Mobile Version / สำหรับโทรศัพท์มือถือ ยินดีต้อนรับท่านผู้มาเยือน www.peoplecine.com ท่านยังไม่ได้ log in นะครับ เข้าใช้งานระบบ / สมัครสมาชิก/ ลืมรหัสผ่าน

ประธานกรรมการ :ปวีณ เขื่อนแก้ว
เวบมาสเตอร์:อนุกูล วิมูลศักดิ์ 084-819-7374,095-308-6840


= ภายใน24ชั่วโมง , = ภายใน 3 วัน = ทั่วไป , = คลาส2 , = คลาส3 ,
รูป
โรงหนังเมื่อครั้งอดีต เจ้าของ อ่าน ตอบ ผู้ตอบหลังสุด
-ไปดูชุดฉายที่โรงหนังโคกสำโรง ลพบุรี921725.. 23/7/2553 20:04
-ดีไซน์โรงหนังเก่า กับโรงหนังใหม่ และโรงหนังที่กำลังจะเปิด 55771.. 23/7/2553 14:52
-เกษียณอายุ 30 ปี ปิดตำนานโรงหนังเบอร์ 1 ของภาคอีสาน ปริ๊นซ์ขอนแก่น (2523-2552)98456.. 22/7/2553 22:39
-โรงหนังครูทวี 53483.. 20/7/2553 16:47
-ระบบเสียงในโรงภาพยนตร์898517.. 15/7/2553 12:07
-ฟื้นชีวิตเหยื่อเผาเมือง "โรงหนังสยามต้องไม่ตาย"564010.. 14/7/2553 11:33
-โรงหนัง 56855.. 14/7/2553 0:06
-โรงหนังเปิดใหม่สดๆซิงๆครับ1461136.. 11/7/2553 9:58
-ปิดตำนานโรงหนังเสรีมัลติเพล็ค ลำปาง635614.. 25/6/2553 23:14
-+ + โรงภาพยนตร์สุวรรณราม่า จ,เลย (พิพิธภัณฑ์ภาพยนตร์)613712.. 13/6/2553 20:31
-ขอไว้อาลัย และปิดตำนานโรงหนังสยาม 877224.. 10/6/2553 18:44
-โรงภาพยนตร์เสริมสุข อ.กุภวาปี จ.อุดรธานี73095.. 16/5/2553 23:38
-และแล้วก็ถึงตอนอวสานของโรงภาพยนตร์ชานเมือง "เอเซียรามา" เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร844718.. 26/2/2553 18:34
-ตามไปดู เจาะลึกโรงหนังมงคลรามา สะพานควาย1414923.. 21/2/2553 14:08
-โรงหนังชั้นสองกับความทรงจำสีจางๆ1207923.. 26/1/2553 15:19
-ตั๋วหนังเก่าสมัยโรงหนัง ศาลาเฉลิมไทย48471.. 10/12/2552 10:24
เลือกหน้า
[<<] [14] [15] [16]
จำนวนหัวข้อทั้งหมด 247

(ID:2804) อยากทราบว่าใครเป็นแฟนบริการหนังแจ่มจันทร์ภาพยนตร์บ้างงงงง บอกหน่อยค่ะ


สวัสดีค่า อยากทราบว่าใครบ้างที่พอจะรู้จักบริการหนัง แจ่มจันทร์ภาพยนตร์ที่อยู่กับชาวอุดรมาตลอดระยะเวลา 33 ปี มีความทรงจำอะไรเกี่ยวกับแจ่มจันทร์ภาพยนตร์ที่พอจะแชร์ให้รับทราบกันได้บ้าง รวมไปถึงเรื่องราวที่โด่งดังโดยที่เจ้าตัวเองก็ไม่ได้รู้เรื่องด้วยโดยไม่ได้ตั้งใจ นั่นคือเรื่องราวของ ผีจ้างหนัง มีคำถาม-คำตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไร มาบอกเล่ากันค่ะ จะพยายามหาคำตอบมาให้โดยข้อมูลจากเจ้าของบริการแจ่มจันทร์ภาพยนตร์เองเลยค่ะ



ความเห็น

[1]


(ID:27343)
       เรียนเชิญ ท่าน โอมีเดีย(ทายาทแจ่มจันทร์ตัวจริง)หน่อยครับ มีงานแล้ว.............



