ผมไม่รอครับแต่จะเป็นคนทำถึงมันจะเป็นแค่ส่วนเศษเสี้ยว ก๊อช่าง ผมจะทำให้คนกลับมาดูหนังกลางแปลงครับ

เห็นด้วยครับที่สมาชิกเราเริ่มลงมือทำกันแล้ว ดีกว่ารอโอกาส ต้องยอมรับว่า ปัจจุบันเราคงทำหนังกลางแปลงแบบจอใหญ่ผ่าโลก หรือเครื่องเสียงแบบภาคกลางลำบาก(ยกเว้นฉายโชว์) เพราะหาพื้นที่ในการฉายลำบากเวลาเจ้าภาพว่าจ้าง

ที่สำคัญหาเจ้าภาพจ้างหนังราคาสูงลำบากจริงๆครับ เพราะส่วนใหญ่มองว่า ไม่คุ้ม จ้างหลายหมื่นคนดูไม่กี่คน

ผมอยากเห็น มีวันหนังกลางแปลงขึ้นมา โดยเวียนไปฉายตามพื้นที่ต่างๆให้ยิ่งใหญ่ไปเลย มีการโมษณาตามสื่อต่างๆ ทำเป็นโปรแจคขึ้นมา เหมือนที่ผมเคยเสนอแนะความคิดเห็นไว้ในหัวข้อ ทำอย่างใดหนังกลางแปลงจึงจะกลับมา

ที่สำคัญ ผมอยากให้หน่วยหนังต่างๆ ในแต่ละพื้นที่ มารวมมืกันช่วยกันพัฒนาหนังกลางแปลงให้ยิ่งใหญ่ กลับมาเหมือนเดิม

เชื่อว่า หนังกลางแปลงจะกลับมาเหมือนเดิม หากของเราดีจริง มีคุณภาพ แม้ราคาจะแพง ผมเชื่อว่ามีคนจ้งแน่นอนครับ ราคาแพงก็ไม่เกี่ยง ชาวบ้านส่วนใหญ่คิดเหมือนกับผม และเมื่อนั้น ผมเชื่อว่า แม้จะมีอินเตอร์เน็ท ดีวีดี วีซีดี โฮมเธียเตอร์ หรือโรงหนังชั้นดี คนก็ยังจะเลือกดูหนังกลางแปลงอยู่ดี

ยกตัวอย่างนะครับ ทุกวันนี้ วีซีดีบันทึกการแสดงสดทั้งหมอลำแทบทุกคณะ รวมทั้งเสียงอิสาน โปงลางสะออน และคณะใหญ่ๆ วางขายกันเกลื่อน แต่เมื่อเปิดวิก หรือเจ้าภาพว่าจ้าง คนก็แห่ดูกันเต็ม แม้จะดูจากซีดีแล้วก็ตาม ดีไม่ดี ยอดหน้าเวทีอยู่รอด แต่ยอดขายซีดีกับแป๊ก เหมือนที่คณะหมอลำ ลิเกต่างๆ กำลังประสบอยู่ขณะนี้

เชื่อผมซิครับ เสียงอิสานราคา 4-5 แสน คนยังกล้าจ้างเลยครับ แล้วทำไม หนังเราจะทำอย่างวงดนตรีไม่ได้ ไม่อยากให้มัวแต่โทษความลำหล้าของเทคโนโลยีต่างๆ เมื่อมีอุปสรรค์ เราก็ต้องแก้เกม พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสครับ

เป็นความคิดที่ดีนะครับ   ขออนุญาติสอบถามนะครับ ไม่ทราบว่าตอนนี้คุณพอเพียงทำหนังกลางแปลงอยู่หรือเปล่าครับ เห็นเข้ามาตอนดึกๆน่ะครับ  หรือว่าเพิ่งกลับจากฉายหนังกลางแปลงครับ

เห็นแนวทางของคุณพอเพียงแล้วเป็นความคิดเห็นที่ดีครับนะครับ   ถ้ามีความคืบหน้ายังไงทางเว็ปอาจจะเรียนเชิญคุณพอเพียงร่วมทำกิจกรรมร่วมกันนะครับ

