จำนง จิตต์เที่ยง ตำนานนักพากย์ช่อง 7 สี
นักพากย์รุ่นบุกเบิกของช่อง 7 สี และเป็นนักพากย์หนังฝรั่งคนแรกๆของวงการพากย์ คุณจำนง เป็นคนนครนายก เรียนจบม.8 โรงเรียนหอวัง อาชีพเดิมของคุณจำนง เป็นครูสอนหนังสือ แต่ภายหลังหันเข้าสู่วงการพากย์หนังอย่างเต็มตัว นอกจากคุณจำนง จะเป็นนักพากย์ของทางช่อง 7 ท่านยังเคยเป็นส่วนหนึ่งของทีมพากย์อินทรี หลังเรียนจบม.8 จากโรงเรียนหอวัง ก็ไปเป็นครูสอนหนังสืออยู่ที่จังหวัดยะลา ไม่นานท่านก็สามารถสอบเข้ากระทรวงมหาดไทยได้รับราชการอยู่ 5 ปี จนมาได้รู้จักกับคุณ สยุมพร ก็ถูกชักชวนให้ไปทำงานหนังกับครูมารุต หนังเรื่องแรกที่คุณจำนง เข้าไปมีส่วนร่วมอยู่ในทีมงานก็คือเรื่อง “ทาษกบฏ” และจากการเข้ามาสู่วงการภาพยนตร์นี่แหละ ที่ทำให้คุณจำนง ได้รู้จักคุณ คุ้ม สังวริบุตร (พ่อของ ไพรัช สังวริบุตร) ท่านชักชวนให้คุณจำนง ได้มาพากย์หนังเป็นครั้งแรก ทำงานพากย์ภาพยนตร์อยู่เพียง 2 ปี ก็หันไปทำงานกรมชลประทาน ที่จังหวัดลำปางอยู่หลายปี ถึงแม้จะทำงานด้านอื่นๆแต่ลึกๆในใจยังคงนึกถึงงานพากย์หนังอยู่เสมอ จนกระทั้งที่จังหวัดลำปางเปิดโรงหนังขึ้นมา คุณจำนง เลยเข้าไปสมัครเป็นนักพากย์ทันที ซึ่งในสมัยนั้นจะเป็นการพากย์สดและใช้คนเดียวในการพากย์ คุณจำนง ก็เป็นนักพากย์คนเดียวของโรงหนังที่ต้องพากย์เสียงผู้หญิง เสียงเด็ก เสียงคนแก่ แบบเหมาหมด จากการทำงานที่โรงหนังในจังหวัดลำปาง นี่เองที่ทำให้คุณจำนง รู้ถึงความสามารถของตนเอง และรู้ว่างานพากย์หนังเป็นงานที่ท่านรัก คุณจำนง เบื่อการทำงานนั่งโต๊ะที่ชลประทาน จึงลาออกและเดินทางเข้ากรุงเทพฯเพื่อทำงานที่ตนเองรัก
เมื่อมาทำงานที่กรุงเทพคุณจำนงได้งานเป็นนักพากยืประจำโรงหนัง บุษยพรรณ เป็นโรงหนังดังมากเมื่อสมัยก่อนประมาณปี 2509 ในช่วงชีวิตนี้เองที่เป็นช่วงรุ่งโรจน์ที่สุดในชีวิตคุณจำนง เพราะที่โรงหนังบุษยพรรณ มีเครือข่ายอยู่หลายโรงทำให้คุณจำนง ได้ไปพากย์หมด ไปเกือบทุกจังหวัด เดือนทั้งเดือนไม่มีวันว่างเลยแม้แต่วันเดียว ซึ่งคุณจำนง เองก็ยิ่งรักในอาชีพนักพากย์มากขึ้นทุกวัน ถ้าเรื่องการพากย์หนังฝรั่งไม่มีใครเกินแกเพราะแกจะเป็นนักพากย์รุ่นแรกๆ ทำให้ชื่อเสียงของคุณจำนง เลื่องลือไปทั่วยุทธจักรวงการพากย์ภาพยนตร์ ทำให้ทางช่อง 7 สีสนใจและเรียกตัวคุณจำนง เข้ามาทำงานทันที ซึ่งในตอนนั้นคุณจำนง อยากลองเปลี่ยนมาทำงานในวงการโทรทัศน์ดูบ้าง