Mobile Version / สำหรับโทรศัพท์มือถือ ยินดีต้อนรับท่านผู้มาเยือน www.peoplecine.com ท่านยังไม่ได้ log in นะครับ เข้าใช้งานระบบ / สมัครสมาชิก/ ลืมรหัสผ่าน

ประธานกรรมการ :ปวีณ เขื่อนแก้ว
เวบมาสเตอร์:อนุกูล วิมูลศักดิ์ 084-819-7374,095-308-6840


= ภายใน24ชั่วโมง , = ภายใน 3 วัน = ทั่วไป , = คลาส2 , = คลาส3 ,
รูป
ตามไปดูห้องดูหนังฟังเพลงในบ้าน ทั้งระบบฟิล์มและดิจิทัลเจ้าของ อ่าน ตอบ ผู้ตอบหลังสุด
-ดูหนังในบ้าน(ไม่รู้บ้านใคร อิอิ)25413.. 28/11/2556 22:53
-ห้องฉายหนัง 35 มม.26711.. 8/10/2556 21:37
-ห้องดูหนังส่วนตัวของผมฮับ876718.. 3/8/2556 3:22
-มินิซีนีม่าของผม3138375.. 1/8/2556 16:43
-ยังไม่ได้ตั้งชื่องานเลื้ยงในบ้านกับจอ4เมตร21442.. 21/7/2556 15:52
-ไปดูห้องฉายหนังส่วนตัว..41865.. 21/7/2556 15:51
-แวะไปฟังเพลงที่บ้านเฮียดำ..226512.. 5/6/2556 21:45
-ข้อสงสัยของแผ่นเลเซอร์ดิส330811.. 5/6/2556 11:00
-สร้างโรงหนังเคลื่อนที่แบบเติมลม26491.. 27/1/2556 0:07
-ทำไมห้องนี้ เงียบจัง16461.. 7/12/2555 13:28
-ห้องฉายหนัง 16 ม.ม.23782.. 22/9/2555 21:24
-ฉายในห้องพัก823336.. 1/9/2555 20:30
-ฉายหนังด้วยฟิมล์ 35 มม.ดูเองที่บ้าน.34775.. 12/8/2555 12:23
-ขอถามครับ การฉายด้วยฟิล์ม35 มม.มีความคมชัดระดับ HD หรือไม่ครับ แตกต่างกันยังไง707830.. 8/8/2555 17:51
-เปลี่ยนจากห้องดูหนังมาเป็นห้องดูบอล..689322.. 12/6/2555 5:56
-ฉายกลางแปลงในบ้าน320910.. 31/5/2555 12:19
เลือกหน้า
[<<] [5]
จำนวนหัวข้อทั้งหมด 65

(ID:13917) ข้อสงสัยของแผ่นเลเซอร์ดิส


          ขออนุญาติเรียนถามผู้รู้เกี่ยวกับแผ่นเลเซอร์ดิสว่า   ภาพและเสียง  ที่เล่นออกมา พอๆกับ DVD หรือ BLULAY ครับ
     ( เพราะตอนวัยรุ่นเล่น วีดิโอ อย่างเดียว ช่วงปี 2527-2545) แต่ ช่วงปี 2538 แผ่นเลเซอร์ดิส ก็มีให้เช่าดูในร้านใหญ่ๆ
 เช่น ร้าน Imagine แถว ถ.หลังสวน แต่ค่าเช่าต่อแผ่น ก็แพง จึงไม่มีโอกาสได้ชม  
        


ความเห็น

[1]


(ID:143974)
ไม่เคยดูเปรียบเทียบกันนะ เอาแค่ความรู้สึกส่วนตัว ที่อาจจะเลือนลางไปบ้างแล้ว LD ภาพมันเป็น 4:3 ตามทีวีสมัยนั้น เมื่อเทียบกับ VHS มันคนละเรื่อง LD มีความคมชัดมากกว่าอยู่พอสมควร ความละเีอียดของภาพ 528x576 ส่วนเสียงนั้น รู้สึกจะเหมือนแผ่น CD นะ  PCM 16 bit 44.1 Khz  แต่เมื่อเทียบกับ DVD ปัจจุบัน LD น่าจะด้อยกว่าทั้งภาพและเสียง ส่วน BD ไม่ต้องไปเทียบกันเลยครับ