(ID:27344)
แหม เจ้ โปรโมทบ้านอีกแล้ว อิอิ คุณป๊อปอาย นี่แหละ พี่ส้ม พี่สาวผม ทายาทแจ่มจันทร์ ตัวจริงกว่าผมอีก เนี่ย โดยตรงเลย ลูกสาวๆๆเจ้ นี่ มาแรงเลยนะเนี่ย เดี๋ยวเจ้ เค้าจะมาเผยโฉมให้ได้ชมกันอีกทีครับ เดี๋ยวผมเก็บตั๋ว ค่าชมเอง 5555



(ID:27350)
อ้าว ก็แค่อยากรู้ว่ามีใครรู้จักบ้างอ่ะ เค้าเรียกว่า surway จ้ะ  มีข้อ ติ ชม อย่างไร เจ้จะได้เอาไปบอกป๊ะป๋าไงจ้ะ



(ID:27351)

   OK ครับ   ยินดีที่ได้ร่วมเป็นสมาชิกและนำสิ่งดีดีมานำเสนอกัน  ตอนแรกก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเป็นพี่น้องกัน   ขอบคุณ ท่า โอ มิ ด้วยนะคร๊าบ    


     




(ID:27352)

    ลืมถามไป!   ท่านเหล่านี้ในรูป ก็เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในแจ่มจันทร์นี้ด้วยใช่ไหมครับ...




(ID:27353)

คนที่ใส่แว่นนั่งเขียนกระเป๋าหนังคือ คุณพ่อของดิฉันเองค่ะ ส่วนคนขวาคือพี่ดำที่เป็นมือฉายหนังตั้งแต่สมัยยุคแรกๆของแจ่มจันทร์ภาพยนตร์ค่ะ ซึ่งตอนหลังได้ลาออกแล้วไปทำร้านหนังของตัวเองค่ะ (แกยังเคยไปส่งดิฉันไปโรงเรียนสมัยอนุบาลเลยค่ะ 555)




(ID:27354)
ส่วนผม อยู่บ้านครับ 5555เจ้ ผมได้หนังมาใหม่ เรื่องลูกทุ่งพเนจร เพิ่งได้มา ถ่ายที่บ้านเจ้ด้วย เดี๋ยวเอามให้ดู ดู แล้ว ตื้นตัน T_T



(ID:27366)
- -*



(ID:27371)
ผมเคยได้ยินชื่อของหน่วยบริการนี้มานานมาก แต่ยังไม่เคยได้ดูหน่วยหนังและโรงหนังของแจ๋มจันทร์แบบจริงๆจังๆสักทีจะได้ถ่ายรูปมาลงเวปเราให้คึกคักสักหน่อย นี่ก็เลื่อนนัดกับนายโอ มีเดียมา 3 ครั้งแล้วครับ เอาไว้โอกาสดีๆคงได้ไปถ่ายรูปมาให้สมาชิกในเวปเราได้ดูแน่นอนครับ



(ID:27385)
หือ เดี๋ยวไปอาทิตย์หน้ากัน ทำรายการกันเลยมะครับ เฮีย รายการสั้น 10 นาที หรือรายการสั้น(กว่า) 30 วินาที พอ



(ID:27391)

ผมชื่อโอครับ เป็นเด็กอุดรโดยกำเนิด ตอนนี้มาทำงานอยู่ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นตำแหน่งนักวิชาการช่างศิลป์และเป็นอาจารย์พิเศษสอนวิชา Graphic Design ที่คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์

