‘บรู๊ซลี’ ไอ้หนุ่มซินตึ้ง
ตำนานสะท้านโลก 
ถ่ายที่ปากช่อง/โคราช

ถ้าพูดถึงซูเปอร์สตาร์ชาวเอเชียที่โด่งดังพลุแตก ทั่วโลกทึ่ง บรู๊ซ ลี ศิลปิน นักแสดง ผู้จากวงการบันเทิงไปเมื่อวันที่ ๒๐ กรกฎาคม ปี ๑๙๗๓ ที่ฮ่องกงด้วยวัยเพียง ๓๒ ปีเท่านั้น ชีวิต

อุทิศให้วงการแสดงอย่างแท้จริง บรู๊ซ ลี คือศิลปินในโลกแห่งความเป็นจริง อดีตนักแสดงและผู้กำกับ เขาเขียนบทภาพยนตร์เองแสดงเอง ไม่ใช้ตัวแสดงแทน คนอื่นๆ ทำอย่างเขาไม่ได้ เขาเป็นอัจฉริยะ บันทึกในฉบับนี้ขอนำเสนอสิ่งดีๆ ที่เขาสร้างชื่อ บรู๊ซ ลี และผลงานเป็นตำนานมวยจีนในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์

พอเอ่ยชื่อนี้ใครๆ ต้องรู้จัก นี่คือผู้สร้างตำนานมวยจีนกังฟู เทควันโด และคาราเต้ ให้เป็นที่ประจักษ์ ศิลปะมวยจีน โบราณศาสตร์แห่งศิลปะการต่อสู้แบบล้ำลึก เขาพัฒนาขึ้นมาเป็นแบบ

ฉบับของตัวเอง คือการต่อสู้ป้องกันตัวที่น่าตื่นเต้น ลีลาศิลปะที่งดงาม และเป็นความสามารถเฉพาะตัวของดาราท่านนี้ เช่น หมัดที่หนักรวดเร็ว ลูกเตะจอมพลัง หรือท่ากระโดดถีบ หรือแผดเสียงดังใส่คู่ต่อสู้ และปล่อยอาวุธแปลกๆ เช่นควงกระบอง ๒ ท่อน เล่นงานคู่ต่อสู้ที่มากกว่าเสียกระเจิง

บรู๊ซ ลี โด่งดังครั้งแรก จากภาพยนตร์ทางโทรทัศน์ของอเมริกา หนังชุดนี้ได้รับความสนใจจากผู้ชมทั่วโลกคือ ‘หน้ากากแตนอาละวาด’ ชื่อภาษาอังกฤษ THE GREEN HORNETS ใน

เรื่องนี้เขารับบทผู้ช่วยพระเอกต้องใส่หน้ากากแสดงในบท คาโต โชว์ลีลาท่าเตะเหลือกิน ภาพยนตร์ชุดนี้สร้างชื่อเสียงให้เขาดังระเบิดในหลายประเทศ รวมทั้งฮ่องกงและไทย ส่งผลให้

บรู๊ซ ลี ได้แสดงหนังฮอลลีวู้ด อีกหลายเรื่อง ภาพยนตร์เรื่อง ‘ไอ้หนุ่มซินตึ๊ง’ (THE BIG BOSS) ของ โกลเด้นฮาเวสท์ หล่อเว่ย กำกับการแสดง บรู๊ซ ลี เขียนบทเอง ดนตรีประกอบโดย หวัง ฟูหลิง ผู้ร่วมแสดงมี มาเรีย ยี, เจมส์ เทียน, หยินซี หาน, โทนี่ หลิว ฉายครั้งแรกวันที่ ๓ ตุลาคม ปี ๒๕๑๔ บรู๊ซ ลี รับบทเป็น เฉา อัน เขาเขียนบันทึกไว้ว่า

“THE BIG BOSS มีความหมายค่อนข้างมากสำหรับผม เพราะผมเป็นตัวเอกของเรื่อง ผมคิดว่า ผมแสดงได้ดีกว่าหน้ากากเขียว และมีความมั่นใจกว่าแสดงหนังโทรทัศน์ หลังจากผลงานเด่น THE BIG BOSS แล้ว ผู้อำนวยการสร้างฮอลลีวู้ด คิดได้ว่า ศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวของผมจะเป็นจุดขายในหนังได้ จึงเชิญผมให้ร่วมแสดงหลายเรื่องในเวลาต่อมา