ผมเป็นคนดูครับพี่ดอน ไม่ใช่คนทำหนังกลางแปลง เรื่องเทคนิคต่างๆเกี่ยวกับหนัง ผมไม่มีความรู้ความชำนาญด้านนี้ แต่ผมเป็นคนชอบดูหนังกลางแปลงเป็นชีวิตจิตใจ ตั้งแต่สมัยเป็นเด็กอยู่ที่อุบลนะครับ ชีวิตก็เลยผูกพันธ์กับหนังกลางแปลงมาตลอด ไปจังหวัดต่างๆ มีงานก็แวะดูศึกษาหาความรู้

ตอนนี้ มีญาติทำหนังกลางแปลงครับ อยู่เดชอุดม อุบลฯ กับกันทรารมณ์ ศรีษะเกษ เป็นหน่วยขนาดกลาง ส่วนก่อนหน้านี้ก็มีลุงทำ "วารินภาพยนตร์"ที่อำเภอวาริน อุบลฯ แต่ก็สู้ค่าใช้จ่ายไม่ไหว เลิกไปเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา

ตอนนี้ ผมเป็นบรรณาธิการข่าวอยู่กรุงเทพครับ สมัยก่อนนั่ง บก.ข่าวภูมิภาคอยู่หลายแห่ง เคยเริ่มก่อตั้งวิทยุ "ร่วมด้วยช่วยกัน" จากกรุงเทพ จนกระทั่งกระจายไปเครือข่ายไปตามจังหวัดต่างๆ  ทำให้พอมีพรรคพวกเพื่อนๆ อยู่ตามต่างจังหวัดอยู่พอสมควร

จากประสบการณ์ที่ผ่านมา สมัยเป็นนักข่าภาคสนาม ผมเดินสายทำข่าวทั่วประเทศ ทำให้พอรู้จักพรรคพวกเพื่อนฝูง นักข่าว นักธุรกิจ นักการเมือง ข้าราชการ ในพื้นที่อยู่บ้าง

ส่วนแนวคิด ทำมหกรรมหนังกลางแปลง ผมคิดว่าน่าจะทำได้ เพราะจากประสบการณ์ผมเคยช่วยหน่วยงานอืนๆ ทำกิจกรรมต่างๆ เช่นมหกรรมงานต่างๆ ส่วนมากจะเป็นกิจกรรมทอล์คโชว์ คอนเสริตการกุศล ซี่งส่วนใหญ่ก็พอไปได้

เรื่องหนังกลางแปลง สมมุติว่า จัดงานที่ยโสธร นายกฯสมาคมนักข่าวยโสธรก็เพื่อนกัน สื่อทุกอย่างก็ขึ้นตรงกับสมาคม หากมีการจัดงานจริงที่สวนพระยาแถน ก่อนอื่นเราก็ตั้งคณะกรรมการขึ้นมา จัดแถลงข่าว วานสื่อในท้องถิ่น วิทยุต่างๆ เป็นต้น พรรคพวกกัน ช่วยกระจายข่าวให้

ประสานก้บภาคราชการ ติดต่อ อบต.ทุกอบต.ช่วยสนับสนุน กำนัน ผู้ใหญ่ ช่วยกระจายข่าว ประกาศเสียงตามสายให้ทุกหมู่บ้านได้รับรู้ข่าวสาร ให้ชาวบ้านมาร่วมงาน (เหมือนงานบุญบั้งไฟ) ปั้นกระแสขึ้นมา หาจุดขายของงานครับ

ในงาน เราก็สามารถเชิญนักการเมือง อย่างพี่รณฤทธิชัย พี่สมบูรณ์ หรือพี่ๆๆสส.คนอื่น หอการค้าจังหวัด ภาคธุรกิจมาร่วมสนับสนุนได้ ในงานอาจเชิญรัฐมนตรี หรือผู้ว่าฯ ยโสธร ช่วยเปิดงานให้

