Mobile Version / สำหรับโทรศัพท์มือถือ ยินดีต้อนรับท่านผู้มาเยือน www.peoplecine.com ท่านยังไม่ได้ log in นะครับ เข้าใช้งานระบบ / สมัครสมาชิก/ ลืมรหัสผ่าน

ร่วมทดสอบ Peoplecine mobile Beta0.1


รูป
สาระน่ารู้ กลอนสอนใจ และเรื่องขำๆเจ้าของ ผู้ตอบหลังสุด
-ขอ 3 คำยังไม่มีคนตอบ
-นุศรา ต้อมคำ ยอดมือเซตของโลก + โค้ชอ็อด เกียรติพงษ์ กุญแจ...ไขความสำเร็จของนักกีฬาวอลเลย์บอลสาวไทย.. 15/1/2556 21:03
-เรื่องของนม......คะ.. 19/12/2555 14:53
-เม้าส์แท้ๆ..เชื่อเถอะ.... 13/12/2555 7:59
-ไซอิ๋ว ภาคพิเศษ.. 13/12/2555 0:24
-ทุกอย่างต้องมีการเปลี่ยนแปลง.. 13/11/2555 13:24
-การพูดตรงเป็นสิ่งดี.... 22/10/2555 14:31
-+ คำคมวลีจากหนังครับ++.. 18/10/2555 18:04
-ใครอยากหญ่ายยยยยย....เหมือนพี่เย็นเจี๊ยบ บ้างคะ (เพราะพี่เจี๊ยบ อยากหญ่ายยยยยย......).. 16/10/2555 17:08
-มอบให้พี่เจ......คะ.. 12/10/2555 1:44
-เรื่องของหนูคะ....... 12/10/2555 1:40
-ไม่เกี่ยวกับหนังเกี่ยวกับน้ำ.. 9/10/2555 20:18
-พร้อมจะอยู่เคียงข้าง.... 7/10/2555 11:22
-ลุงเสรี หอมมาก ไม่มีใครเหมือน และไม่เหมือนใคร ติดเรท 18+ ในเรื่องของภาษา.. 25/9/2555 22:07
-เด็ก ๆ จริง ๆ.....คะ.. 18/9/2555 8:35
-สมาชิกพีเพิลซีน เตรียมพร้อมกันหรือยัง เพราะมัน (กำลัง) จะมาอีกแล้ว.. 12/9/2555 20:50
เลือกหน้า [1] [2] [3] [4] [5] [6] [7] [8] [9] [10] [11] [12] [13] [14] [15] [16] [17] [18] [19] [20] [21] [22] [23] [24] [25] [26] [27] [28] [29] [30] [31] [32]
จำนวนหัวข้อทั้งหมด 499

นุศรา ต้อมคำ ยอดมือเซตของโลก + โค้ชอ็อด เกียรติพงษ์ กุญแจ...ไขความสำเร็จของนักกีฬาวอลเลย์บอลสาวไทย


โค้ชอ็อด เกียรติพงษ์ กุญแจ...ไขความสำเร็จตบสาวไทย






ความสำเร็จ....มันก็เหมือนการวิ่งมาราธอน มันไกล และต้องใช้เวลานาน!!!

        แต่..ทุกคนมีโอกาสที่จะเดินไปถึงความสำเร็จ" ได้หากไม่ละทิ้งความพยายามไว้ระหว่างทาง!!!

        เช่นเดียวกับ"โค้ชอ๊อด" เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร ที่ได้เป้าหมายไว้ความสำเร็จของขีวิตการเป็นโค้ขไว้ว่าจะต้องพาทีมนักตบสาว ไทยไป" โอลิมปิก" และเมื่อทำได้ นั้นหมายถึงภาระก็จะเสร็นสิ้น!!!




        แต่...การทำทีมมิใช่ปั้นวัน ปั้นควายที่จะให้เสร็จภายในวันสองวัน ในทางกลับกันต้องใช้เวลานานหลายปี วอลเล่ย์บอลสาวไทย ก็เช่นกัน กว่าจะเดินทางถึงจุดนี้ได้ เส้นทางที่ฝ่าฟันให้เดินมา มิได้โรยด้วยกลับกุหลาย แต่มันมากด้วยอุปสรรคที่จะต้องผ่านพ้นมาให้ได้!!!

        กว่า 10 ปีที่"โค้ชอ๊อด" ต้องวางแผนและฝึกฝนมีล้มลุก คลุกคลาน แต่ทั้งโค้ชและนักกีฬาไม่เคยย่อท้อ เดินหน้าสู้กันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย จนใกล้จะเดินไปถึงแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์!!!