ผมชื่อ บรู๊ซ ลี ผมเกิดใน ซาน ฟรานซิสโก วันที่ ๒๗ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๘๓ ชื่อเริ่มต้นของผมคือ ลี จุน ฟาน ชื่อ บรู๊ซ นี้ ผมนำมาใช้ภายหลัง โดยเป็นชื่อนางพยาบาลคนหนึ่ง

คุณพ่อผมเป็นศิลปิน ผมถือกำเนิดในขณะที่คุณพ่อพาคุณแม่ตระเวนไปแสดงในสหรัฐ คุณพ่อไม่ต้องการรับการศึกษาแบบอเมริกัน ผมถูกส่งกลับฮ่องกงกับญาติเมื่ออายุเพียง ๓ เดือน ผมถูกอบรมให้อยู่ในวัฒนธรรมจีน คุณพ่อผมคือ ลี ฮุย เฉิน เป็นนักแสดงโอเปราชาวกวางตุ้ง ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังในหมู่ชาวจีน ชีวิตผมจึงต้องมาเป็นนักแสดง”

ผลงานการแสดงของบรู๊ซ ลี เป็นอมตะหลายเรื่องเช่น “ไอ้หนุ่มซินตึ๊งล้างแค้น” (FIST OF FURY) ฉากบู๊สุดมัน เป็นแรงบันดาลใจให้นักแสดงมวยจีนรุ่นหลังรับมาเป็นแบบอย่าง อาทิ เฉิน หลง, เจ็ต ลี และ จา พนม

ใน พ.ศ. ๒๕๑๔ ไอ้หนุ่มซินตึ้ง (THE BiG BOSS) หนังบู๊เรื่องแรกของเขาสร้างกระแสแบบฉุดไม่อยู่ จนเกิดกระแสคลั่งไคล้ บรู๊ซ ลี ไปทั่วโลกชนิดวงการตลึง หนังทำรายได้มหาศาลทำลายสถิติหนังจีนทุกเรื่องในยุคนั้น โดยเฉพาะเมืองไทยไม่ต้องพูดถึง คนแห่ไปดูกันแน่นขนัด หนังถ่ายทำในเมืองไทยตลอดเรื่อง โลเกชั่นใน THE BIG BOOS เน้นที่จังหวัด

นครราชสีมาและอำเภอปากช่องโดยเฉพาะ ภาพในหนังเห็นบริเวณริมสถานีรถไฟ โรงน้ำแข็งดำรงไทย และวัดสิริสัมพันธ์ (สำเพาอุปถัมภ์) ตั้งอยู่กลางเมืองปากช่อง ปัจจุบันฉากในหนังยังคงสภาพเดิมอยู่ มีบางแห่งเปลี่ยนไปบ้าง

ฉากแรก พระเอกเฉาอัน มานัดพบญาติที่ท่าน้ำ เห็นแม่น้ำเจ้าพระยาสวยงาม หนังเริ่มต้นจากเขาเดินทางมาจากประเทศจีน สู่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา แดนอีสาน โดยวาดฝันว่า จะมาอาศัยเพื่อทำงานกับลุงของเขา เจมส์ เทียน รับบท

เป็นลูกพี่ลูกน้องที่ต้องพบและต้องสู้กับพวกอิทธิพลแก๊งนักเลงอันธพาลท้องถิ่นที่คอยหาเรื่องเสมอ พระเอกมาอาศัยที่โรงงานน้ำแข็งกับลุงและเหล่าคนงาน โรงงานนี้เป็นของเถ้าแก่หาว วันหนึ่งเกิดเหตุไม่คาดฝันน้ำแข็งแตกพบว่า มียาเสพติดซ่อนอยู่ในน้ำแข็ง เบื้องหน้าดี แต่เบื้องหลังค้ายา ใครรู้ความลับจะถูกสังหารหมด

พวกคนงานกลัวกันหมด เพราะถูกเก็บไปหลายคน และจะทำลายหลักฐานไม่เหลือ เรื่องใหญ่คือมีลูกน้องสองคนถูกส่งไปบ้านเถ้าแก่แล้วถูกฆ่าตาย คนงานจึงก่อจลาจล ประท้วงด้วยสถานการณ์ตึงเครียด จึงแต่งตั้งให้เฉาอันขึ้นเป็นหัวหน้า มีผู้หญิงมาบอกเฉาอันถึงเรื่องไม่ชอบมาพากลของโรงงานที่มีเบื้องหลังค้ายา เฉาอันออกสืบเงียบๆ เขาแอบย่องไปโรงงานตอนกลางคืน ต้องตลึง พบศพร่างไร้วิญญาณของลูกพี่ลูกน้อง