ในงาน เพื่อนๆ สมาชิกหนังกลางแปลง ก็ช่วยกันขนหนังมาฉายให้ยิ่งใหญ่ กี่วันกี่คืนก็ว่ากันไป จัดบูทขายของ ขายสินค้า อาหาร ออกร้าน ทางเราก็ขายสินค้าที่ระลึก เช่นเสื้อรักหนังกลางแปลง เป็นต้น เพื่อหารายได้ในการจัดงาน หรือเป็นทุนในการจัดครั้งต่อไป

อันนี้ ผมวางแปลนไว้คร่าวๆ ครับ เหมือนกับงานเทศกาลอาหารที่ทำนแถวภาคใต้ ซึ่งส่วนใหญ่ ผมจะเข้าไปช่วยลักษณะวางแผน ประสานงานให้ แล้วให้คณะกรรมการเขาเป็นแม่งาน จัดกันเอง

สมัยจตุคามดังๆ บางรุ่นคนสร้างรู้จักกัน มาวานให้ช่วยเหลือ ผมก็วานเพื่อนๆ สื่อ เช่นหน้งสือพิมพ์ช่วยทำสกู๊ปข่าว หรือนำภาพปาฏิหาริย์ ช่วยขึ้นหน้า 1 ให้ รุ่นนั้นก็ดังไป เพราะคนรู้จักกันทั่วประเทศ ซึ่งพอดัง คนก็แห่เช่า ทางวัดที่สร้างก็พอมีเงินไปพัฒนาวัดเป็นต้นครับ

เช่นเดียวกับหนังกลางแปลง ผมว่า น่าจะใช้วิธีการนี้ในการประชาสัมพันธ์ได้ เช่นเดียวกันแนวทางการจัดงาน เราก็ยึดแนวทางงานกาชาด หรืองานบั้งไฟ งานเทศกาลต่างๆ เพียงแต่ละลดขนาดให้น้อยลง ซึ่งเพื่อนๆสมาชิกเราทุกคนก็มีศักยภาพอยู่แล้วตรงนี้ ผมเชื่ออย่างนั้น

เมื่อสำเร็จแค่งานเดียว เราก็สามารถยึดเป็นโมเดลแบบอย่าง ในการจัดงานต่อไปได้ ในลักษณะเดียวกัน เช่นจัดที่ อุดรธานี นครราชสีมา ขอนแก่น ร้อยเอ็ด เป็นต้น ในลักษณะเดียวกัน งานจะจัดปีละครั่ง 6 เดือนครั้ง หรือ 3 เดือนครั้ง ก็ว่ากันไป

หรือ หากพร้อมกว่านี้ เราก็สามารถตระเวนไปจัดตามจังหวัด หรืออำเเภอต่างๆ เพื่อปลุกกระแสขึ้นมา บางครั้ง เราอาจร่วมมือกับโรงเรียน สถาบันการศึกษา จัดมหกรรมหนังกลางแปลง ภายในโรงเรียน ซึ่งรายได้ส่วนหนึ่ง เราก็ช่วยสนับสนุนโรงเรียนได้ เพื่อเป็นทุนการศึกษาอาหารกลาง พัฒนาโรงเรียน หรือจ้ดชื้อคอมพิวเตอร์ให้ (เหมือนการจัดมวยโลก ที่ทำกันอยู่ทุกวันนี้)

ส่วนเรื่องที่ผมอยากให้สมาชิกทำหน่วยหนังให้ยิ่งใหญ่ อลังการ ที่ผมเชื่อว่าอยู่ได้ มีคนจ้างแน่นอน เพราะมีจุดขาย  เพราะผมมองไปที่เสียงอิสาน วงหมอลำขนาดใหญ่ ราคา 4 -5 แสน ทำไม คนจึงแห่จ้างทั้งที่แพง คิวต้องจองกันข้ามปีสองปี เพราะเขามีจุดขายครับ

ส่วนเรื่องซีดีมาเร็ว ผมก็ว่ามีส่วนทำให้หนังกลางแปลงลดความนิยมลง แต่คงไม่ทั้งหมด เหมือนสมัยที่อีวีเอส.บูม หมอลำหมู่ หมอลำซิ่ง คนแห่ชื้อกันตรึม ซีดีก็ขายดี ขณะที่วงหมอลำ คนก็แห่จ้าง เพราะเขามองว่า  การขายซีดีก็คือการช่วยประชาสัมพันธ์

