ร่วมทดสอบ Peoplecine mobile Beta0.1

ต้องขออภัยที่ดองรูปถ่ายไว้ร่วม 2 สัปดาห์ เนื่องจากหลังจากกลับมาถึงบ้านได้ 1 วัน ก็มีเหตุอย่างที่ได้บอกไปแล้ว รูปถ่ายก็เลยยังคงอยู่ในคอมและยังไม่ตั้งกระทู้สักที วันนี้ก็เลยดำเนินการ เพราะระหว่างวันที่ 24 - 27 มี.ค. น้องสาวผมอาจจะขึ้นมาที่บ้าน ขอใช้คำว่าอาจจะ เพราะยังไม่ชัวร์ครับ ถ้าไม่ขึ้นมาก็เข้ามาเล่นตามปกติ แต่ถ้ามา..ผมก็ต้องห่างจากคอมไปหลายวันอย่างที่บอก ประกอบกับต้องออกไปธุระปะปังเกี่ยวกับทางบ้านในช่วงเวลาดังกล่าวด้วยครับ

หลังจากที่ผมเดินทางไป อ. วังทอง จ. พิษณุโลก เพื่อไปบันทึกภาพการฉายภาพยนตร์กลางแปลงของ ลูกหมูภาพยนตร์ และชมคอนเสิร์ตในตอนนั้น ประมาณต้นเดือน ก็ได้รับโทรศัพท์จากคุณนิว (News) ซึ่งเคยไปบันทึกกิจกรรมในสถานสงเคราะห์ที่ จ. อุดรธานี เมื่อกลางปีที่แล้ว และผมเองก็เคยเปรยๆ ไว้ว่าจะถือโอกาสขึ้นไปเยี่ยม กระทั่งเมื่อโอกาสนั้นมาถึง ก็ทราบว่าจะต้องไปบันทึกภาพและถ่ายทอดสดกิจกรรมหนึ่งที่ "ไม้หมอนผับ" ระหว่างวันที่ 12 - 14 มี.ค. ก็เลยยังไม่ได้ตกลงรับปาก เนื่องจากคาบเกี่ยวกับช่วงที่น้องสาวเพิ่งเรียนจบพอดี และจะต้องเดินทางลงมาที่บ้านด้วย ก็เลยต้องรอดูสถานการณ์ไปก่อน

กระทั่งประมาณกลางสัปดาห์ ผมก็ตอบตกลงที่เดินทางไปด้วย เนื่องจากน้องสาวผมตั้งใจจะไปทำงานเลย และคุณแม่ก็จะลงไปเมืองกาญจน์ด้วย เลยถือโอกาสนี้ขึ้นไปพิษณุโลกเลย

14 มี.ค. เวลา 7 โมงเศษก็ออกเดินทางจากบ้าน เพื่อมาขึ้นรถไฟที่สถานีชุมแสง และออกเดินทางในเวลา 9 โมงกว่า กว่าจะถึงพิษณุโลกก็ประมาณ 11.30 น. เลยต้องกินข้าวกลางวันก่อนที่จะเดินทางไปที่บ้านคุณนิว ซึ่งอยู่นอกเมืองพิษณุโลกออกไป

พอไปถึงบ้าน ซึ่งยังอยู่ในช่วงปรับปรุงครับ หลังจากที่ต้อนรับแล้ว ก็ต้องรีบไปจัดการงานตัดต่อวิดีโอที่จะใช้ในค่ำคืนวันนั้นด้วย ผมก็ออกไปเล่นกับน้องมะหมาแทน กระทั่งช่วงเย็น บรรดาทีมงานก็มาถึงและต่างก็ช่วยกันขนอุปกรณ์ไปก่อนล่วงหน้า กระทั่งช่วงหัวค่ำหลังจากตัดต่อไฟล์วิดีโอเสร็จก็ออกเดินทางไปที่ "ไม้หมอนผับ" ทันที

