ในงานรื่นรมย์รัตนโกสินทร์ เมื่อค่ำของวันที่ 25 -27 กุมภาพันธ์ 2554 ที่ผ่านมา 3 วันซ้อน ณ ลานพลับพลาเจษฎาบดินทร์ (โรงหนังศาลาเฉลิมไทย เก่า ใกล้วัดราชนัดดาฯ) มีโอกาสออกงานอีกแล้วครับท่าน สำหรับ "เพื่อนไทยซีน" ทีมพากย์ประจำเว็บของเรา นำโดย พี่ต๋อง ไทยซีน และเพื่อนพ้องน้องพี่สมาชิก เว็บไซต์ไทยซีน อันประกอบด้วย อ.ทิวาพร หรือ เทพนภา ศิวะบุตร, แม่อ้อย ปิยรัตน์ อดีตนักพากย์หญิงชื่อดังจากสายเหนือ, คุณน้าพุทธิพงษ์ ป้อมทอง อดีตนักพากย์ชื่อดัง สายเหนือ และอีสาน, คุณพี่ตุ๊ก วรนุช นักวิชาการกองจดหมายเหตุ และน้องซีซ่า เลดี้ซาวด์แบ็กกราวด์คนเดียวของเมืองไทย งานนี้ทั้งพากย์ทั้งวางเพลงด้วยเชียว...โดยได้รับการติดต่อจากหน่วยบริการเพื่อนสมาชิกเว็บ "ท่าพระภาพยนตร์" โดยหนุ่ม สุทิน เจ้าของหน่วยผู้ใจดี...มีเพื่อนสมาชิกหลายท่านให้เกียรติไปร่วมชมเท่าที่ได้ทักทายก็มี ท่านพันแสง ท่านสถิตย์ และอีกหลายท่านที่ไม่ได้ทักทาย ก็ขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วย.... โดยในงานนิทรรศการมีโปรแกรมการฉายหนังกลางแปลงตั้งแต่วันพุธที่ 23 ก.พ. 2554 ด้วยเรื่อง วัยอลวน 4 (เสียงในฟิล์ม) มีน้องรถเมล์ คนึงนิตย์ ดารานำหญิงของเรื่องนี้ไปโชว์ด้วย...วันพฤหัสบดีที่ 24 ก.พ. 2554 ฉายเรื่อง อำแดงเหมือนกับนายริด (เสียงในฟิล์ม) และต่อด้วยโปรแกรมพากย์สด 3 วันซ้อน เริ่มในวันศุกร์ที่ 25 ก.พ. 2554 ด้วยเรื่อง แผลเก่า โศกนาฎกรรมความรักของไอ้ขวัญ และอีเรียม แห่งท้องทุ่งบางกะปิ (สรพงษ์-นันทนา) สภาพฟิล์มเก่าเก็บอย่างมาก หนังโดดทุกระยะ ท้าทายความสามารถของทีมพากย์เหลือเกิน แต่ทุกคนก็ใช้วิชาเอาตัวรอดไปได้... เป็นหนังเศร้าปนซึ้งในตอนท้าย แต่ผู้มานั่งชมยืนชมล้นบริเวณฮาตรึมๆ กับมุกของทีมพากย์ปล่อยกันกระจายไม่มียั้งตั้งแต่ต้นเรื่อง มีน้ำตาซึมบ้างเล็กน้อยถึงปานกลางในตอนท้ายเรื่อง.... วันเสาร์ที่ 26 ก.พ. 2554 พากย์สดเรื่อง มนต์รักลูกทุ่ง เวอร์ชั่นดั้งเดิมปี 2513 ตำนานรักของพี่คล้าว และน้องทองกราว โดยดาราคู่ขวัญอันดับ 1 ของเมืองไทย มิตร ชัยบัญชา-เพชรา เชาวราษฎร์ และดาราตลกอาวุโส ป่าล้อต๊อก สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม และดารา-นักร้องชื่อดังคับคั่ง งานนี้สภาพฟิล์มดีกว่าแผลเก่าเล็กน้อย แต่มีเรื่องให้ตื่นเต้นเมื่อขึ้นต้นม้วน 1 หนังกระโดดไปฉากบุปผา-พี่แว่น ร้องเพลงเลย...นักพากย์ไล่ตะครุบบทกันใหญ่ พอเพลงจบพากย์ไปได้สักครู่ หนังกระโดดย้อนไปไตเติ้ลเพลงนำเรื่อง คนดูฮากันใหญ่ นักพากย์ก็ลุ้นกันเหงื่อแตก สรุปได้ความว่าม้วน 1 หนังเคยขาดและบริการที่เช่าไปฉายต่อไม่ถูกหรือเปล่าก็ไม่รู้ ส่งร้านฟิล์ม ทางร้านก็กรอกลับอย่างเดียวไม่ได้เช็ก.....(ฮา...อย่างนี้ก็มีด้วย) หนังเรื่องนี้เป็นหนังสนุกอยู่แล้ว ยิ่งได้รับอรรถรสในการพากย์สดเติมเข้าไป ยิ่งสร้างความสุขให้คนดูแบบไม่มีถอย ฮาด้วยมุขปัจจุบัน คิดสดๆ หน้างานกันเลยทีเดียว คืนส่งท้าย วันอาทิตย์ที่ 27 ก.พ. 2554 ด้วยหนังเอเชียกำลังภายใน เรื่อง อัศวินดาบกายสิทธิ์ เวอร์ชั่น มิตร ชัยบัญชา-กว่างหลิน เรื่องนี้ประกอบซาวด์ และทำเอฟเฟ็กต์ด้วยอุปกรณ์ในครัวเรือน เช่น กะลามะพร้าว เป็นเสียงม้าวิ่ง ใช้ช้อน-ซ้อม ตีกระทบกันเป็นเสียงฟันดาบ, ถาดสังกะกี ตีเสียงดังแทนเสียงผ่าง จนสนั่นแสบแก้วหู และคนดูตกใจ หันมามองจ้องเขม็งที่โต๊ะนักพากย์เป็นระยะ คนหนุ่ม-สาวยุคใหม่ ที่ไม่เคยเห็นก็รู้สึกประหลาดใจ และชื่นชอบชื่นชม กับศิลปะการพากย์สดแบบโบราณ ที่ทีมพากย์เพื่อนไทยซีน นำมาสาธิตให้ได้ชมกัน มีผู้ชมในแต่ละคืนมากมายแน่นขนัดเต็มบริเวณ ชาวต่างชาติก็ให้ความสนใจอยู่ชมจนจบ ในแต่ละคืน ...เสียงปรบมือดังกึกก้องเมื่อหนังจบ สร้างความปลื้มปีติและสร้างกำลังใจแก่ทีมพากย์พร้อมที่จะสืบสานศิลปะการพากย์สดไว้ให้ลูกหลานไทยได้รู้จักไปอีกนานเท่านาน... เพื่อนนักพากย์ ถ่ายภาพ, นักพากย์หนุ่ม...รายงาน

