ร่วมทดสอบ Peoplecine mobile Beta0.1
| ภาพกิจกรรมเวบพีเพิลซีน | เจ้าของ | ผู้ตอบหลังสุด | |
 |  -คืนนี้ที่อุดรมีหนัง 3 จอ ตอน 2 | .. 22/11/2551 3:43 | |
| | -ได้เอารูปลงซักทีYAMAKIWA ของผม | .. 20/11/2551 19:58 | |
| | -เมื่อนายวัฒน์มาเยือนอุดร | .. 18/11/2551 16:20 | |
| | -ภาคิณ ภาพยนตร์ จว เชียงใหม่ ลอยกระทงมีฉายที่ไหน๋บ้างครับ | .. 13/11/2551 17:31 | |
| | -มาแล้วครับงานทำบุญบ้านพี่นิ 24 สค. 50 | .. 9/11/2551 14:46 | |
| | -ทดสอบ | .. 4/11/2551 20:27 | |
| -วันหนังกลางแปลง | .. 29/10/2551 4:38 | ||
| | -ลานดาราวันที่ 8 ตุลาคม | .. 26/10/2551 5:52 | |
| | -ดาวดิน.. ปาฏิหาร์แห่งรัก | .. 8/10/2551 13:51 | |
| | -บรรยากาศลานดารา | .. 8/10/2551 6:11 | |
| | -+++ ฉายที่วิกขอนแก่น บ้านเทพมงคล ชมรมคนนอนดึกเหมือนกันคับพี่น้อง | .. 6/10/2551 12:20 | |
| -งานวันเกษตรแห่งชาติ มหาวิทยาลัยนเรศวร ประจำปี พ.ศ. 2551 | .. 5/10/2551 4:45 | ||
| | -ชมรมคนนอนดึก ฉายอีกแล้วอย่างไม่เป็นทางการ | .. 1/10/2551 4:52 | |
| | -บรรยากาศภายในงาน พิธีมอบฟิล์มภาพยนตร์เรื่อง เรือนแพ | .. 19/9/2551 12:32 | |
| | -home cinema and yamakiwa กับหลอด ฮาโลเจน 300 w 120 v | .. 13/9/2551 20:28 | |
| -ฉายหนัง "ให้พระภิกษุ - สามเณร" ชม | .. 6/9/2551 1:50 |
จำนวนหัวข้อทั้งหมด 444
บรรยากาศภายในงาน พิธีมอบฟิล์มภาพยนตร์เรื่อง เรือนแพ |
งานเริ่ม 5 โมงเย็น แต่ผมไปถึงเกือบ 6 โมง เพราะตอนเย็นฝนตกหนักมาก
ลงทะเบียนรับตั๋วครับ แต่ท่าน จาทีเอ ยังเดินทางมาไม่ถึง ก็เลยนั่งรออยู่ข้างล่าง
ความเห็น |
เปลี่ยนใจขึ้นไปรอข้างบนดีกว่า
เจอสมาชิกคุ้นหน้าคุ้นตากันหลายคน งานนี้มีของว่างให้ทานด้วยครับ
แขกก็มากันเยอะแล้วครับ
พิธีมอบฟิล์มหนังเรื่อง เรือนแพ
จำได้ไหมครับ
ครั้งแรกที่ได้หิ้วกล้องเข้ามาถ่ายบรรยากาศในโรงหนังครับ
เทียบให้ดูระหว่าง ต้นฉบับ และ ที่ซ่อมแซมใหม่ครับ
จบรายงานก่อนครับ
เดี๋ยวรอท่าน เจทีอาร์ มาให้ความรู้ต่อ พอดีว่าผมเกิดไม่ทันครับ เลยไม่รู้จะมาโม้อะไรให้ฟัง
แต่ขอยืนยันว่า สุดยอดมากๆครับ แสง สี เสียง เหมือนเพิ่งพิมพ์ออกมาจากแลป
ไม่มีเส้นเลยครับ รู้สึกเสียดายแทนพี่แอ๊ดจริงๆ ที่ไม่ได้มาดู
บรรยายภาพมั่งซิเฟ๊ย.!!..ว่าไผเป็นไผ..อย่าบอกนะว่าโยนให้ตรูอีกแล้ว..
