‘เจ้าพ่อเซียงไฮ้’ พระเอก‘โจวเหวินฟะ’
อมตะคลาสสิก ปี 1980 พีเพิลซีนนําเสนอ

สะท้อนภาพความสัมพันธ์เจ้าพ่อ/เจ้าหน้าที่รัฐ

ภาพยนตร์ฮ่องกงเรื่องนี้สร้างแนวละครโทรทัศน์ ชุดคลาสสิกที่แฟนๆ จดจำได้มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ มีถึง ๒๕ ตอน ออกอากาศทางช่อง ๓ พ.ศ. ๒๕๒๔ ทำไม..ภาพยนตร์ละครโทรทัศน์แนวดราม่าเรื่องนี้ จึงได้รับความนิยมสูงสุด ทั่วภูมิภาคเอเชีย และหลายๆ ประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย ผู้ชมดูแล้วบอกโรแมนติก ความสุขปนความโศกเศร้า ประทับใจ หนังมี

ครบทุกรส ซาบซึ้งในบทรักหวานๆ ตื่นเต้น และบทบู๊ด้วยความแค้น อุดมการณ์เหนือความรัก ดุเด็ดเผ็ดมัน ชิงไหวชิงพริบในดงเจ้าพ่อที่ไม่เคยปรานีใคร ใช้เล่ห์เหลี่ยมหักหลัง ชิงความเป็นใหญ่ในนครเซี่ยงไฮ้ ตำแหน่ง เจ้าพ่อหมายเลข ๑ ผลประโยชน์นอกกฎหมายมหาศาล สะท้อนภาพความสัมพันธ์ที่เอื้อผลประโยชน์ต่อกันระหว่างเจ้าพ่อกับเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่เฉพาะบนผืนแผ่นดินจีนเท่านั้น หนังจบลงด้วยโศกนาฏกรรม สะเทือนใจ จึงมีเสน่ห์ดลใจคนดูติดตามกันมาก เหนือกว่าหนังซีรี่ส์ชุดอื่นๆ ตั้งแต่บัดนั้นกระทั่งถึงปัจจุบันนี้

เล่นเอาแฟนชาวไทยติดกันงอมแงม หลังข่าว ๒ ทุ่ม ต่างไม่ไปไหน เปิดทีวีดูกันทุกบ้าน หลังจากออกอากาศครั้งแรกที่ฮ่องกงในปี ๒๕๒๓ แจ้งเกิดสามดาราดังเป็นพลุแตก กลายเป็นซูเปอร์สตาร์ มี โจวเหวินฟะ รับบท สวี เหวิน เฉียง, หลีเหลียงเหว่ย รับบท ติงลี่ และคนสวย แองจี้ ฉุย รับบท ฟ่งชิงชิง ยังมี จ้าว หยาจือ และดาราอื่นๆ ร่วมแสดงคับคั่ง ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๒๓

เพลงเอกภาพยนตร์ไพเราะ และเป็นที่นิยมมาถึงทุกวันนี้ ร้องโดย ฟรานซิส ยิป
เนื้อเรื่องในภาพยนตร์แต่งขึ้นโดยอิงประวัติศาสตร์ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในนครเซี่ยงไฮ้ ช่วงก่อนสงครามโลก ประมาณ พ.ศ. ๒๔๗๓ ซึ่งเป็นยุคล่าอาณานิคมของบรรดามหาอำนาจชาติตะวันตก ที่มีอานุภาพเทคโนโลยีอาวุธสงครามทันสมัยกว่าชาติอื่นๆ เซี่ยงไฮ้จึงถูกยึดครองโดยนักล่าอาณานิคม ซึ่งถือโอกาส

นำยาเสพติด เช่น ฝิ่น ภัยร้ายแรงไปมอมเมาชาวจีน มุ่งทำลายล้างให้อ่อนแอ ทำเศรษฐกิจปั่นป่วนทั้งใต้ดินและบนดิน แล้วกอบโกยผลประโยชน์มหาศาลกลับประเทศตน มีทั้งถูกและผิดกฎหมาย จีนต้องยอมเพราะถูกข่มขู่ยึดครองด้วยกำลังพลและอาวุธที่เหนือกว่า ด้วยเหตุนี้จึงเกิดพวกนักเลงมาเฟีย แก๊งนักเลงอันธพาลทั้งท้องถิ่น และพวกต่างชาติขึ้นหลายกลุ่ม ทำตัวเป็นเจ้าพ่อใหญ่ เรียกค่าคุ้มครอง เปิดบ่อน และทำสิ่งผิดกฎหมายสารพัด โดยมีเจ้าหน้าที่รัฐถูกซื้อตัวและรับผลประโยชน์คอยอำนวยความสะดวกหรือเป็นข้ารับใช้เจ้าพ่อทั้งหลาย

หนังเล่าถึงพระเอก สวี เหวินเฉียง คนมีอดีตที่เจ็บช้ำจากการสูญเสีย เขาอยากจะลืมอดีตให้หมด เขาเป็นนักศึกษาเกียรตินิยมอันดับ ๑ จากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง เขารักชาติบ้านเมือง เป็นผู้นำประท้วงและขับไล่ประเทศจักรวรรดินิยมต่างชาติ นักล่าเมืองขึ้นทั้งหลาย เขาถูกจับขัง ๓ ปี นักศึกษาสาวคนรักถูกตีตาย เมื่อพ้นโทษ เขาพยายามลืมความหลัง ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่นครเซี่ยงไฮ้ ใจมุ่งมั่นว่า จะทำเพื่อตัวเองให้ก้าวไปข้างหน้า จะไม่คิดถึงความดีของบ้านเมืองอีกต่อไป และจะไม่อยู่ใต้อำนาจใคร

เส้นทางการก้าวไปเป็นเจ้าพ่อ
มาถึงเซี่ยงไฮ้วันแรก เขาไปพบเพื่อนและพักที่บ้าน ติงลี่ ในสลัม เพื่อติดตามหาเพื่อนเก่าชื่อ ฟางเยียมเหวิน เมื่อได้คุยกับติงลี่ สวี เหวินเฉียง ฝันไกลอยากจะเป็นอย่าง ฟงจิ้งหยาง ผู้มีอิทธิพลมากที่สุดในนครเซี่ยงไฮ้ขณะนั้น สวี เหวินเฉียงได้ไปทำงานโรงหนังเหม่ยหัวของเถ้าแก่หลี ขณะนั้นมีปัญหากับนักเลง ถูกหาเรื่องทุกวัน พระเอกหนุ่มหน้าหล่อเข้าแก้ปัญหาได้ โดยไม่กลัวใคร ไม่ว่าหน้าสิ่วหน้าขวานเขาลุยเข้าหาหมด ปัญหาใหญ่คือหัวหน้านักเลงแถวนั้นขู่คุกคาม ยึดฟิล์มหนังไป ผลปรากฏว่า สวี เหวินเฉียง ตามไปเอาคืนได้ด้วยชั้นเชิงขู่กลับ

พวกนักเลงอันธพาล
“แกเอาฟิล์มมาคืนเดี๋ยวนี้” 
“แกอย่ามาเบ่งแถวนี้”

“ข้าไม่แน่จริงไม่มาคุมโรงหนังโรงนี้ได้หรอกนะ” 
คําพูดหนักแน่นประกอบกับท่าทีที่จริงจังเช่นนี้ ทำให้พวกอันธพาลชักแหยง เอ..มันเป็นใครวะ สุดท้ายยอมคืนโดยดี โดยไม่เสียเลือดเนื้อ ทำให้ สวี เหวินเฉียง มีชื่อเสียงขึ้นมาทันที แต่ อาปิง ลูกน้องเก่าเถ้าแก่หลีไม่พอใจ ไปจ้างมือปืนมาดักสังหาร สวีเหวินเฉียง แต่คนถูกจ้างคือ ติงลี่ จึงไม่จัดการลงมือเมื่อพบว่าเหยื่อสังหารคือใคร คราวนี้ความแตก อาปิงตามล่าติงลี่ จนได้รับบาดเจ็บ