ซึ่งตอนที่มาทำกับช่อง 7 ใหม่ๆไม่มีคนพากย์หนังฝรั่งเลยเพราะในสมัยนั้นเป็นหนังที่ไม่มีใครอยากพากย์เพราะหนังค่อนข้างไม่สมบูรณ์ขาดๆโดดๆ บางเรื่องไม่มีบทพากย์ต้องมั่วกันเองต่อสู้กับมันมาเป็นเวลานับสิบปี ซึ่งถือว่าหนักมาก เพิ่งจะมาทำงานสบายขึ้นก็ตอนที่วงการวีดีโอเทปเริ่มบูมนี่แหละ ในช่วงที่คุณจำนง พากย์หนังฝรั่งให้ช่อง 7 ก็จะทำงานร่วมกับคุณชูใจ พวงทอง ที่พากย์ร่วมกันตลอด สมัยก่อนการเป็นนักพากย์ไม่ใช่เรื่องง่ายต้องได้รับการฝึกฝนและหาประสบการณ์อย่างมาก เพราะเป็นการพากย์สดๆ ซึ่งแตกต่างกับสมัยนี้ที่พากย์ผิดพากย์ไม่ได้ก็สามารถพากย์ใหม่ได้ อย่างนักพากย์รุ่นก่อนที่ผ่านสมรภูมิจากโรงหนังในยุคแรกๆ นักพากย์คนไหนได้รับความนิยมก็หมายความว่าต้องเก่ง และเนี๊ยบจริงๆซึ่งนักพากย์หนังในยุคนั้นนอกจากจะต้องพากย์เสียงตัวละครในหนังแล้ว คุณจำนง ในช่วงท้ายๆก่อนเกษียฌยังควบตำแตน่งคือตัดต่อหนัง
สิ่งหนึ่งที่คุณจำนง ภาคภูมิใจในชีวิตนักพากย์คือ การได้พากษ์เสียงของวอลท์ ดีสนีย์ ไม่ว่าเขาจำปรากฏโฉมบนแผ่นฟิลม์ที่ไหนในเมืองไทย นั่นคือเสียงคุณจำนง จิตต์เที่ยง เพียงคนเดียวในเวลานั้น ในช่วงอายุ 60 ปีก่อนเกษียฌ ผลงานคุณจำนง กับทางช่อง 7 สี ก็จะมีการ์ตูนหลังข่าว , มือปราบปืนเด็ด , หนังชอว์บราเดอร์ที่ฉายในตอนเย็น รวมถึงซิงเกอร์เวิลด์ด้วยเป็นบางครั้ง
“สำหรับคนที่รักอาชีพนี้....อันดับแรกต้องมีใจรัก สมองต้องดี ความจำจำและความสังเกตุต้องมีพอสมควร มีความอดทนอดกลั้น และตั้งใจจริง ถ้ามีครบทุกอย่างแบบนี้จะสามารถเป็นนักพากย์ที่ดีได้ ถึงแม้จะไม่มีคุณสมบัติดังกล่าวครบก็ไม่เป็นไร เพียงขอให้มีใขรักอย่างเหนียวแน่นอย่างอื่นมันก็จะตามมาได้ทีหลังนะ” นั่นคือคำกล่าวของคุณจำนง จิตต์เที่ยงได้พูดเอาไว้
จากบทสัมภาษณ์ของคุณจำนง จิตต์เที่ยง ที่ยังไปไม่ถึงยุคที่ไปร่วมงานกับทีมอินทรี ที่ก่อตั้งโดยคุณชูชาติ อินทร ในปี 2528 เพราะหนังสือรีวิวทีวี เป็นฉบับเดือนมิถุนายน พ.ศ.2529 ใตอนนั้นคุณจำนงมีอายุ 60 ปีเข้าไปแล้ว และได้เกษียฌอายุจากทางช่อง 7 สี ซึ่งภายหลังจากนี้ไปคุณจำนง จิตต์เที่ยง ก็ได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของทีมพากษ์อินทรี และคงได้สร้างสรรค์ผลงานการพากย์หนังอีกมากมาย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก (หนู) มะนาวดอย รีวิวทีวีฉบับที่ 74 ปี 2529