"ไม้หมอนผับ" เป็นสถานบันเทิงแนวเพื่อชีวิต ตั้งอยู่ตรงข้ามสนามกีฬากลาง และวันที่ผมไปนั้น ตรงกับวันเกิดซึ่งเปิดให้บริการมาเป็นเวลา 14 ปีพอดี โดยงานนั้นเริ่มจัดมาตั้งแต่วันที่ 12 - 14 มี.ค. โดยไฮไลท์นั้น อยู่ที่วันที่ 14 มี.ค. เนื่องจากทางผับได้เชิญ 3 สาว บลูเบอร์รี่ อาร์ สยาม มาเป็นศิลปินในคืนนั้นด้วย ส่วนสองคืนก่อนหน้าไม่มีอะไร นอกจากให้ผู้ที่มาร่วมงานได้แต่งกายเลียนแบบคาวบอย หรือ คาวเกิร์ล เพื่อชิงรางวัลเป็นโทรศัพท์ Black berry ครับ (นึกถึงเฮียแอ๊ดขึ้นมาทันทีเลยล่ะ)

บรรยากาศบริเวณด้านหน้าก็จัดให้มีการละเล่น เช่น วัวกระทิง, ยิงธนู, สาวน้อยตกน้ำ (เกี่ยวกันไหมเนี่ย) และมีร้านขายของซึ่งเป็นเครื่องแต่งกายในแบบคาวบอยด้วย ขณะที่ด้านหน้าก็มีบรรดาลูกค้าเข้ามาเที่ยวเป็นระยะๆ ส่วนใหญ่ก็จะแต่งกายอย่างที่เห็น ขณะที่ทีมงาน Scene & Frame ก็เริ่มติดตั้งอุปกรณ์ และบันทึกภาพบรรยากาศงานทันที

งานนี้ถึงผมติดกล้องถ่ายรูปไปด้วยก็จริง แต่จากสภาพภายในไม่เอื้ออำนวยที่จะสามารถบันทึกภาพได้ กลายเป็นว่ากล้องตัวนี้เลยใช้ได้เฉพาะบรรยากาศภายนอกเท่านั้น และหลังจากที่การแสดงดนตรีของทางผับเริ่มขึ้น คนก็เริ่มทยอยเข้าไปเรื่อยๆ ส่วนผมเองก็ออกมาอยู่ที่โต๊ะทีมงาน คอยส่งภาพถ่ายที่อัดออกมา จากลูกค้าได้ถ่ายไว้ก่อนเข้าไปข้างในครับ

เวลาผ่านไปจนกระทั่งประมาณ 3 ทุ่มครึ่ง เมื่อรถตู้ของทีมงาน ซึ่งผมคุ้นเคยกับรถตู้คันดังกล่าวมาแล้วจากคอนเสิร์ตในครั้งก่อนถึง 2 ครั้ง แต่คราวนี้มีมาแค่ 2 คนคือโชเฟอร์กับพี่เลี้ยงเท่านั้น ตัวศิลปินยังอยู่ที่โรงแรม ซึ่งพี่เลี้ยงก็นำรายละเอียดการแสดงไปที่เวทีอยู่พักใหญ่ ระหว่างนี้ผมก็ถือโอกาสพูดคุยกับโชเฟอร์ไปด้วย ก่อนที่พี่เลี้ยงจะเดินออกมาเพื่อเดินทางไปที่โรงแรมอีกรอบ และกลับมาที่ผับอีกครั้งในเวลาสี่ทุ่มกว่า ก่อนที่จะเริ่มทำการแสดง ก็ได้ไปบันทึกภาพบริเวณด้านหน้าผับก่อน

ทันทีที่เริ่มการแสดง ทีมงาน Scene & Frame ก็ทำหน้าที่บันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวไปพร้อมๆ กัน กระทั่งประมาณเที่ยงคืนเศษ เมื่อการแสดงของบลูเบอร์รี่จบลงก็ออกมาที่บริเวณทีมงานเพื่อถ่ายภาพอีกครั้ง ก่อนที่พวกเธอจะเดินทางกลับ