ความทรงจำดีๆเกี่ยวกับแจ่มจันทร์ภาพยนตร์ของผมเกิดขึ้นในสมัยเด็ก ๆ ตอนที่ผมอยู่อุดรกับพ่อแม่ ผมเองชอบหนังกลางแปลงมาตั้งแต่เด็กเพราะบ้านอยู่แถวโรงเรียนบ้านหนองตุ เมื่อก่อนหนังกลางแปลงมาลงฉายที่วัดวิเวกบูรพาชัยแถวบ้านบ่อยมาก ติดตามผลงานมาทุกหน่วยทั้ง ศรีเทพ แจ่มจันทร์ สุภาพฟิล์ม ฯลฯ ตอนเด็กพอรู้ว่าวันไหนมีหนังจะตื่นเต้นเป็นพิเศษ ไปรอดูรถหน่วยอยู่สนามวัดตั้งแต่บ่ายจนค่ำ ดูหนังเสร็จแล้วก็จะแอบตื่นแต่เช้าไปที่จุดที่เขาฉายหนังเก็บเอาเศษฟิล์มไปที่เขาทิ้งไว้ เศษแท่งถ่านที่เหลือแต่ปลายเล็กๆ ถือคติว่ามาก่อนได้ก่อน เพราะมีเด็กอีกหลายคนมาเดินสำรวจหาเศษฟิล์มเหมือนเราเช่นกัน และทำให้รู้สึกอยากสนใจและอยากรู้ว่าเครื่องฉายหนังมันเป็นยังไง มันถึงฉายออกมาได้

 เมื่อประมาณปี 2527 เรียนอยู่ ป.1 พ่อกะแม่ผมเป็นอาจารย์สอนที่โรงเรียนบ้านหนองตุ (ปัจจุบันเออรี่แล้วครับ) และคุณลุงสันติ (ลุงผมเอง) ท่านเป็นผ.อ. โรงเรียนบ้านหนองตุในสมัยนั้น ท่านจะจ้างเหมาหนังแจ่มจันทร์ มาล้อมผ้าหาเงินเข้าโรงเรียน ทุกวันที่ 24 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันครบรอบสถาปนาของโรงเรียนบ้านหนองตุโดยมีการจัดหนังทุกปี ก่อนจะถึงวันงานประมาณสองอาทิตย์ของทุกปี พ่อกับลุงผมจะเป็นคนไปติดต่อจ้างหนังแจ่มจันทร์และพาผมไปด้วย เป็นความรู้สึกที่ตื่นเต้นมากของเด็กคนนึงที่มีโอกาสได้ไปจ้างหนังกะเขา ที่สำนักงานแจ่มจันทร์ ภาพยนตร์ อุดรธานี ที่สำนักงานเก่า ถ.อุดรดุษฏี จะจัดติดต่อกันทุกปีวัตถุประสงค์คือต้องการหาเงินเข้าโรงเรียนบ้านหนองตุและจัดทุนการศึกษาแจกนักเรียนที่เรียนดีแต่ยากจน ตอนนั้นตื่นเต้นมากๆ ผมชอบเชียร์ให้พ่อกะลุงจ้างหนัง สรพงษ์กับจารุณีเท่านั้น เพราะสมัยเด็กๆผมจะได้ดูหนังสรพงษ์แนวระเบิดภูเขาเผากระท่อมเยอะมากจนแทบว่าชอมมากเลยทีเดียว จะมีเจ้ผู้หญิงคอยนั่งรับงานกับเจ้าภาพที่หน้าร้านตลอด (ผมก็ไมรู้จักครับแต่ดิดว่าต้องเป็นเจ้าของแจ่มจันทร์แน่ๆ เพราะแต่งตัวดี ดูมีราศรีกว่าใครๆเลย พูดจากับเจ้าภาพก็เป็นกันเองดีมากๆ คาดว่าต้องเป็นเจ้าของแจ่มจันทร์ ภาพยนตร์แน่ๆ)บ้านแจ่มจันทร์ใหญ่โตดีครับ ด้านข้างมีโรงจอดโรงหนังด้วยครับ ถ้าที่จอดเต็ม ก็จะเห็นรถหนังจอดเรียงรายอีกมาก อยู่ตรงข้ามสำนักงานแจ่มจันทร์ และรถหนังแจ่มจันทร์ทุกคันจะมีป้ายโค้กใหญ่ๆติดรถหนังทุกคัน (แต่ทุกวันนี้ไม่รู้ว่าเหลือกี่หน่วย แล้วหน่วยใหญ่รถHino FF จอ 20 เมตรที่เคยลงโชว์ในงานทุ่งก็ไม่รู้ว่ายังอยู่หรือเปล่า ชอบมากครับสวยงามดี)เคยดูหนังแจ่มจันและเคยเห็นไตเติงของแจ่มจันทร์ ภาพยนตร์ในฟิล์มหนัง และฉายบนจอหนังด้วยนะครับ เท่ห์จริงๆ

