Mobile Version / สำหรับโทรศัพท์มือถือ ยินดีต้อนรับท่านผู้มาเยือน www.peoplecine.com ท่านยังไม่ได้ log in นะครับ เข้าใช้งานระบบ / สมัครสมาชิก/ ลืมรหัสผ่าน

ร่วมทดสอบ Peoplecine mobile Beta0.1


รูป
หนังจีนในอดีต ทุกยุค ทุกสมัยเจ้าของ ผู้ตอบหลังสุด
-เล็บเหล็กหวงเฟยหง ยาจกซู ไม้เท้าประกาศิต และ เซียวฮื้อยี้ กระบี่ไม่มีคำตอบ ไม่มีเสียงโรงเป็นวีซีดีหรือคับยังไม่มีคนตอบ
-( Form Dusk Till Dawn ) ผ่านรกทะลุตะวัน ภาค ๑.๒.๓ ทีมพากย์ อินทรี ครับ!.. 15/8/2553 18:15
-( ซากดิบไม่ต้องคุมกำเนิด ) Night Of The Living Dead remake 1990.. 15/8/2553 5:10
-( ISLAND OF FIRE ใหญ่ฟัดใหญ่ 1990 ).. 13/8/2553 19:59
-Hero Shed No Tears บ่งเหี้ยม...ด้วยเหี้ยม (1984, John Woo)จากนนทนันท์.. 13/8/2553 6:24
-หนังชุด 7เพชรฆาตสัญชาติฮ้อ The Lucky Stars Series (1982 1985).. 13/8/2553 4:31
-( Cop Out 2010 ค็อป เอ้าท์ คู่อึดไม่มีเอ้าท์ ) Master Zone3 มาแว้ว!.. 13/8/2553 3:53
-"เกิดมาใหญ่ก็ต้องใหญ่"จากนนทนันท์ครับ.. 13/8/2553 3:47
-( The Losers 2010 โคตรทีม อ.ต.ร. แพ้ไม่เป็น ... ป๋า ... รอง พากย์มันส์จริงๆ ).. 12/8/2553 15:21
-โป้งปิดบัญชี.. 12/8/2553 9:17
-หาม้วน วิดีโอ หนังจีนเก่าเสียงพากย์ต้นฉบับครับ.. 12/8/2553 5:48
-"ตายไม่ว่าแต่อย่าเจ็บ Long arm the law 3"จากนนทนันท์.. 12/8/2553 5:33
-มุขขำๆของพี่กฤติฯ (พันนา ฤทธิไกร) 2.. 10/8/2553 22:22
-"ข้าจะใหญ่ ใครอย่าขวาง" "เพชรลุยเพลิง".. 10/8/2553 15:40
-เดี๋ยวนี้สายหนังกลางแปลง ยังฉายหนังเก่าไหมคับ.. 7/8/2553 12:50
-เสียงโรงนนทนันท์ใครเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์คับยังไม่มีคนตอบ
เลือกหน้า [1] [2] [3] [4] [5] [6] [7] [8] [9] [10] [11] [12] [13] [14] [15] [16] [17] [18] [19] [20] [21] [22] [23] [24] [25] [26] [27] [28] [29] [30] [31] [32] [33] [34] [35] [36] [37] [38] [39] [40] [41] [42] [43] [44] [45] [46] [47] [48] [49] [50] [51] [52] [53] [54] [55] [56] [57] [58] [59] [60] [61] [62] [63] [64] [65] [66] [67] [68] [69] [70]
จำนวนหัวข้อทั้งหมด 1118

( Cop Out 2010 ค็อป เอ้าท์ คู่อึดไม่มีเอ้าท์ ) Master Zone3 มาแว้ว!


