- ศูนย์ซ่อมแซมของบริษัทชอร์บาเดอร์ ได้ใช้ระบบ สปิริต เดต้าซีน และ ดาวินชี 2 เค ( Spirit Datacine and Davinci 2 K System ) เพื่อปรับปรุงคุณภาพสีและชุบชีวิตแผนฟิลม์เก่าทั้งหลาย โดยดำเนินซ้อมภาพยนตร์ ได้ 10 เรื่อง ในแต่ละครั้งใช้เมมโมรี่ ในฮาทร์ไดร์ฟ 17,000 กิกกะไบด์ อุปกรณ์ซ้อมแซมแบบดิจิตอลนี้ จะใช้ในการทำความสะอาดครบ ฝุ่น และ รอยขีดข่วน อย่างระมัดระวัง รวมทั้งสาเหตุ อื่นๆ ทีทำให้ภาพยนตร์ไม่สมบูรณ์ ในแต่ละฉากของภาพยนตร์ รวมแล้วประมาณ 150,000 จุด ในภาพยนตร์แต่ละเรื่อง ส่วนการในซ่อมแซมเสียงต้นฉบับ ดำเนินในห้องเสียง ระบบดิจิตอล โดยยึดหลักในการรักษาเสียงจากต้นฉบับไว้ กำจัดเสียงรบกวน เสียงที่เกิดจากความเก่าของฟิลม์ การซ่้อมแซมนี้ ถือว่า เป็นงานขนาด ช้าง เรียกพี่เลยล่ะ เพราะมีฟิลม์ความยาวมากกว่า 1,500 ชั่วโมง และมีฉาก 100 ล้านกว่า ฉากที่ต้องซ่อมแซม ดังนี้ ทางเจ้าหน้าที่ของศูนย์ซ่อม ต้องใช้เวลาทั้งวัน ทั้งคืน เป็นเวลา สามปีครึ่่ง เพื่อซ่อมแซมภาพยนต์เหล่านี้ ให้กลับมาโลดแล่นได้อีกครั้ง เวลาหลายพันชั่วโมง กับ งานที่สลับซับซ้อน ยุ่งยากเพือผลิตฟิลม์ ต้นฉบับขึ้นมาใหม่ ขอขอบคุณในความวิริยะอุตสาหะ ของทีมงานซ่อมในครั้งนี้ ครับ

- หนังของชอร์บาเดอร์ เป็นบริษัทเดียวในเอเชีย ที่มีความยิ่งใหญ่ ในยุคปี ค.ศ 50 แม้แต่ วงการของ ฮอลลี่วู๊ต ยังมีความยำเกรงเป็นอย่างยิ่่ง ในช่วงแรกของการถ่ายทำตัวหนัง ทางชอร์บาเดอร์ ได้เนรมิต โรงถ่ายที่ใหญ่มาก มีพื้นที่หลายพันไร่ และที่นี้ ฉากต่างๆ ได้ถูกเนรมิตขึ้นมาโดยแรงงานคน จำนวนมาก ทำงานกันทั้งวัน ทั้งคืน ซึ่งใช้ในฉากหนังทั้งแนว ต่อสู้ อุปรากรจีน แนวสาำกล แนวแฟนตาซี แนวสืบสวน สอบสวน แนวหนังผีน่าสะพรึงกลัว และอื่่น ๆ หัวเรือใหญ่ของบริษัทคือ เซอร์รัน รัน ชอร์ ใช้เวลาดูหนังในหนึ่งวันมากกว่า 3 เรื่อง และ แนวคิดนี้ ได้เป็นที่มาให้กับ ผู้กำกับหนังที่ยิ่งใหญ่ ในวงการ ฮอลี่วู๊ต คือ สตีเว่น สปีคเบริกค์ ในเวลาต่อมาครับ