Mobile Version / สำหรับโทรศัพท์มือถือ ยินดีต้อนรับท่านผู้มาเยือน www.peoplecine.com ท่านยังไม่ได้ log in นะครับ
(ID:13659)
ว่าแล้วไงต้องโดนมานโยนจนได้..ขี้เกียจบ่นว๊อย..มาเข้าเรื่องกันดีกว่า
เริ่มอย่างแรก..LCD TV ?ที่ตอนนี้แทบจะทุกยี่ห้อในเมืองไทยต่างเฮโลกันมาตั้งโรงงานประกอบในไทยกันเกือบหมดทั้งจีน ญี่ปุ่นและเกาหลี แถมตั้งราคาบวกกำไรกันซะจนเวอร์ เพื่อขายเทคโนโลยีและโฆษณากระตุ้นยั่วกิเลสคนซื้อ แต่เนื่องจากตั้งราคาสูงมากจนทำให้คนที่จะซื้อคิดหนัก ทำให้หลายๆยี่ห้อที่ผลิตกันออกมาขาย ตาเหลือกเพราะสต๊อคเหลือบานเบอะ ต้องหนีตายหนีดอกเบี้ย โดยการลดราคาลงมา(อาจขายผ่านทางเซลบ้างในราคาพิเศษ หรือบวกของแถมยั่วลูกค้าตามแต่ละ บริษัทคิดแผนทางการตลาดออกมา) แต่ถึงลดราคายังไงก็ยังถือว่าแพงรากเลือดอยู่ดี เมื่อเทียบกับเศรษฐกิจเมืองไทยที่รุมเร้าไปด้วยปัญหาตอนนี้ ประกอบกับความเจ้าเล่ห์ของเซลหรือ ตัวแทนที่ขาย LCD TV ส่วนใหญ่มักจะบอกข้อมูลลูกค้าไม่หมด เซลบางคนบางทีก็บอกข้อมูลมั่วไปเลยก็มี แถมตัวที่นำมาลด 100% เป็นของตกรุ่น(เพราะมีรุ่นใหม่ออกมาแทนที่แล้ว) บางเจ้าเล่นเอา LCD TV ที่มีปัญหา dead pixel ออกมาขายถูกๆคนซื้อก็ไม่รู้ คนขายก็ไม่ได้บอก งานนี้คนซื้อก็รับกรรมไป
ปัญหาของคนซื้อคือ โดยเฉพาะคนซื้อคนไทยที่ประเพณีนิยมมักไม่ชอบอ่านหรือหาข้อมูล หรือซื้อมาแล้วเป็นสิบปีก็ยังไม่รู้เลยว่าเครื่องที่ซื้อมามีฟังชั่นหรือลูกเล่นอะไรบ้าง เพราะขี้เกียจอ่าน Manual User หรือคู่มือการใช้ ชอบฟังคนขายพรรณาแล้วก็เชื่อไปหมด (ไม่มีคนขายที่ไหนในโลกนี้ที่บอกว่าสินค้าตัวเอง ห่วยหรอกครับ)เำกรงใจคนขายไม่กล้าถามมากอย่างนี้ก็มี ชักบ่นเข้าป่าอีกแล้วซิมาเข้าเรื่องกันดีกว่า
อย่างแรก คุณ KAE ต้องถามตัวเองก่อนว่าเงินเก้าหมื่นที่จะลงทุนไปซื้อหามาดูเนี่ย คุณจะเอาไปทำอะไรได้บ้าง ใช้งานมันคุ้มค่าขนาดไหน คิดในแง่เศรษฐศาสตร์แล้วคุ้ม มากกว่าที่จะไปซื้อมาแล้วไม่ได้ใช้ หรือนานๆใช้ อย่างเช่นเครื่องออกกำลังกายราคาสี่ซ้าห้าหมื่นบาทที่ประกาศขายกันในทีวีหรือตามห้าง ผมเห็นเพื่อนๆหลายๆคนซื้อมาเพื่อดับกิเลสความอยาก พอซื้อมาแล้วตอนนี้กลายเป็นที่ตากผ้าบ้าง ถูกเก็บไว้เฉยๆไม่ได้ใช้จนพอจะลองเอามาใช้ก็ปรากฏว่าเสีย อย่างนี้ก็มี หรือ มีบางคนแถวๆสันป่าตองบ้ามอเตอร์ไซด์ฮาเล่ย์มากๆอุตส่าห์ไปซื้อหามา(เก็บ)ตั้งสี่ห้าคัน ราคาก็ไม่ใช่ถูกๆคันละเป็นแสนขึ้น แล้วไม่ได้ใช้งานให้เกิดความคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปจนบัดนี้ สงสัยคงเตรียมจะตั้งพิพิธภัณฑ์มั้ง 55 คงพอจะเข้าใจความหมายที่ผมบอกนะครับว่า หากจะซื้ออะไรมาของที่ซื้อมาเราต้องใช้ได้อย่างคุ้มค่าและมีความสุขเมื่อเทียบกับเงินที่จ่ายไป อันนี้คือแนวคิดขั้นแรกที่อยากจะให้ทุกคนมีและอยากจะให้นำไปใช้
