559 10:45
-...ห้องบันทึกเสียงพันธมิตร..... 2/4/2559 11:16
-รวมสุดยอดนักพากย์ในตำนาน...เขากลับมาแล้ว...ยังไม่มีคนตอบ
-คาใจมานาน เกี่ยวกับนักพากย์ในทีมเสียงเอกชุดช่อง 3 เดิม.. 17/3/2559 21:58
-นักพากย์สายอีสาน.... 26/12/2558 13:57
เลือกหน้า [1] [2] [3] [4] [5] [6] [7] [8] [9] [10] [11] [12] [13] [14] [15] [16] [17]
จำนวนหัวข้อทั้งหมด 262

?พันธมิตร? กับภารกิจคนรักหนังชื่อ


?พันธมิตร? กับภารกิจคนรักหนัง
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 26 เมษายน 2555 12:11 น.
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น



จุดเริ่มต้นของโครงการแผ่น DVD หนังคลาสสิกกับ "มิตร "ไชยบัญชา"

ยอดสมิงริงโก้ หนังหายากของ "มอนโกเมอร์รี วูด"

แผนสังหาร หนังที่หาดูยากแม้แต่ในต่างประเทศ

"รักฉันเถิดที่รัก" กับ "โมโมเอะ โทโมคัตสึ"

"5 เดนนรก" ที่ใส่เสียงพากย์มาให้ถึง 3 แบบ

"วาตาริ" ที่ "ปริภัณฑ์" บอกว่าได้มาสเตอร์มาแล้ว แต่ทุนหมดเสียก่อน

หากเอ่ยถึงทีมพากย์ ?พันธมิตร?
       
        ส่วนหนึ่งของคนดูหนังอาจจะนึกไปถึงความตลกโปกฮา จากบรรดาหนังหลายต่อหลายเรื่องที่ทีมนักพากย์เหล่านี้ให้เสียง แต่ในขณะเดียวกัน ก็คงจะมีคนอีกจำนวนไม่น้อยเช่นกันที่มีความรู้สึกไปว่าการพากย์ของพวกเขาโดยเน้นไปที่การยิงมุกตลกต่างๆ นานาเหล่านี้นี่แหละที่ทำให้เนื้อหาสาระที่แท้จริงของหนังต้นฉบับถูกบิดเบือน
       
        สำหรับประเด็นแรกแน่นอนว่าคงจะไม่มีใครติดใจอะไรสักเท่าไหร่ ทว่า สำหรับประเด็นหลังนั้น ต้องบอกว่ามิใช่เพียงคนดูหนังเท่านั้นที่รู้สึก เพราะทีมพันธมิตรโดย ?น้าโต๊ะ? ปริภัณฑ์ วัชรานนท์ เองก็ยอมรับตรงส่วนนี้เช่นกัน
       
        ?ถ้าเอางานเก่าๆ เมื่อซัก 15 ปีที่แล้ว มาดูเรายังปวดร้าวเลยบางเรื่อง ดูไม่ได้น่ะ ไปทำลายหนังเค้า เรามานั่งดู เฮ้ยหนังมันจริงจังฆ่ากันทั้งเรื่องเลย ติดเกาะฆ่ากันจะขำไปถึงไหน?
       
        ?น้าโต๊ะ เผยถึงความรู้สึกที่อยู่ลึกๆ ในใจมานาน โดยเจ้าตัวบอกว่าสาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้ทีมตนต้อง ?ตลกไว้ก่ออ ด้วยการ ?ยิงมุก? แบบไร้ขีดจำกัด จนเข้าขั้นผิดที่ผิดทางกับกับหนังเกือบจะทุกแนวก็มาจากความต้องการของเจ้าของหนังด้วยเช่นกัน
       
        ?แต่เจ้าของหนังเค้าต้องการแบบนั้น ใหม่ ๆ เราไม่มีพาวเวอร์ไปต่อรองก็ต้องทำ แล้วเรื่องเอาให้ขำเนี่ยเรามีอยู่แล้ว คุณจะอะไรขำได้หมด?
       
