ตามรอยอาชีพนักพากษ์ คุณสายสุดา

เดือนตุลาคม 2560 ผมฐานะสื่อมวลชน มีโอกาสสัมภาษณ์ นักพากษ์หญิงชื่อดังชื่อคุณสายสุดา พึ่งสุจริต เคยพากษ์คู่กับอรุณชัย- สายสุดา โดยเฉพาะสายใต้ ที่แฟนหนังติดกันมากเมื่อ 30 ปีก่อน ได้นัดพบ

กับพี่ดาที่เดอะมอลล์บางกะปิ เพราะทราบมาว่าพี่ดา สนิทและเป็นลูกศิษย์ของอ.ชัยเจริญ ดวงพัตรา อาจารย์นักพากษ์ชื่อดัง เบอร์ 1 ภาคใต้ ถึงว่าคุณสายสุดาต่อมา ได้เคยไปพากษ์กับคณะทึมเสียงเอกกับคุณศิริพร วงศ์สวัสดิ์ และรอง เค้ามูลคดี มาแล้วด้วย ผู้หญิงท่านนี้มีอะไรดี แน่นอน

จึงทําให้ผมผู้เขียน ต้องติดต่อเธอให้ได้สืบจนพบ คุณสายสุดาในวัย สูงอายุท่านก็ยังสวยดูภูมิฐาน พูดจาคมคาย เสียงไพเราะ และเป็นกันเองมากพูดจาเรียบร้อยน่าฟัง

ผมใชัเวลาคุยกันนาน สิ่งที่เธอเล่าน่าสนใจมาก และเป็นประโยชน์ของอาชีพพากษ์หนัง เป็นบุคคลพิเศษ ที่สามารถ ทําให้คุณดูยิ้ม หัวเราะ หรือร้องไห้ได้ คุณดา ลองเล่าประวัติให้ฟังหน่อยซิครับว่าเป็นอย่างไร ?

ดิฉันเริ่มพากษ์หนังตั้งแต่ อายุ 18 ปี เพราะพี่สาวเป็นนักพากษ์จึงติดตามพี่สาวไปตลอดนังฟังจดจําวิธีพากษ์จนซึมซับประกอบกับใจรักศิลปะ การพากษ์ตั้งแต่เด็กๆ จนกระทั่งวันหนึ่งพี่สาวไม่สบาย ขอให้ช่วยพากษ์แทน ก็ตกลง แต่กลัวนะค่ะ สั่นไปหมด เลยเป็นหนังไทย เข็นจนจบเรื่อง ดิฉันเริ่มพากษ์หนังเร่ก่อนจากบริษัทหนังหลังเฉลิมกรุงที่จัดจําหน่าย ต้องไปหลายจังหวัด ตั้งแต่ อยุธยาขี้นเหนือเชียงใหม่ เชียงราย ยันเชียงของ ภาคเหนือ ไปพากษ์เรื่อง จําปูน ต่อมาพากษ์หนัง เร่หนังไปใต้ จนถึง

สุไหงปาดี..รือเสาะ..เจาะไอร้อง ยะลา ปัตตานี ตรัง ไปหมด
ดิฉันสู้ชีวิต พากษ์โรงหนังเร่ลําบากมาก สมัย 40 ปีก่อนถนนหนทางไม่ดี บางแห่งกว่าไปถึงโรงหนังก็คํ่ามืด จําได้ว่าเคยไป

พากษ์ที่สมุย สมันนั้นไม่มีเรือเฟอรี่ ต้องไปเรือเล็ก ทําไงได้อาชีพเรา ต้องทําให้ได้ หน่วยเร่ที่ต้องไปพากษ์ เร่ร่อนเหมือนนกขมื้น คํ่าไหนนอนนั้น บางครั้งต้องพากษ์ตามโรงเล็กๆ

ดิฉันไม่เคยท้อแท้ ใจสู้เต็มร้อย ช่วงหลังได้เดินทางไปใต้อีกตอนนี้เริ่มหักพากษ์หนังฝรั่ง ซึ่งยากกว่าหนังไทยมาก

ดิฉันติดตามดูการพากษ์ของ อาจารย์ ชัยเจริญ และประทับใจมากเลยขอฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของท่าน ให้ช่วยสอนและแนะนําเทคนิกการให้เสียง กับการใส่อารมณ์ในต้วละครให้เข้ากันปากต้องตรงตาปากต้องไว ส่วนผู้หญิงเสียงที่เป็นแม่แบบหนังฝรั้งคือ คุณอมรา และคุณศรีวรรณ คุณศรีวรรณเป็นเพื่อนรักกับพี่สาว พี่ทั้งสองสอนแนะนําให้หลายอย่างมาก ถึงหลักการพากษ์