อย่างที่สอง วัคถุประสงค์ของการที่จะซื้อหามาใช้ ถ้าจะไว้ดูทีวีบ้างดูหนังบ้าง เล่นเกมส์บ้าง อวดแขกบ้านแขกเรือนบ้าง เป็นบางคราว แนะนำให้ซื้อ TV จะดีกว่า แต่ถ้าต้องการจะดูหนังอย่างเดียว หรือมีห้องสำหรับดูหนังโดยเฉพาะเพื่อให้ได้อารมณ์แบบโรงภาพยนตร์ อันนี้ผมแนะนำให้ซื้อโปรเจ็คเตอร์จะดีที่สุด
กรณีจะซื้อ TVข้อดีคือ ไม่ต้องพิถีพิถันมากในการใช้งาน เอาไปตั้งดูตรงไหนก็ได้ทั้งห้องที่สว่างและมืด แค่เสียบปลั๊กและอุปกรณ์ต่อพ่วง อาทิเช่น เครื่องเล่นดีวีดีก็ดูได้แล้ว เป็นต้น
แต่ทีวีที่มีขายในท้องตลาดตอนนี้มี 3 ประเภท คือ แบบทีวีจอแก้วเทคโนโลยี crt ยุคดึกดำบรรพ์
แบบ lcd tv ที่โฆษณากันให้เปรอะไปหมด แบบ Plasma TV ที่หลายๆบริษัทบอกศาลาถอดใจเลิกผลิตไปหลายเจ้าแล้ว(เนื่องจากต้นทุนสูงและขายไม่ออก) จะยังมีเหลืออยู่ก็มีแต่ พานาโซนิค รวมถึง LG (ย่อมาจาก Lucky Goldstar)บริษัทเกาหลีที่ไปร่วมทุนกับฟิลิปส์ตั้งบริษัทรับผลิตจอพลาสม่ารายใหญ่อยู่ในเกาหลี และ ไพโอเนียร์ที่รากเลือดจากยอดขายทีวีพลาสม่าที่สาละวันเตี้ยลง จนฐานะบริษัทเริ่มไม่สู้ดีก่อนถูกบริษัทชาร์ปจากญี่ปุ่นด้วยกันเทคโอเวอร์กิจการไปเรียบร้อย แล้วจะซื้อประเภทไหนดีมันเยอะแยะไปหมด คำตอบคือ ขึ้นอยู่กับงบประมาณในกระเป๋าของคุณ
ทีวีแบบจอแก้ว crt ราคาไม่สูงมากนัก จอขนาด 29 นิ้วเดี๋ยวนี้ราคาวิ่งอยู่ที่ 6000 - 8000 บาท 21นื้วราคาอยู่ในช่วง 2000 - 3900 บาท สำหรับ 14 นิ้วน่าจะหาซื้อยากเนื่องจากไม่มีเจ้าไหนผลิตออกมาแล้ว
LCD TV ทีกำลังอินเทนด์ในตลาดบ้านเราก่อนซื้อ เท่าที่เห็นมีจอขนาดตั้งแต่ 19 นิ้ว (วัดทะแยง)ไปจนถึง 300 นิ้ว(จอ 300 นิ้ว อันนี้ผมไปเจอที่ญี่ปุ่น)จะเอาขนาดเท่าไหร่อันนี้แล้วแต่ใจชอบและงบประมาณที่คุณมี ให้ดูสเป๊คหลักๆก่อนตัดสินใจซื้อ ดังนี้
ให้ดูค่าแสดงรายละเอียด Resolution ของจำนวนพิกเซลของ lcd tv เครื่องนั้นๆว่ามีค่าเท่าไหร่ อาทิ ค่า 1280 x 768 หรือ 1280 x 1080 เอาเป็นว่าจุดสังเกตให้ดูตัวเลขอันหลังเป็นหลักก็แล้วกันง่ายดี ตัวนี้ค่ายิ่งมากยิ่งดีิ ขอบอกสั้นๆแค่นี้ เพราะไม่งั้นต้องอธิบายกันยาวเหยียด เป็นค่าแสดงผลของจุดภาพในแนวตั้งและแนวนอนครับ ลำดับต่อมาให้ดูค่าอัตราความแตกต่างระหว่างภาพที่มืดและภาพที่สว่าง (Contrast)บางบริษัทให้คำจำกัดความว่านี่คิอค่าความคมชัดของภาพที่แสดงออกมาบนจอทีวี ให้มีมิติชัดลึกมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น อัตรา contrast 5000 : 1 หรือ 10000 : 1 เป็นต้น อธิบายสั้นๆจุดสังเกตค่ายิ่งมากยิ่งดีครับ
อย่าลืมสอบถามคนขายถึงการบริการหลังการขายด้วยนะครับว่า ถ้าซื้อไปแล้วเจอปัญหา dead pixel ไม่ว่าจะกี่จุดก็ตามคุณจะสามารถเคลมเครื่องใหม่ได้ไหม หรือบางทีบางยี่ห้อคนขายก็จะบอกเลยว่ารับประกันการเกิด dead pixel ไม่เกิน 3 จุด 5 จุด เป็นต้นสอบถามกันให้ดี ดีกว่าจะมานั่งทนทุกข์ทรมานกับเครื่องทีวีที่เป็นปัญหาให้เราปวดใจหลังซื้อมาแล้ว เพราะเกือบ 100% ของทุกยี่ห้อที่เปิดโชว์ขายตามห้างร้านขายเครื่องไฟฟ้า ส่วนใหญ่มักจะต่อผ่านสัญญาณ