        หัวหน้าทีมนักพากย์อันดับต้นๆ ของเมืองไทยเอ่ยปากยอมรับอย่างไม่อายว่าที่ผ่านมาตนทำลายหนังไปหลายเรื่องเลยทีเดียว...
        ?พี่ทำลายหนังไปหลายเรื่อง ช่วงนั้นพี่ไม่พอใจเลย เดี๋ยวนี้ทุกคนเข้าใจหมดแล้ว ถ้าไม่ตลก คือ ไม่ตลกเลย ถ้ามาแบบหนังนิ่งๆ หนังบางเรื่องที่เป็นความจริงจัง, เป็นซีเรียส, เป็นความเศร้าเป็นอะไร ไม่เล่นคือไม่เล่นเลย แต่ถ้าหนังคุณมีแนวทาง มีตัวตลกมีตัวตามส่งมาเลย เดี๋ยวเราขยี้ให้ ...?
       
        ?หนังหลายๆ เรื่องที่เคยพากย์เอาไว้แรกๆ เมื่อตอนตั้งทีมใหม่ พี่ไม่กล้าดูเลย หลายเรื่องถ้ามีคนสั่งเข้ามาใหม่ให้พี่พากย์ ก็จะพากย์ให้ฟรีด้วยซ้ำ ขอพากย์ใหม่ ถ้าทำได้นะ แต่ตอนนี้มันนิ่งแล้วล่ะ มันเข้าสู่ช่วงที่ว่าไม่ใช่คือไม่ใช่นะ เจ้าของหนังเค้าก็ไม่ได้มาบีบเรา เขาเข้าใจว่าแล้วมันจะมานั่งฮาอะไรทั้งชาติวะ พอเราได้มาทำเรารู้แล้วว่าทำหนังแต่ละเรื่องมันยากเย็นแสนเข็ญขนาดไหน เค้าตั้งใจให้หนังเค้าไปแนวทางแบบเนี่ย แต่เราไปฉีกทางเนี่ย ถ้าเค้ามานั่งดูเค้าจะเสียใจไหม ชั่วโมงนี้ถ้าแนวทางเค้ามาเป้นแบบนี้ผมไปตามคุณเลย?
       
        อย่างไรก็ตาม ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ปริภัณฑ์ มีบทบาทใหม่กับการเป็นเจ้าของกิจการแผ่นดีวีดียี่ห้อ XXX (ทริปเปิลเอ็กซ์) ที่ไม่ใช่หนังแนวเรตวาบหวิวแต่เป็นหนังเก่าคลาสสิกที่เขาชอบโดยส่วนตัว
        ?หนังพวกนี้มันอยู่ในใจเรามาตลอดนานแล้ว มันเป็นช่วงสิบยี่สิบปีที่เราเข้ามาในวงการ แล้วหนังพวกนี้มันหายไป อย่าง ตะลุยแดนพยัคฆ์ ตัวแรกของ คิง ฮู หรือ แผนสังหาร I as in Icarus เนี่ยมันอยู่ไหน เราอยากดูเราอยากทำ?
       
        ?แต่จุดแรกมาจากหนัง มิตร ไชบัญชา ก่อน พวกอินทรีย์ทอง เพราะเรารัก มิตร ชัยบัญชา แล้วช่วงนั้นประมาณปี 41-42 มีค่ายซีดีค่ายอื่นเอาหนังมิตรมาทำ แล้วภาพมันไม่สวยเลย เทลีซีนไม่สวย ภาพมันแบบนัวๆ มัวๆ แล้วเด็กรุ่นใหม่ที่ได้ยิน แต่พ่อแม่พูดถึงมิตรมันจะรักมิตรได้ยังไง เห็นภาพเน่าๆ แบบนี้ แล้วพ่อแม่ชอบไปได้ยังไง มันจะด่าพ่อด่าแม่เอาอีก ไปคลั่งไคล้ได้ยังไง เลยตั้งความหวังว่าถ้ามีโอกาสได้จับหนังมิตรมาทำจะเข้าห้องเทลีซีนอย่างดี ตอนนั้นมันมีห้องโซโหเอเชีย เรื่องนึง 7, 8 หมื่นบาท หนังแดงแจ๋ ก็ดึงสีแดงออก สีเขียวสีเหลืองให้ธรรมชาติได้ ลงทุนไปทำที่นั่นทุกเรื่องเลย เพราะหนังไทยเราไม่ได้เก็บฟิล์มเน็กทีฟมันเน่าหมด การเก็บรักษาไม่มี ต้องไปหาฟิล์มจากหน่วยเร่ต่างจังหวัดมา เอามาเช็ดมาถู คุณดู แต่เพราะมันคือตัวสุดท้ายในโลกที่เราเจอ?
       