 แต่เชื่อไหมคับทุกวันนี้ ซีดีแสดงสดทั้งเสียอิสาน โปงลางสะออน  ยอดขายแป็กหมด ขณะที่งานโชว์กลับยังแน่นครับ แม้จะน้อยลงไปบ้างจากเมื่อ 2-3 ปี ที่ผ่านมา แต่ผมมองว่า เป็นปัญหาปัจจัยภายนอกมากว่า เช่นเรื่องสถานการณ์การเมือง ปัญหาเศรษฐกิจ เป็นต้น

ต้องพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสครับ ผมเชื่อว่า หนังกลางแปลงจะกลับมา ลุกทุ่งยังกลับมาได้เลยครับ และกลับมาอย่างสมศักดิ์ศรี ยิ่งใหญ่กว่าเพลงสตริงเสียอีก แล้วทำไม หนังกลางแปลงจะมาดังไม่ได้

ขอบคุณมากครับพี่ดอน ที่ให้เกียรติผม

อ้อ..ที่ผมเข้าเวปกลางคืน เพราะผมนั่งควบคุมข่าวภาคดึกครับ หลังจบข่าว ก็พอมีเวลาบ้างครับ

แจ่มครับพี่พอเพียง  อย่างนี้แล้วโอกาสที่หนังกลางแปลงจะกลับมาได้รับความนิยมก็คงจะรอไม่นานจนเกินไป หรืออย่างน้อยก็ยังอยู่กับคนไทยต่อๆไปนะครับ 

ผมนั่งอ่านไปนึกภาพไป เกี่ยวกับโครงการหนังกลางแปลงที่อาจจะเกิดขึ้น ยิ่งใหญ่มากๆเลยครับ ถ้ามีคนหลายๆวงการให้ความสนใจหนังกลางแปลงสิ่งที่เราคิดเอาไว้คงเกิดได้เร็ววัน 

ปล. พี่พอเพียงอย่าเรียกผมว่าพี่ดอนเลยครับ ข้าน้อยเพิ่งจะสามสิบอ่ะครับ และขออณุญาติคุณพอเพียงคัดลอกความคิดเห็นด้านบนไปไว้ในหัวข้อ ทำอย่างใดหนังกลางแปลงกลับมาโด่งดังเหมือนอดีต นะครับ

ผมรักหนังจริงๆนะ ..อิอิอิ   รองเท้าก็รองเท้าบู๊ทหนัง อิอิ   กางเกงก็กางเกงหนัง  แหะๆ  เข็มขัดก้อหนัง อิอิ  เสื้อก็เสื้อหนังครับ 55555555  คลายเครียด ก๊ะการเมืองหน่อยครับ อิอิอิ

การเมืองก้อยังงี้ละครับ ผมว่า สนุกดี ได้ความรู้อีกด้วย ในหลายๆๆ เรื่อง เช่นข้อกฏหมายต่างๆ ที่แต่ละฝ่ายนำมาสู้กัน แนวทางการต่อสู้ กลยุทธต่างๆ ตลอดจนการพลิกเกมสู้และแต่ละฝ่าย ดูแล้วก็เหมือนในหนังกับ แต่เป็นหนังที่ทั้งบู๊ บุ๋น ดู เด็ด เผ็ด มันส์ ท้ายสุด ก็ยาวยืดเยื้อ เหมือนหนังชีวิตครับ

ผมว่า ระบบเสียงก็มีส่วนสำคัญ เพราะระหว่างหนังกลางแปลงกับหนังในโรงภาพยนตร์ ระบบเสียงจะแตกต่างกันมาก ซี่งหากหนังกลางแปลงมีพัฒนาการ นำระบบในโรงมาใช้บ้าง ก็เชื่อว่าน่าจะมีส่วนกระตุ้นทำให้หนังกลางแปลง กลับมาได้รับความนิยมเร็วขึ้น