จังหวะนี้พวกนักเลงอันธพาลที่เถ้าแก่เลี้ยงไว้มาพบ “เฮ้ยพวกเรา จัดการไอ้หนุ่มซินตึ้งนี้ ให้มันรู้จักเสียบ้างใครเป็นใคร..ลุยมันให้หมอบเลย” แต่นักเลงพวกนี้หารู้ไม่ วันนี้เจอมวยจีนกังฟูของจริงเข้าแล้ว ศึกดวลกำปั้นจึงเกิดขึ้นอย่างน่ากลัวและรุนแรง ใส่กันแหลกกันไปข้างหนึ่งรุมพระเอกคนเดียว จังหวะนี้ บรู๊ซ ลี ไอ้หนุ่มซินตึ้งโชว์ลีลาสุดยอด ต่อสู้กันถึงใจผู้ชม ใส่กันเป็นชุดๆ พวกนักเลงต้องถอย ขอหยุดก่อน “มันเป็นใครวะ บังอาจสังหารลูกชายเถ้าแก่หาว” เรื่องหยุดอยู่ตรงนั้น

แต่พอพระเอกกลับถึงบ้าน ตกใจแทบช็อก ภาพที่เขาเห็น ครอบครัวถูกพวกนักเลงฆ่าตายหมด เพลิงแค้นระเบิด แค้นนี้ต้องชำระคราวนี้แหลกกันไปข้างหนึ่ง สู้กันแบบดุเดือดกับลีลา

กระโดดเตะใช้ความรวดเร็ว จนนักเลงตามไม่ทัน ใครเข้าแลกก็โดนเป็นชุดออกอาวุธหนักๆ จัดกระบวนท่าต่างๆ โต้ตอบด้วยศิลปะการต่อสู้ ร่างกายพลิ้วไหว ไม่มีถอย เขาโค่นล้มเจ้านายใหญ่ลงได้ราบคาบ และเขาก็ยอมมอบตัวให้ตำรวจไทยนำไปดำเนินคดี

เรื่องนี้สร้างชื่อเสียงให้ ‘บรู๊ซ ลี’ ดังติดลม ใครๆ ก็อยากดูหนังที่เขาแสดง และถือเป็นการประชาสัมพันธ์ให้นักสร้างหนังชาวต่างชาติสนใจโลเกชั่นในไทยเพิ่มมากขึ้น หนังเข้าฉายในเมืองไทยครั้งแรกช่วงเทศกาลตรุษจีน เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๑๕ ที่ โอเดียน และกรุงเกษม เสียงในฟิล์ม บรรยายไทย บางรอบมีพากย์ไทยสลับ ส่วนโรงชั้นสองทั่วกรุงเทพฯ พากย์โดย ‘พรพจน์-รัชนีวรรณ’ ที่โคราช สร้างรายได้มหาศาลให้กับโรงภาพยนตร์โคราช ใน บขส.เก่า พากย์โดย ‘มหาราช’

โชคดีของแฟนคลับ ‘บรู๊ซ ลี’ ในวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๖๐ นี้ หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) โดย โดม สุขวงศ์ ผู้อำนวยการหอฯ จัด ‘เทศกาลทึ่งหนังโลก’ นำ ‘ไอ้หนุ่มซินตึ๊ง’ THE BIG BOSS ที่ได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ กลับมาฉายเพียงรอบเดียวที่โรงภาพยนตร์สกาลา เวลา ๑๒.๐๐ น. บัตรราคา ๑๐๐ บาททุกที่นั่ง โทรจอง ๐๒-๔๘๒ ๒๐๑๓-๑๔ เป็นที่น่ายินดีว่า เป็นหนังเอเชียเพียงเรื่องเดียวที่ถูกบรรจุให้ฉายร่วมกับหนังคลาสสิกใน ‘เทศกาลทึ่งหนังโลก’ อาทิ วิมานลอย บัญญัติสิบประการ สะพานข้ามแม่น้ำแคว บุษบาหาคู่ มือปืนเพชรตัดเพชร เป็นต้น
บทความเขียน โดยวิวัย จิตต์แจ้ง นสพ โคราขคนอีสาน คอลั่มศิลปะวัฒนธรรมบันเทิง