ท่านเข้าใจถูกต้องแล้ว เนื่องจากผมมึดแปดด้าน
แบบว่า เกิดไม่ทันอ่ะครับ
นึกแล้วว่าต้องโดนมุขนี้..จนด้ายนะเจ้าปวีณ..ขี้เกียจบ่นเฟ๊ย.!..มาเรื่มที่ภาพแรกที่บอกความเป็นมาของภาพยนตร์เรื่อง เรือนแพ กันก่อนดีกว่าผมถ่ายมาให้รับชมกันเชิญเบิ่งโลด
โอ้เห็นแล้วอยากไปเด้อแต่ขอตัวไปทำข่าวกู้ชาติก่อนครับพี่น้อง
เวรแย้วไง..กำลังพิมพ์อย่างเมามันส์จู่ๆไฟก็ดับซะงั้น..เล่นเอาข้อมูลหายโม๊ด..งั้นคงต้องเอาข้อมูลจากความจำล้วนๆมาฝอยกันต่อละทุกท่านเอ๋ย ...หากมีมั่วมั่งพิมพ์ผิดๆถูกมั่งก็ขออภัยมณีละกัน..แหะ.แหะ มาว่ากันต่อหลังจากที่ท่านอ่านข้อมูลจากรูปข้างบนแล้ว..ทีนี้ผมขอฝอยต่อละกัน หลังจากที่ทาง บ.เทคนิคคัลเลอร์ประเทศไทย โดยมีคุณ พอล แสตมบอร์ เป็นหัวเรือใหญ่ได้ช่วยหอภาพยนตร์ทำการบูรณะภาพยนตร์ไทย เรื่อง พระเจ้าช้างเผือก (ซึ่งใช้เวลาสองปีเต็มๆ)และทำการส่งมอบฟิล์มเนกาตีฟที่แก้ไขเสร็จเรียบร้อยแล้วให้กับทางหอภาพยนตร์ ซึ่งความเป็นมายังไงนั้นคงต้องรบกวนทุกท่านเพ่งดูข้อมูลจากรูปที่ผมถ่ายมาให้ดูกัน ครับ
สำหรับหนังเรื่อง เรือนแพ อย่างที่ทุกท่านทราบกันจากข้อมูลในรูป ว่าตัวฟิล์มเนกาตีฟต้นฉบับเสียหายหมดอายุไขไปเรียบร้อยแล้วเหลือแต่ตัวสำเนาฟิล์มอีกกีอบปี้หนึ่งที่ยังมีสภาพดี นั่นก็คือฉบับที่เอามาทำเป็นแม่แบบสำหรับให้ทางเจ้าหน้าที่เทคนิคของ บ.เทคนิคคัลเลอร์ประเทศไทย ทำการบูรณะซ่อมแซมทั้งภาพและเสียง ซึ่งเป็นงานมหาหินพอสมควร แต่หลังจากที่คุณ พอล แสตมบอร์ ท่านได้รับชมหนังเรื่องนี้จบลง ปรากฏว่าท่านเกิดความประทับใจและมีความปราถนาอยากจะบูรณะหนังเรื่องนี้ให้กลับคืนมาเป็นสมบัติของชาติไทยสำหรับคนไทยรุ่นหลัง ในอนาคต(ท่านเป็นผู้ที่ชอบอนุรักษ์หนังเก่าอยู่แล้ว) ก็เลยเป็นแม่งานระดมคนในบริษัททั้งไทยและฝรั่งมารุมช่วยกันชุบชีวิตภาพยนตร์เรื่องนี้ ความยากของงานนี้อยู่ที่ฟิล์มสำเนาซึ่งเหลืออยู่กีอบปี้เดียวมีสภาพเป็นเส้นฝนอย่างหนักเพราะผ่านการฉายมาโชกโชน รวมทั้งฟิล์มที่มีสีเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา(สีซีดมากๆ) และเส้นเสียงที่อุดมไปด้วยเสียงรบกวนสุดๆ งานนี้ก็เลยต้องแบ่งคนออกเป็นทีมในการบูรณะ โดยอีกทีมไปบูรณะภาพ ซึ่งหินพอสมควรเนื่องจากเครื่องมือที่มีอยู่ในไทยของบริษัทเอง ก็ไม่สามารถจะไปเทียบเคียงประสิทธิภาพเทียบเท่ากับของสตูดิโอดังๆของฮอลลี่วู๊ดเค้า ซึ่งอย่างหนังเก่าๆที่ฟิล์มแทบสิ้นอายุขัยไปแล้ว อาทิ หนังเรื่อง แฟนตาเซีย ทางบริษัท วอล ดีสนีย์ ใช้งบประมาณบูรณะแก้ไขทำเนกาตีฟออกมาใหม่ ใช้งบเฉพาะภาำพอย่างเดียวฟาดไปประมาณ 70 ล้านเหรียญสหรัฐ(คิดเป็นเงินไทยโดยเอาอัตราแลกเปลี่ยนตอนนี้อยู่ที่ 33.5 บาทต่อดอลลาร์คูณเข้าไปตกเป็นเงินไทยประมาณ 2345 ล้านบาทไทยครับผม) เพราะเท่าที่ฟังเล็คเชอร์จากเจ้าหน้าที่ บ.