ความเห็น |
ผมก็อีกคนที่ใช้ชีวิตทั้งเรียน และทำงาน อยู่ในย่านพระโขนง คร่าวๆ น่าจะตั้งแต่อายุ 10 ขวบขึ้นมา เพราะบรรดาญาติๆ เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ ก็เลือกที่นี่(พระโขนง)เป็นสถานที่ในการใช้ชีวิตและทำมาหากินเป็นต้นมา ถ้าให้เล่าแบบเน้นๆ นะ สิบหน้ากระดาษ A4 ก็ยังไ่ม่จบ ถ้าให้นั่งนึกย้อนกลับไป ณ ตอนนั้น น้ำตาแทบร่วง ..... เพราะคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทุกแง่ และบรรดา โรงหนัง ห้างสรรพสินค้า และร้านค้าต่างๆ บริเวณนั้น ผมอยู่ซอยสุขุมวิท 50 ที่มี Lotus อยู่หน้าปากซอยนั่นแหละ เวลาขึ้นไปบนดาดฟ้า มองมาทางตลาดพระโขนง เวลากลางคืน จะเห็นป้าย "พระโขนงราม่า" เป็นหลอดนีออนสีแดง เด่นชัดมาก สูงตะหงาน เห็นแล้วดึงดูดใจ ตัวหนังสือฟอนท์คลาสสิคบ่งบอกถึงภาพยนตร์อย่างแ้ท้จริง พอๆกับ "เฉลิมกรุง" นั่นแหละ .... เรื่องสุดท้ายที่ผมดู เท่าที่จำได้่น่าจะเรื่อง "รองต๊ะ แลปแป๊ลบ" ประมาณปี 35 - 36 โน่น ต่อมาเขาก็เปลี่ยนมาฉายหนังเรทอยู่พรรคนึง .....
ส่วนโรงหนังเอเซียตอนนี้ กำลังก่อเป็นตึกใหม่ น่าจะเป็นคอนโด ห้าง ATM ที่ขายผ้า หลังจากปิดมานาน ก็กำลังแปลงร่างเป็นตึกใหม่ เดินเข้ามาด้านหลังก็จะเป็นห้าง เอดิสัน ก็กลายเป็นที่ทำการไปรษณีย์พระโขนงไปแล้ว บันไดเลื่อนยังอยู่เลยแต่ใช้การไม่ได้ เดินออกมาอีกนิดก็จะเป็นพื้นที่เก่าของห้างเวลโก้ ซึ่งเป็นที่โล่งซิ่งด้านหลังจะเป็นโรงน้ำชาเก่า(ไม่ขอเอ่ยชื่อ) ก็ปิดทำการไปพร้อมๆกัน ข้ามฝั่งสะพานลอยมา ก็จะเป็นห้างไดมารู ซึ่งตอนนี้ก็แปลงร่างเป็นคอนโดไปซะแล้ว ส่วนพระโขนงเธียเตอร์ ตัวตึกยังอยู่ครบ แต่ดัดแปลงเป็นสำนักงานอะไรซักอย่าง เขาทุบไ่ม่ได้เพราะเป็นตึกแถวติดกับธนาคารกรุงเทพฯและห้างเอเชี่ยนเก่า เจ้าของมีหลายคนความยินยอมก็ไม่บังเกิด เดินมาอีกนิด หลังป้อมตำรวจ เมื่อก่อนเขาเรียกว่า ตลาดเมืองนีออน บางครั้งเคยมีหนังกลางแปลงมาปักหลักฉายด้วย ทั้งๆที่พื้่นที่นั้นล้อมรอบไปด้วยโรงหนัง ก็กลายมา
เป็น สมรักษ์หมูกะทะ หลังๆมา ก็ปิดทำการไป .....
ลอนดอนก็เคยไปดู แต่หลังๆก็ไม่ได้แวะไปเยี่ยมเยียน ก็แหง่หละ มันอยู่ลึกเกินไปในซอกในหลืบซะขนาดนั้น ในดงอาชญากรรมอีกต่างหาก จิ๊กโก๋เยอะ จะเข้าไปดูแต่ละที ก็ต้องเข้าซอย เดินผ่านเข้าไป แทบเก็ง โรงนี้คาดว่าน่าจะไปก่อนเพื่อนในย่านนั้น เรื่องสุดท้ายที่ดู เป็นหนังฝรั่งประมาณว่าล่าขุมทรัพย์ แต่ไม่ทราบว่าเรื่องอะไร ตอนนั้นอายุ 11 ขวบ....
โรงเอเซียเรื่องสุดท้ายก็ บุบผาราตรี 3.1 กับ เดอะฟาส 4 พูดตรงๆนะ เสียดายเครื่องเสียงของเค้าจริงๆ เสียงโครตดีเลยครับ จอก็ใหญ่เบ้อเริ่ม สูสีกันเลยกับพระโขนงเธียเตอร์(จอใหญ่ทีีสุดแล้วในย่านนั้น)ตอนนี้กำลังดำเนินการสร้างเป็นคอนโดที่อยู่อาศัยใจกลางตลาดพระโขนง ก็อย่างที่บอกเสียด๊าย เสียดาย โรงนี้เรียกว่าครบวงจรเลยครับ ทั้งโต๊ะหนุ๊ก(มาร์คกี้อย่างน่ารัก),ผับ & เรทฯ ..... ข้ามฝั่งมา ก็จะเป็นเจ้าพระยาตามรูปการณ์แล้วก็อยู่ด้านหลังโรงฮอลิเดย์นั่นแหละ หันหลังชนกัน โรงนี้ก็ฮอตไม่แพ้กัน(ไม่ขอกล่าวถึงรายละเอียดนะครับ)ตอนนี้สลายร่างไปแล้ว ล้อมรั้วอยู่ ไม่แน่ใจว่าเขาจะสร้างเป็นอะไร....