อ้อ..อีกอย่าง LD เป็นเทคโนโลยีลูกผสม อนาล็อก+ดิจิตอล คือต้นทางเป็นอนาล็อค เอามาบันทึกในรูปแบบดิจิตอล (เพื่อให้ได้คุณภาพคงเดิมเทียบเท่าต้นฉบับตลอดเวลา) ตอนเล่นก็แปลงดิจิตอลไปเป็นอนาล็อคเหมือนเดิม ประมาณนั้นครับ



(ID:143976)
ความละเอียดของเลเซอร์ดิสก์นั้น อยู่ที่ 420 เส้น ถ้าเป็นความละเอียดก็ 560 x 480 เท่านั้นครับ

(วิดีโอ เทปแบบ ซูเปอร์ วีเอชเอส กับ วิดีโอ Hi8 ก็มีความละเอียดใกล้เคียงกัน)

ตอนที่เลเซอร์ ดิสก์ออกมานั้น มันเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่เล่นโฮม เธียเตอร์ที่มีฐานะหน่อย เพราะตอนนั้นจะมีแค่ 2 รูปแบบของโฮม เอ็นเตอร์เทนเมนท์ คือ วิดีโอ วีเอชเอส กับเลเซอร์ ดิสก์

พอวีซีดีเริ่มเข้ามา ร้านที่ให้เช่าแผ่นเลเซอร์ก็ยังไม่กระเทือนเท่าไหร่ครับ แต่พอดีวีดีเกิดเท่านั้นแหละ (ประมาณสองปีเศษ หลังช่วงฟองสบู่แตก) ร้านที่ให้เช่าเลเซอร์ เริ่มเปลี่ยนแปลงมาขายแผ่นดีวีดีด้วย ราคาเครื่องเล่นดีวีดีตอนนั้นก็หลักหมื่นต้นๆ ราคาแผ่นก็พันสามถึงพันห้า ขนาดไพโอเนียร์ ซึ่งเคยผลิตเครื่องเล่นเลเซอร์ ดิสก์ ยังต้องออกเครื่องเล่นเลเซอร์ ดิสก์ที่สามารถเล่นดีวีดีได้ด้วย ซึ่งมีแค่สองรุ่นเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีข้อจำกัดเกี่ยวกับการแบ่งโซนทั้งเครื่องเล่น และตัวแผ่นอยู่

กระทั่งเครื่องเล่นดีวีดี DENON (จำรุ่นไม่ได้) ซึ่งเป็นรุ่นแรกที่สามารถอ่านแผ่นดีวีดีได้จากทุกโซน ผลก็คือหลายยี่ห้อเริ่มผลิตตามมาเพียบ ทั้งจากญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ รวมทั้งในบ้านเราด้วย แล้วยังผนวก MP3เข้าไปอีก

มีอยู่หนหนึ่ง ยี่ห้อ ชาร์ป เคยออกเครื่องเล่นดีวีดี และวิดีโอ VHS ออกมาด้วย นัยว่าเพื่ิอความสะดวกในการใช้งาน ไม่ได้หวังเพื่อก็อบปี้หนังจากแผ่นดีวีดีลง VHS เนื่องจากแผ่นดีวีดีที่เป็นแผ่นลิขสิทธิ์จะใส่รหัสป้องกันก็อบปี้ไว้ ทำให้ไม่สามารถบันทึกลง VHS ได้ ในทางตรงกันข้าม แผ่นดีวีดีผี กลับบันทึกลง VHS ได้ซะงั้น แต่สัญญาณทีวีเป็น NTSC 3.58 นะครับ หนังยาว 2 ชั่วโมง ต้องใช้เทป VHS ความยาว 180 นาที จึงจะบันทึกได้ทั้งเรื่อง