High Definition หรือ สัญญาณความคมชัดสูงกันแทบทั้งนั้น ส่วนใหญ่เมื่อซื้อกลับมาเปิดดูฟรีทีวีข่อง 3 ช่อง 5 ข่อง 7 ช่อง 9 มักจะเจอปัญหาว่าภาพเป็นเม็ดๆเหมือนทีวีไม่ชัด อันนี้คนขายไม่ได้หลอกแต่ไม่ได้บอกข้อมูลให้หมดมากกว่า เนื่องจากการส่งสัญญาณภาพออกอากาศของไทยเราส่งออกอากาศเป็น ระบบ Pal Typeแค่ G 625 เส้น ในขณะที่ตัว lcd tv ส่วนใหญ่มีประสิทธิผลการรองรับสัญญาณภาพมากกว่าขึ้นไป จึงทำให้ภาพที่ปรากฏบนจอเป็นเม็ดๆแต่ถ้าเปิดรับสัญาณจากแหล่งกำเนิดภาพอาทิ จากเครื่องเล่น ดีวีดี หรือ เครื่องเล่น บลูเรย์ดิส ที่ให้ผลระดับการแสดงผลของภาพทะลุ 1080 ไปแล้ว ภาพที่ปรากฏจะมีมิติความคมชัดมากยิ่งขึ้น
สำหรับ lcd ทีวียี่ห้อที่พอจะแนะนำได้ที่ภาพออกมาดูดีเป็นธรรมชาติ มีสีไม่ฉูดฉาดมากนัก(ขึ้นอยู่กับรุ่นและสเป็คเครื่อง)มี ฟิลิปส์ และชาร์ป นอกนั้นผมยังไม่ประทับใจ( อันนี้เป็นเป็นแค่ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ อย่าเชื่อผมคุณต้องไปพิสูจน์ดูด้วยตัวคุณเองครับ)อ้อ.!..อย่าลืมดูจุดต่อสัญญาณเข้าและออกด้วยว่า ที่บ้านของคุณมีรองรับกับอุปกรณ์ต่อพ่วงที่มีอยู่เดิมหรือไม่ เพราะผมเคยเจอว่ามีเพื่อนท่านนึงโทรมาขอคำแนะนำจากผมไปปรากฏว่าพอซื้อเครื่องมาปรากฏว่าจุดต่อที่มากับเครื่องไม่สามารถต่อกับเครื่องเล่นที่มีอยู่เดิมได้ต้องขายทิ้งออกไป เพราะตอนนี้จุดต่อสัญญาณมีหลากหลายมาก อาทิ COMPOSITE , S-VIDEO , COMPONENT , VGAหรือที่รู้จักกันในนามของจุดต่อ D-Sub 15 pin , SCART , DVI , HDMI ที่ตอนนี้ออกมาถึงที่เวอร์ชั่น 3a แล้ว และสุดท้ายคือจุดต่อน้องใหม่ของวงการโฮมเธียเตอร์ ที่ีเพิ่งคลอดออกมาให้คนใช้ปวดหัวเล่นเมื่อเดือน มกราคม 2551 นี่เอง นั่นคือจุดต่อ DP หรือที่ย่อมาจากคำว่า Display Port โดย VESA หรือย่อมาจากสมาคม Video Electronics Association อันประกอบไปด้วยสมาชิกที่เป็นผู้ผลิตขั้นนำจองโลก อาทิ อินเทล AMD , DELL computerและ ซัมซุง เป็นต้น คุณสามารถหาอ่านข้อมูลของจุดต่อมาตรฐานใหม่ได้ที่ http://www.displayport.org ครับ
ส่วนพลาสม่าทีวี ซึ่งให้ผลของภาพที่เข้าท่ากว่า LCD เพราะเวลาเปิดดูพวกฟรีทีวีแล้วภาพไม่ออกมาเป็นเม็ดๆเหมือนพวก lcd แต่มีข้อเสียที่แก้ไม่ตก คือ ราคาที่ค่อนข้างสูงมาก ระดับไพโอเนียร์รุ่นใหญ่ๆที่ให้ภาพออกมาดีมากเห็นราคาแล้วหนาวครับ
ทีนี้มาพูดถึงโปรเจ็คเตอร์กัน ถ้าคุณต้องการชมภาพยนตร์แบบได้อารมณ์โรงหนัง มีห้องสำหรับชมที่ต้องการความเป็นส่วนตัว เพราะต้องมีม่านกันแสงสว่างเพื่อให้ห้องมืดขณะชม
