Mobile Version / สำหรับโทรศัพท์มือถือ ยินดีต้อนรับท่านผู้มาเยือน www.peoplecine.com ท่านยังไม่ได้ log in นะครับ เข้าใช้งานระบบ / สมัครสมาชิก/ ลืมรหัสผ่าน

ร่วมทดสอบ Peoplecine mobile Beta0.1


รูป
ย้อนอดีตวันหวานยังหวานอยู่เจ้าของ ผู้ตอบหลังสุด
-อาจารย์สุจิน ตำนานใบปิดหนังไทยยังไม่มีคนตอบ
-เปี๊ยก โปสเตอร์ยังไม่มีคนตอบ
-สมบัติ เมทะนียังไม่มีคนตอบ
-ไชยา สุริยัน มล.อภิรัฐ จรูญโรจน์.. 29/12/2566 15:23
-รําลึก53ปี มิตร ชัยบัญชา.. 29/10/2566 16:52
-American Graffiti Cast: Then and Now (1973 vs 2021)ยังไม่มีคนตอบ
-เอกสารกฤตภาค (Clipping) ข่าวภาพยนตร์จากสิ่งพิมพ์ยุคเก่า.. 14/2/2566 0:33
-Mary Poppins (1964 vs 2022) ยังไม่มีคนตอบ
-The A Team (1983) Cast: Then and Nowยังไม่มีคนตอบ
-Top 20 Catchiest Songs from Classic Movie Musicalsยังไม่มีคนตอบ
-THE TEN COMMANDMENTS 1956 Cast THEN AND NOW 2022 ยังไม่มีคนตอบ
-THE SEARCHERS 1956 Cast THEN AND NOW 2022ยังไม่มีคนตอบ
-The Sound of Music Tour.. 5/6/2565 13:22
-ภาวนา ชนะจิต เทสหน้ากล้องครั้งแรกยังไม่มีคนตอบ
-50 ACTION STARS ⭐ Then and Now .. 13/12/2564 14:05
-แมน ธีระพลยังไม่มีคนตอบ
เลือกหน้า [1] [2] [3] [4] [5] [6] [7] [8] [9] [10] [11] [12] [13] [14] [15] [16] [17] [18] [19] [20]
จำนวนหัวข้อทั้งหมด 315

วิมานลอย...


ขอขอบคุณข้อมูลจากข่าวหนังสือพิมพ์มติตรัง...

GONE WITH THE WIND หนัง 10รางวัล ออสการ์ ปีค.ศ.1939

ขอเสนอภาพยนตร์ยิ่งใหญ่ระดับโลก เป็นอมตะดั่ง GONE WITH THE WIND ผู้เขียนได้มีโอกาสดูภาพยนตร์เรื่องนี้

ถึง2ครั้ง เมื่อเกือบ25ปีที่แล้วที่กรุงเทพฯโรงหนังสกาล่า และโรงหนังอินทรา เป็นก๊อปปี้ใหม่ที่มาฉายใหม่ หลังจากใช้

เวลาชมหนัง3ชั่วโมงเต็มๆ หนังจบลง ความรู้สึกต้องยอมรับว่าเรื่องวิมานลอยเป็นหนังชีวิตรัก และโรแมนติก ตอน

สงครามกลางเมืองอเมริกาที่มีมนต์เสน่ห์มากๆ

หลังจากดูหนังจบลงมีความรู้สึกทั้งทุกข์และสุขและสงสารเพื่อนมนุษย์ในโลกนี้ บางตอนเศร้าจนน้ำตาซึม วิมานลอยเป็น

หนังดีที่สุดยอดที่สุดสมกับเป็นภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก ที่คนดูมากทั่วโลกเกือบทุกประเทศ

ผู้เขียนเป็นคนชอบประวัติศาสตร์ ได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับสงครามกลางเมืองมามากหนังวิมานลอยสะท้อนให้เห็นตลอด

เรื่อง ขอนำท่านผู้อ่านมติตรังย้อนรอยกลับไปในประวัติศาสตร์อเมริกา ซึ่งได้แก่สงครามกลางเมืองที่เกิดขึ้นระหว่างปี

 ค.ศ 1861-1865 ที่ชาวโลกเรียกว่า American Civil War สงครามครั้งนั้นเป็นสงครามนองเลือดที่สุดในประวัติศาสตร์