       เมื่อทำหนัง ?มิตร? ไปซักระยะแล้ว ?ปริภัณฑ์? จึงหันไปจับตลาดหนังต่างประเทศบ้าง ซึ่งก็ยังยึดมั่นนกับงานที่เขาชอบโดยส่วนตัวนั่นเอง
       
       ?นั่นคือ เริ่มต้นจากหนังมิตร ทำจนหนังมิตรหมดประเทศละ ได้ซักไม่ถึง 50-60 เรื่อง ฟิล์มมันเน่าหมด ก็มาเริ่มนึกถึงหนังต่างชาติล่ะ ที่เราชอบๆ อันดับแรกคิดถึง ?จังโก้? ก่อน จังโก้, ริงโก้, มอนโกโมรี วูดส์ นี่อยู่ในใจมาก มันไปอยู่ไหนวะ ซีดีมาเป็นสิบปี มอนโกโมรี วูด ไม่มีเลย ช่วงนั้นไปฮ่องกงไปบ่อย ไปก็ไปซื้อหนังซื้ออะไรพวกนี้มาทำ ก็ให้สายหนังที่อยู่ที่ฮ่องกง ที่เค้ารู้จักกับคนอิตาลี ติดต่อเรื่องแรก คือ ?จ้าวสมิงริงโก้? แล้วได้ล็อต มอนโกโมรี วูด เข้ามาก็เลยเริ่มมาทำ นั่นคือ จุดที่เราอยากทำ เริ่มต้นจากอยากทำหนังมิตร ให้อยู่คู่กับโลกก่อน แล้วก็ตามมาด้วยหนังที่เราอยากดู ดาราที่เราเคยชอบแล้วมันหายไปเนี่ยมันไปอยู่ไหน เสาะหาจนได้มาทำ?
       
       นอกจากคุณค่าของหนังแล้ว แผ่นดีวีดีของ XXX ยังโดดเด่นด้วยภาพปก ที่ใช้ใบปิดของฉบับไทยของหนังเหล่านั้นในอดีต, มีการให้ข้อมูลเรื่องโรงฉาย และใส่เสียงพากย์ต้นฉบับ
       
       ?อันนี้ความชอบส่วนตัว เรามาจากสายหนัง คือ เราเป็นนักพากย์จากทางปักษ์ใต้มาก่อน เราก็พากย์อยู่หาดใหญ่, ยะลา เป็นนักพากย์เล็กๆ แต่พวกใหญ่ อย่าง กรรณิการ์, ศิริชัย เขาคือไอดอล เราก็ไปตามล่าเสียงเค้ามาก่อน เป็นเทปรีมม้วนใหญ่ๆ เอามาเปิดฟัง เมื่อคิดถึงเค้า ก็นั่งฟังเค้า แล้วมาถึงวันหนึ่งเราได้ทำ เป็นหนังลิขสิทธิ์ของเรานี่หว่า ถ้าเอาเสียงรุ่นครูรุ่นอาจารย์มาใส่ไว้เป็นการบูชาครูน่าจะดีไม่ใช่น้อย?
       