กลับถึงบ้านได้ใบปิดหนังมาแล้วก็จะขอพ่อเอาไปอวดเด็กแถวบ้านก่อน "แล้วก็บอกอย่างภาคภูมใจตามประสาเด็กๆเลยว่า "เฮ้ยวันนี้กูไปจ้างหนังมาแล้วนะเฟ๊ย ฮ่า ฮ่า" (ยืดได้เต็มอก) ก่อนถึงวันหนังฉายก็ท้ากับเพื่อนทำจอหนังเล็กๆแข่งกัน ตัดถุงพลาสติกเอาเมจิกมาทาขอบสีดำ เอาไม้ลุกชิ้นมาขึง เขียนคำว่าแจ่มจันทร์ไว้ที่ขอบจอด้วย อิอิ(บ้าดีมั้ยล่ะ) เพื่อนอีกคนมันก็ทำจอศรีเทพ กับฟิล์มทองมาลงแข่งด้วย (เป็นความสุขเล็กๆน้อยๆที่เด็กในสมัยนั้นจะมีได้) เพราะสมัยนั้นไม่มีเกมส์ ไม่มีอินเตอร์เน็ท

เมื่อทำเสร็จแล้วก็เอามาขึงไว้ที่ดินว่างหลังบ้าน ตกกลางคืนก็นัดรวมพลเพื่อน ๆมาสุมหัวกัน ต่างคนต่างเอาเศษฟิล์มหนังที่เขาทิ้งไว้ตามงานที่ฉายต่างๆมาส่องเทียนเล่นกัน พากย์กันเองไปด้วยสนุกสนาน สักพักหม่อมแม่ออกมาตามกับไม้เรียว เท่านั้นแหละจอพับยับเยินแตกกระจายคนละทิศคนละทาง  วันนี้เป็นผู้ใหญ่แล้วมาคิดดูอีกที ขำตัวเองอย่างแรง เฮ้อ ทำไปได้ แต่ก็ดีนะเรามีอดีตดีๆ สุมหัวรวมกันบ้าหนัง ดีกว่าสุมหัวรวมกันติดยาเสพย์ติด

ปัจจุบันเพื่อนที่เคยเล่นด้วยกันสมัยนั้นก็แยกย้ายไปคนละทิศคนละทาง บางคนก็ไปเป็นอัยการบ้าง เป็นตำรวจบ้าง เป็นคุณหมอบ้าง ได้ดิบได้ดีกันทั้งนั้น ถ้ามีโอกาสก็อยากชวนกันมารำลึกถึงความหลังเช่นกัน

แต่ครอบครัวผมก็อบอุ่นอย่างดีนะ เพราะทุกวันเสาร์เสด็จพ่อกะหม่อมแม่จะพาผมไปดูหนังที่โรงหนังในเมืองอยู่เรื่อยๆ โดยเฉพาะอัมพรเดอะลุกซ์นี่แหละ โรงขาประจำของหม่อมแม่เลย เด็จแม่จะชอบหนังแนวชีวิตๆ เช่นปีกมาร พลอยทะเล ฆ่าด้วยเสน่หา หรือไม่ก็ เมียหมายเลข 1 (สรพงกับอภิรดี เล่นเลิฟซีนดุเดือดมาก ถามว่าเหมากะเด็กมั้ยเนี่ย หุหุ) ซึ่งหนังแนวนี้จะเข้าฉายที่อัมพรตลอด แต่ผมไม่ค่อยชอบหรอกเพราะมันเป็นหนัง น่าเบื่อสำหรับเด็กๆนะ ตอนนั้นไม่มีการจัดเรทด้วย แต่ก็ชอบอัมพรเพราะโรงใหญ่หรูหราดี โคมไฟระย้าหน้าโรงสวยมาก แต่เสด็จพ่อจะชอบดูที่เจริญรัตน์เพราะพ่อชอบหนังชอว์บราเดอร์ เเป็นสาเหตุให้ครอบครัวนี้ต้องร้าวฉานอยู่บ่อยๆเพราะไม่รู้ว่าจะสามัคคีไปดูหนังกันที่โรงไหนดี 555 (แต่ส่วนตัวผมกลับชอบโรงหนังเจ้าพระยาครับขาประจำผมเลย คลาสิคสุดๆ)