เทคนิคคัลเลอร์ให้ข้อมูลมาว่า หนังเรื่องหนึ่งๆจะมีเฟรมภาพประมาณ หนึ่งแสนสามหมื่นภาพ การ Remaster จะต้องทำการบูรณะแก้ไขทีละภาพ โดยการลบเส้นฝนรอยขูดขีดต่างๆออกให้เกลี้ยง และจะต้องทำการดึงเอาสีของแต่ละเฟรมภาพที่ตัวฟิล์มต้นฉบับสีซีดไปตามกาลเวลา ให้กลับมาโดยมีความผิดเพี้ยนของสีต้นฉบับน้อยที่สุด(ด้วยกระบวนการทางดิจิตอล ที่ผมขอตัดข้อมูลตรงนี้ออกไป เพราะต้องอธิบายกันอีกขนานใหญ่รวมทั้งมีศัพท์ทางเทคนิคอีกพอสมควรประเดี๋ยวจะงงงวยกันไปซะก่อน) นี่ยังไม่ได้พูดถีงกระบวนการบูรณะเส้นเสียงของฟิล์มหนังเรื่องนี้ให้กลับมาใสปิ๊งอีกนะเนี่ย..เอาเป็นว่าชักเมื่อยนิ้วแล้วนั่งจิ้มคีย์บอร์ดจนจะตีสามแย้วขออนุญาตพักยกก่อนคร๊าบ
จากข้อมูลที่ทางเจ้าหน้าที่ของ บ.เทคนิคคัลเลอร์ได้บอกมาว่าสำหรับหนังไทย เรื่องเรือนแพนี้คิดเป็นมูลค่าที่ทางบริษัทประเมินไว้มีมูลค่าการบูรณะหนังทั้งเรื่องอยู่ที่ประมาณ สามแสนเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินไทยก็อยู่ที่ประมาณ 10,050,000 บาทครับ แต่ทางบริษัทช่วยบูรณะให้กับทางหอภาพยนตร์โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และได้ทำพิธีส่งมอบฟิล์มเนกาตีฟฉบับแก้ไขให้กับทางหอภาพยนตร์ ในวันพุธที่ 27 ส.ค 51 ที่ผ่านมาที่ชั้นหก โรงภาพยนตร์เมเจอร์รัชโยธิน เป็นที่เรียบร้อย ก็ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกท่านของ บ.เทคนิคคัลเลอร์ประเทศไทย เป็นอย่างสูง รวมทั้งเจ้าหน้าที่จากหอภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้องทุกท่านด้วยเช่นกัน ที่ทำให้หนังเรื่องนี้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ทั้งๆที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องของหอภาพยนตร์ท้อแท้สิ้นหวังไปแล้ว
ซึ่งภาพจากการฉายฉบับรีมาสเตอร์นี้ เมื่อเริ่มจะมีภาพเปรียบเทียบข้อแตกต่างระหว่างภาพที่บูรณะแล้วก่อนหน้าและหลัง ก่อนที่จะเข้าสู่เนื้อหาหลักของภาพยนตร์ทั้งเรื่องโดยสมบูรณ์ซึ่งภาพที่ฉายปรากฏบนจอ (งานนี้ทั้งผมและเจ้าปวีณงัวแต่เพลิดเพลินกับภาพที่ฉายออกมาก็เลยไม่ได้ถ่ายภาพการฉายมาให้ทุกท่านได้รับชมกัน) ขอเล่าให้ฟังพอเกิดมโนภาพว่า ภาพที่ฉายบนจอไม่มีเส้นปรากฏแม้แต่เส้นเดียว (เฮียแอ๊ดคงชอบเพราะพี่แกชอบหนังที่ไม่มีเส้นอยู่แล้ว.ฮิฮิ) รวมทั้งเสียงที่เงียบสนิทไม่มีเสียงซ่ามาแยงหูให้เสียอารมณ์