Cop Out (2010) ค็อป เอ้าท์ คู่อึดไม่มีเอ้าท์ [Sound:Eng:Thai][Sub:Eng:Thai][Master Zone3 D9>>>D5 UnToUch NoExTrA][IMDb 5.8][Bruce Willis]

ynopsis  
หนึ่งตำรวจปืนรัว หนึ่งมือปราบปากรั่ว ลุยเสียงฮาฝ่าดงกระสุน กับผลงานแอ็คชั่นคอมิดี้ฮาเนียน
การเจอกันของยอดคนอึดและดาวตลกมาแรงกับภารกิจลุยเสียงฮาฝ่าความมันส์
การแท็คทีมที่น่าสนใจของยอดคนอึด บรู๊ซ วิลลิส และยอดดาวตลกหนุ่มน่าทะเล้น ฌอน วิลเลี่ยม สก็อต ในการตามหาการ์ดเบสบอลล้ำค่าที่ถูกขโมยไป แล้วยังต้องเข้าไปพัวพันกับการช่วยเหลือผู้หญิงคนหนึ่ง รวมทั้งต้องจัดการกับแก๊งค์มาเฟีย ที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินอีกด้วย

Action star Bruce Willis and ace comic Tracy Morgan play bickering-but-got-your-back Brooklyn buddy cops. Kevin Smith (Clerks, Chasing Amy) directs the gritty, goofball goings-on as the guys hunt for a stolen 1952 mint-condition baseball card, a hunt plunging them into a gunslinging war with a deadly drug ring. Batter up, fans. The boys are ready to take you out to the ol’ brawl game!

Video Format  

16:9 LB 2.40:1

Audio

English 5.1 , Thai 5.1

Subtitle

English , Chinese , Bahasa Indonesia , Korean , Thai

LINK ตามนี้ครับ ...

http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=nanatakara&month=12-04-2010&group=2&gblog=214

http://www.boomerangshop.com/web/productdetail.aspx?pid=336655

http://www.imdb.com/title/tt1385867/


 



+
+
+

ความเห็น

[1]


( หาซื้อกันได้แล้วนะครับ )




( ลืมบอกไปครับ ) Ong Bak 3 : องค์บาก 3 DVD Master ก็มาแล้วครับ DVD9 to DVD5

Rated  :[Rate น.-18+]
Copyright/Studio : สหมงคลฟิล์มอินเตอร์เนชั่นแนล / ไอยราฟิล์ม
Genres
Action,Drama
Video Format : Anamorphic Widescreen 1.85:1
Audio : Thai 5.1

Director : พนม ยีรัมย์,พันนา ฤทธิไกร
Starring : พนม ยีรัมย์,นิรุตติ์ ศิริจรรยา,ศรัณยู วงศ์กระจ่าง,พริมรตา เดชอุดม,เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา,ชูพงษ์ ช่างปรุง


Synopsis : หลัง จากพ่ายแพ้แก่ ภูติสางกา (เดี่ยว ชูพงษ์) สูญเสียทั้ง 2 บิดา ออกญาสีหเดโช (สันติสุข พรหมศิริ) และ เชอนัง (สรพงษ์ ชาตรี) รวมทั้งบรรดาพี่น้องแห่งชุมโจรผาปีกครุฑ ทุกศาสตร์ยุทธ์ที่ถูกบ่มเพาะฝึกฝนมาทั้งชีวิตของเทียน (จา พนม ยีรัมย์) ล้วนถูกทำลายย่อยยับจนหมดสิ้น ต้องโทษฑัณฑ์ถูกทรมานพิการเจียนตาย เหลือเพียงแค่ลมหายใจอันรวยริน ฤาชีวิตทั้งมวลล้วนจบสิ้นลง ดั่งคำทำนาย เมื่อครั้งถือกำเนิด ยามใดจับต้องศาสตรา ชีวิตจักมืดมนต้องโทษทุกข์แสนสาหัส ท่ามกลางบ่วงกรรมที่ยังคงดำเนินเกี่ยวพันสืบเนื่องต่อไป บัดนี้ร่างที่ไร้ชีวิตของบุรุษนักสู้ผู้เป็นตำนานได้รับความช่วยเหลือถูก ลำเลียงขนย้ายส่งต่อไปยังหมู่บ้านอโรคยา ที่ในอดีต เทียน และ พิม (จ๊ะจ๋า พริมตา เดชอุดม) เคยใช้ชีวิตเติบโตเรียนรู้เรื่องสมุนไพรใบยาบ่มเพาะสมาธิ ซึมซับวิชาโขนนาฏศิลป์ โดยมีเหล่าผู้คนในหมู่บ้านทั้งหมดไม่เว้นแม้แต่เด็กเล็กผู้เฒ่าผู้แก่ หรือกระทั่งคนบ้าที่ไร้สติแต่ไม่เคยมีพิษภัยกับใครอย่าง ไอ้เหม็น (หม่ำ จ๊กมก) ก็ต่างมาร่วมกันหลอมจิต