(ความจริงเดี๋ยวนี้มีเทคโนโลยีใหม่ที่มีบางบริษัทผลิตจอรับภาพจากโปรเจ็คเตอร์ ทำออกมาขายซึ่งสามารถฉายสู้กับแสงสว่างได้สบายมาก ซึ่งพอถามราคาจากเซลแล้วอยู่ที่ราคาสองแสนกว่าบาทขึ้นไป ก็เลยเลิกคิดจะสนใจอีกเลย)มีระบบเสียงที่รองรับระบบโฮมเธียเตอร์ทั้ง Dolby Digital , DTS แล้วละก็โอเคเลย แต่ปัญหาที่คนซื้อโปรเจ็คเตอร์ไม่รู้มีอีกเยอะครับ อาทิ ซื้อมาแล้วมันไม่ได้จบที่เครื่องโปรเจ็คเตอร์ คุณจะต้องหาซื้อจอมาด้วย บางคนเอาประหยัดเล่นเอาผนังปูนทาสีขาวทำเป็นจอแทน ซึ่งถ้าคุณพอใจกับมันก็ไม่เป็นปัญหา แต่ส่วนใหญ่ซักพักนึงพอไปเห็นเขาฉายบนจอที่ดีกว่าภาพมีมิติชัดลึกกว่า อย่างจอของยี่ห้อ สจ๊วตจากอเมริกาที่มีราคาค่าตัวตั้งแต่ หกหมื่นบาทไทย(ของหิ้ว)ไปจนถึงสองแสนบาทไทย(ของห้าง) หรือย่อมเยาว์ลงมาอย่าง ยี่ห้อ OS SCREEN จากญี่ปุ่นที่มีค่าตัวหมื่นกว่าบาทไทย(ของหิ้ว)ไปจนถึงสามถึงสี่หมื่นบาทไทย(ของห้าง)ไม่รวมถึงจอจากจีนที่บริษัทในไทยสั่งมาขายและตั้งยี่ห้อกันเองนะครับ ร้อยทั้งร้อยผมเห็นรีบวิ่งไปหาซื้อมาเปลี่ยนกันทั้งนั้น อีกตัวนึงที่โปรเจ็คเตอร์ควร(ต้อง)มีคือ ระบบป้องกันไฟตกไฟเกิน ไฟกระชากไฟดับ (ลองไปหาซื้อยี่ห้อ ลีโอนิค เมดอินไทยแลนด์มาลองใข้ดูครับ) สำหรับเครื่องโปรเจ็คเตอร์ยังมีแยกย่อยออกเป็นประเภทนำเสนองาน (Presentation)
สำหรับโฮมเธียเตอร์ และงานอาชีพ(Professuonal)ที่เห็นตามงานคอนเสิร์ตต่างๆน่านแหละ
ส่วนใหญ่สำหรับคนที่ไม่รู้หรือรู้ มักจะไปหาซื้อแบบ presentation มาใช้กันเพราะราคาไม่แพง (หมื่นกว่าบาทขึ้นไป)ราคาหลอดภาพไม่โหดมากนัก(เป็นบางรุ่นบางยี่ห้อ แต่ส่วนใหญ่ขายเครื่องถูกเพราะตกรุ่นแล้ว แต่ไปหากำไรโดยฟันราคาที่หลอดฉายแทน)ซึ่งโปรเจ็คเตอร์แบบนี้ถ้าจะเอามาดูหนัง ในห้องโฮมที่คุณอุตส่าห์จ้างช่างมาทำและตกแต่งหมดเป็นแสน แต่ใช้โปรเจ็คเตอร์แบบนำเสนอเป็นตัวฉายหลัก ขอแนะนำว่าอย่าไปซื้อเลย ให้ไปซื้อโปรเจ็คเตอร์แบบที่เขาผลิตมาเพื่อใช้กับโฮมเธียเตอร์จะเวิร์คกว่า ที่ผมบอกอย่างนี้มีเหตผลครับ อย่างแรกก็คือกรณีที่คุณต้องการดูหนังเป็นหลัก แต่หนังแต่ละเรื่องส่วนใหญ่ Transfer มาจากฟิล์มภาพยนตร์ทั้งนั้นซึ่งถ่ายมาที่สัดส่วนต่างๆกัน ทั้งสโคปสัดส่วน 2:35 หรือ 1:85 ฯลฯยกเว้นภาพที่มาจากกล้องถ่ายทางทีวีที่เป็นสัดส่วนสี่เหลี่ยมจัตุรัส 4:3 พอมาฉายขึ้นจอโปรเจ็คเตอร์ภาพจากหนังที่เป็นสโคป
ก็จะถูกกำหนดให้อยู่ในกรอบภาพจากแผงกำเนิดภาพที่ติดตั้งมาในเครื่องแล้ว ถ้าเป็นโปรเจ็คเตอร์แบบนำเสนอซึ่ง 100%ทุกเครื่องทุกยี่ห้อจะเป็นแผงกำเนิดภาพแบบสัดส่วนทีวี 4:3
สี่เหลี่ยมจัตุรัส เวลาฉายหนังจากดีวีดีที่มีภาพเป็นสัดส่วน 16:9 widescreen ก็จะเกิดแถบสีดำด้านบนและด้านล่างให้รำคาญสายตาเล่น หรือบางทีก็ใช้วิธีบีบอัดภาพให้ออกทีวีจอภาพ 4:3 ได้
แต่ภาพที่ปรากฏบนจอตัวคนจะดูผิดสัดส่วน ภาพตัวคนหรือวัตถุจะดูยืดๆเป็นเปรตยังไงพิกล ยกเว้นแต่ว่า เครื่องโปรเจ็คเตอร์หรือทีวีผู้ผลิตจะใส่วงจรปรับสัดส่วนภาพที่ถูกต้องชดเชยมาให้แต่ก็ต้องแลกมาด้วยรายละเอียดภาพที่ลดลงไม่ครบถ้วนครับ ซึ่งเวลาคุณไปถามคนขายโปรเจ็คเตอร์ว่ารองรับระบบภาพ 16:9 widscreen ได้หรือไม่ คนขายเกือบทุกคนจะบอกว่าได้ ต้องถามว่าสัดส่วนกรอบภาพของเครื่องโปรเจ็คเตอร์ที่จะซิ้อนั้นมีสัดส่วนเท่าไหร่ ดูไม่ยากหรอกครับสังเกตดูเวลาฉายออกมาภาพจะฟ้องออกมาเองว่า สัดส่วนกรอบภาพเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสหรือสี่เหลี่ยมผืนผ้า ซึ่งเครื่องเล่นโปรเจ็คเตอร์แบบโฮมเธียเตอร์จะเป็นอย่างหลัง คือ สัดส่วนกรอบภาพเป็น 16:9 widescreen ครับ นี่เป็นเหตผลที่ผมพยายามบอกหลายๆท่านที่ไม่รู้และอวดรู้ให้เข้าใจ