ด้วยเหตุนี้ ดีวีดีจึงเป็นที่นิยม และทำให้ฟอร์แม็ตที่ออกมาก่อนหน้าอย่าง VHS และเลเซอร์ ดิสก์ต้องถึงกาลอวสานในที่สุด ขณะที่ VCD ซึ่งออกมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2537 (ในราคาแผ่นละ 5 - 6 ร้อย จนกระทั่งลดลงอย่างมากในปัจจุบัน) ก็ยังมีการผลิตอยุ่ เนื่องจากตลาดล่าง (หมายถึงผู้ที่มีรายได้ไม่มาก) ยังมีความต้องการอยู่ ครั้นจะเปลี่ยนให้เป็นดีวีดีเหมือนกันทั้งหมด คงต้องใช้เวลาอีกสักพักใหญ่ๆ ครับ

ถึงเพลานั้น อาจจะมี BD ที่มีความคมชัดที่สูงกว่า High Definition ก็เป็นได้



(ID:143982)
       ต้องขอขอบคุณ ท่านปอ และท่านอนุกูล มากๆครับที่ให้ความกระจ่าง ตอน DVD เข้ามาใหม่ๆ ผมก็ว่ามันคมชัดแล้ว
     แต่พอไปดู Blulay มันคมชัดกว่ามาก แต่ตอนนี้ต้องรอไปก่อน (ราคายังแพงอยู่)



(ID:144000)

ความชอบโดยส่วนตัว แผ่น BD ภาพยนตร์ (รวมทั้งไฟล์ที่ริปออกมาเพื่อใส่ลงฮาร์ดดิสก์ EXT รวมทั้งไฟล์วิดีโอความคมชัดสูง ในชื่ออื่นๆ ที่จะพัฒนาตามมาในอนาคต) เหมาะกับการฉายผ่านโปรเจคเตอร์ลงจอ เพราะมันได้ Feel รวมทั้งบรรยากาศความเป็นภาพยนตร์ (ทั้งในโรง หรือกลางแปลง) ซึ่งต่างจากการชมผ่านจอโทรทัศน์ หรือคอมพิวเตอร์ ถ้าจะมุ่งไปที่เรื่องความคมชัดขณะชม แทบไม่เห็นความแตกต่างครับ

สำหรับราคาเครื่องเล่น ถือว่าถูกลงเยอะเลยทีเดียว ติดอยู่ที่ราคาแผ่นลิขสิทธิ์ ซึ่งก็หลักร้อยปลายๆ (2D) ถึงเกือบสองพัน (3D แต่มีฟังก์ชั่นปรับเป็น 2D เพื่อสามารถชมได้โดยไม่ต้องสวมแว่นสามมิติ) เพราะเป็นแผ่นนำเข้า ส่วนใหญ่จะเป็นหนังต่างประเทศ (ทั้งฝรั่ง ทั้งเอเซีย) สุดท้ายก็มี "ผี" มาแชร์ไป ซึ่งจะว่าไปแล้ว ก็ไม่พบเห็นความแตกต่างมากนัก ที่สำคัญราคาถูกอีกต่างหาก ราวๆ 3 - 4 ร้อยบาท (เฉพาะ 2D นะ) ส่วนหนังไทยก็มีไม่ค่อยมากนัก




(ID:144014)
ตอนนี้ แผ่นผี  ซื้อผ่านทางเวป ไม่ถึงร้อยบาทแล้วครับ  แผ่นบลูเรย์ 2D  25ฺGB   หากเป็นสามมิติ สองร้อยกว่าบาท  ราคาแบบนี้    ถือว่า แชร์ตลาดแบบว่า ไม่ใช่แชร์ครับ  เรียกว่า  "แย่งตลาดไปซะเกือบหมด"   เลยครับ    แถมหนังโหลดลงฮาร์ดดิสก์  แข่งกันขาย แข่งกันบริการทั้งในเน็ต  นอกเน็ต  และบอกกัน ปากต่อปากกันเอง  เรื่องละสิบกว่าบาท หรืออาจไม่ถึงสิบบาทเสียด้วยซ้ำ



อีกสักระยะหนึ่ง  บลูเรย์  แผ่นแท้  โอกาสได้ลงราคาลง เยอะแน่ ๆ ครับ  เพราะเห็นหนังใหม่ ๆ ออกมา ทำโปรโมชั่น  แผ่นละ  499   599   699   กันหลายเรื่องเลยครับ หากเทียบกับเมื่อก่อน  "ที่ว่า  มีเงินไม่ถึงพัน อย่าไปจับแผ่นบลูเรย์เลย"  อีกหน่อย คงราคาตกประมาณ ดีวีดี  ณ ปัจจุบันแน่ ครับ



สถานการณ์ช่วงนี้ ขอบอกว่า  "ธุรกิจ เช่าแผ่นหนังดีวีดี"   ทั่วไป ยอดตกลงฮวบฮาบ  ที่เีชียงใหม่ ยักษ์ใหญ่แห่ง ดีวีดี เจ้าหนึ่ง ที่เคยเปิดมีถึง  ยี่สิบสาขา ต้องเลิกกิจการเลย ครับ   เพราะช่องทางดูหนังมีเยอะมาก  ลูกค้าที่มาเช่าแผ่นลดน้อยลงไปมาก แต่ละร้านต้องงัดกลยุทธ์ออกมาเห็นแล้วเหนื่อยแทนเหมือนกันครับ


สอบถามอีกสักนิดหนึ่งครับ    "แผ่นหนัง วีซีดี"    อนาคต จะสูญพันธุ์  หรือ อย่างดีหน่อย ลดความนิยมลง จะเป็นเหมือนกับ ม้วนวีดีโอ ในอดีต หรือเปล่าครับ



(ID:144015)
VCD ถ้าจะว่ากันจริง ๆ มันแย่มาก ๆ ทั้งภาพและเสียง แต่คงจะอยู่คู่ประเทศไทยไปอีกพักใหญ่ ๆ ละผมว่า  เพราะคนส่วนใหญ่ ยังใช้ทีวีจอแก้วกันอยู่ เอาแค่มีภาพให้ดู มีเสียงให้ฟัง ก็ใช้ได้แล้ว ภาพที่เห็นก็ไม่ได้ด้อยกว่ากันเท่าไหร่เลย เพราะข้อจำกัดด้านการแสดงภาพของทีวีแบบนี้  คงเพราะเหตุผลนี้ แม้เครื่องเล่น DVD จะมีราคาไม่ถึงพัน คนก็ยังนิยมดู VCD หรืิอดู DVD คุณภาพ VCD (V2D) แบบรวม 4-5 เรื่องในแผ่นเดียวกัน ซึ่งมีขายตามตลาดนัดใกล้บ้าน  

ไม่แน่นะ ถ้าเครื่องเล่น BD ราคาลดลงมาอีกหน่อยเหลือแค่พันเดียว เราอาจจะเห็นแผ่น V2B คือแผ่น BD คุณภาพ VCD บรรจุหนังได้ แผ่นละ 20-30 เรื่อง ก็เป็นได้



(ID:144044)
       ผมยังมีข้อสงสัยอีกข้อหนึ่งครับ  การถ่ายทำภาพยนต์ทั้งในประเทศและต่างประเทศปัจจุบันยังใช้ฟิลม์อยู่หรือเปล่าครับ และในโรงหนังก็ยังฉายด้วยฟิลม์ใช่ไหมครับ  ที่ถามแบบนี้เพราะว่าภาพยนต์ ตั้งแต่ปี2000ขึ้นมาถึงปัจจุบัน ฉากแอ๊คชั่นต่างๆใช้กราฟฟิคคอมพิวเตอร์ล้วนๆ และในชีวิตประจำวันการถ่ายภาพก็ไม่ต้องใช้ฟิลม์เก็บภาพ เป็นกล้องดิจิตอลหมดแล้ว     
              อีกข้อหนึ่งครับ  Blulay เทียบเท่า ฟิลม์ภาพยนต์ได้ไหมครับ



(ID:144056)

ในกองถ่ายภาพยนตร์ 90 % (ทั้งไทยและเทศ) ถ่ายทำด้วยดิจิตอลกันแล้วครับ จะใช้ฟิล์มจริงๆ ก็มีไม่มากเพราะมีค่าใช้จ่ายสูง ที่สำคัญหลังล้างฟิล์มเนกาตีฟที่ถ่ายแล้ว ก็ต้องมาเทเลซีนเพื่อทำเป็น Cut List เพื่อตัดต่อ ก็ต้องโอนเข้าคอมอยู่ดี (มีค่าใช้จ่ายอีกนะ)