เพิ่มเติมครับ

ระบบเสียงในโรงภาพยนตร์

ทราบจากเวปไซต์ http://lovecinema.pantown.com/ มาว่า จะมีการจัดงานมหกรรมหนังกลางแปลงครั้งที่ 1 ขึ้น เพื่อย้อนอดีตหนังกลางแปลง โดยเป็นการประชันกันของ 10 หนังจอยักษ์ กับ 10 บริษัทเครื่องเสียง ระหว่างวันที่ 1-2 พฤศจิกายน นี้ จัดโดยกลุ่มคนรักหนังกลางแปลง

ไม่รู้ว่า งานนี้ เกี่ยวข้องหรือมีการประสานงาน มายังทีมงานของพวกเราหรือเปล่าครับ หรือเป็นการจัดของอีกกลุ่มครับ

หากเป็นการจัดของอีกกลุ่ม ก็น่าเสียดายนะครับ ที่พวกเราถูกชิงลงมือไปก่อน แต่หากมองในแง่ดีก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากๆ ที่หลายๆๆ ฝ่าย หันมาให้ความสำคัญกับหนังกลางแปลงมากขึ้น และร่วมกันที่จะปลุกกระแสให้หนังกลางแปลงกลับคืนมา

แต่หากมีการร่วมมือกันจัดขึ้น เชื่อว่า งานอาจจะยิ่งใหญ่กว่านี้ พอดีผมไม่รู้ข้อมูลลึกๆ ในเรื่องนี้ เลยสงสัยครับ

ตอบคุณพอเพียงครับเป็นคนละกลุ่มครับแต่มีอะไรก็พูดคุยกันอยู่ครับเพราะมีบางท่านก็เป็นสมาชิกถาวรของเราอยู่ครับ ผมเคยคิดจะจัดมหกรรมหนังกลางแปลงขึ้นมาแต่จะไม่เป็นรูปแบบประชันเครื่องเสียงขายของนะครับเพราะรูปแบบของผมคิดเอาไว้หมดแล้วแต่ขอปิดไว้ก่อนครับเพราะใจอยากจะทำอะไรๆให้แปลกกว่าชาวบ้านสักหน่อยตามสไตล์ของผมครับและเมื่อใกล้เวลานั้นผมคงต้องโทรมารบกวนปรึกษาคุณพอเพียงและสมาชิกในเวปเราอีกหลายท่านเพื่อมาช่วยกันทำงานชิ้นนี้ด้วยครับ งานนี้ผมอยากให้สมาชิกในเวปเราทุกท่านร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมหนังกลางแปลง ครั้งที่ 1 ของเวปเราด้วยครับแต่คงเป็นปีหน้าครับเพราะปีนี้ผมได้จัดงานมิตร ชัยบัญชาไปแล้วครับ ความคิดทำหนังกลางแปลง 10 จอผมคิดมานานแล้วครับแต่ต้องรอจังหวะให้เหมาะสมก่อนครับและผมเป็นคนที่ชอบคิดชอบทำอะไรให้แปลกแตกต่างออกไปจากที่เคยมีมาคุณพอเพียงคงจำสไตล์ฉายหนังที่สนามหลวงได้นะครับที่มีจอหนังไม่ใหญ่มากนักแต่เครื่องเสียงมโหฬารคือเน้นขายเครื่องเสียงดังๆเป็นหลักถึงฟังไม่รู้เรื่องก็ไม่เป็นไรขอให้ดังไว้ก่อน ซึ่งไม่ใช่รูปแบบเดิมที่เวปเราจะทำแน่นอนครับผมรับประกันได้เดี๋ยวเอาไว้เดือนหน้าถ้าผมได้ลงไปกรุงเทพก็คงจะได้นัดคุณพอเพียงมานั่งพูดถึงโปรเจ็คนี้กันครับ ชื่องานนี้ผมได้ตั้งเอาไว้นานแล้วครับว่า เดอะโปรเจ็คเตอร์เฟสติวัลล์ มหกรรมหนังกลางแปลง ครั้งที่ 1 รับรองงานนี้มีหลายรสชาติแน่นอนครับและคงไม่มีเพียงแต่ฉายหนังอย่างเดียวเท่านั้นจะต้องมีอย่างอื่นแน่นอนครับ