สำหรับคำถามที่ว่าถ้าเกิดอยากจะยกไปฉายกลางแปลงดูเล่นทำได้มั๊ย ตอบว่าทำได้ครับและได้ผลดีมาก ถ้าฉายตอนกลางคืนที่มืดสนิท ยิ่งฉายจอใหญ่ซัก 10 เมตรขึ้นไปยิ่งแย่ลง เพราะกำลังส่องสว่าง ของโปรเจ็คเตอร์แบบโฮมเธียเตอร์เขาออกแบบมาให้อยู่ที่ ไม่เกิน 1200 lumen ท้งนี้ก็เพื่อไม่ให้เกิดอาการสายตาล้าจากการชมภาพยนตร์ที่ต้องเพ่งดูเป็นเวลานานๆครับ ต่างจากแบบนำเสนอที่ออกแบบให้มีกำลังส่องสว่างมากๆระดับ 2000 lumen ขึ้นไป เพราะต้องสู้กับแสงไฟในห้องประขุมที่นำเสนองานเขาก็เลยออกแบบมาเช่นนี้แล โปรเจ็คเตอร์แบบนำเสนอเป็นที่นิยมเพราะราคาไม่สูงมาก ร้านหมูกระทะ ผับ บาร์เหล้า นิยมซื้อไปใช้ และส่วนมากใช้ไม่นานก็พังเพราะเล่นเอาไปเปิดกลางแจ้ง ทั้งฝุ่นทั้งควันบุหรี่ ไอน้ำมันจากหมูกระทะ (ที่โปรเจ็คเตอร์อ่อนไหวต่อเรื่องพวกนี้มากที่สุด)เข้าเครื่อง ถึงขนาดซ่อมไม่หายต้องทิ้งหันไปซื้อใหม่แทน
นี่ยังไม่ได้กล่าวถึงระบบ lcd และ dlp รวมทั้งระบบ lcd ที่แตกแขนงกลายพันธ์ออกไปเป็น sxcd ของโซนี่ และ D-lia ของเจวีซี อีกนะเนี่ย ซึ่งต้องอธิบายกันอีกยาว ซึ่งผมขอยุติแค่นี้เพราะขี้เกียจพิมพ์ เนื่องจากนั่งพิมพ์มาตั้งแต่ตีสอง จนจะเจ็ดโมงเช้าของวันใหม่แย้ว ม่ายหวายแล้ว
เอาเป็นว่าโทรมาหาผมดีกว่า ถ้าอยากได้ข้อมูลโดยละเอียด เบอร์โทรก็จิ้มดูเอาที่ชื่อ user ของผมน่านแหละ ขอตัวไปนอนก่อนละกัน หวังว่าคงได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย และสุดท้ายอย่าเชื่อในสิ่งที่ผมบอกทั้งหมด ถ้าคุณยังไม่ได้ใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้าตรวจสอบว่าเป็นจริงตามที่ผมฝอยมาหรือไม่
(ID:13660)
โปรเจคเตอร์ชาร์ปรุ่นนี้หาซื้อได้ที่ไหนครับ ราคาประมาณเท่าไหร่ อายุของหลอดภาพอยู่ได้นานแค่ไหนแล้วถ้าเปลี่ยนหรือหมดอายุหาซื้อได้ที่ไหนราคาแพงไหมครับ ดูแล้วเห็นภาพและสีแจ่มดีแล้วมันจะแจ่มไปอย่างนี้ตลอดหรือเปล่าครับ รบกวนพี่ๆช่วยแนะนำหน่อยนะครับ
(ID:13661)
ตอนนี้มีรุ่นใหม่มาแทนแล้วครับหาซื้อได้ตามห้างทั่วไปครับที่ผมต้องใช้ตัวนี้เพราะหลอดภาพอายุ 2000-3000 ชั่วโมงครับและเหมาะที่จะเอาไปรับงานนอกได้ด้วยเพราะความสว่าง 2000 ลูเมนท์ ส่วนที่พี่จาทีเอแนะนำให้ใช้แบบโฮมเธียร์เตอร์จริงๆนั้นเหมาะสำหรับฉายในห้องฉายหนังอย่างเดียวครับเพราะถ้านำไปฉายข้างนอกแสงมันจะน้อยไปครับและราคาค่อนข้างสูงอยู่เหมือนกันผมก็เลยไม่ใช้เพราะนำออกไปงานนอกไม่ได้ครับ นี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับว่าถ้าผมเล่นเครื่องพวกนี้แล้วเอามาทำเงินคืนทุนบ้างก็ยังดี (บางครั้งผมก็ให้เช่าเอาไปออกงานข้างนอกด้วยครับเพื่อลดต้นทุน) ส่วนจอพลาสม่าผมใช้ขนาด 50 นิ้วครับเพราะตั้งไว้ในห้องนอนผมไม่มีแสงสว่างกวนมากครับ และถ้าเป็นผมโดยความคิดเห็นส่วนตัวนะครับผมจะซื้อที่ของกำลังจะตกรุ่นครับเพราะราคาจะลดลงมาเยอะครับและข้อสำคัญคุณภาพก็ดีภาพคมชัดใช้ได้ถึงสเปคจะไม่สูงเท่ากับรุ่นใหม่ๆแต่สำหรับผมแล้วดูดีวีดีเป็นหลักกับดูทีวีซึ่งบ้านเราส่งสัญญานเป็นอัตราส่วน 4 ต่อ 3 ซึ่งไม่จำเป็นคิดมากเลยและส่วนใหญ่แผ่นดีวีดีคอนเสิรต์ที่ผมชอบดูก็มีอัตราส่วน 4 ต่อ 3 เหมือนกันครับ ส่วนท่านที่มีตังค์เยอะก็สามารถไปซื้อรุ่นที่มีสเปคสูงๆมาเล่นได้แต่ก็ควรจะดูกับบูลเรย์ดิสค์อย่างเดียวเท่านั้นครับเพราะจะได้ดูภาพที่มีคุณภาพสูงสุดแรคาก็โหดเหมือนกันครับ จากประสบการที่ผมเคยทำงานขายเครื่องเสียงและโปรเจ็คเตอร์รวมไปถึงกับการไปอบรมที่บริษัทในสมัยก่อนมาก็หลายครั้งต่อหลายครั้ง มันทำให้ผมรู้ว่าเทคโนโลยีมามาเร็วมากและก็ผ่านไปเร็วมากเช่นกัน ข้อสำคัญราคาก็ตกเร็วมากเหมือนกับคอมพิวเตอร์เลยครับเพราะฉะนั้นเราอย่าไปบ้าสเปคเลยครับ (ยกเว้นราคาพวกเครื่องเสียงไฮเอ๊นอย่างแมคอินทอสหรือมาร์คลีวินสันที่เซียนเครื่องเสียงเล่นราคาจะไม่ค่อยถูกลงมีแต่จะแพงขึ้นเพราะส่วนใหญ่ทำด้วยมือครับ) สรุปผมแนะนำให้ใช้ของระดับกลางในราคาที่เหมาะสมกับกระเป๋าของเราจะดีกว่าครับเพราะหลังจากที่คุณซื้อมาใช้สัก 1 ปีราคาก็จะตกอย่างน่าใจหาย
ยกตัวอย่างโปรเจ็คเตอร์ของผมยี่ห้อชาร์ป ตอนซื้อใหม่ๆราคา 37000 บาท จอก็ไม่มีแถมเลยหลังจากนั้นอีก 6 เดือนต่อมาราคาลดเหลือ 26000 บาทแถมจอให้ด้วยครับ สาเหตุที่ต้องรีบลดราคาเพราะมีรุ่นใหม่ออกมาแล้วทั้งที่ยี่ห้อเดียวกันเพียงแต่เปลี่ยนชื่อรุ่นและดีไซร์หน้าตาให้ทันสมัยขึ้นแต่เชื่อไม๊ครับสเป็คทุกอย่างเหมือนรุ่นเก่าของผมเป๊ะเลยครับ ที่ผมรู้เพราะร้านที่ผมไปซื้อโปรเจ็คเตอร์ตัวนี้มาได้สั่งรุ่นใหม่มาแทนตัวของผมแล้วและผมได้ไปทดลองเล่นแล้วอยู่ประมาณ 1 ชั่วโมงก็ไม่มีอะไรต่างกันเลยครับไม่ว่าจะเป็นสีสรรหรือความคมชัดของภาพก็ตาม
สรุปแล้วถ้าเป็นผมจะใจเย็นในการซื้อรุ่นใหม่ๆมาเล่นเพราะหลังจากนั้นก็จะมีรุ่นใหม่ๆมาแทนรุ่นนั้นเสมอๆครับ แถวบ้านผมช่วงโอลิมปิคที่ผ่านมาซื้อ lcd จำนวน 1 เครื่องแถมอีก 1 เครื่องครับ
และอีกอย่างเทคโนโลยีแบบบูลเรย์ดิสค์ก็ยังมีราคาแพงมากคือประมาณ 700 บาทต่อเรื่องในขณะที่ดีวีดีราคาเหลือไม่ถึงร้อยบาทและคุณภาพผมเคยทดลองดูแล้วคุณภาพแตกต่างกันไม่ถึง 100 เปอร์เซนต์ครับ ซึ่งไม่เหมือนกับม้วนวีดีโอเทปกับแผ่นดีวีดีที่มีความคมชัดและเสียงที่ต่างกันถึง 100 เปอร์เซนต์เต็มครับ ถ้าไม่เชื่อคุณลองไปหาม้วนเทประบบ vhs รุ่นเก่าๆมาเปิดเทียบดูได้เลยครับ แต่สำหรับบูลเรย์ดิสค์กับแผ่นดีวีดีถึงจะมีความแตกต่างกันแต่ก็ไม่ถึงกับหน้ามือเป็นหลังมือครับ อันนี้ยืนยันได้เพราะผมไปคลุกคลีเล่นระบบบูลเรย์ดิสค์มาเป็นวันๆแล้วเพราะบังเอิญว่าผมค่อนข้างจะสนิทกับเจ้าของร้านขายเครื่องเสียงที่อุดร