กองถ่ายในบ้านเรา ถ่ายที่ความละเอียด 2K แต่ในต่างประเทศจะสูงกว่านั้น คือ 4K หรือ 8K ซึ่งแล็บในต่างประเทศมีคุณภาพสูง จึงสามารถปริ้นต์ออกมาในความละเอียดระดับนั้นได้ ส่วนบ้านเรา ส่วนมากจะสั่งพิมพ์ในระดับ 2K เท่านั้น (ทั้งๆ ที่เครื่องพิมพ์สามารถทำได้) ไม่มีใครสั่งปรินต์ในความละเอียดสูงกว่านั้น นอกจากจะเสียเวลาแล้ว สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ

อย่าง "จัน ดารา" เวอร์ชั่นล่าสุด ตอนถ่ายทำก็ถ่ายเป็นดิจิตอล ตอนพรีวิวหนังจากฮาร์ดดิสก์ หนังมีความยาวมากจนเลยต้องแบ่งออกเป็น "ปฐมบท" และ "ปัจฉิมบท" ครับ

ส่วนโรงหนัง ในต่างประเทศเริ่มเปลี่ยนเป็นดิจิตอลไปแล้ว (สังเกตได้จาก EBAY ที่ตอนนี้ มีเครื่องฉายระบบฟิล์ม รวมทั้งอุปกรณ์ที่โละออกมา ค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะเลนส์เทพๆ ทั้งหลาย ที่ตอนแรกราคาแพงสุดโต่ง จนตอนนี้ราคาลดลงมาก พอที่จะเป็นสามารถเจ้าของได้) ส่วนบ้านเรายังถือว่าเป็นช่วงเปลี่ยนผ่าน เนื่องจากส่วนใหญ่ยังเป็นระบบฟิล์มอยู่ ที่สำคัญระบบดิจิตอลก็มีเฉพาะ 2 แบรนด์ของโรงภาพยนตร์ที่ผูกขาด ส่วนต่างจังหวัดที่ไม่มี 2 แบรนด์ของโรงภาพยนตร์ ยังไม่เห็นเป็นรูปเป็นร่าง แต่เชื่อว่าน่าจะได้เห็นในอนาคตอันใกล้นี้ ส่วนผู้ชมก็ต้องจำใจรับสภาพกับตั๋วที่ราคาแพงขึ้น เว็บมาสเตอร์เองยังต้องเลือกหนังที่จะดูเลยครับ เดี๋ยวเร็วๆ นี้ก็ยอมเสียตังค์ดู THE HOBBIT ในรูปแบบดิจิตอล HFR 48 เฟรม ครับ

เกือบลืม ความละเอียดของ BD ยังดร็อปกว่าฟิล์มครับ




(ID:144057)
เอาเท่าที่ผมจำได้ งูๆปลาๆนะ

-ต่ำสุดเลย ก็เทป vhs ยับๆ/ก็อปที่สองที่สาม resolution ลงไปเหลือไม่ถึง 200 เส้น เอามาเปิดกับ LED จอซัก 50"คงสนุกพิลึก --"

-ถัดมาก็ VCD ซึ่ง resolution อยู่ที่ 352*288 ถ้าดูกับทีวีจอแก้วซักไม่เกิน 21" ก็พอถูไถ

-ดีกว่านั้น ก็ต้องเทป vhs ม้วนมาสเตอร์ resolution อยู่ที่ระดับ 240-250 เส้นขึ้นไป คือเสมอกับ vcd แต่ไม่มีเสียงสะดุด/ภาพค้าง/แตกเป็นโมเสกให้ปวดตากันเล่นๆ

-LaserDisc ก็อย่างที่เว็บมาสเตอร์ว่า คือจ่อคอหอย DVD แล้ว แต่เสียเปรียบอยู่หน่อยตรงที่มีแต่ AV Out ไม่มีแบบอื่น กับไม่มีแผ่นที่เป็น 16:9 แท้ๆออกมา (หรือผมไม่เห็นเองก็ไม่ทราบ) มีแต่ Letterbox อย่างเดียว นัยว่าที่อเมริกานี่ แผ่นเลเซอร์ขายค่อนข้างดี ในขณะที่ไม่เคยแจ้งเกิดในบ้านเราได้เลย ด้วยความที่แพงเกิ๊นนั่นแหละครับ

