สิงห์ทอง- ศรีวรรณ” ศิลปินนักพากย์ “
พี่สาวกับน้อง เติบโตอยู่ห้องพากย์ตั้งแต่เล็กๆ
ตอนชีวิตนี้ ฟ้าเป็นผู้ลิขิตเส้นทาง
เสนอโดยพีเพิลซีนเว็บคนรักหนัง ร่วมกับศิลปวัฒนธรรมและบันเทิง นสพ.มติตรัง
เขียนบันทึกนี้ปี2019 เล่าถึงนักพากย์ระดับชั้นยอดในอดีต ท่านเคยให้ความสุขกับประชาชนเมี่อประมาณสี่สิบกว่าปีมาแล้วพอมาถึง ปี2542 สิ่งเหล่านี้สูญหายใปในความทรงจำโรงหนังและนักพากย์ถึงกาลอวสาน ล่มสลายในพริบตาจากความก้าวหน้ายุคไฮเทคยุคดิจิตัล และโซเชียนมีเดีย
คนที่มีอาชีพพากย์หนัง ต้องตกงานนับหมื่น ในที่สุดวิถึชีวิตคนโรงหนังสแตนอโลน ประมาณแสนทั่วประเทศหมดอาชีพ โรงหนังฉายระบบฟิลม์ต้องปิดตัว ด้วยเหตุหลายประการ
ทำให้คนทำงานหนัง มีบุ๊กเกอร์..เช็กเกอร์ งานออฟฟิต คนฉายหนัง ขายตั๋ว นักพากย์ผู้บริหารโรงหนังต้องหางานใหม่ ปลงอย่ายึดติด คำพระสอน ทุกสิ่งต้องเปลี่ยนแปลง
สิงห์ทองเล่าว่า..อาศัยอยู่กับลุงกับป้ามีอาชีพนักพากย์ชื่อ “ทิดทอง วัลรัช “อยู่ที่จ.นนทบุรีไปพากย์ทั่วประเทศสุดท้ายย้ายไปอยู่ทางใต้ที่ ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช
ประมาณปี 2497ลุงป้าไปทำธุระกิจหนังที่ใต้พาไปเรียนหนังสือที่ทุ่งสง เวลาลุงป้าไปพากย์หนังตามหัวเมืองสองหนูน้อย ก็ติดห้อยตามไปดูป้าพากย์ประจำ จึงซึมซับเข้าในสายเลือด
ด้วยความรักหนัง ผมหนีโรงเรียนเตร่อยู่แถวหน้าโรงหนังทุ่งสงภาพยนตร์ เป็นประจำชอบดารา บ้าหนังไม่อยากเรียน ลุงกับป้าก็สังเกตอยู่ เจ้าหนูน้อยคงไม่อยากเรียนแน่ ลุงนำไปฝากงานคุณยุคุณ เป็นผู้จัดการโรงหนังทุ่งสงภาพยนตร์ โชคดีท่านรับยุคต้นปี2502
ผมจึงได้ทำงานโรงหนังด้วยความสุขมีเงินเดือนด้วย มีหน้าที่ล้างป้ายโฆษณา เขียนป้าย หัดฉายหนัง เปิดเพลง พูดโฆษณาบนรถแห่หนัง มีโอกาสฟังนักพากย์รุ่นอาจาร์เก่งๆที่เป็นศิษย์บรมครูทิดเขียว เช่น บุศราพันธ์ มานิดา ชัยเจริญ ดวงพัตรา
จนมาถึงยุคกลางมีนักพากย์ดังๆ เช่น...เทพปฎิพร กมลพันธ์..พงศ์ทิพย์... เทพอาภรณ์
ท่านเหล่านี้เป็นแบบอย่างการพากย์ของผม สิงห์ทองเล่าต่อว่าผมชื่อโตจึงตั้งชื่อการพากย์ว่า สิงห์ทอง มีโอกาสพากย์ครั้งแรกกับหนังเจ็ดวันฉายตามโรงเล็กๆ เช่น ทุ่งสง กันตัง ห้วยยอด นาบอน จันดี นาสาร พอครบเจ็ดวันก็ส่งหนังคืน ผมพากย์เรื่องแรกในชึวิตคือเรื่อง..สิงห์สาวเจ้าถิ่น ตอนพากย์
ใหม่ๆผู้ถูกคนดูโห่เพราะซ้อมน้อยประหม่ากลัวๆ จนพยายามต่อไปไม่ถ้อ และวันหนึ่งก็ได้ก็ดังจนได้ เสี่ยเม้งแห่งพงษ์ฮวดฟิมล์ ขอให้ไปพากย์หนังจีนเรื่อง .. “จอมดาบทุลุฟ้า