       ?เสียงพากย์พวกนี้เราสะสมอยู่แล้วคือเราชอบ ยิ่งโปสเตอร์เนี่ยเราเป็นคนที่อยู่โรงหนังทางปักษ์ใต้มาก่อน เราชอบเรื่องเค้าเขียนรูปสวยๆ ก็เลยตามเก็บอยู่แล้ว พอได้ทำก็เลยตั้งใจว่าทุกเรื่องต้องเอาโปสเตอร์เมืองไทยใส่เข้าไป ตอนแรกร้านค้าจะไม่ขาย เค้าว่าเชย ต้องเป็นรูปถ่าย รูปวาดแบบนี้มันโบราณ แต่ที่ขายนี่มันหนังโบราณหรือหนังใหม่ มันก็คือ หนังโบราณ คือเราไม่คาดหวังแฟนรุ่นใหม่อยู่แล้ว เด็กรุ่นใหม่ยังไงเค้าก็ไม่ซื้อ มุ่งเป้าไปเลยว่ารุ่นเรานี่แหละ แล้วคุณเคยเดินหน้าโรงหนังเห็นรูปแบบนี้ เห็นกล่องคุณจำได้เลย ผมเลยบอกเชื่อผมเถอะขายได้ เอาแบบที่คนจำได้ แล้วกลุ่มเป้าหมาย คือ รุ่นผมเนี่ยแหละ 35 อัพ 40 อัพ ขึ้นไป ไม่ต้องไปห่วงเด็กๆ เด็กๆ ให้ฟรีมันยังไม่เอา ไปหลอกมันก็ไม่ได้มันไม่ซื้อ เพราะเด็กไม่ซื้อ เปลี่ยนปกรุ่นเราก็จำไม่ได้อีก ขายใคร? ก็เลยบอกร้านค้าว่าอย่าไปหลอกเค้า โอ้ย! คุยกันทุกร้านเลย ตอนแรกบอกเชยขายไม่ได้หลอก พี่เปลี่ยนเป็นรูปถ่ายดีกว่า คุยกันเยอะกว่าจะลงตัว?
       
        แผ่นดีวีดีหนังแต่ละเรื่องผลิตออกมาราว 1,000 แผ่น กับค่าลิขสิทธิ์ประมาณ 3,000 เหรียญสหรัฐฯ จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำกำไร แต่ ?ปริภัณฑ์? บอกว่า สำหรับเขาแล้วโครงการ XXX นั้นสำเร็จอย่างสมบูรณ์แบบไปเรียบร้อยแล้ว
       
        ?โคตรสุขเลข เป็นความสุขที่สุดเลย ผมเก็บทุกเรื่องไว้ในตู้ผมมีความสุขมากร้อยกว่าเรื่อง แล้วว่าง ๆ ก็เอามานั่งดู แล้วก็คิดถึงตอนเราอยู่หาดใหญ่ เราเคยฟังคนนั้นพากย์ เราเคยไปยืนหน้าโรง กว่าจะได้เข้ามันเสริมมันเน้น ความหลังมันจะกลับมาเหมือนคนแก่คนนึง?
       
        ?เป็นงานส่วนตัวเลขคิดดูว่าทำไปร้อยกว่าเรื่องขายได้จริงๆ ไม่ถึงสิบเรื่อง คือบอกทุกคนเลยว่ากำไรคือได้ทำ พอถึงวันนี้ที่เราแทบจะไม่ได้ทำใหม่ๆ แล้ว เพราะทำหนังที่ชอบไปหมดแล้ว มันคือจุดหมายของเรา ได้ดูมันเรียงอยู่ในตู้ว่าเราได้ทำหนังที่อยากดูแล้ว แล้วก็อย่างน้อยยังมีคนอื่นอีกอาจจะ 10 คน หรือ 20 คน ที่ได้ดูเหมือนเรา เค้าก็มีความสุขเหมือนกัน เราก็พอแล้ว ตั้งความหวังไว้ว่าอาจจะอีกซัก 5 ปี ได้เจอคนที่บอกเราว่า ?ผมได้ดูหนังเรื่องนี้เพราะพี่นะ? แค่นี้ก็สุขแล้ว ได้นั่งคุยกันก็มีความสุขแล้วแบบ ?เฮ้ยคุณดูที่ไหน??
       
        ?หนังแบบนี้ถ้าเราไม่ทำแล้วใครจะทำล่ะชาตินี้ ไม่มีใครทำ แล้วถ้าทำเค้าจะเอาโปสเตอร์เก่ามาใส่ไหม? จะมีวันฉายไหม? ไม่มี มันคือการบันทึกข้อมูลอย่างนึง เป็นการบันทึกแล้วมีความสุขน่ะ เราทำอาจจะไม่เหลืออะไรเท่าไหร่ แต่กำไรคือได้ทำ?