ของอเมริกา ทำให้ทหารพลเรือนเสียชีวิตมากประมาณ 620,000คน นี่ยังไม่นับผู้บาดเจ็บทุพลภาพ แขนขาขาดอีกเป็น

แสน(สงครามเลิกทาส)

เป็นสงครามระหว่างฝ่ายเหนือฝ่ายใต้ชาติเดียวกันเรียกว่าสงครามทาสรบกัน4ปีเต็ม สาเหตุเกิดจากการแตกต่างระหว่าง

รัฐในอเมริกาที่มีรูปแบบความเป็นอยู่ต่างกัน เช่นรัฐทางใต้จำเป็นต้องใช้ทาสคนดำจำนวนมากเป็นแรงงานในการทำ

เกษตรกรรม ภาคใต้ของอเมริกามีพื้นที่กว้างเป็นที่ราบผืนดิน ลมฟ้าอากาศเหมาะแก่การเพาะปลูกมาก ส่วนรัฐทางเหนือ

อากาศหนาวเย็นตลอดปี ทำอุตสาหกรรม เช่นยาสูบหรือไร่ฝ้าย ปศุสัตว์ วัว ม้า คาวบอยไม่ต้องใช้ทาส ทั้งสองฝ่าย

ต้องการให้รับบาลกลางออกกฎหมายให้กับตนเองจึงเกิดการกระทบกระทั่ง จนกลายเป็นความแตกแยกทางอุดมคติ

 เกี่ยวกับการใช้ทาสผิวดำ รัฐทางเหนือไม่ต้องการใช้ทาสจึงผลักดันให้รัฐออกกฎหมายเลิกทาส แต่รัฐทางใต้ไม่ยอม

เนื่องจากเป็นกฎหมายที่บั่นทอนผลประโยชน์ชาวใต้ จึงเกิดขัดแย้งรุนแรง ฝ่ายเหนือประณามฝ่ายใต้ว่าไร้มนุษยธรรม ใช้

แรงงานทาส แต่ฝ่ายใต้โต้กลับว่าฝ่ายเหนือเป็นพวกฉวยโอกาสเมื่อตกลงกันไม่ได้

 
รัฐทางใต้ประกาศขอแยกตัวออกจากการปกครองของรัฐบาลกลาง รัฐทางใต้ตั้งชื่อใหม่เรียกว่าสมาพันธรัฐอเมริกา ทาง

รัฐบาลกลางเป็นสมาพันธรัฐ(Union) และตั้งข้อหาว่ารัฐใต้เป็นกบฏ จึงปราบปรามขั้นเด็ดขาด และนี่คือ

สงครามกลางเมืองของอเมริกาในปีค.ศ 1861 ขณะนั้น อัมราฮัม ลิงคอร์นได้เป็นประธานาธิบดีคนที่16ของอเมริกา ทำให้

รัฐทางใต้11รัฐไม่พอใจ ตอนหาเสียงทางใต้ไม่ลงคะแนนให้ แต่คะแนนรวมลิงคอร์นชนะ ลิงคอร์นมีนโยบายเลิกทาส จึง

เกิดสงครามใหญ่ในอเมริกา ฝ่ายใต้มี11รัฐกับ10ล้านคน และยังมีทาสผิวดำที่อพยพมาจากแอฟริกาจำนวน3ล้านคน ส่วน

รัฐทางเหนือมีกำลังมากกว่าเป็นเท่าตัว ฝ่ายเหนือมี23รัฐ กับ20กว่าล้านคน ฝ่ายเหนือมีกำลังมากกว่าจริงแต่ขาดความ

ชำนาญในภูมิประเทศทางบก ขณะที่รบกันจึงเกิดความสูญเสียพอๆกับฝ่ายใต้ ทุกคนรบสู้แบบไม่มีใครยอมใคร คนดำ

ส่วนใหญ่ช่วยชาวใต้ รบกันนองเลือดแบบพลีชีพ 4ปีเต็มๆ




ความเห็น

[1]