และบางวันอากาศก็ร้อนเพราะฉะนั้นผมก็จะเข้าไปตากแอร์และเล่นเครื่องเสียงที่โชว์ในร้านนี้แทบจะทุกชิ้นครับ ไปแต่ล่ะครั้งก็จะใช้เวลาประมาณ 2 - 3 ชั่วโมงครับ พูดง่ายๆก็คือทดลองเล่นจนหนำใจแล้วค่อยกลับบ้านครับและบางทีก็จะถือแผ่นหนังที่เราชื่นชอบไปทดสอบด้วยครับเพื่อเทียบกันทั้งระบบเสียงและภาพว่ามันต่างกันอย่างไร ก็คิดดูพลาสม่าของ lg ที่ผมซื้อมาขนาด 50 นิ้วราคา 55000 บาท (ราคากำลังจะตกรุ่น) ตอนนี้ก็มีขนาด 50 นิ้วเช่นเดียวกันและเป็นรุ่นใหม่กว่าผมแต่ก็กำลังจะตกรุ่นตอนนี้ราคาก็ลดลงมาเท่ากับของผมเลยครับ สรุปถ้าอยากจะซื้ออะไรก็ขอให้สำรวจเงินในกระเป๋าของเราให้ดีที่สุดครับเพราะสมัยนี้เงินสดๆ 90000 บาทไม่ได้หาได้ง่ายนัก อยากแบบใหนชอบแบบใหนก็อย่าลืมคำว่าเเหมาะสมและพอเพียงก็แล้วกันครับ
(ID:13665)
ขอบพระคุณพวกพี่ๆมากนะครับ...ที่ช่วยให้คำแนะนำ
จะรบกวนพี่ๆอีกสักอย่าง ช่วยแนะนำโปรเจคเตอร์สำหรับฉายหนังในบ้านหน่อยสิครับ
เอาที่ราคากลางๆ แสง สี คมชัด ดูแลรักษาง่าย ไม่มีปัญหาจุกจิก อะไหล่ไม่แพง
(ID:13667)
BenQ ตระกูล ST ก็น่าสนใจนะครับ ฉายภาพระยะสั้นครับ ผมเองกำลังเล็งๆอยู่ครับ (เล็งนานจนเมื่อยแล้ว อิอิ)
(ID:13692)
เพิ่มเติมครับ เอารูปมาฝากจาก www.projector.co.th ครับผม ลองเข้าไปชมเล่นๆก่อนได้ครับ
ราคาตัวนี้ที่ 26500 บาทไทยครับ
(ID:13693)
อยู่หน้าแรกครับ หาไม่ยาก ส่วนรายละเอียดผมแนะนำว่าลองเข้าไปดูใน web จะดีกว่าครับ
แต่ว่าคงเป็นอย่างที่ท่านจาร์ บอกน่ะครับว่าเครื่องบางรุ่นไม่แพงแต่เราต้องดูด้วยว่าราคาหลอดเท่าไหร่
ล่าสุดที่ผมเพิ่งเปลี่ยนหลอดไปยี่ห้อนึง ซื้อเครื่องใหม่ได้เลยครับ ส่วนถ้าสนใจทีวี LCD ผมเคยเห็น
LG 42 นิ้ว ตกรุ่นของใหม่ขายกันอยู่ที่ 29900 ครับ ดูราคาเฉยๆนะครับไม่ได้เข้าไปดูรายละเอียดครับ
รู้สึกว่าจะเป็นร้าน Future AV ที่เซียร์รังสิตครับ
| |
| |
(ID:13694)
สำหรับตระกูลที่ผมแนะนำนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับผม ยังไม่ได้โทรไปปรึกษาท่านจาร์
ผู้เชี่ยวชาญตัวจริงเสียงจริง เพราะว่ายังไม่ได้ตัดสินใจซื้อครับ ต้องขออนุมัติงบจากกระทรวงกลาโหมก่อนครับ อิอิ
แต่ว่าที่ผมสนใจเพราะผมมองง่ายๆว่า การฉายระยะสั้นแล้วได้ภาพขนาดใหญ่จะช่วยในเรื่องของแสงได้ครับ
ความเข้มของแสงน่าจะ OK กว่ารุ่นปกติ เนื่องจากเท่าที่ผมเคยลองเปรียบเทียบกับยี่ห้ออื่นๆจะพบคุณสมบัตินี้
กับเครื่องราคาสูงๆเกือบทั้งนั้น เพราะผมคงมีโอกาสนำไปใช้กับจอขนาดใหญ่ครับ ผมเลยมองเรื่องนี้เป็นหลัก
เนื่องจากถ้าเป็นระยะปกติอาจจะต้องเพิ่มความสว่างให้มากขึ้นถ้าต้องนำมาใช้กับจอที่มีขนาดใหญ่ครับ
ราคาก็จะเพิ่มตามมา รวมทั้งราคาหลอดที่สูงตามกันด้วยครับ
ไม่รู้ว่ามุขนี้มันจะได้ผลหรือเปล่านะครับ ถ้าท่านจาร์แวะมาอีกรอบช่วยแนะนำลูกศิษย์ POPFILM
ด้วยครับผม
(ID:13695)
แถมครับ.....