คนดวงมันจะเกิดอะไรก็เกิด โชคดีไปหมด ต่อมาดิฉันได้มาพากษ์หนังประจํา ที่โรงหนังศรีเมือง จังหวัดตรัง ตอนนันประมาณปี 2509 ผู้จัดการเขาให้พากษ์ประจํา เป็นหนังระดับกลางๆ วันหนึ่งมีหนังใหญ่เรื่องดังมาก คือ" เทพบุตรทมิฬ " มาฉายที่โรงหนังศรีเมือง

อ.ชัยเจริญ ศรีวรรณ พากษ์ ดิฉันไปชมทุกวัน ประทับใจการพากษ์ของทั้งสองท่านโดยเฉพาะอาจารย์ชัยเจริญพากษ์สุดยอดมากคนดูก็แน่นทุก 
รอบต้องเสริมเก้าอี้คนดูเยอะมากๆ

พอหนังฉายวันที่สองมีข่าว ว่าคุณศรีวรรณต้องไปพากษ์หนังที่หาดใหญ่ ซึ่งเป็นหนังของอ.ชัยเจริญเช่ามาโดย ศรีวรรณต้องไปพากษ์กับน้องชายของท่านคือ คุณศิริชัย

คราวนี้เป็นไง? จะทําอย่างไร อ,ชัยเจริญ ท่านจะไม่ยอมอัดเทป จะพากษ์สดทุกครั้ง เมื่อท่านยืนยันเช่นนี้ โชคก็ตกมาที่สายสุดาจังๆ อันเป็นผลให้ดิฉันแจ้งเกิดทันที่ หน้าป้ายคัทเอ็า โรงหนังศรีเมือง ขึ้นตัวใหญ่เป็น ชัยเจริญ- สายสุดา

พากษ์ เอาแล้วซิคราวนี้ ดิฉันประหม่า กลัวตัวสั่นเป็นเจ้าเข้า พากษ์กับใครไม่พากษ์ ต้องมาพากษ์กับปรมาจารย์นักพากษ์ อย่างชัยเจริญ เจ้าของโรงหนังมาขอร้องว่าต้องพากษ์ นะเพราะท่านสั่งไว้ว่าต้อง สายสุดา

พอรุ่งขี้นอาจารย์ชัยเจริญ ท่านโทรมาคุย ถามทําไมไม่ยอมรับพากษ์หนังเรื่องนี้ ดิฉันบอกท่านตรงๆ กล้วค่ะกลัวจะพากษ์ได้ไม่ดี อ.ชัยเจริญ หัวเราะ บอกว่ากล้วฉันทําไม?

ฉันไม่ใช่เสือสางที่ไหน และเชือว่า สายสุดา ต้องทําได้
ท่านรีบสั่งเลย พรุ่งนี้ไปนั่งซ้อมหนังในห้อง พากษ์ แล้วมะรือนี้พากษ์รอบเที่ยงกันเลยนะ

พี่ศรีวรรณก็ให้กําลังใจว่า อย่ากล้ว อย่าตื่นเต้น พี่เชื่อว่าเธอทําได้ พระคุณนี้ไม่เคยลืม เพราะอาจารย์ ชัยเจริญท่านให้โอกาส และพี่ศรีวรรณสนับสนุนทําให้เรามีชื่อเสียงในอาชีพนักพากษ์ ในเวลาต่อๆมา

อีกครั้งหนึ่งที่ประทับใจไม่ลืม ได้พากษ์หนังเรื่องตุ๊ดซี่ กับอาจารย์ สองท่าน คือ ชัยเจริญ โต๊ะพันธมิตร สายสุดา พากษ์เรื่องนี้พากษ์ ที่หาดใหญ่ มีคนดูมาก

อีกเรื่องได้พากษ์และชอบมากคือเรี่องดร.ชิวาโก้ พากษ์อ.ชัยเจริญท่านสั่งให้ ไปพากษ์ ที่โรงหนัง นครชัย นครศรีธรรมราช ภาพยนต์เรื่องนี้ดัง นําแสดงโดย โอมา ชารีฟ.. จูลี่ ตริสตี้ ในหนังมีเพลงอมตะ คือซัมแวร์มายเลิฟ ดิฉันภูมิใจที่ได้พากษ์หนังที่มีคุณค่าอย่างนี้มี

เรื่องนี้ และเรื่องๆอีกเช่น "ยุทธการยึดเรือนรก" และหลายเรื่องที่ดิฉันรัก และไม่เคยลืมอาชีพศิลปะแห่งความสร้างสรรค์ในเงามืด คือการพากษ์ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม