Mobile Version / สำหรับโทรศัพท์มือถือ ยินดีต้อนรับท่านผู้มาเยือน www.peoplecine.com ท่านยังไม่ได้ log in นะครับ เข้าใช้งานระบบ / สมัครสมาชิก/ ลืมรหัสผ่าน

ประธานกรรมการ :ปวีณ เขื่อนแก้ว
เวบมาสเตอร์:อนุกูล วิมูลศักดิ์ 084-819-7374,095-308-6840


= ภายใน24ชั่วโมง , = ภายใน 3 วัน = ทั่วไป , = คลาส2 , = คลาส3 ,
รูป
หนังฝรั่งในอดีต ทุกยุค ทุกสมัยเจ้าของ อ่าน ตอบ ผู้ตอบหลังสุด
-MISSION INPOSSIBLE 4 ปฏิบัติการไร้เงา13171.. 17/7/2561 14:51
-A STAR IS BORN...12080ยังไม่มีคนตอบ
-เสือผจญสิงห์ Once Upon a Time in the west 196821503.. 21/6/2561 13:23
-เอล ซิด วีรบุรุษสงครามครูเสด ELCID... ปี 196121994.. 16/6/2561 11:40
-BENHUR 195913093.. 10/6/2561 19:24
-FLAMING STAR - ELVIS PRESLEY14692.. 7/6/2561 13:36
-Solo: A Star Wars Story 201812521.. 5/6/2561 14:04
-พยัคฆ์ร้ายเหนือเมฆ 00712343.. 29/5/2561 21:35
-PREDATOR 1987 คน ไม่ ใช่ คน15043.. 18/5/2561 20:41
-ก่อนจะเป็นบท Apocalypse Now13110ยังไม่มีคนตอบ
-La La Land 201615991.. 15/5/2561 14:01
-กองพันอำมหิต ...Apocalypse Now (1979)14551.. 14/5/2561 14:39
-THE STING 1973 สองผู้ยิ่งใหญ่ 16732.. 6/5/2561 18:32
-FILM REMAINING: แท็กซ์ระห่ำ ขับระเบิด Taxi (พ.ศ. 2543 / ค.ศ. 2000)15398.. 30/4/2561 15:49
-สองสิงห์ชาติไอ้เสือ14823.. 28/4/2561 18:05
-THE WIZARD OF OZ 193917753.. 27/4/2561 16:56
เลือกหน้า
[<<] [11] [12] [13] [14] [15] [16] [17] [18] [19] [20] [21] [22] [23] [24] [25] [26] [27] [28] [29] [30] [>>]
จำนวนหัวข้อทั้งหมด 790

(ID:24309) ก่อนจะเป็นบท Apocalypse Now


ขอขอบคุณข้อมูลจากคุณชาญชนะ หอมทรัพทย์

ก่อนจะเป็นบท Apocalypse Now

เพิ่งเปิดเบื้องหลังแผ่นบลูเรย์ Apocalypse Now มีช่วงสัมภาษณ์ John Milius คนเขียนบท โดยตัวผู้กำกับ Francis Ford Coppola เป็นคนสัมภาษณ์เอง ถึงที่มาที่ไปและไอเดียในซีนสำคัญๆ ของหนัง เลยสรุปมาเขียนถึงคร่าวๆ ให้อ่านกันอีกที

-ไอเดียเริ่มต้นโดย John Milius ที่คิดระหว่างเรียนมหาลัยในวิชาเขียนบท โดยหนึ่งในเพื่อนร่วมคลาสของ Milius คือ George Lucas