ความเห็น

[1]


คอลัมน์ น่าสนใจครับ สัมภาษณ์เปิดอก ที่โต๊ะ พันธมิตร




พี่โต๊ะคือสุดยอดนักพากย์ในยุคนี้ครับ ผมเคยนั่งพูดคุยกับพี่โต๊ะบ่อยๆ (เคยเลี้ยงข้าวผม 2 ครั้งยังจำได้ดี 555) พี่โต๊ะมีความสุชมากที่ได้ทำหนังเกรดบีออกมาขายและมีความตั้งใจสร้างผลงานชุดนี้มากๆ แต่น่าเสียดายที่ไม่มีนายทุนมาช่วยหนุนหลังไม่งั้นโครงการหนังเก่าๆดีๆแบบนี้มีออกมาให้ดูแน่นอนครับ..ผมเองก็เคยอุดหนุนหนังของพี่โต๊ะบ่อยๆครับ ..เพราะหนังที่พี่โต๊ะทำออกมาขายก็เป็นหนังในยุคที่ผมได้ดูในช่วงเวลานั้นและเมื่อเราได้กลับมาดูอีกครั้งมันทำให้เราคิดถึงอดีตเกี่ยวกับหนังเรื่องนั้นเป็นอย่างดีครับ..น่าเสียดายที่ความชอบกับธุรกิจ มักจะสวนทางกันเสมอ..น่าเสียดายจริงๆครับ..ทุกวันนี้หนังเก่าๆที่พี่โต๊ะทำออกมายังเหลืออีกเยอะถ้าใครสนใจลองไปเดินดูที่คลองถมได้ครับหรือจะติดต่อไปที่คุณเอ๋ เลขาของพี่โต๊ะได้ครับหรือจะฝากให้คุณจุ๊บซื้อให้ก็ได้ครับ..ช่วยกันคนละไม้คนละมือเผื่อพี่โต๊ะจะกลับมามีกำลังใจกลับมาทำหนังเก่าๆดีๆให้พวกเราได้ดูกันอีกครั้ง...


ชอบมากครับ งานออกมามีคุณภาพทั้งภาพและเสียง บางเรื่องไม่ชัด หรือได้ฟิล์มมาในสภาพที่ไม่ดี ก็บอกกันตรงๆที่ปกหลังเลยก็เข้าใจครับ ไม่ว่ากัน ยังตามเก็บอยู่ตลอดครับ หนังหลายเรื่องฉายตอนที่ผมยังเด็กอยู่ ไม่มีโอกาสได้ดู ก็ได้ดูจากทริปเปิ้ลนี่แหละครับ บอกพี่โต๊ะตรงนี้เลยละกันครับ ขอบคุณที่ทำออกมาให้ดูครับ


ชอบแนวคิดการทำปก และ ใส่เสียงพากย์ต้นฉบับ ของพี่โต๊ะมากๆครับ    อยากให้มีแบบนี้กับหนังจีนของกลุ่มเราจังครับ
ปล.  ใกล้จะแวะไปหาแล้วนะครับพี่เจี๊ยบ อิอิอิอิ



หักอกนักพากย์




อย่างนี้ต้องหามาเข้ากรุซะแล้ว โดยเฉพาะหนังคาวบอย ชอบมากครับ ยิ่งรู้ว่าเป็นหนังในค่ายของเฮียโต๊ะ ยิ่งชอบเข้าไปใหญ่


เลือกหน้า
[1]
จำนวนหัวข้อทั้งหมด 6

กลับขึ้นข้างบน / กลับหน้าแรก

ค้นกระดานข่าว:


ถูกเปิด: ถูกคลิ๊กแล้ว: 113011046 ตอนนี้มีผู้เข้าชม : 1 ล่าสุด :พีเพิลนิวส์ , max , เอก , หนุ่มซีอาร์ , Tongkam , เอก , Pojja , กิต , H.Teo , Oil ,