อันนี้เหมาะสำหรับการฉายบนจอ 10 เมตรมากครับ เผื่อท่านใดสนใจเอาไปฉาย Digital ก่อนฉายฟิล์มครับ
รายละเอียดครับ
Dimensions |
H/W/D:99x229x312 |
Projection Lens |
No Standard Lens |
Zoom Ratio |
Power Zoom and Focus |
Panel Display |
1.8" TFT p-Si LCD panel with MLA |
Throw Distance(m) |
Depending on lens |
Display size (Inch) |
Depending on lens |
I/O |
PC Terminal DVI-D D-Sub 15 Pin 5BNC USB
Video Terminal Component Video Composite Video S-Video Optional Interface Board
|
Light Source (Lamp) |
350Wx4 |
Special Features |
Lens Shift,Option Lens |
Warranty |
ตัวเครื่อง 2 ปี หลอดภาพ 1ปีหรือ 1000 ชม. |
Wireless / Network Support |
|
ส่วนราคารบกวนท่านลองเข้าไปหากันเองใน www.projector.co.th นะครับ อิ อิ
| |
| |
(ID:13696)
ตอบเลยดีกว่าครับ เผื่อว่าใครจะสนใจครับ 90,000 บาท ครับผม
กับอีก 1,800,000 บาทครับ รวมกัน 1,890,000 บาท ครับ แหะ แหะ ไปก่อนนะครับ ก่อนจะโดนด่า ราตรีสวัสดิ์ครับ
(ID:13701)
5555 ว่าแล้วเชียว
(ID:13740)
ขอบคุณ POP FILM มากครับที่ให้ข้อมูล
แล้วหลอดภาพ BENQ รุ่นที่ให้มา นี้พอจะทราบราคาไหมครับ แพงไหม
พื้นที่ห้องผมมีขนาด 4 x 4 เมตร นะครับ จะใช้ได้ไหม
(ID:13746)
สวัดสีครับพี่แอ๊ด และคุณ KAE
ผมว่าพี่แอ๊ดน่าจะเอาไว้สักเครื่องนะครับ ลงงาน Outdoor สบายๆเลยครับ แหะ แหะ
ส่วนหลอด BenQ รุ่น ST นี่ผมยังไม่ทราบราคานะครับ แต่ถ้าเป็นรุ่นเดียวกันแต่ไม่มี ST จะอยู่ที่ 8900 บาทครับ
ขนาดห้อง 4*4 ผมว่าแสงระดับ 2000 ขึ้นนี่สบายๆเลยครับ บางครั้งเปิดไฟ Downlight ไว้ซักดวงก็ยังเห็นภาพครับ
(ID:13763)
ให้ภาพ 16 : 9 ได้หรือเปล่าครับ
(ID:13796)
ตอบคุณ KAE ผมว่าตอนนี้ให้ภาพ 16.:9 ได้เกือบทุกรุ่นแหละครับ แต่จะมีขอบดำบนล่างเหลือครับ ดังนั้นมันก็คือการแสดงผลเท่ากันกับแบบ 4:3 แบบ แต่ไม่เต็มจอนั่นแหละครับ เพราะถ้าจะเอาสัดส่วนแบบ 16:9 ที่ใกล้เคียงจริงๆคงต้องหาซื้อ Projector แบบ Wide Screen 1280 * 800 มาใช้ครับ (ตัวนี้ 800*600 นะครับ)
เลือกหน้า [1] [2] จำนวนหัวข้อทั้งหมด 21
ถูกเปิด: ถูกคลิ๊กแล้ว: 117972044
ตอนนี้มีผู้เข้าชม : 1 ล่าสุด :Jamessak , Landexpzgew , OrlandoneMon , เอก , Robertbaito , Jerekioxgew , พีเพิลนิวส์ , นุกูล , จาทีเอ , อั้น ,