กลับมาที่เรื่องจ้างหนัง ช่วงปีแรกๆ พ่อกับลุงไปจ้าหนังที่แจ่มจันทร์ ภาพยนตร์ เอาเรื่อง "ครูจันทร์แรม" มาฉายหาเงินเข้าโรงเรียน โดยให้คณะครูทำบัตรการกุศล (บัตรแข็งขายให้ชาวบ้านทั่วไปล่วงหน้า)ปรากฏว่าได้เงินเข้าโรงเรียนมากมายจนประสบผลสำเร็จ และเป็นกำลังสำคัญให้ได้จัดหนังล้อมผ้าอีกหลายปีต่อมา ช่วงหลังๆก็จะเป็นหนังแนววัยรุ่นสมัยนั้นเช่น "นานาจิตตัง" ฉลุย หรือไม่ก็หนังจีนแนวผีกัด ซึ่งได้บรรยากาศมากๆเล่นเอาไม่กล้ากลับบ้านกลางคืนคนเดียวเลย ทั้งที่บ้านอยู่ใกล้โรงเรียนบ้านหนองตุ เพราะเมื่อก่อนบ้านหนองตุยังเป็นป่าเป็นดงอยู่เลย ทุกวันนี้กลายเป็นบ้านคนไปหมดแล้ว และก็เป็นหอพักนักเรียนเยอะไปหมด จนจะกลายเป็นชุมชนแออัดไปแล้ว เพราะไม่มีการจัดผังเมืองที่ดี 

ผมกับพ่อและคุณลุงก็มีสัญญาใจกับแจ่มจันทร์มาเรื่องๆทกุปี จบปีนี้แล้วก็ตั้งหน้ารอคอยจนกว่าจะถึง 24 พฤษภาคมอีกปีหน้าจึงจะได้มาที่แจ่มจันทร์อีกที เป็นการรอคอยปีต่อปีที่ยาวนานมากของเด็กคนนึง จนถึงปี 2536 ผอ.สันติ ก็เกษียณ และก็ขาดแม่งานสำคัญ ในการจัดงาน หลังจากอีกปีนั้นก็มีจัดอีกครั้งโดยคราวนี้ปันใจไปจ้างฟิล์มทอง ภาพยนตร์มาฉาย ปรากฏว่าไม่ประสบผลสำเร็จ ก็เลยไม่ได้มีการจัดอีกเลย

แต่ผมก็มีโอกาสได้ไปแจ่มจันทร์ ภาพยนตร์อีกครั้งนึงแบบงงๆ อิอิ เพราะพี่สาวผมเป็นเพื่อนเรียนห้องเดียวกับพี่ผึ้งสมัยอยู่ราชินู ปีนั้นเค้าไปเลี้ยงสังสรรอะไรกันกันสักอย่างนี่แหละที่บ้านแจ่มจันทร์ ไปแบบงงๆเพราะงานนี้มีแต่ผู้หญิงเพื่อนๆเค้าทั้งนั้น สรุปแล้ววันนั้นตูไปทำไมหว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเขาเล๊ย เอาเป็นว่าได้มาที่บ้านแจ่มจันทร์ก็ดีใจแล้ว

พอขึ้นม.ต้น ก็ยังชอบหนังกลางแปลงไม่เสื่อมคลาย แอบปีนหน้าต่างไปดูหนังตอนกลางคืน แต่ขากลับนี่สิโดนหม่อมแม่ตีด้วยไม้เรียวทุกทีเลย คิดแล้วยังขำตัวเองอยู่เลย อิอิ เมื่อก่อนแจ่มจันทร์ กับศรีเทพ จะขยันมาลงล้อมผ้ากันบ่อยมากที่สี่แยกรอบเมืองโรงเรียนสันตพล ซึ่งจะเป็นลานหน้าอู่ซ่อมรถ (ฝั่งตรงข้ามบิ๊ก C ในปัจจุบัน ) และคนดูเยอะมากๆ แทบเรียกได้ว่าเป็นแหล่งหม้อข้าวหม้อแกงของหน่วยหนังในยุคนั้นกันเลย ปัจจุบันกลายเป็นถนน 4 เลนกันหมดแล้ว และจะมีอีกที่ตรงซอยกำนันทางจะไปบ้านหนองใส ตรงแถวๆบ้านกำนันลม ผมเองก็แอบหนีบ้านไปดูบ่อยๆเหมือนกัน หุหุ (จำได้แจ่มจันทร์เคยไปล้อมผ้าเรื่องใหญ่ฟัดใหญ่ หนังของนนทนันท์ และก็มีหนังไทยเรื่อง ทอง 3 ยังจำได้นะคร้าบ)