  • สุดท้ายฝ่ายเหนือเป็นฝ่ายชนะสงคราม ด้วยวิธีปิดล้อมเมืองของประธานาธิบดีลิงคอร์น ทำสำเร็จ ทำให้ฝ่ายใต้ไม่สามารถส่งสินค้าไปขายยุโรปได้ เศรษฐกิจทางใต้พัง ขาดเงินและรายได้ และขาดงบประมาณในการสู้รบ กำลังฝ่ายใต้อ่อนแอลง ก่อนจะแพ้ฝ่ายใต้ฮึดสู้สร้างวีรกรรมเช่นที่รัฐเวอร์จิเนีย จอร์เจีย และสมรภูมิ เกเตสเบิร์ก ที่มีรบกันรุนแรงตายวันเดียว 4 หมื่นกว่าคน ทั้ง2ฝ่ายสู้ตลุมบอนกัน ใครดี ใครอยู่ ฝ่ายใต้เครื่องแบบสีเทา ฝ่ายเหนือเครื่องแบบสีน้ำเงิน 
  • สุดท้ายฝ่ายเหนือชนะ แต่สูญเสียอย่างใหญ่หลวง เท่ากับการขาดแคลนอาหาร ยารักษาโรค เครื่องนุ่งห่ม ผู้คนอดอยาก ล้มตายเป็นจำนวนมาก แต่สิ่งที่น่าตกใจหลังสงครามยุติเพียง5วัน ประธานาธิบดีลิงคอร์น ถูกลอบสังหารในโรงละคร เสียชีวิตที่กรุงวอชิงตัน ดี ซี
  • สงครามได้สิ้นสุดไปแล้ว140ปี แต่สิ่งที่อาลัยและเตือนใจชาวโลกอยู่ทุกวันนี้คือเสียงเพลงของชาวอเมริกัน เช่นเพลงชาติฝ่ายใต้(Dixie land) และเพลงชาติฝ่ายเหนือ(The Republic) ได้ยินเมื่อไรจะรำลึกถึงเรื่องราวสงครามในอดีต เช่นภาพยนตร์เรื่องวิมานลอยที่จะเล่าต่อไปนี้
  • ทั้งหมดนี้คือส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ เป็นที่มาของนิยายอิงประวัติศาสตร์อเมริกันเรื่องดัง เป็นวรรณกรรมชิ้นเอกชิ้นเดียวของสุภาพสตรีที่ชื่อ มาร์กาเร็ต มิทเชลล์ ได้รับรางวัลพูลิตเซอร์ เป็นผู้ประพันธ์หนังสือ และนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์อมตะเป็นที่รู้จักและที่รักของผู้ชมทั้งโลกตลอดกาลคือ GONE WITH THE WIND วิมานลอย
  • อำนวยการสร้างโดย เดวิด โอ เซลมิค หนังสร้างเป็นระบบ35มม. เสียงในฟลิม์ เสียงรอบทิศ จอกว้างซินิมาสโคป สีเทคนิค นำแสดงโดยดาราระดับโลก พระเอก คาลาร์ก เกเบิล แสดงเป็นเรท บัทเลอ นางเอกแสดงโดย วิเวียน ลีห์ รับบท สการ์เล็ทท์ โอฮาร่า พร้อมด้วยโอลิเวีย เดอ ฮาวิล รับบท เมลามี่ แฮมิลตัน และเลสลี่ โฮเวิร์ด รับบท แอชลีย์ วิลค์ส และดาราดังๆคับคั่ง กำกับการแสดงโดย วิคเตอร์ เฟลมมิ่ง พระเอก คาลาร์ก เกเบิล รูปหล่อ สมาร์ท แสดงได้ดีมากคนดูประทับใจ 
  • วิมานลอยเรื่องย่อ นางเอกสการ์เล็ทท์ โอฮาร่า สาวสวยธิดามหาเศรษฐีเจ้าของไร่ฝ้ายใหญ่ อยู่ในรัฐจอเจีย สาวน้อยผู้เอาแต่ใจตนเอง ชอบแต่งตัวแบบผู้ดีอเมริกันสมันร้อยกว่าปี ชุดสวยมากๆ เป็นคนน่ารัก เป็นชีวิตสาวอเมริกันที่มาดมั่น แข็งแกร่ง แต่อ่อนหวานมีเสน่ห์ อยู่ในรัฐภาคใต้ ในบทเธอเป็นผู้หญิงที่เข็มแข็ง และอดทนสู้ชีวิต ในหนังวิมานลอยจะเห็นภาพสตรีฝ่ายใต้ที่ยืนหยัดสู้ชะตากรรมในดินแดนที่ล่มสลายอันเนื่องจากความขัดแย้งของคนชาติเดียวกัน