ศรัทธารวมเป็นหนึ่งช่วยกันหล่อพระพุทธรูปอันศักดิ์สิทธิ์ขึ้นเพื่อส่ง จิตระลึกให้เทียนฟื้นคืนสติกลับมามีชีวิตอีกครั้ง ขณะที่พิมเองได้นำเอาท่วงท่าการร่ายรำดัดตัวตามรูปแบบของนาฏศิลป์โขนโบราณ มาช่วยในการรักษาบำบัดร่างกายที่เสื่อมสลายโดยมี ครูบัว (นิรุตติ์ ศิริจรรยา) ที่ปัจจุบันกลายเป็นพระบัวเปิดทางให้เทียนได้เริ่มต้นเข้าสู่สมาธิเพื่อฝึก ควบคุมร่างกาย กล่อมเกลาสภาวะจิตให้นิ่ง เรียนรู้และต่อสู้กับด้านมืดในใจ เพื่อบรรลุถึงจิตวิญญาณอันบริสุทธิ์ที่หลับใหล หลอมหลวมเข้ากับ "พลังศรัทธาอันแรงกล้า" จากธาตุธรรมชาติทั้ง 4 "ดิน น้ำ ลม ไฟ" ผสมผสาน จนก่อเกิดการค้นพบ "นาฏยุทธ์" ศาสตร์และศิลปะการต่อสู้อันทรงอานุภาพอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน

ในขณะที่แผนการณ์ต่างๆ ของ พระยาราชเสนา (ศรัณยู วงษ์กระจ่าง) ล้วนแต่บรรลุตามความประสงค์แทบทั้งสิ้น โดยมีเป้าหมายหลักคือ การก้าวขึ้นสู่ความเป็น จอมราชันย์ที่พร้อมสยบทุกสิ่ง และแน่นอนว่าเมื่อรวมเหล่านักฆ่ามากฝีมือ และบรรดาไพร่พลที่มีอยู่รายล้อมรอบตัวอันมากมายมหาศาลด้วยแล้ว ภายใต้ผืนนภา และเหนือพื้นพสุธาอันกว้างใหญ่ไพศาลย่อมไร้ซึ่งผู้กล้ารายใดที่คิดจะต่อกร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้ "ภูติสางกา" ฑูตสังหารที่มาพร้อมกับ "ภูติยุทธ์" ศาสตร์การต่อสู้ที่ไร้รูปแบบและร่องรอย อยู่เคียงข้างและรวมเป็นหนึ่งเดียวด้วยแล้ว ดูเหมือนว่าทุกสรรพสิ่งล้วนสยบนิ่งอยู่แทบเท้าเลยทีเดียว