(ดูภาพชุดเต็มได้ที่กระดานถาม-ตอบ ช่องตำนานนักพากย์ผู้ยิ่งใหญ่)

อยากเห็นภาพอย่างนี้มานานแล้ว

น่าสนุกนะคะ อยากเห็นตอนสด ๆ จริง ๆ คะ อยู่ไกลไปหน่อย (นครพนม)........

บอกได้คําเดียวว่า ฮา สุดๆ (คืนสุดท้าย) อัศวินดาบกายสิทธิ์ ยิงมุกกันกระจาย

คนดูทั้งอยากดูหนัง ทั้งอยากดูคนพากย์ ระดับปรมาจารย์กันทุกคนสําหรับทีมพากย์

ฉายจบปรบมือกันยาว ขอบคุณผู้จัดงานที่หากิจกรรมดีๆ มาให้พี่น้องชาวไทย

ได้สัมผัสกลิ่นไอการพากย์สดกัน รักทีมพากย์ทุกท่านครับ(อัธยาศรัยดีทุกคนครับ)

เรียน  คุณ popeye

                     หนังเรื่องมนต์รักลูกทุ่ง ไม่ใช่ก๊อบเดียวกับที่ฉายร.ร.แม่น้ำครับ เป็นฟิล์มเช่าจากสายหนังบริษัทใหญ่แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เหตุที่ไม่ได้โปรโมทก่อนวันงาน  เป็นเหตุผลของการจัดงานที่กระชั้นชิด เวลาเตรียมตัวน้อยมาก น้องๆ อาสาสมัครทำบท พิมพ์เสร็จตี 4 วันรุ่งขึ้นซีร็อกซ์ให้นักพากย์อ่านก่อนพากย์ ตอนเย็นมาพากย์กันเลย  เวลาในการแจ้งข่าวเลยไม่มี   เอาเป็นว่าหากมีกิจกรรมแบบนี้อีก ต้องอาศัยทีมพีอาร์งานช่วยกระจายข่าวกับสมาชิกเว็บเราด้วย  แต่เขาก็โปรโมตผ่านสื่อต่างๆ เยอะนะครับ ออกทีวีด้วย แต่ไม่ได้บอกว่าทีมสมาชิกเราพากย์สด...ดูรูปเพิ่มเติมต่อเลยครับ  จากแฟนๆ หนังมิตร-เพชรา ที่ไปดูวันงานส่งมาให้

ภาพอีกชุดครับ

ทีมพากย์ไทยซีนสุดยอดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆครับ 5555

นครสวรรค์กับ กทม. ไม่ไกลสำหรับผมหรอกครับ ท่าน POPEYE ช่วงนี้ก็พอมีเวลามาวนๆ เวียนๆ แถวเว็บก็ช่วงดึกๆ โน่น นอกนั้นก็ต้องทำมาหารับประทานครับ

หนังเรื่อง "มนต์รักลูกทุ่ง" จริงๆ มีความยาว 8 ม้วนครับ ทีนี้ในม้วนแรก ซึ่งเป็นช่วงต้นเรื่อง (ที่มีเพลง "มนต์รักลูกทุ่ง" เป็นเพลงไตเติ้ล) จะมีความยาว 10 กว่านาทีเท่านั้นครับ พอขึ้นม้วน 2 ก็จะเป็นเพลง "สาวนาคอยคู่" ที่บุปผา สายชลเป็นผู้ขับร้องนั่นแหละครับ

สรุปแล้ว..ความผิดยกให้เจ้าของฟิล์ม (สายหนัง) เต็มๆ

ขอบคุณเป็นพิเศษสำหรับท่านเจี๊ยบด้วยครับ.....