พอขึ้นม.ปลายที่อุดรพิทย์ก็ห่างหนังกลางแปลงนักไปสักหน่อยเพราะต้องตั้งใจเรียนให้มาก แต่ผมจะมาสนิทกับศรีเทพ ภาพยนตร์มากขึ้นเพราะลูกชายของผู้การอ๊อด ชื่อโต (พงษ์เทพ สมประสงค์) เป็นเพื่อนเรียนม.ปลายรุ่นเดียวกัน และก็มักจะไปเล่นที่บ้านศรีเทพบ่อยๆ และก็เป็นช่วงที่ศรีเทพบูมมากๆ แต่ก็ยังเป็นห่วงแจ่มจันทร์เช่นกันเพราะตอนนั้นไม่ค่อยเห็นแจ่มจันทร์ซื้อหนังเลย แต่ก็ยังดีใจที่เห็นแจ่มจันทร์อยู่คู่เมืองอุดรมาจนถึงทุกวันนี้

ทั้งที่ศรีเทพ ภาพยนตร์นั้นกลับต้องปิดตำนานไปโดยปริยาย เหมือนพลุที่ถูกจุดขึ้นฟ้าพอถึงจุดที่สูงที่สุดก็ดังก้องฟ้า ไม่นานแสงก็ดับและร่วงลงสู่ดินเช่นเดิม มันเป็นสัจธรรมครับ

พอเรียนจบ ป.ตรี ปี 47 (ตอนนั้นยังไม่ทำหน่วยหนัง) สิ่งแรกที่คิดคือต้องการกลับมาบวชทดแทนพระคุณพ่อแม่ ตอนนั้นองค์บากกำลังดังอยากจ้ามาฉายงานบวชตัวเอง และได้ข่าวว่าเป็นหนังของแจ่มจันทร์ซะด้วย ผมไม่ลังเลครับเพราะเชื่อถือในชื่อของแจ่มจันทร์ในสมัยที่พ่อกับลุงเคยเป็นลุกค้าผมก็เลยลองติดต่อไปโทรถามดู ก็มีผู้ชายรับสายคาดว่าน่าจะเป็นเฮียธงชัยครับ ถามไปถามมาเฮียเค้าบอกว่ารับอยู่สองหมื่นห้า ผมก็เลยไม่ได้จ้างครับเพราะมีเงินเหลือจัดแนวงันของตัวเองอยู่หมื่นกว่าบาท (ก็ผิดหวังนิดหน่อยเพราะใจอยากให้มีหนังในงานบวชตัวเองสักครั้งในชีวิต)งานวันนั้นก็เลยไม่มีอะไรมางันครับมีแค่อีเล็คโทนกระป๋องกระแป๋งที่พ่อไปหามาให้ งานก็เลยกร่อยนิดๆ แต่ใจก็ยังอยากจางหนังอยู่ดี ก็เลยตัดใจและปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัดโดยภาวนาให้ผลบุญในการบวชครั้งนี้ เป็นบารมีให้พ่อกะแม่หมดเลย