และทันทีที่พระยาราชเสนารู้ว่าบัดนี้เทียนได้รับการชุบชีวิตจากชาวหมู่บ้าน คณะโขนด้วยแล้ว คำสั่งเลือดและการระดมเหล่าทหารและขุมกำลังทั้งหมดถูกส่งไปเพื่อทำลายร้าง และเข่นฆ่าผู้คนในหมู่บ้านที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเกิดขึ้นอย่างทันท่วงที โดยที่ตัวพิมเองถูกทหารจับตัวกลับไปยังพระราชวังเพื่อสำเร็จโทษอาญาคชฑัณฑ์ (ใส่ตะกร้อให้ช้างเตะ) ต่อหน้าหมู่ทาสและกลุ่มประชาชนทั้งหมด

ทำให้เทียนที่บัดนี้กำลังเรียนรู้และก้าวเข้าสู่วิถีสมาธิอันสงบนิ่ง ต้องยอมละตัวเองออกจากดวงจิตอันบริสุทธ์เพื่อเผชิญกับวิบากกรรมและขวากหนาม ที่เป็นอุปสรรคซึ่งถูกลิขิตไว้อย่างไม่จบสิ้น จากเหล่าอริราชแลศัตรูอันชั่วร้ายที่ยังคงหมายที่จะคร่าเอาชีวิตเทียน ไม่ว่าจะเป็น "ภูติสางกา" หรือ "พระยาราชเสนา" เอง ในขณะเดียวกันดูเหมือนว่า "ความแค้นและพลังจากด้านมืดในจิตของ" ของเทียนเอง ก็พร้อมที่จะถาโถมเข้าครอบงำ ทำลายและทำร้ายเทียนตลอดเวลา ทางเดียวที่จะเอาชนะกรรมที่เริ่มก่อตัวขึ้น นั่นคือต้องเผชิญหน้าและเรียนรู้ที่จะควบคุมและเอาชนะจิตใจตนเองให้ได้

เตรียมพบกับการเผชิญหน้าและศึกการต่อสู้ครั้งสุดท้ายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดใน ชีวิต กับอภิมหาภาพยนตร์แอ็คชั่นที่คนทั้งโลกรอคอยกับบทสรุปของ "องค์บาก 3" จุดกำเนิดขององค์บาก ตำนานการต่อสู้แห่งจิตวิญญาณ หลอมรวมพลังศรัทธาอันมุ่งมั่นที่ไม่เคยดับสูญของบุรุษผู้เกิดมาเพื่อเป็น ตำนาน

จุดเด่น องค์บาก 3

ศิลปะการต่อสู้ที่ใช้ในองค์บาก 3 ที่จา พนมได้เรียกขานว่านาฏยุทธ์นั้น จา พนมเล่าถึงที่มาที่ไปว่า

"... ถ้านำโขนมาใช้ในการต่อสู้ มันก็คงจะแปลกดี ก็เลยไปศึกษาเรื่องโขนถึงขนาดที่ว่าที่มาของโขนเป็นมาอย่างไร ก็มาจากอินเดีย รามัญ แล้วก็จะมีตัวพระ ตัวยักษ์ ตัวลิง เราก็เริ่มสนใจ แล้วจริงๆ ในบรรดาตัวละครของโขน ผมจะชอบตัวละครอยู่ตัวหนึ่งคือตัวหนุมาน อย่างของจีนเขาก็จะมีมวยลิง ก็ไปนึกถึง ไปเห็น แล้วพอไปเปิดดูในตำราของท่ามวยอะไรต่างๆ เขาก็จะมีอย่างท่าหนุมานเหยียบลงกา หนุมานถวายแหวน อะไรพวกนี้ ก็ได้ศึกษามาเรื่อยๆ แล้วหลังจากนั้นก็ไปดูเรื่องลายแกะสลักในหิน เราก็เห็นว่าท่าจับ ท่าพระ มันเหมือนเป็นการต่อสู้ แต่พอผนวกเข้ากับศิลปะการต่อสู้ ซึ่งเราก็มาคิดใหม่ว่าจะทำอย่างไรที่จะนำศิลปะตรงนี้ออกไปในทางของหนังแล้ว คนดูรู้สึกว่ามันมีกลิ่นของโขน ให้มันมีความเป็นไทยขึ้นมา แล้วมีเสน่ห์ซึ่งจะแตกต่างจากโขนที่เล่นๆกัน นี่คือความตั้งใจในการนำเสนอของผม ..."