                                  แผ่นดีวีดีหนังไทยสองเรื่องมีประโยชน์มากสำหรับการฝึกซ้อมพากย์ แต่ด้วยเวลากระชั้นชิดเป็นอย่างมาก ประกอบกับภารกิจงานพากย์ประจำของผม ทำให้มีเวลาฝึกซ้อมไม่มากนัก ได้ดูแค่เที่ยวเดียวในตอนบ่ายๆ และพากย์กันจริงๆ ในตอนเย็นของแต่ละวันเลย  งานนี้ลุ้นทั้งบท ทั้งฟิล์มหนังเลยครับ มีเรื่องเซอร์ไพรส์ดังที่ได้เล่ามาตอนต้นๆ นั่นแหละครับ สนุกดี ....ขอขอบคุณครับ...

ชี้แจงเกี่ยวกับการจัดงานครั้งนี้นะครับ  งานรื่นรมย์รัตนโกสินทร์นี้ ทางทีมพากย์เพื่อนไทยซีน ไม่ได้เป็นคนจัดนะครับ เพียงได้รับการติดต่อให้เข้าร่วมทำกิจกรรมสาธิตการพากย์สด แบบทีม โดยผู้ติดต่อคือ คุณหนุ่ม ท่าพระ แห่งท่าพระภาพยนตร์ ซึ่งคุณหนุ่มเองก็รับคอนเซ็ปต์มาจากบริษัทรับจัดงานอีกต่อหนึ่ง โดยการจัดหาฟิล์มภาพยนตร์ที่จัดฉายก็เป็นการตกลงกันระหว่างหน่วยฉายกับบริษัทรับจัดงานครับ  ทีมพากย์มีหน้าที่จัดหาบทพากย์และนำทีมไปพากย์เท่านั้น ส่วนฟิล์มหนังแต่ละเรื่องที่นำมาฉายก็ได้การเปิดเผยจากหน่วยท่าพระภาพยนตร์ว่า มาจากที่ต่างๆ ทั้งที่ให้เช่า และแลกเปลี่ยนหยิบยืมมา ทางหน่วยท่าพระก็ฝากขอขอบคุณท่านผู้อนุเคราะห์ให้ยืมฟิล์มทุกท่าน โดยเฉพาะ คุณกำธร แห่งไทยซีนภาพยนตร์ ที่ให้ยืมฟิล์มหนังอันทรงคุณค่าเรื่อง อัศวินดาบกายสิทธ์  มา ณ ที่นี้ด้วยครับ 

                                   ส่วนฟิล์มเรื่องอื่นๆ ก็ต้องให้คุณสุทิน แห่งท่าพระภาพยนตร์ ช่วยมาเล่าต่อครับว่า ยืมมาจากที่ใดบ้าง 

                                   และที่มีบางท่านติติงมาว่า ทำไมไม่จัดหาฟิล์มที่เป็นหนังเงียบจริงๆ มาพากย์ ก็ต้องเรียนชี้แจงด้วยหลายสาเหตุครับ หนึ่ง. ระยะการเตรียมงานน้อยมาก และทางทีมพากย์ไม่ได้เป็นผู้ประสานงานเรื่องฟิล์มเอง  สอง. ระบบการฉายด้วยฟิล์ม 35 มม. ไม่ค่อยมีฟิล์มหนังเงียบหรอกครับ  ถ้ามีก็เป็น สาม. ฟิล์ม 16 มม. หนังไทยเก่า มีบทพากย์ หายากครับ  ถ้ามีก็คงใช้เวลาประสานงานกันหลายสัปดาห์  และมักเลือกเรื่องที่ต้องการฉายไม่ได้  ทางผู้จัดงานและหน่วยฉายก็เลยมีการตกลงกันดังงานที่ออกมาแล้ว และผ่านสายตาประชาชนคนชม ได้รับผลตอบรับดีมาก ผู้จัดงานก็พอใจผลการจัดงานด้วยครับ

                                   หากโอกาสหน้ามีการตระเตรียมงานตั้งแต่เนิ่นๆ ก็คงจะดี  ฟิล์มหนังอันทรงคุณค่ามีอีกเยอะครับที่มีหน่วยงานทั้งรัฐ และเอกชนเก็บรักษาไว้  แต่ทางผู้จัดงานจะประสานหามาได้หรือเปล่านั้น อันนี้...ผมไม่ทราบจริงๆ ครับ....ขนาดว่า ผมก็เคยมีเพื่อนทำงานอยู่ในหน่วยงานนั้น ก็ยังไม่กล้ารับรองเลย...