-**โน้ตไว้ให้นักศึกษาอ่านเฉพาะ "ระวังคำชมเป็นยาขม" ** Milius เล่าว่าอาจารย์สอนเขียนบทดุมากๆ แกใช้วิธีให้นักเรียนไปเล่าพล๊อตให้ฟังทีละคน แล้วแกจะ ignore ใส่หรือพูดแรงๆ แบบไม่ give a shit ทันทีถ้าเรื่องมันห่วย Milius บอกว่าอาจารย์ทำแบบนั้นเพราะจงใจจำลองให้นักเรียนได้เจอ "ของจริง" ก่อนเข้าสู่วงการหนัง ที่พวกเขาจะต้องเอาบทไปขายนายทุน/สตูดิโอที่ไม่รู้เรื่องหนัง และอาจจะด่าบทสาดเสียเทเสียจนสูญสิ้นความมั่นใจไปเลย Milius บอกว่าตัวเองโดนอาจารย์คนนี้ด่าบ่อยมากๆ เพราะอาจารย์หวังกับแกไว้มาก

-Milius เล่าว่าเขาชอบหนังสือ Heart of Darkness มากๆ เคยมีช่วงชีวิตหนึ่งก่อนเข้ามหาลัย ราวๆ อายุ 17 แกไปอยู่บ้านญาติที่โคโลราโด ซึ่งแม่งมีแต่ป่า แล้วแกเอาหนังสือเล่มนี้ไปนั่งอ่านในป่า พร้อมพกปืนยาวติดตัวไปด้วยเพราะกลัวหมีป่าจะโผล่มาเล่นงานเอาตอนไหนก็ไม่รู้

-ระหว่างอ่าน Milius อินมากๆ เพราะเชื่อว่าสิ่งที่กลืนเคิร์ทซ์หายไปจนกลายเป็นอื่น ไม่ใช่ความบ้าคลั่ง แต่เป็นการกลับคืนสู่ธรรมชาติแรกสุด เคิร์ทซ์พบหนทางที่ผนวกตนเองกลายเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ดังนั้น Milius จึงเริ่มจะทำความเข้าใจการกลายเป็นส่วนหนึ่งแบบเคิร์ทซ์บ้าง ด้วยการไม่นำปืนไปจากบ้าน พกไปเพียงมีดเล่มเดียว ซักพักแกเริ่มอินถึงขั้นเอามีดปักไว้ต้นไม้ เพราะเชื่อว่าหากเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติได้ ตัวแกเองก็จะไม่ถูกธรรมชาติทำร้าย แบบเดียวกับเคิร์ทซ์ในนิยาย

-ช่วงเวลาที่ Milius เรียนมหาลัย University of Southern California School of Cinema-Television คือราวๆ 1966-1967 ซึ่งเป็นช่วงที่สงครามเวียดนามกำลังเป็นประเด็นร้อนในอเมริกา Milius บอกว่าเคยคิดจะสมัครทหารไปรบ แต่ก็รู้ตัวดีว่าไปคงตายแน่ๆ (แกพูดในทำนองว่าไม่เคยคิดอยากจะทำงานหนังด้วยซ็ำ คิดแต่จะไปเป็นทหาร แต่พอสมัครไปจริงแกกลับไม่ผ่านเกณฑ์ด้านสุขภาพ) ไอเดียนำเอา Heart of Darkness มาเล่าในฉากหลังสงครามเวียดนามจึงเกิดขึ้น

- Milius เล่าว่ายุคนั้นนักเรียนหนังสนใจทำอยู่ 2 ตำแหน่งคือ ผู้กำกับ และ ตากล้อง Milius เทียบว่าตากล้องแม่งเหมือนทหารถือปืนกล M-60 ในสนามรบนั่นแหละ เด่น เตะตา และเป็นคนบุกตะลุยก่อนเพื่อน!! ไม่มีใครอยากเป็นคนเขียนบทหรอก

-ชื่อของหนัง Apocalypse Now ถูก Milius ตั้งไว้แต่แรก ไอเดียมาจากการที่แกเห็นพวกฮิปปี้สักคำว่า Nirvana Now ไว้ตรงแขน (Milius เริ่มเขียนบทจริงๆ เอาราวปี 1975 คือหลังจาก Coppola หาทุนทำหนังได้ และประจวบเหมาะกับวัฒนธรรมฮิปปี้บูมถึงขีดสุดพอดี)