แต่งานนั้นยังไม่จบครับ เพราะยังมีการประกวดการแต่งกายในชุดคาวบอย & คาวเกิร์ล อยู่ การบันทึกภาพจึงยังคงดำเนินต่อไป จนราวๆ ตีหนึ่งเศษ ระบบไฟในโซนโต๊ะทีมงานมีปัญหาซะแล้ว ทำให้รูปถ่ายที่กำลังปรินต์ออกมาต้องหยุดทำงาน ไปๆ มาๆ เลยตัดสินใจเก็บของเลย ประกอบกับช่วงนั้นเป็นส่งท้ายกับบรรยากาศภายในแล้วด้วย กว่าจะเสร็จและเดินทางไปถึงที่พักก็เกือบตีสาม

สำหรับผมเมื่อเสร็จจากตรงนี้ ก็ถึงเวลาที่ต้องเดินทางกลับครับ กระทั่งเวลา 6 โมงครึ่งในตอนเช้าของวันที่ 15 มี.ค. รถไฟก็ออกเดินทางจากสถานีพิษณุโลกเพื่อพาผมเดินทางกลับไปยังจุดหมายปลายทางเหมือนเช่นขาไป

ก่อนจะถึงบ้านในอีกไม่ถึง 1 กิโลเมตร ก็ต้องพบกับป้ายโฆษณาไวนิล ซึ่งเป็นงานที่จัดขึ้นโดยเทศบาล ซึ่งจัดควบคู่ไปกับงานประจำปีของศาลเจ้าประจำอำเภอ ซึ่งเริ่มวันที่ 24 - 28 มี.ค. ส่วนของทางเทศบาล 26 - 28 มี.ค. แต่ก็อยู่ในโซนเดียวกัน (กระทู้เก่าซึ่งเป็นงานของปีที่แล้ว โดยผมไปถ่ายหนังกลางแปลงของ ศรีสมบูรณ์ภาพยนตร์ ในตอนนั้น ยังอยู่ในห้อง "ข่าวประชาสัมพันธ์ฯ" ครับ แต่ปีนี้จะมีหนังกลางแปลงหรือไม่ ไม่ทราบครับ) พออ่านข้อความโฆษณานั้น ปรากฏว่าได้เจอกับ 3 สาว บลูเบอร์รี่ อีกแล้วครับ..มาในวันสุดท้ายของงาน

ที่สำคัญ เด็กๆ ที่โรงเรียนเดิมก็มาแจ้งความประสงค์กับผมเพื่อให้ผมได้ถ่ายรูปเด็กกับพวกเธอเช่นกัน เพราะผมเคยเอาภาพถ่ายเมื่อ 2 ครั้งก่อนไปให้เด็กได้ชม ก็เลยเป็นแบบนี้

สุดท้าย ต้องขอบคุณ คุณนิว อีกครั้งที่ผมมีโอกาสได้ไปเยี่ยมเยียน รวมถึงทีมงานทุกคนที่แบ่งปันภาพบางส่วนเพื่อนำมาลงเว็บไซต์นี้ แม้ว่าจะตั้งกระทู้ช้าไปหน่อย (กำลังรอไฟล์ภาพถ่ายฉบับสมบูรณ์ และดีวีดีบรรยากาศของงานด้วย ส่งตามที่อยู่เมื่อจิ้มที่ชื่อผมได้เลยครับ) โอกาสหน้าได้พบกันอีกครับ

ตัดต่อใกล้เสร็จแล้วครับครูนุ เพิ่งกลับมาจากแม่สายข้ามไปฝั่งพม่ามาหอบบลูเลย์มาเพี๊ยบ มาถึงก็ต้องรีบลุยต่อ เพราะเงินก้อนโตยังค้างที่ลูกค้าครึ่งนึ่ง อีกไม่เกิน 3 วัน จบงานส่งให้ลูกค้า และครูนุได้ครับ

วันนั้นไม่ค่อยอารมณ์จะดีเท่าไหร่เพราะมีปัญหาหลายอย่าง ผมต้องขออภัยครูนุด้วยครับที่ไม่ค่อยได้ดูแลอย่างเต็มที่ 55555+