นางเอกสการ์เล็ทท์ ใช้ชีวิตหมดไปกับการแต่งตัวสวย เป็นดาวเด่น เสน่ห์แรง ดึงดูดชายหนุ่มในสังคมชั้นสูงของท้องถิ่นให้มารุมล้อมเอาใจ เธอสนุกไปกับงานเลี้ยง สังสรรค์ที่คฤหาสน์ มีชายหนุ่มมาติดพัน ในหนังวิมานลอยผู้ชมจะเห็นภาพหญิงสาวในชุดกระโปรงยาวฟองบานรัดเอวแน่น ผมแต่งสวยมีผ้าคลุม มีหมวกปักกว้างประดับขนนกหรือดอกไม้ริบบิ้นผูก กางถือร่ม และเห็นภาพคฤหาสน์หลังใหญ่ สวยงามมากในหนัง
  • แต่ชีวิตต้องผลิกผันหน้ามือเป็นหลังมือ เมื่อสงครามกลางเมืองอเมริกันเกิดขึ้น สุดท้ายพ่อเป็นบ้า หลังจากแม่ตาย ลูกสาวเธอต้องตาย พระเอก นางเอกต้องแยกทางกัน เป็นเรื่องชีวิตรักที่ยิ่งใหญ่ระหว่างสงครามกลางเมือง ชีวิตและความสุขของเธอหลุดลอยไปดังวิมานลอย นางเอกสการ์เล็ทท์ ต้องสู้ชีวิตทุกวิถีทางดังเช่น แย่งคนรักน้องสาวตัวเองเพื่อรักษาไว้ซึ่งคฤหาสน์ และไร่ฝ้ายอันเป็นที่รัก เธอปฎิญาณต่อฟ้าดินว่าเธอจะไม่มีวันหิวโหยต่อไป
  • ชีวิต และละคร ชะตากรรมแต่ละคน ทำให้หนังสือและหนังวิมานลอยครองใจคนทุกสมัย ตลอดกาลจนเป็นหนังอมตะ เป็นหนังอเมริกันแนวดราม่า โรแมนติก ความรัก ดูสนุกตื่นเต้น ไม่ใช่เรื่องสงครามเป็นหลัก แต่เป็นเรื่องความรักในสงคราม และช่วงฟื้นฟูค.ศ.1867 ดูแล้วกินใจผู้ชมทุกยุค ทุกสมัย ผู้ชมจากรุ่นสู่รุ่นมาหลายสมัยได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้
  • ในหนังจะเห็นสงครามกลางเมืองอเมริกา ถ่ายทั้งฉากยิ่งใหญ่ ที่หาชมได้ยากเช่นฉากโบราณในจตุรัสเต็มไปด้วยคนบาดเจ็บกำลังจะตายจำนวนมาก สงครามไม่มีโรงพยาบาลและสาธารณสุขที่ทั่วถึง เช่นฉากเพลิงไหม้ สภาพบ้านเมืองถูกทำลาย ท้องทุ่งที่สวยงาม ไร่ปศุสัตว์ถูกย่ำยีทำลายเสียหาย และโดยเฉพาะไฟไหม้เหนือกว่าทุกเรื่อง ผู้กำกับสั่งเผาเมืองทั้งเมืองที่สร้างขึ้นมา และเผาจริง ไฟลุกแดงฉานสมจริงสมจังเต็มจอ คนดูตื่นเต้น โดยเฉพาะฉากเต้นรำในคฤหาสน์หลังใหญ่ ยิ่งใหญ่จริงๆ จะเป็นเสื้อผ้า ชุดสวยทั้งชาย หญิง และท่าเต้นรำคนอเมริกันสมัยนั้นน่าดูมาก
  • ถ้าได้อ่านและดูหนัง ฉากที่เมลานี หลั่งน้ำตาเมื่อได้ยินเพลง Bonnie Blue Flag เป็นเพลงชาติฝ่ายใต้บรรเลงโดยวงดนตรี วงใหญ่คืนนั้นพร้อมผู้ร้องเพลงปลุกใจเป็นฉากสะเทือนอารมณ์ ดึงดูดผู้ชม ความรู้สึกคล้อยตาม (ฝ่ายใต้แพ้สงคราม)
  • อีกตอนที่คนดูสงสาร เมื่อพระเอกเร็ทฟ์ มาขอแต่งงานกับนางเอกสการ์เล็ทท์ เธอยอมตกลงและวิมานแสนหวานกลับมาอีกครั้ง เหมือนไปได้สวย ลูกสาวและครอบครัวอบอุ่น แต่วิมานเธอก็พังอีก ลูกคนแรกตกหลังม้าตาย มาเสียลูกคนที่สองไปอีก และเมลานีน้องสาวตายไปอีก นางเอกเธอบอบช้ำมากและต้องทะเลาะกับเรทท์ หัวใจเธอแทบแตกสลาย วิมานลอยจึงครองใจคนดูทุกสมัยจนเป็นตำนาน
