เมื่อวันที่ 5 พ.ค. ที่วัดหนองกลับ อ. หนองบัว จ. นครสวรรค์ (บ้านผมเอง) ได้จัดงาน "พิธีฉลองรางวัล พุทธคุณูปนาการ กาญจนเกียรติคุณ" ให้กับเจ้าอาวาสวัดหนองกลับ ซึ่งในงานนี้ อ. สุกิต เขียวพฤกษ์ หรือชื่อ "โกโบริ" ได้นำภาพยนตร์ 16 ม.ม. มาฉาย โดยก่อนหน้านี้ ผมเพิ่งทราบจากการพูดคุยทางโทรศัพท์เมื่อ 2 - 3 วันที่ผ่านมา ขณะเดียวกันก็เลยถือโอกาสได้นำฟิล์ม 16 ม.ม. จากชั้นล่างของพิพิธภัณฑ์ในวัดนี้ ซึ่งผมได้ขออนุญาตท่านเจ้าอาวาสเพื่อนำออกมาซ่อมแซม พร้อมกับหนังข่าวการแข่งขันชกมวย ฟิล์มขาวดำ ซาวด์แม่เหล็ก กับหนัง 16 ม.ม. ที่เป็นหนังเรื่องซึ่งอยู่ในกระเป๋า และปล่อยทิ้งให้โดนแดดโดนฝนมานาน แต่ในที่สุดฟิล์ม 2 เรื่องที่ว่าก็ต้องเป็นอันล้มเลิก เพราะสภาพฟิล์มเสียหายมากจนเกินเยียวยา เลยต้องไปซ่อมแซมฟิล์ม 16 ม.ม. ขาว-ดำ ซึ่งเป็นหนังข่าวอีกเรื่องที่นำมาด้วยกัน แต่สภาพฟิล์มยังดีหน่อย ดูจากตัวฟิล์มอย่างคร่าวๆ เป็นพิธีเปิดสถานที่แห่งหนึ่ง โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และด้วยในงานนี้ก็เลยรีบซ่อมแซมฟิล์มอย่างเร่งรีบ เพราะวันเวลามีจำกัดครับ

หลังจากฝนที่ตกเมื่อตอน 15.30 น. ได้ขาดเม็ดแล้ว เวลา 17.00 น. ผมก็รีบออกเดินทางไปที่วัดหนองกลับ เมื่อไปถึงแล้ว อ. สุกิต และชาวคณะได้ติดตั้งอุปกรณ์ฉายภาพยนตร์ไว้เรียบร้อยแล้ว หลังจากทักทายและพูดคุยกันเล็กๆ น้อยๆ ก็ได้เวลารับประทานอาหารเย็น ก่อนที่จะฉายหนังเพื่ออุ่นเครื่องกันก่อน

สำหรับฟิล์ม 16 ม.ม. ที่ฉายนี้ เป็นหนังข่าวการแข่งขันกรีฑาในร่ม ซึ่งเคยเอาไปฉายในสตูดิโอ "ทีมข่าวไทยซีน" กับในงาน MOVIE ON THE BEACH เมื่อปีที่แล้ว ในคืนที่ฉายภาพยนตร์เรื่อง "อัศวินดาบกายสิทธิ์" นั่นแหละครับ

ฟิล์มภาพยนตร์ข่าวชุดนี้ เป็นฟิล์มที่ติดมากับภาพยนตร์ไทย 16 ม.ม. เรื่อง "ดรรชนีนาง" ซึ่งหนังไทยเรื่องนี้ ในกรุงเทพฯ เข้าฉายเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2504 และกว่าจะมาถึงโรงภาพยนตร์ "ศรีปทุม" ซึ่งเป็นโรงหนังแห่งแรกใน อ. หนองบัว ก็ผ่านการฉายมาอย่างหนักจนทำให้หนามเตยด้านที่ใช้ฉายตามปกติเกิดความเสียหาย จนเป็นฟันเลื่อย ดังนั้นเวลาฉายจึงต้องพลิกหนามเตยอีกด้านหนึ่งมาฉายแทน แต่ภาพจะกลับข้างกัน

ที่สำคัญ หนังไทยเรื่องนี้เป็นโปรแกรมสุดท้ายที่เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ "ศรีปทุม" ก่อนเลิกกิจการ (โชคดีที่ยังมีชาวบ้านคนหนึ่ง ที่ยังทันและได้เห็นช่วงที่โรงหนัง "ศรีปทุม" ได้เปิดบริการในวันแรก ด้วยโปรแกรมเรื่อง "น้อยใจยา" ที่นำแสดงโดย ไชยา สุริยัน และก็มีอาจารย์สอนคณิตศาสตร์ โรงเรียนมัธยมท่านหนึ่ง ก็บอกว่า เคยได้เข้าไปชมหนังไทย 16 ม.ม. เรื่อง "ตุ๊กแกผี" ด้วย ซึ่งหนังเรื่องหลังนี้ ในกรุงเทพฯ ทำรายได้ไม่ค่อยดีนัก) ต่อมาฟิล์มภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ถูกเก็บไว้ในร้านขายยา "ปานขลิบโอสถ" ซึ่งเจ้าของโรงหนังก็เปิดร้านขายยาด้วย (ต่อมาเจ้าของโรงภาพยนตร์ก็บวชพระ กระทั่งดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาส จนกระทั่งมรณภาพ) ผมไปเจอฟิล์มภาพยนตร์เรื่องนี้ และยังอยู่ในระหว่างการซ่อมแซม เพราะงานนี้ต้องใช้เวลานานทีเดียว

นอกจากหนังข่าวเรื่องนี้ที่มากับฟิล์มเรื่อง "ดรรชนีนาง" แล้ว ยังมีหนังสารคดี ขององค์การสหประชาชาติ หรือ UN อีกหนึ่งเรื่อง เป็นหนังขาวดำเหมือนกัน น่าเสียดายที่ฟิล์มเรื่องนี้เสียหายทั้งหมด แต่ที่แปลกใจก็คือ ฟิล์มหนังข่าวแข่งกรีฑากลับไม่เป็นอะไรเลย

จากนั้นต่อด้วยภาพยนตร์ข่าวที่เพิ่งจะซ่อมแซมเสร็จหมาดๆ

ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นพิธีเปิดศาลเด็กและเยาวชนกลาง โดยมี ฯพณฯ จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ฟิล์มชุดนี้ถือเป็นภาพประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญ และอยู่ในสภาพเกือบสมบูรณ์ ที่สำคัญอายุอานามของปีที่ได้ถ่ายทำภาพยนตร์ข่าวเรื่องนี้ คือปี พ.ศ. 2495 ครับ

เมื่อภาพยนตร์ข่าวจบแล้ว ก็มีอาจารย์ซึ่งเป็นผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นเข้ามาพูดคุยและถ่ายภาพไว้เพื่อลงหนังสือพิมพ์ต่อไป

การอุ่นเครื่องก่อนฉายจริง ยังไม่จบครับ เพราะยังมีหนังอีกหนึ่งเรื่องที่เตรียมไว้ เป็นภาพยนตร์เรื่องขนาดสั้น สร้างโดย "กรมเสนาธิการทหารบก" ในเรื่อง "ชาติเหนือชีวิต" นำแสดงโดย อนุสรณ์ เตชะปัญญา, ธิติมา สังขพิทักษ์ ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ แต่เป็นการฉายผ่านหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกรมทหารครับ

- มารอชมต่อไปครับกำลังเพลินเลย..ขออีกครับ..คุณอนุกูล..ขอบคุณครับ

ประมาณเกือบ 1 ทุ่ม คราวนี้เริ่มฉายกันจริงๆ เริ่มด้วยภาพยนตร์ข่าว "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ ภาคใต้ พ.ศ. 2502" เป็นภาพยนตร์ขาวดำ เสียงในฟิล์ม ซึ่งเป็นฉบับสรุปอย่างย่อๆ (หมายถึง ตัดตอนเฉพาะช่วงสำคัญๆ เพราะเมื่อสมัยก่อนจะเป็นหนังขนาดยาวเพื่อฉายในโรงภาพยนตร์ ซึ่งเท่าที่ทราบจะมีอยู่ 2 แห่งที่ได้ฉายภาพยนตร์พระราชกรณียกิจขนาดยาว คือที่ศาลาเฉลิมกรุง และศาลาเฉลิมไทย)

เชื่อว่าสมาชิกคงเคยได้ชม จากสารคดีในรายการโทรทัศน์ก่อนหรือหลังข่าวในพระราชสำนักมาแล้ว

ต่อจากนั้นเป็นภาพยนตร์สารคดี "สมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี" เป็นฟิล์มสี 16 ม.ม. ย่อจากฉบับ 35 ม.ม. (เคยเห็นฟิล์มชุดนี้ในฉบับ 35 ม.ม. ความยาว 2 ม้วน เหมือนกันทุกเฟรม แต่เสียหายทั้งหมด)

เสียงบรรยายสารคดีชุดนี้คือ คุณอำรุง เกาไศยนันท์ ผู้ล่วงลับ

เรื่องที่ 3 เป็นภาพยนตร์นิรนาม กล่าวคือ ไม่มีชื่อเรื่อง ไม่มีคำโปรยใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งเนื้อหาในภาพยนตร์เรื่องนี้ กล่าวถึงประวัตินายแพทย์ชาวต่างชาติท่านหนึ่งที่อยู่ในประเทศสยาม ตั้งแต่ปลายรัชกาลที่ 4 จนถึงช่วงต้นรัชกาลที่ 6

ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์เสียงในฟิล์ม แบบโมโน 2 แทรค ซึ่งแจ่มมาก ที่สำคัญไม่ทราบที่มาที่ไปของการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ ไม่มีรายละเอียดของผู้แสดง แต่ดูจากคร่าวๆ เกี่ยวกับการนำเสนอแล้ว เป็นลักษณะกึ่งสารคดี สำหรับสภาพฟิล์มออกเหลืองตลอดม้วน แต่ตอนถ่ายภาพด้วยกล้อง KODAK C143 กลับตัดสีเหลืองออกไปจนใสแจ๋ว (งง..วุ้ย)