ตอนนี้ผมอยู่ที่ขอนแก่นแล้วครับ มาทำงานไปด้วยทำหน่วยหนังไปด้วย ชื่อเทพมงคล ภาพยนตร์ รถหนังคันสุดท้ายของศรีเทพ พ่ออ๊อดก็ให้ผมมาใช้ต่อนี่แหละครับ (ขอบคุณพ่ออ๊อดครับ เครดิตนิดๆ) และก็ขอบคุณแจ่มจันทร์ ภาพยนตร์มากมายที่ทำให้ผมผูกพันธ์กับหนังเรื่ยมา แม้ไม่ได้มีส่วนสำคัญอะไรสำหรับแจ่มจันทร์ แต่ก็เป็นต้นแบบที่ดีที่ทำให้ผมได้ทำหนังในวันนี้ ขอบคุณ ครอบครัวแจ่มจันทร์ ภาพยนตร์ทุกท่านไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ ก็ไม่รู้จะบอกความรู้สึกในใจที่ไม่เคยบอกใครเลย เพราะไม่รู้จะไปบอกตรงไหนกับใครดี บอกตรงนี้ละกัน ขอบคุณเฮียแอ๊ดและเว็บไทยซีนที่ทำให้ได้ย้อนอดีตถึงแจ่มจันทร์ครับ

จากใจโอ ขอนแก่น (เทพมงคล ภาพยนตร์)

ป.ล. ผมชอบ คำว่า แจ่มจันทร์ ภาพยนตร์ มากกว่านะครับ ไม่คุ้นกับคำว่าแจ่มจันทร์ฟิล์มสักเท่าไหร่ทั้งที่เป็นชื่อเดียวกัน ผมชอบ คำว่า แจ่มจันทร์ ภาพยนตร์  เพราะฟังดูแล้วรู้สึกดีมากมายอย่างบอกไม่ถูก




(ID:27392)
ทุกวันนี้เลิกเล่นจอแล้วส่องเทียนเหมือนสมัยก่อนแล้วครับ อิอิ

+ +
++


(ID:27396)

Ohhhhhhhhhhhhhhhhhh

 

ต้องขอบคุณคุณ โอ ขอนแก่นมากๆๆๆๆ ค่ะ ได้อ่านแล้วซาบซึ้งอย่างบอกไม่ถูก ที่มีคนรักหนังกลางแปลงได้อย่างลึกซึ้งขนาดนี้ไม่ว่าจะเป็น แจ่มจันทร์ภาพยนตร์ หรือ ศรีเทพ ก็มีหน้าที่เหมือนกันค่ะ คือให้ความสุขกับท่านผู้ชมที่อุตส่าห์เสียเงินเสียทองหอบเสื่อ หอบผ้ามาดูหนังกลางแปลง ดิฉันเป็นตัวแทนของบริการหนังแจ่มจันทร์คงต้องขอบคุณทุกท่านที่ให้การสนับสนุนบริการหนังกลางแปลงแจ่มจันทร์ภาพยนตร์มาด้วยดีตลอด 30 กว่าปี

 

ขอตอบคำถามคุณโอ ขอนแก่นหน่อยนะคะ จริงๆแล้วดิฉันก็ชอบชื่อแจ่มจันทร์ภาพยนตร์มากกว่าแจ่มจันทร์ฟิล์ม 2001 เช่นกันค่ะ แต่ด้วยเหตุผลทางธุรกิจบางประการทำให้ต้องเปลี่ยนชื่อค่ะ ชื่อแจ่มจันทร์เป็นชื่อของคุณแม่ดิฉันเองค่ะ เป็นชื่อที่ให้พระอาจารย์หลวงปู่หลุยส์ จันทสาโร เลือกระหว่างชื่อคุณพ่อกับคุณแม่ ซึ่งท่านก็เลือกเป็นชื่อคุณแม่ในการทำธุรกิจ ซึ่งก็ได้รับการตอบรับและให้การสนับสนุนอย่างดีจากผู้ที่ชื่นชอบการดูหนังจากสมัยก่อนจนถึงสมัยนี้

 

ดิฉันอ่านความเห็นของคุณโอ แล้วทำให้ต้องหลับตานึกภาพสมัยก่อนของที่บ้านเลยค่ะ มีความสุขมาก ดิฉันเองได้ไปขายตั๋วหน้าวิกฉายหนังของที่บ้านตั้งแต่เด็ก จนโต ย่อมมีความผูกพันกับการฉายหนังกลางแปลงเป็นอย่างดีได้เห็นวิวัฒนาการและวงจรชีวิตของบริการหนังกลางแปลงที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆตามยุค ตามสมัย แต่ยังคงไว้ซึ่งความคลาสสิค ภาพของผู้คนแต่ละอำเภอ แต่ละบ้าน แต่ละท้องที่ ที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆตามแต่ที่คุณพ่อดิฉันไปวางบุคฉาย ทำให้ดิฉันอดทึ่งไม่ได้ว่า คนสมัยก่อนนี้ รอคอยเหลือเกินที่จะมีหนังมาฉายให้ดูถึงบ้านของเค้า

