เครื่องสำรองไฟมันแค่สำรองไฟเฉย ๆ ครับ
ส่วนเครื่องกรองกระแสไฟนั่นอีกเรื่องครับ (ไม่รู้ว่าเครื่องกรองกระแสไฟมันจะสำรองไฟได้หรือป่าว แต่ผมคิดว่าไม่ได้) เพราะเครื่องกรองกระแสไฟจะกรองกระแสไฟให้คงที่ครับ บ้านเราใช้ไฟ 220 V ถ้าไม่ใช้เครื่องกรองไฟแล้วเราต่อพ่วงเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายเครื่องจะทำให้กระแสไฟไม่คงที่ครับ คือไฟจะตกจาก 220 V อาจเหลือ 190 - 210 V (อันนี้ตามความคิดผมนะครับ ถูกผิดขออภัย) ถ้าใช้เครื่องกรองกระแสไฟ ไฟที่เราใช้ก็จะมีค่าคงที่คือ 220 V ตลอด ก็จะทำให้เครื่องโปรเจ็คเตอร์ เครื่องเสียง ไฟไม่ตก เครื่องกรองกระแสไฟถ้าจะซื้อมาใช้จริง ๆ แนะนำใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านดีกว่าครับ ถ้าจะใช้กับโปรเจ็คเตอร์ฉายกลางแปลง เครื่องเสียงกลางแจ้งแนะนำซื้อหม้อดึงไฟจะดีกว่า
อยากให้ไฟเรียบ แรงดันถึง ก็ต้องมีเครื่องสเตปอัพก่อนครับ ก่อนอื่นแรงดันต้องให้ถึง 230-240Vก่อน -(ไม่ต้องกลัวเครื่องไหม้เคยอัพที่ 250Vแล้วยังใช้ได้)
0.1 เครื่องตัดไฟ
0.2 สายไฟต้องเส้นใหญ่ไว้ก่อนอันดับแรก
1.สเตปอัพ
2.เครื่องกรองไฟชุดเดียวพอ ถ้าอยากให้ดีแจ่มๆก็ต้องมี 2 ชุด
3.UPS เคริ่องสำรองไฟ แน่ะนำให้เล่นรุ่นที่ราคาแพงหน่อย มีดีเลย์ในการเปิดปิดเครื่อง มีระบบป้องกันไฟกระชาก
4.ปลั๊กเสียต้องมีสายดิน ที่สำคัญปลั๊กต้องแน่น
ขอบคุณทุกๆคำตอบครับ งานนี้ต้องควักเงินอีกแย้วครับ ล้วนแต่สิ่งจำเป็นทั้งนั้นเลย แต่อันดับแรกคงใช้เครื่องสำรองไฟก่อน ป้องกันไปดับ ปลั๊กหลุดเพื่อเป็นการเซฟเครื่องฉายโปรเจคเตอร์ของเรา