ในขณะที่หากเป็นหนังแอ๊กชั่นส่วนอื่นๆ ที่นอกเหนือไปจากนาฏยุกต์แล้วนั้น จาได้เล่าให้ฟังว่า

"... อย่างในองค์บาก 3 เราก็จะค่อยๆ เปิดการต่อสู้ที่เป็นการใช้อาวุธ ซึ่งตัวละครของผมยังไม่เคยได้ใช้อะไรเลย โดยมีบทมีเรื่องเข้ามาเป็นตัวนำส่งรองรับให้มีที่มาที่ไปด้วย อย่างฉากต่อสู้ที่ถูกพันธนาการโดยใช้โว่ตรวน จะต่อสู้ยังไงถึงจะหลุดพ้น โดยมีบทแล้วก็มีนำเอาพลองไม้ศอกนั่นเอง แล้วก็ยังมีฉากที่อลังการอีกฉากหนึ่งก็คือฉากที่ต่อสู้บนหลังช้างทั้งหมด ซึ่งในฉากนี้เราก็จะมีการนำเอานาฏยุทธ์ที่เราคิดมาใส่ลงไปด้วย เพราะเป็นไฮไลต์สำคัญสุด คือจะได้เห็นการต่อสู้แบบนาฏยุทธ์ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน รวมทั้งแอ๊กชั่นบนหลังช้างที่ไม่ซ้ำกับองค์บาก 2 ด้วย ซึ่งเฉพาะแอ๊กชั่นบนหลังช้างเราเตรียมงานกัน 2 เดือน ผมให้ทีมสตั๊นท์ลงไปรีเสิร์ชข้อมูลว่าช้างทำอะไรได้บ้าง เพราะว่าเราเคยทำงานกับช้างมาแล้ว ทีนี้เรามาคิดว่าถ้าเราต่อสู้บนหลังช้างด้วยลอดท้องช้างด้วย จับงวงช้างด้วย จับงาช้างด้วย ลอดแล้วคนวิ่งกันไปมาสลับกับมีอาวุธด้วย ช้างจะมีท่าทีหรือมีความรู้สึกอย่างไร มันจะสามารถทำได้ไหม ก็ลองไปรีเสิร์ช แล้วก็เอากล้องวิดีโอไปถ่ายทำเป็นเวิร์กช็อปออกมา มันก็ทำได้ แล้วเราก็มาคิดเพิ่ม ทำอย่างไรที่จะนำเอานาฏยุทธ์เข้าไปใส่ให้มันลงตัว ก็พอดีเหมาะเจาะว่าเอาตัวยักษ์กับตัวลิงใส่ไปตรงช้าง เตรียมงานกัน 2 เดือน พอถึงเวลาถ่ายจริงก็ถ่ายกันเป็นเดือน ..."





+


คุณโอ๋ชอบ m.c.hamerใช่ไหมครับ อิอิอิ เพราะผมจำได้ว่าสมัยผมกับคุณเป็นเด็กนี้ เต้นรถบ๊ำกันกระจายเลย555555+เต้นเสร็จไปดูหนังกลางแปลงต่อครับ




เลือกหน้า
[1]
จำนวนหัวข้อทั้งหมด 4

กลับขึ้นข้างบน / กลับหน้าแรก

ค้นกระดานข่าว:


ถูกเปิด: ถูกคลิ๊กแล้ว: 117962946 ตอนนี้มีผู้เข้าชม : 1 ล่าสุด :Jerekioxgew , พีเพิลนิวส์ , นุกูล , จาทีเอ , อั้น , เอก , นนท์ , แสบ chumphon , วัตร , เอ๋ ,