-บทร่างแรกๆ George Lucas ช่วยเขียน มีไอเดียของ Lucas อยู่ราวๆ 60 หน้าในบทร่างนี้ และแรกเริ่ม Lucas จะกำกับด้วยซ้ำ (เป็นช่วงหลังทำหนังจบ THX-138 และก่อนจะทำ American Graffiti)

-เวอร์ชั่นที่ Lucas คิดจะทำคือ ถ่ายกึ่งสารคดี บุกไปถ่ายกลางสงครามเวียดนามจริงๆ ด้วยทุนราวๆ 2 ล้านเหรียญฯ (สงครามเวียดนามยุติราวๆ ปี 1975) แรงบันดาลใจเวอร์ชั่นนี้คือหนังเรื่อง The Battle of Algiers (1966) **ซึ่งไอเดียของ Lucas นี้ถูกเอามาล้อเป็นหนังเรื่อง Tropic Thunders (2008) นั่นแหละ

-แต่ Coppola ก็แซวว่าพอ Lucas รวยจาก American Graffiti แล้วแกเลยไม่คิดอยากจะทำ Apocalypse Now อีก เพราะต้องบุกป่าฝ่าดงไปถ่ายไกลๆ และอันตราย Lucas หันไปเริ่มปั้นโปรเจคต์หนังเรื่องใหม่ที่ชื่อ Star Wars แทน

-ส่วน Coppola ก้าวเข้ามาทำหลังจากทำหนัง 3 เรื่องใน 3 ปี คือ The Godfather ภาค 1และ2 กับ The Conversation

-สำหรับ Coppola เขาตีความหนัง Apocalypse Now เป็น "หนังผจญภัยในแบบเดียวกับ Guns of Navarone" แกคิดว่าทำหนังเรื่องนี้ให้ใหญ่ๆ เพื่อให้ได้ตังเยอะๆ แล้วหลังจากนั้นแกจะได้เอาเงินไปทำหนังเล็กๆ แบบที่แกต้องการ

-เพลงของ Vagner (ฉาก Ride Of The Valkyries) และวง The Doors อยู่ในบทตั้งแต่แรก Milius เล่าว่าในสงครามอัฟกานิสถานรอบแรก (กลางยุค 90) และรอบสอง (หลังเหตุการณ์ 9/11) ทหารอเมริกันเปิดเพลงนี้ตอนนำเครื่องอาปาเช่บินออกจากฐานเหมือนในหนัง

-ฉากโต้คลื่นถูกเขียนขึ้นโดยผสมเรื่องเล่าคราวสงคราม 6 วัน ระหว่างอิสราเอลและอียิปต์ ช่วงปี 1967 โดยนายพล Ariel Sharon นำกำลังทหารอิสราเอลยึดแม่น้ำจอร์แดนได้ (และรวมถึงหลายพื้นที่ของอียิปต์ การรบครั้งนี้ยังผลให้อิสราเอลยึดเมืองเยรูซาเล็มคืนมาได้ด้วย) ทันทีที่เหยียบลงแม่น้ำนั้น Sharon สั่งให้ทหาร "ตกปลา" มากินกัน เป็นการเหยียบหน้าศัตรูถึงถิ่นแบบเดียวกับที่ผู้พันคิลเกอร์ สั่งให้ทหารของตนเล่นเซิร์ฟในแม่น้ำเวียดนาม ก่อนรุ่งเช้าจะนำคอปเตอร์ไปถล่มหมู่บ้านพวกเวียดกงด้วยระเบิดนาปาล์ม (ประโยคของคิลเกอร์ในหนังคือ Charlie don't surf)

-สะพานในหนังที่พวกพระเอกล่องเรือไปพัก เพื่อเจอฐานลอยที่พวกทหารกำลังมุงดูสาวนักเต้นจั้มบ๊ะสะบัดช่ออยู่ คือจุดแบ่งโลก 2 ใบ ระหว่างโลกแห่งความศิวิไลซ์ที่พวกพระเอกจากมา เมื่อพ้นสะพานนี้ไปแล้วพวกเขาจะหลุดสู่โลกอีกใบ โลกแห่งความป่าเถื่อนอันแท้จริง (โลกที่ผู้พันเคิร์ทซ์รออยู่สุดปลายลำน้ำ) ซีนสะพานในฉบับ Redux จะยาวกว่าและมีความเมายามากกว่าด้วย