เหวินเฉียงตามไปช่วยและปรึกษากันว่า เมื่อชีวิตต้องมาอยู่วงนักเลง จะต้องสู้กับพวกนี้ให้ถึงที่สุด ให้มันแหลกกันไปข้างหนึ่ง พระเอกรูปหล่อก็แสบนิ่มๆ ส่วนติงลี่ก็ไม่ธรรมดา นักเลงเก่ามุทะลุดุดัน ทั้งสองคนเตรียมลุย แล้วเข้าครอบครองเป็นผู้บริหารโรงหนังเหม่ยหัว ถือเป็นฐานปฎิบัติการแห่งแรก มีคนมาซูฮก ขอมาเป็นลูกน้องหลายคน คราวนี้จึงมีโอกาสรู้จักเจ้าพ่อใหญ่ผู้กว้างขวางมากบารมีที่ชื่อ ฟงจิ้งหยาง

พระเอกเข้าไปเป็นนักเลงและเจ้าพ่อในเวลาต่อมา หนังเดินเรื่องได้สนุก สู้กันด้วยชั้นเชิง ชิงไหวชิงพริบ แบบใครดีใครอยู่ บางตอนหวานซึ้งกับความรักที่กลับกลายเป็นรักสามเส้า ระหว่าง สวี เหวินเฉียง กับ ติงลี่ และนางเอก ฟงจิงจิง และฉากดวลปืนคลาสสิกด้วยเกม รัสเซียนรูเล็ต สู้ตัวต่อตัว สวี เหวินเฉียง สามารถดับบารมีเจ้าพ่อ สังหารฟงจิ้งหยาง ได้ชัยชนะแบบเส้นยาแดงผ่าแปด ผู้ชมใจหายใจคว่ำ เขากลายเป็นเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ตัวจริงตามที่ฝันไว้ พระเอกออกปราบพวกมาเฟียอิทธิพลทุกแก๊งจนหมด ไม่มีใครกล้าต่อกรด้วย ดูเหมือนเรื่องจะสงบลง แต่ไม่ใช่ ตอนสุดท้ายสะเทือนใจผู้ชม เป็นฉากแห่งความจดจำในภาพยนตร์ชุดนี้

พระเอกไม่ต้องการอยู่เซี่ยงไฮ้ เขาคาดการณ์ว่า ถ้าอยู่ที่นี่ไปนานๆ อาจเกิดปัญหากับติงลี่ เข้าทำนองเสือ ๒ ตัวจะไม่อยู่ถ้ำเดียวกันอีก ประกอบกับคิดถึงชิงชิงมาก อยากอยู่ใกล้เธอ ที่ย้ายไปอยู่ฝรั่งเศสก่อนหน้านี้

วันสุดท้าย ก่อนออกจากเซี่ยงไฮ้ พระเอกนัดติงลี่ไปทานอาหารมื้อค่ำในภัตตาคารแห่งหนึ่ง พระเอกแต่งสูทชุดขาว ติงลี่สูทสีเข้มอมเทา ติงลี่ถามว่าจะไปไหน? พระเอกบอกกับเพื่อนว่า กำลังจะไปธุระสำคัญ โดยไม่บอกว่าจะไปที่ไหน? ไปทำไม? สักพักพระเอกลุกขึ้นเดินออกผ่านประตูภัตตาคาร ด้วยใบหน้าเรียบเฉย ไม่มีใครคาดคิดว่า จะเกิดเหตุร้ายที่ผู้ชมช็อกผู้ชม กลุ่มคนร้ายพร้อมอาวุธสงคราม แอบอยู่บนรถ เป้าหมายคือรุมสังหาร สวี เหวินเฉียง

เสียงปืน ปัง ปัง ปัง ๆๆๆ ดังกัมปนาทหลายสิบนัด ยิงมาที่ สวี เหวินเฉียง เขาล้มฟุบลงกับพื้น ติงลี่วิ่งออกมาทันที ผู้ร้ายกับพวก ขับรถหนีไปแล้ว ติงลี่มาประคองเพื่อนไว้ เสียงสั่นเครือคำสุดท้ายก่อนวิญญาณออกจากร่าง “เพื่อนเอ๋ย ฉันกำลังจะไปฝรั่งเศส ไปหาคนรักฉัน ชิงชิง เพื่อไปใช้ชีวิตใหม่กับชิงชิง หากสายไปเสียแล้ว” 
ชะตาชีวิต ในโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน...ภาพโหดร้ายที่ปิดตำนาน เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ บทความเขียนในคอลั่มศิลปะวัฒนธรรมบันเทิง โดย วิวัย จิตต์แจ้ง นสพ โคราชคนอีสาน