” แจ้งเกิดผมดังทะลุฟ้าเลยครับ คนดูแน่นมาก จากนั้นผมเป็นที่ต้องการของสายหนัง ปี2520-2525ผมผูกขาดหนังจีน ชีวิตผมเคยได้รางวัล นักพากย์ดีเด่น ของสมาคมนักพากย์ภาคใต้ ทุกวันนี้ผมภูมิใจที่ได้เกิดมานักหากย์เป็นศิลปินในเงามืด และโชดดีได้รับเลือกให้เป็น” นายกสมาคมนักพากย์ภาคใต้ “
ส่วนพี่ศรีวรรณ บอกว่าดิฉันไม่อยากเป็นนักพากย์ เคยถามน้องชายว่าโต เป็นผู้ใหญ่เธออยากเป็นอะไร? โตบอกว่าอยากเป็นนักพากย์ครับ เหมือนลุง เราสองคนพี่น้องไปอยู่ใต้กับลุงกับป้า ท่านไปเปิดจัดตั้งบริการจำหน่ายหนังที่นครฯ จากจุดนี้เอง ดิฉันจึงต้องกลายเป็นนักพากย์จนได้
วันหนึ่งนักพากย์หญิงทำงานบริการจำหน่ายหนังป๋วย ไม่สามารถไปพากย์หนังตามบุ๊กได้ ความเสียหายกับโรงหนัง ลุงตระเวณหานักพากย์ไม่ได้ ในที่สุดลุงก็มาถามดิฉัน เฮ้ยผา..”ช่วยไปพากย์แทนทีวะ” ดิฉันส่ายหน้าบอกไม่กล้า คืนนี้ไม่มีนักพากย์ลุงอ้อนวอน ในที่สุดดิฉันยอมพากย์ครั้งแรกในชีวิต เพื่อลุง ฉันพากย์ถูไถไปจนได้สั่นไปหมดแต่พากย์จนจบ ลุงกับป้าโยนเรื่องที่สองมาอีกท่านเข็นให้เป็นนักพากย์จนได้เคยฝันจะเป็นช่างเย็บผ้าต้องยกเลิกหมด
ดิฉันกลายมาเป็นนักพากย์เต็มตัว การเดินทางสมัยนั้นทุลักทุเล เดินทางรถยนตร์กระโดกกระเดกทางไม่ฝุ่นมากทางถนนแดงบางครั้งต้องนั่งเรือออกทะเลไปตามเกาะต่างๆ เคยไปพากย์ที่สตูลแถวนั้นมุสลิมอาหารการกินลำบากกินแต่ไข่ทุกวัน หนังเร่เรื่องหนึ่งใช้เวลาประมาณ ยี่สิบวันเร่หนังอยู่เป็นปี จนลุงย้ายมาอยู่หาดใหญ่
ได้พากย์หนังฝรั่งทำให้พี่สาวกับน้องชายโตแจ้งเกิด ไปพากย์แทน “เทพอาภรณ์” เรื่อง””ดอกรักดอกเลือด” ผลงานการพากย์ “สิงห์ทอง ศรีวรรณ” เป็นที่ประทับใจ แฟนหนังล้นเต็มโรงหนังต้องเสริม
“สิงห์ทอง ศรีวรรณ” สองพี่น้องคู่กันจนเป็นอาชีพสร้างรายได้เพราะแฟนหนังต้องการ จนวันหนึ่งอาจารย์ชัยเจริญได้ติดต่อดิฉันให้ไปพากย์คู่กับท่านใช้ชื่ออ.ชัยเจริญคนเดียวก่อนชื่อป้ายใหญ่กว่าชื่อหนังอ,ชัยเจริญท่านสุดยอดของภาคใต้
เวลาต่อมาใส่ชื่อว่า “ชัยเจริญ ศรีวรรณ” ท่านแนะนำสั่งสอนมาตลอดดิฉันพากย์กับท่านประมาณสิบปี เรื่องที่ประทับใจได้พากย์กับท่านคือภาพยนต์เรื่องELSID เอลซิคหนังใหญ่ระบบ70มม.ดาราชาร์ลตัล เอสตัล- โซเฟีย รอเลน จนกระทั่งท่านอ.ชัยเจริญเลิกพากย์ ไปทำธุกิจโรงหนังหลายโรง
ดิฉันจึงมาพากย์คู่น้องชายอีกครั้งในนาม “สิงห์โต ศรีวรรณ “อ.ชัยเจริญก็สนับสนุนให้มาพากย์โรงหนังของท่านจนต้องเลิกอาชีพพากย์ ไปตามกาลเวลาดิฉันได้แต่งงานกับนักพากย์คือคุณพรสิน สีบุญเรือง ทายาทคนสุดท้ายของบรมครูทิดเขียว และได้เป็นสะใภ้ สีบุญเรือง ดิฉันภูมิใจเป็นที่สุด
ขอบพระคุณผู้ให้ข้อมูล พี่โต๊ะหน.ทีมพากย์พันธมิตร พี่สายสุดา พึ่งสุจริต พี่ศรีวรรณ สีบุญเรือง อ.ชัยเจริญ ดวงพัตรา
(วิวัย จิตต์แจ้ง เขียนเรียบเรียงใหม่ )
![]() | |
![]() |
ความเห็น |