 

ดิฉันดีใจนะคะที่คุณโอ เป็นอาจารย์สอนอยุ่ที่ ม.ขอนแก่น คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ เพราะว่าหลานสาวดิฉันเพิ่งจะเข้าเรียนปี 1 คณะนี้ มหาวิทยาลัยขอนแก่นเมื่อเดือนที่แล้วนี้เองค่า อาจจะมีโอกาสได้เรียนกับท่านอาจารย์โอ ขอนแก่นที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของหนังกลางแปลง ไม่ทราบว่าคุณโอ ชื่อจริงชื่ออะไรค่ะ มีโอกาสไปที่มหาลัยเพื่อไปเยี่ยมหลาน อาจจะแวะไปทักทายกันค่ะ หวังว่าคงไม่ว่ากันนะคะ หลานดิฉันชื่อ แก้ม แพรสกาว แสงสว่างค่ะ มีโอกาสรบกวนสั่งสอนให้ด้วยนะคะ (ฝากหลานซะเลย อิอิ)

 

สุดท้ายนี้ ดิฉันอยากทราบความเห็นของสมาชิกคนอื่นๆว่า มีความทรงจำดีๆ หรือไม่ดีก็ได้ค่ะ เกี่ยวกับ แจ่มจันทร์ภาพยนตร์บ้างหรือเปล่าค่ะ ยินดีรับฟังทุกความคิดเห็นค่ะ




(ID:27453)

ได้ยินชื่อเสียง แจ่มจันทร์ภาพยนตร์ มามากเหมือนกันครับ โดยเฉพาะเกี่ยวกับผีจ้างหนัง ที่คำชโนด แต่ก็ไม่เคยได้ดูหนัง แจ่มจันทร์ภาพยนตร์ สักที ด้วยเหตุผลที่ว่าไม่ได้เป็นคนในพื้นที่เลยไม่มีโอกาสได้ชมหน่วยหนังในตำนานและยังคงดำเนินกิจการมาจนปัจจุบันนี้ 

ถ้ามีโอกาสก็อยากให้คุณพี่นำรูปหน่วยฉายของ แจ่มจันทร์ภาพยนตร์ มาให้ได้ชมกันนะครับ  จะได้จดจำไว้เป็นแบบอย่างในการพัฒนาหน่วยหนังกลางแปลงต่อไป...ขอบคุณครับ




(ID:27474)

ได้ค่ะ เด๋วถ้ามีโอกาสจะนำหน่วยหนังที่บ้านมาให้ชมนะคะ




(ID:28126)
ผมชื่อโอครับพี่ส้ม ชื่อจริงอติเทพ คะยอม แต่ทำงานคงอยู่ที่สถาปัตย์มข.ถึงปลายเดือนก.ค.นี้เท่านั้นครับ ก็คงต้องลาออกเพราะต้องเตรียมตัวระยะนึงเพื่อศึกษาต่อป.โท ที่คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น สาขาวิชาเทคโนโลยีการศึกษา ต้องลาออกเพระเวลาเรียนตรงกับเวลางานที่เคยทำงานจันทร์-ศุกร์ครับ มาขอนแก่นก็ยินดีต้อนรับครับแต่ถ้ามีโอกาสได้ไปบึงกาฬก็จะแวะไปทักทายเช่นกันครับ



(ID:28137)
ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ



เลือกหน้า
[1]
จำนวนหัวข้อทั้งหมด 17

กลับขึ้นข้างบน / กลับหน้าแรก

ค้นกระดานข่าว:


ถูกเปิด: ถูกคลิ๊กแล้ว: 112745342 ตอนนี้มีผู้เข้าชม : 1 ล่าสุด :Vilianappw , JerryUnelf , IlyiaMug , HoustonDab , Irinefi , Julieiz , ThomasovBeauh , Bobbyerihor , Keithustval , CharlessFup ,