ตีพิมพ์ในนิตยสาร ไบโอสโคป กุมภาพันธ์ 2554

ในปี 2010 ที่ผ่านมาโรงหนังดิจิตอลทั่วโลกมีจำนวนทั้งสิ้น 36,242 โรงสูงขึ้นจากเดิมถึง 121.8 % ซึ่งเป็นการฉายหนังผ่านเครื่อง Digital Projector ที่ถ่ายทอดผ่านด้วยระบบดิจิตอลแทนนอนาล็อกได้ถูกสร้างขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากผลประกอบการที่ทำกำไรให้กับอุตสาหกรรมภาพยนตร์จากหนัง 3 มิติที่มีราคาตั๋วสูงขึ้น อย่างไรก็ตามท่ามกลางกระแสหนังแบบ 3 มิติ หนังดิจิตอลแบบ 2 มิติ หรือ D-Cinema ก็ถูกสร้างขึ้นมาทดแทนโรงหนังที่ฉายด้วยฟิล์มเช่นกัน  จุดเด่นที่ถูกนำมาใช้ในการโฆษณาของหนังระบบนี้คือผู้ชมจะได้ชมภาพและเสียงที่มีความละเอียดคมชัดขึ้น ไม่มีรอยฟิล์มหลังการฉายซ้ำหลายรอบ ไม่มีการตัดทอนเนื่องจากนำไฟล์ลงเซิร์ฟเวอร์โดยตรง ทั้งยังเป็นข้อดีสำหรับภาพยนตร์ยุคใหม่ที่ถ่ายด้วยกล้องดิจิตอลซึ่งไม่ต้องเสียเวลาแปลง และเกิดสีที่ผิดเพี้ยนจากต้นฉบับอีกด้วย

สำหรับประเทศไทยได้รับการประชาสัมพันธ์ถึงโรงดิจิตอลเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2545 เมื่อโรงภาพยนตร์เครือเมเจอร์ซีเนเพล็กซ์ ซื้อเครื่องฉายดิจิตอลสำหรับ Star Wars Episode II : Attacks of The Clones และทำให้หนังฟอร์มยักษ์เรื่องดังกล่าวมีราคาตั๋วสูงอีก 30 บาทจากราคาปรกติ

ปัจจุบันมีโรงแบบดิจิตอลกระจายเป็นโรงทางเลือกอยู่ในหลายสาขาโรงภาพยนตร์เครือใหญ่ แต่นักดูหนังหลายคนก็ยังบ่นถึงชะตากรรมที่ต้องเสียเงินในราคาที่แพงขึ้นอีก 10-30 บาท โดยที่โฆษณาสินค้า และตัวอย่างหนังก็ยังคงความยาวเท่าเดิม หนังหลายเรื่องที่เข้าจำกัดโรง ก็ถูกจัดฉายเฉพาะโรงดิจิตอลทำให้ไม่มีทางเลือกในการบริโภค เพราะหลายคนสนใจตัวหนังมากกว่าจะสนใจระบบการฉายว่ามันดีต่างกันอย่างไร และหนังหลายต่อหลายเรื่อง เช่น  The Brave One(2007), The Hangover(2009)  ที่ออกฉายในโรงระบบนี้ก็ไม่ได้เป็นงานที่ต้องเน้นความคมชัดทุกรายละเอียดเพื่ออรรถรสในการรับชมอยู่แล้ว

เมื่อเทียบกับหลายประเทศที่โรงทั้งสองระบบมีราคาที่เท่ากันดังในตารางประกอบ ทำให้เกิดคำถามว่า “ถึงเวลาหรือยังที่โรงระบบดิจิตอลต้องปรับราคาลง ?” แน่นอนว่าการทำราคาให้เท่ากับโรงฉายฟิล์มขึ้นอยู่กับปัจจัยที่ต้องรอให้อุปกรณ์ในระบบราคาถูกลง และมีจำนวนโรงฉายที่มากพอที่จะถึงจุดคุ้มทุน ซึ่งยังขึ้นอยู่กับข้อจำกัดทางธุรกิจโรงภาพยนตร์ในประเทศไทยที่ยังไม่สามารถฉายด้วยระบบดังกล่าวได้อย่างแพร่หลายโดยเฉพาะสายหนังต่างจังหวัด เนื่องจากต้องซื้อเครื่องฉายใหม่ที่มีราคาค่อนข้างสูงมาทดแทนระบบเดิม แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้อีกเช่นกันว่าผลกระทบก็จะส่งภาระมาให้กับผู้บริโภคต่อไปเรื่อยๆ หากไม่มีการปรับลด

ขอให้เริ่มต้นง่ายๆ หากคุณเป็นคนที่เกิดคำถามกับราคาตั๋วหนังที่แพงผิดปรกติ หรือเกินกำลังซื้อในกระเป๋าสตางค์ของคุณ ไม่ว่าจะสงสัยเรื่องระบบฉาย หรือที่นั่งระดับพิเศษ  โปรดถามพนักงานขายถึงเหตุผลดังกล่าว และหากไม่ได้รับคำตอบที่พอใจ ขอให้จำใจงดดูหนังที่เครือโรงภาพยนตร์ หรือเฉพาะสาขานั้น พร้อมขอใบแนะนำจากลูกค้าเพื่อเขียนแสดงความไม่พอใจของคุณ