-แล้วก็แน่นอน DVD ซึ่งเป็น Consumer Format อันแรก ที่ทำ resolution ขึ้นไปเทียบเท่ากับมาตรฐานการออกอากาศของสถานีทีวีได้ คือ 720*576 pixels และเครื่องเล่นทุกเครื่อง จะต้องมี S-Video Output เป็นอย่างน้อย (เดี๋ยวนี้มี Component Out เป็นมาตรฐานด้วยซ้ำ) ซึ่งจะให้ภาพดีกว่า AV Out ธรรมดาสามัญอยู่มากพอควร ไม่นับการที่รองรับภาพไวด์สกรีน 16:9 แท้ๆ (Anamorphic Video) ไม่ใช่ Letterbox แบบแผ่นเลเซอร์ ขนาดก็เล็กกว่า ราคาก็ไม่ทารุณเท่า DVD ถึงได้ครองโลกอยู่จนถึงปัจจุบันนี้

-ส่วนแผ่น Blu Ray นี่ ไอ้ดีน่ะดีแน่ เฉพาะ Full HD/24p สองอย่างนี้ก็ถือว่า เกิดมาเพื่อโฮมเธียเตอร์อยู่แล้ว
...แต่ผมไม่แน่ใจว่า มันจะเป็นสื่อที่มา"ช้าไป"รึเปล่า? อย่าลืมว่ามีคู่แข่งสำคัญ อย่างจำพวกมีเดียเพลเยอร์ ที่ราคาไม่แพง&คุณภาพไม่ต่างกันด้วย ค่าใช้จ่ายในระยะยาวก็ถูกกว่าเห็นๆ ซื้อฮาร์ดดิสก์มาลูกละไม่กี่พัน แถมหนังมาหลายสิบเรื่อง(เผลอๆเป็นร้อย) กว่าจะดูจบก็เป็นปี ค่อยขายฮาร์ดดิสก์ทิ้งแล้วซื้อใหม่ก็ยังคุ้มเลย







แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าตราบใดที่ยังมีแผ่น vcd ขายในเซเว่นทุกสาขาอยู่ละก็ อะไรๆก็ยังเป็นไปได้อยู่ทั้งนั้นแหละครับ --"



(ID:144058)
ส่วนหนังไทยนั้น ผมว่ากว่าเราจะถ่ายหนังที่ 4K เป็นมาตรฐานได้ ฮอลลี้วู้ดคงไป 8K กันหมดแล้วหล่ะครับ -_______-"


ส่วนเรื่องถ่ายด้วยฟิล์มนั้น...ลืมไปได้เลยครับ ขนาดบริษัทฟิล์มอย่างโกดักเองยังไม่รู้จะรอดปีหน้ารึเปล่าเลย ~>.<~



(ID:154833)
เห็นด้วยกับคุณโหน่งครับ..โหลดไฟล์หนังลงฮาร์ดดิสก์ external เสียบเข้าช่อง usb ของจอ LCD TV, LED TV และ Plasma TV ดูได้เลยครับ..ยกเว้นหนังบางไฟล์จอไม่อ่าน..ถ้ารู้จักแปลงไฟล์ก็มีช่องทางอยู่ครับ..แต่ถ้าไม่อยากยุ่งยากในการแปลงไฟล์ก็ซื้อ HD Media Player มาต่อก่อนเข้าจอภาพ เป็นการลงทุนที่คุ้มสุดครับตอนนี้ คุณภาพของภาพและเสียงก็อยู่ที่ไฟล์ที่เราหามาเล่นละครับพี่น้อง



เลือกหน้า
[1]
จำนวนหัวข้อทั้งหมด 11

กลับขึ้นข้างบน / กลับหน้าแรก

ค้นกระดานข่าว:


ถูกเปิด: ถูกคลิ๊กแล้ว: 112936523 ตอนนี้มีผู้เข้าชม : 1 ล่าสุด :kurskmFoofs , MichaeledIgh , พีเพิลนิวส์ , Tongkam , เอก , Pojja , กิต , H.Teo , Oil , หลอม ,