ฉายหนัง 16 ม.ม. เสียงในฟิล์มมา 3 เรื่องแล้ว เปลี่ยนบรรยากาศเป็นฟิล์ม 16 ม.ม. ไม่มีเสียงบ้าง

ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นรวมบันทึกกิจกรรมต่างๆ ของธนาคารศรีนคร ซึ่งถ่ายไว้ช่วงปี พ.ศ. 2522 - พ.ศ. 2524 ซึ่งเคยเอาไปฉายบนห้อง "ทีมข่าวไทยซีน" มาแล้วครั้งหนึ่ง

ต่อจากนั้น เป็นภาพยนตร์เรื่องขนาดสั้น ม้วนเดียวจบ ผลงานของ รศ. สุพัตรา สุภาพ ในเรื่อง "เล่นกับไฟ" ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับผลกระทบของยาเสพย์ติด (อารมณ์ประมาณหนังไทยเรื่อง "น้ำพุ")

ภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็ไม่ได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์เช่นกัน แต่ออกฉายตามหน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุขเพื่อเผยแพร่ความรู้แก่ประชาชน

โปรแกรมสุดท้ายของการฉายหนัง 16 ม.ม. เป็นภาพยนตร์เก่าของทีมผู้สร้าง THE LAFF - A - BITS เรื่อง THE BIG AUTO RACE เป็นหนังเกี่ยวกับการแข่งรถแบบอลเวงและฮาสุดๆ (อารมณ์ประมาณชาร์ลี แชปปลิน) มาพร้อมกับเทคนิคการถ่ายทำอย่างน่าอัศจรรย์ เป็นหนังขนาดสั้นความยาว 5 นาทีครับ

ปัจจุบันก็มีดีวีดีรวมหนังสั้นของทีมงานนี้ แต่จะมีขายในบ้านเราหรือไม่ต้องสืบค้นหากันเองครับ

ก็จบแล้วครับสำหรับภาพกิจกรรมการฉายภาพยนตร์ 16 ม.ม. ในครั้งนี้ ซึ่งเสียงตอบรับในวันต่อมาก็ได้บอกผ่านผมเนื่องจากได้เห็นตอนที่ผมยืนถ่ายภาพเพื่อมานำเสนอในเว็บนี้ ต่างก็ชื่นชมและประทับใจในตัวหนังที่ไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้ชมอีก บางเรื่องก็ไม่เคยชมมาก่อน ซึ่งโอกาสหน้าทางศูนย์อนุรักษ์ ฯ โดย อ. สุกิต และชาวคณะ รวมทั้งตัวผมเองในนาม "ครูนุ ภาพยนตร์สถาน" (KRU NU CINEMATHEQUE) ก็จะนำภาพยนตร์ 16 ม.ม. กลับมาฉายอีก ที่คอนเฟิร์มแน่นอนก็คือ ช่วงวันที่ 5 - 6 มกราคม ซึ่งเป็นวันเกิดของท่านเจ้าอาวาส และในงานประจำปีวัดหลวงพ่อเดิม ระหว่างวันที่ 17 - 21 กุมภาพันธ์ของทุกปี ก็ต้องติดตามกันต่อไปครับ

ต้องขออภัยไปยังสมาชิกทุกท่านที่กำลังรอชมกระทู้นี้อย่างใจจดใจจ่อ แต่เนื่องจากวันนี้ต้องทยอยนำเสนอเป็นบางช่วงเวลา เพราะฟ้าฝนไม่เป็นใจ กำลังจะโพสต์ขึ้นเว็บก็ต้องเลิกการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตเสียก่อน และต้องถอดปลั๊กไฟ รวมทั้งสายโทรศัพท์ที่ใช้ต่ออินเตอร์เน็ตด้วย เพราะถ้าเกิดฟ้าผ่าลงมา อันตรายมาก ทั้งคนทั้งคอม

อีกอย่างหนึ่ง กลางสัปดาห์หน้าผมจะออกนอกบ้านไปต่างจังหวัดอีกแล้วครับ ก็เลยต้องรีบนำเสนอให้แล้วเสร็จ เพราะจะกลับมาอีกทีก็หลังวันที่ 15 พ.ค. แต่ก็ยังสามารถติดตามความเคลื่อนไหวเว็บไซต์ตามร้านเน็ตเมื่อมีโอกาสครับ

ดีใจครับที่  "ชมรมคนรักหนัง16มม."  โดยอ.สุกิตเป็นประธาน  ได้นำเสนอผลงานและนำฟีล์มเก่าที่มีคุณค่านำเสนอให้เพื่อนสมาชิกได้ชม.....เรา."คนรักหนัง16มม."คงมีโอกาศได้ชมภาพยนตร์ดีๆ ที่ อ.สุกิตนำเสนออีกนะครับ