ชู้ ภาพยนตร์ไทย เปี๊ยก โปสเตอร์
ผลงานเรื่องที่ 3ปี ฉายครั้งแรก 28 ธันวาคม 2515ที่เฉลิมไทย
ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภาพยนตร์ของชาติ ปี 2558

คอลัมน์ศิลปวัฒนธรรมและบันเทิง ร่วมกับ พีเพิลซีนนำเสนอ

วันดี ศรีตรัง กรุง ศรีวิไล มานพ อัศวเทพ ด.ญ.ไขนภา เจียรบุตร

อ.เปี๊ยก โปสเตอร์เป็นช่างเขียนมาก่อน พอมา สร้างกำกับหนังจึงถ่ายทอดงานศิลปะที่มา จากจิตวิญญาณของอาร์ติส เขียนสคริปต์เองและเขียนทำสตอรรีบอลดเอง ไว้ล่วงหน้า ใช้ธรรมชาติเป็นฉาก ฉีกแนวหนังไทยทุกเรื่องที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน ใช้นักแสดงหลักๆ เพียง 3 คน

เดินเรื่องราวจนน่าทึ่ง ปริศนาเรื่องราวชวนสงใส ช่วงท้ายของหนังสรุปทั้งหมด ภาพทะเลท้องฟ้า เกาะป่าเขาสวยๆ เห็นเต็มจอ ถ่ายทำที่เกาะ ปันหยี พังงา ทั้งเรื่อง เขียนทำบทเอง ในหนังมีคำพูดปริศนาว่า..
“สุดแล้วแต่ เรียม ที่จะเลือกใคร ระหว่าง เทพ กับเชิง เพราะผู้ชาย 2 คนทำผิดด้วยกันทั้งนั้น ชีวิตเรียม นางเอก ถึงเป็นทุกข์อย่างนี้”

ภาพหนังเล่าเรื่อง ถึงตัวละคร 3 คน ที่เป็นตัวแทนของความดีความชั่ว เรื่องชู้สาว แต่เรื่องเกิดขึ้นแบบผู้ชมคาดไม่ถึง จึงชวนติดตาม ศีลธรรมของมนุษย์ ความรัก คืออะไร..

เรียมนางเอกวันดี ศรีตรัง เรือมาแตกอับปางกลางทะเลลึก เกาะไม้ลอยมาติดเกาะล้าง ไปพบใคร? ก็ไม่ทราบ เป็นชายชาตรีสูงใหญ่ มีกล้ามใหญ่ เป็นมัดๆแววตาดุ ผมยาวหนวดเครารุงรังเหมือนผีบ้า ไม่น่าไว้ใจอาศัยอยู่คนเดียวบนเกาะ ชื่อเชิง (รับบทโดย มานพ อัศวเทพ ) เชิงอุ้มเธอไปไว้ในกระท่อมอดใจไม่ไหมจึงปลั้มเรียม 
ตอนหลังคลอดลูกสาวมา หนึ่งคน ชื่อแดงชีวิตครอบครัวจึงมีความสุข เชิงมีอาชีพดำน้ำ หาหอยมุกส่งขายประจำให้หมอหง่าอยู่หมู่บ้านเกาะบันหยี
วันหนึ่งดำลงไปเจอหอยพิษ จนตาเกือบบอด ให้เรียมไปตามหมอมารักษาตา หมอไม่อยู่ จึงส่งเทพผู้ช่วยชื่อเทพ มาแทน รับบทโดย กรุง ศรีวิไล ทั้งคู่เคยเป็นแฟนกันมาก่อน ถ่ายไฟเก่าจึงกรุขึ้นอีก เทพเอายาพิษหยดตาให้บอดสนิท และกะพาเรียมหนีไป แต่เรื่องไม่เป็นอย่างนั้น พระเองเชิง รู้ทันเกม เอายาทิ้งไป ใส่น้ำไปแทน

ทำเป็นคนตาบอด แต่รู้ทุกเรื่องสุดแตกหัก สู้กันแตกหัก เพื่อ แย่งนางเรียม หนังเรื่องนี้ถือเป็นผลงานชิ้นโบแดง “ใครกันแน่คือชู้” หนังได้รับรางวัลมากมายเช่นรางวัลสุวรรณหงส์ รางวัลพระสุรัสวดี ฯลฯ ผมงานอมตะ ของศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดงปี 2558 คือคุณสมบูรณ์สุข นิยมศิริ เปี๊ยก โปสเตอร์ ชู้ เป็นหนึ่งใน100 ภาพยนตร์ ที่ควรดู 
(วิวัย จิตต์แจ้ง เรียบเรียง)