ทำให้ภาพที่ฉายออกมาปรากฏบนจอซีนีมาสโคปขนาดยาว 20 เมตรโดยประมาณ ของโรงฉายที่7 โรงภาพยนตร์เมเจอร์ รัชโยธิน สามารถทำให้ผมระลึกกลับไปสู่เหตการที่ผ่านมาของช่วงชีวิตสมัยเด็กที่มีโอกาสได้รับชมภาพยนตร์เรื่องนี้อีกครั้ง กับทุกเหตการณ์ในแต่ละฉากของช่วงเวลาที่หนังฉาย ดาราแทบทุกคนที่ผมสามารถบอกชื่อกับเจ้าปวีณที่นั่งดูอยู่ข้างๆว่าใครเล่นเป็นตัวอะไร (ซึ่งคาดว่าเจ้าปวีณคงไม่รู้จักซักคนแน่ๆ) อาทิ มาเรีย จาง ดาราจีนนางเอกของเรื่องที่รับบทบาทเป็น เพ็ญ สาวน้อยที่มีหนุ่มๆสามคนในเรื่องมาหลงรัก มีดาราหนุ่มจากชอว์บราเดอร์ คือ จินฟง รับบท ริน นักร้องเพลงผู้อาภัพรัก(ภาพยนตร์เรื่องนี้ทางอัศวินภาพยนตร์สร้างร่วมกับชอว์บราเดอร์แห่งฮ่องกง) ร่วมกับทางฝั่งไทยคือ ส.อาสนจินดา ที่รับบทเป็นพี่ใหญ่ของหนุ่มๆสามคนที่มาพักอาศัยอยู่ในเรือนแพที่เตี่ยของ เพ็ญ เป็นเจ้าของอยู่
และ ไชยา สุริยัน รับบท เป็น แก้ว พระเอกของเรื่อง ที่ชีวิตหันเหจากนักมวยไปเป็นโจรจนมาถึงบทสรุปสุดท้ายของหนังที่เรือนแพ (หนังถ่ายทำในปี พ.ศ 2503 ออกฉายในปี พ.ศ 2505 )โดยถ่ายทำในหลายๆที่เท่าที่ผมเห็นจากฉากหลายๆฉากที่ปรากฏบนจอ พบว่า มีฉากถนนเยาวราชเส้นทางที่จะเลี้ยวออกวงเวียน 22 กรกฏายุค พ.ศ 2503 ตอนที่ ส.อาสนจินดาเดินบนถนนช่วงกลางเรื่อง ในฉากเห็นรถเมล์ขาวนายเลิศ บางฉากมีการไปถ่ายทำที่เชียงใหม่ด้วย สำหรับฉากเรือนแพถ่ายทำกันในโรงถ่ายอัศวินที่หนองแขมครับ
สำหรับดาราที่นำแสดง(ส่วนใหญ่ถึงแก่กรรมไปเกือบหมดแล้ว อาทิ อบ บุญติด , ทานทัต วิภาตะโยธิน, เชาว์ แคล่วคล่อง , จำรูญ หนวดจิ๋ม , ทัต เอกทัต , พฤหัส บุญหลง มาเรีย เกต เรขา(คนนนี้เห็นแว๊บเดียวเล่นเป็นตัวประกอบในไนท์คลับตอนท้ายเรื่อง) ดาราที่เอ่ยฃชื่อมาทั้งหมดเนี่ยรู้สึกว่าจะถึงแก่กรรมไปหมดแล้ว ที่มีชีวิตอยู่ในปัจจุบันก็คือ คุณ อดุลย์ บุญรัตน์ อดีตพนักงานธนาคารกรุงเทพฯที่โชคชะตาชักนำให้กลายมาเป็นดาราและผู้กำกับหนังไทยในชีวิตจริงนั่นเอง ซึ่งท่านรับบทเป็นเพื่อนตำรวจของ ส.อาสน จินดาในหนังเรื่องนี้ สำหรับคนที่ไม่รู้จักว่า คุณอดุลย์ บุญรัตร์เป็นใครหน้าตาเป็นอย่างไร ให้ลองไปหาดีวีดีหนังไทยเรื่อง โหมโรง มาดู ท่านแสดงเป็นพระเอกช่วงวัยชราในเรื่องครับ
เลือกหน้า
จำนวนหัวข้อทั้งหมด 37
กลับขึ้นข้างบน / กลับหน้าแรก
ถูกเปิด: ถูกคลิ๊กแล้ว: 112929916 ตอนนี้มีผู้เข้าชม : 1 ล่าสุด :Michailyzt , GermanFoup , HelenViefs , DonaldSap , Davidfable , พีเพิลนิวส์ , AntonGeods , เอก , Carlosincof , autogNer ,