-Coppola บอกว่าตอนถ่ายเขาไม่ได้ถือบทเข้ากองเลย เพราะจำได้ขึ้นใจทุกบรรทัด แต่แกถือหนังสือ Heart of Darkness ติดตัวแทน โดยทำไฮไลท์ฉากสำคัญๆ ในหนังสือไว้เพื่อเทียบตอนถ่ายฉากตามบทหนัง อะไรที่ตกหล่นไปจากในหนังสือ แกจะกลับมาดึงไปใช้เสมอ

-Millius บอกว่าถ้าใครเพิ่งได้ดูหนังเรื่องนี้จบ ลองกลับไปหารีวิวแรกๆ ที่เขียนถึงหนังมาอ่านดู จะพบว่าโดนนักวิจารณ์ด่ายับ Coppola เสริมว่าจริงๆ หนังเขาถูกนักวิจารณ์ด่าทุกเรื่อง แม้แต่ Godfather ภาคแรกและสองตอนออกฉายใหม่ๆ ก็โดนด่า แต่เขาก็มองว่าในความเป็นหนัง สุดท้ายพอมันถูกฉาย เข้าถึงคนดูหลากหลาย ตัวหนังมันก็หาที่ทางของมันสำเร็จ ในที่สุดก็ได้รับเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ กลบเสียงวิจารณ์ไป

- Milius สรุปท้ายในประเด็นการวิจารณ์ว่า "ถ้าริจะเป็นผู้กำกับหนัง คุณสมบัติสำคัญที่คุณต้องมีคือ อย่าท้อถอย อย่ายอมแพ้ง่ายๆ" (Never, Never Quit, Never give up) ต้องเชื่อมั่นในสิ่งที่ทำ แล้วทำมันซ้ำๆ ต่อไปเถอะ

- ส่วนใครอยากรู้ว่าชีวิตทั้งคู่หลังทำ Apocalypse Now จบแล้วเป็นยังไง สำหรับ Coppola ลองไปหาสารคดีเรื่อง Hearts of Darkness: A Filmmaker's Apocalypse (1991) มาดู เป็นสารคดีที่เมีย Coppola ตามถ่ายสามีระหว่างถ่ายหนังเรื่องนี้ที่ฟิลิปปินส์ บันทึกความชิบหายทุกอย่างตั้งแต่เซ็ทโดนน้ำท่วมพังไปหมด, ดารานำหัวใจวายเกือบตายคากองถ่าย, ผู้กำกับเป็นบ้าจะฆ่าตัวตาย, บ้านเอาไปจำนองเพราะหนังถ่ายลากเกือบ 2 ปี งบแหก ฯลฯ

- ส่วน Milius ก็หาสารคดีชื่อเดียวกันกับชื่อแกคือ Milius (2013) มาดูกัน ในสารคดีเล่าถึงช่วง Milius พักฟื้นจากอาการเส้นเลือดในสมองแตก ซึ่งเป็นผลทำให้แกเป็นอัมพาต พูดหรือขยับตัวไม่ได้อยู่นับปี ต้องเริ่มนับหนึ่งเรียนรู้การสื่อสารใหม่ด้วยการ "เขียน" อีกครั้ง



ความเห็น


เลือกหน้า

จำนวนหัวข้อทั้งหมด 0

กลับขึ้นข้างบน / กลับหน้าแรก

ค้นกระดานข่าว:


ถูกเปิด: ถูกคลิ๊กแล้ว: 112925475 ตอนนี้มีผู้เข้าชม : 1 ล่าสุด :GermanFoup , HelenViefs , DonaldSap , Davidfable , พีเพิลนิวส์ , AntonGeods , เอก , Carlosincof , autogNer , Pojja ,