สรุปแล้วผมคิดว่าย่านนี้ โรงหนังเยอะที่สุดใน กทม. ก็ว่าได้ เมื่อก่อนผมเคยทำสถิติ แบบว่า ดูให้ครบทุกโรงในวันเดียว ตั้งแต่ สิบโมงเช้ายันห้าทุ่ม เข้าโรงนี้เสร็จ ตีตั๋วเข้าอีกโรง เมื่อก่อนค่าตั๋วไม่ค่อยแพง ดูได้สองเรื่องอีกต่างหากครับ ...... เอาแค่นี้ก่อน
ฝากท่านเจี๊ยบด้วยว่า ถ้ามีเวลาว่าง ก็ให้รีบเรียบเรียงเลยนะครับเกี่ยวกับโรงหนังในความทรงจำของเราใน กทม.นี่แหละ... ยังมีอีกหลายโรงที่ยังอยู่และกำลังรวยริน ฝากด้วยนะครับอีกโรงนึงที่เลย สุขุมวิท 103 อยู่ซ้ายมือ ลืมชื่อไปว่าโรงอะไร นี่ก็อยู่ในความทรงจำอีกเหมือนกัน.....
คุณป้อบอายอยู่ซอย50ผมอยู่ซอยศิริพจน์ตรงข้ามกันเลยไม่แน่นะตอนดูหนังอาจนั่ง
ข้างๆกันแต่ไม่รู้จักกันก็ได้อิอิอิ
........ส่วนแหลมทองรามาดูครั้งสุดท้าย2เรื่องควบแต่จำได้<<บ้านี้เพื่อเธอ>>และ<<คนทะลุโลก>>
อยากดูรูปปัจุบันเหมือนกัน
......ส่วนมาร์กกี้แถวนั้นสุดยอดเหมือนกับคุณป้อบอายว่ามาจริงโดยเฉพาะใต้โรงหนังเอเซียเรื่องสนุ๊ก
ขอท้าทุกคน(ลูกจ่อไม่น่าพลาด) เหลือแต่ค่ารถประจำ55555
นั่นแน่ เอาเข้าแล้วไง ถึงว่าโลกของเราถึงเป็นวงกลม....555 ซอย 50 ที่ผมอยู่ถ้าเข้าไปจะเลยทางขึ้น-ลงทางด่วนไปนิด เยื้องๆ คอนโดอะไรซักอย่าง จำชื่อไม่ได้ สมัยนั้นพื้นที่ Lotus จะเป็นเต็นท์ขายรถ Locationตอนนั้นซอยแนวริมถนนส่วนมากจะเป็นป่า ไม่ได้ฟู่ฟ่าเหมือนตอนนี้ ผมเรียนจบเทคนิคบริหารธุรกิจกรุงเทพ ซอยเดียวกับแสงหิรัญ เชิงสะพานพระโขนงฝั่ง สน.นี่แหละ ท่านซุปเปอร์โรจน์คงน่าจะรู้จักนะครับ สถาบันที่ผมเรียน ผู้หญิงจะเยอะกว่าผู้ชาย ประมาณว่า 70% ต่อ 30% ตอนนั้นช่างมีความสุขซะเหลือเกิ๊น ...555 ลองนึกภาพ ถึงขั้นเหวี่ยงครับ โอ๊ย! นึกแล้วอยากย้อนเวลาซะเหลือเกิน พับผ่าซิ เอ๊า! ลืมไป โทษทีครับ จะพาลงทะเลซะแล้ว เริ่มเคล้ม ก็อย่างที่บอก ก็ยังเคยชวนเพื่อนๆ ทั้ง หญิง และ ชาย แบบว่าไปเป็นกลุ่มๆ แบบลงตัวเป็นคู่นะครับ เข้าเอเซียเลยครับ หลังจากสอบเสร็จ สมัยนั้นกฎหมายไม่ได้ห้ามปรามอะไรมากนัก ตอนนั้นฉายหนังเรทซะด้วย ไปกันทั้งเครื่องแบบนั่นแหละ หลังจากนั้น ก็? ติดตามตอนต่อไป ..555 นี่ก็เป็นประสบการณ์บางชอตในย่านพระโขนงในตอนนั้นจากอีกหลายๆ ชอต ก็อย่างที่ว่าตอนที่ใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น ณ สมัยนั้น จะพัวพันและผูกพันธ์กับโรงหนังเป็นอันดับต้นๆ เลยครับ ต่อไปก็จะเป็นเรื่องอื่นๆ รองลงมา (ยังไม่ขอกล่าวถึงครับเกรงว่ากระทู้จะลงทะเลเกรงใจผู้หลักผู้ใหญ่ครับ) ค่อยว่ากันทีหลังตอนเจอกันดีกว่า ...