  • หนังได้รับรางวัล The Winner Of 10 Academy Awards อเมริกันยกให้เป็น1ใน10 ภาพยนตร์อเมริกันที่ดีที่สุดในโลก ในรอบ70กว่าปี ทับเที่ยงภาพยนตร์ ฉายวิมานลอย ปี2496 เมื่อ62ปีมาแล้ว ปีนี้ 2558 ผมนายวิวัย จิตต์แจ้ง ผู้เขียนได้ศึกษาหาข้อมูลจากคุณพ่อชื่อนายเว้ง จิตต์แจ้ง ท่านเป็นเจ้าของโรงหนังทับเที่ยงภาพยนตร์และโรงหนังคิงส์ตรัง ท่านเล่าให้ฟังว่าได้ติดต่อหนังวิมานลอยมาฉายให้ชาวตรังได้ชมก่อนใครเขาทั้งหมดในภาคใต้ เพื่อสร้างสรรค์ความบันเทิงจังหวัดตรัง และพัฒนาให้ตรังเจริญก้าวหน้าและนำเป็นผู้บุกเบิกด้านนี้คนแรกของจ.ตรัง และเพื่อยกระดับการชมภาพยนตร์ระดับโลก สั่งซื้ออุปกรณ์ฉายระบบ35มม.จอใหญ่ซีนีมาสโคป พร้อมเครื่องเสียงทันสมัยรอบทิศทางมาติดตั้งเมื่อปลายปี2495 และได้ประเดิมครั้งใหม่กับหนังวิมานลอยซึ่งถ่ายทำในระบบนี้ในปี2496
  • ตอนนั้นคนตรังตื่นเต้นแห่มาดู GONE WITH THE WIND วิมานลอย บุศราพันธ์ มานิดาพากษ์ วันฉายหนังมีประชาชนทั่วสารทิศทุกอำเภอในตรังและจังหวัดใกล้เคียงมาดูวิมานลอยกันหมดได้ผลเต็มทุกรอบต้องเสริมเก้าอี้ 
  • คุณแม่ยิ่ง จิตต์แจ้ง คุณแม่ของผู้เขียนมีหน้าที่บริหารจัดการเรื่องขายตั๋ว แต่ก็ยังเกิดความวุ่นวายขึ้นบ้าง ห้องขายตั๋วเคลื่อนที่ได้เนื่องจากคลื่นมนุษย์มาซื้อตั๋ว และแรงผลัก เคลื่อนไป 2เมตร เพราะทำด้วยไม้ วิมานลอยประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น ปี 2496 ที่ทับเที่ยงภาพยนตร์เป็นตำนานเล่าขานอีกนาน ต้องขอขอบคุณชมรมวิจารณ์บันเทิงคุณนคร วีระประวัติ ประธานชมรม และคุณกิตติศักดิ์ สุวรรณโภคิน ที่ท่านเคยนำหนังวิมานลอย มาฉาย
  • มาร์การเร็ต มิทเชลล์ (ผู้ประพันธ์) กล่าวไว้ว่า “นวนิยายและหนังเรื่อง GONE WITH THE WIND มีชีวิตรอดต่อมาได้อีกไกลเกินกว่าผู้สร้างของชีวิตมันขึ้นมา วันเวลาผ่านไป คนรุ่นแล้วรุ่นเล่าต้องสัมผัส นี่คือสิ่งที่ยังจับใจผู้ชมรุ่นต่อๆไปอีก50ปี .....150 ปี ตราบเท่าที่มีคนสนใจจะจดจำหนังวิมานลอย GONE WITH THE WIND ”




https://www.youtube.com/watch?v=8mM8iNarcRc



เลือกหน้า
[1]
จำนวนหัวข้อทั้งหมด 2

กลับขึ้นข้างบน / กลับหน้าแรก

ค้นกระดานข่าว:


ถูกเปิด: ถูกคลิ๊กแล้ว: 112928545 ตอนนี้มีผู้เข้าชม : 1 ล่าสุด :GermanFoup , HelenViefs , DonaldSap , Davidfable , พีเพิลนิวส์ , AntonGeods , เอก , Carlosincof , autogNer , Pojja ,