        โอลิมปิก ที่ใกล้จะคว้าตั๋วมาได้ แต่ต้องพลาดไปอย่างน่าเสียดาย แต่มันจะกลายเป็น" บทเรียน" ของความผิดพลาดที่จะต้องไม่เกิดซ้ำสอง!!!



แต่..คน ไทยทุกคนรับรู้ว่า ตั๋วโอลิมปิกที่หวิดจะหยิบมาได้นั้น เกิดจาการทำการบ้านอย่างหนักหน่วงของ" โค้ชอ๊อด" จนคนในวงการยกให้"โค้ลอ๊อด" คือ "กุญแจ" ที่ไขนำนักกีฬาไปสู่ความสำเร็จ!!!

        "การทำทีม ผมยอมรับว่ามีอุปสรรคเยอะ แต่อุปสรรค มันเป็นอะไรที่เราต้องเอาชนะและแก้ไขมันให้ได้ เวลาสอนเด็ก เราต้องเต็มที่กับมัน ฝึกเด็กหนักเกินไป เรารู้ว่าเด็กไม่ชอบแน่ แต่ผมเรียนโค้ชมา เรียนวิทยาศาสตร์การกีฬามา ต้องเข้าใจและสอนให้เด็กรับมือกับความเครียดในการซ้อมและในการแข่งขันให้ ได้"

        " ช่วงแข่งขันต้องสอนให้เด็กได้รู้จักใช้ความสามารถเต็มที่มันเครียดนะ เพราะมันมีเรื่องการตั้งความหวัง เป้าหมาย เข้ามาเกี่ยวข้อง ความคาดหวังทั้งจากสังคม ครอบครัว ผู้หลักผู้ใหญ่ ตั้งเป้าให้ทีมต้องทำให้ได้เท่านั้นเท่านี้ ผมโชคดีมากที่เข้ามาทำทีมวอลเลย์บอล มีเพื่อนร่วมงานที่ดีมาก สมาคมก็ให้ความมีอิสระในการทำงาน "






        " เมื่อผู้ใหญ่เปิดโอกาสให้เราทำงานขนาดนี้ ผมจึงพยายามสร้างเป้าหมายให้สูงเรื่อยๆ ส่วนนักกีฬาก็ต้องเป้าหมายให้กับตัวเองว่าจะเล่นไปทำไม เล่นเพื่ออะไร เพราะเป้าหมาย ที่สิ่งที่เราต้องเดินไปหา เพราะวอลเล่ย์ เป็นกีฬาประเภททีม ทุกคนต้องมีเป้าหมายของตัวเอง และเป้าหมายเดียวกันที่ผมวางไว้ อย่างการแข่งชันซีเกมส์ วอลเล่ย์มักจะถูกมองว่า ทำไมต้องส่งชุดใหญ่ไป เพราะซีเกมส์เป็นความภาคภูมิใจของประเทศ เราเล่นในนามทีมชาติ ซีเกมส์ยังไงเราก็ต้องหวังเหรียญทอง เพราะมีการนับเหรียญทองให้ประเทศที่แข่งขันด้วย บางทีประเทศสองประเทศอาจจะครองเจ้าเหรียญทองซีเกมส์ได้ก็ด้วยการตัดสินด้วย เหรียญทองเหรียญเดียวเอง ที่สำคัญ เด็กได้ทำหน้าที่ในนามทีมชาติจริงๆ ไม่ได้ส่งไปเพื่อหวังเก็บเกี่ยวประสบการณ์

        “เรื่องการซ้อมหนัก ผมไม่ได้คาดคิดว่าซ้อมหนักเพื่อหวังชัยชนะอย่างเดียว ผมคิดว่าการซ้อมหนัก จะทำให้เรามีโอกาสได้เห็นการพัฒนาของเด็กเราด้วย ว่าเขาทนกับเกมหนักๆได้มากน้อยแค่ไหน เวลาเจอคู่แข่งที่แกร่งมากๆการซ้อมหนักจะทำให้เราสู้และทานกับความแข็งแกร่ง ของคู่แข่งและอาจทำเซอร์ไพส์ เอาชนะอย่างหลายๆ แมตซ์ที่เกิดขึ้นกับทีมไทย นั้นเป็นผลพวงของการซ้อมหนักและทุกคนมีเป้าหมายเดียวกัน"



“สำหรับ ผม ตอนที่มาทำทีมใหม่ๆ ผมตั้งความหวังไว้ตั้งแต่แรกว่าทีมเราต้องอยู่ 1 ใน 4  ของเอเซียให้ได้ภายใน 4 ปีเพราะตอนนั้นอยู่อันดับ 6-7 แต่ตอนที่เราทำได้ เราขึ้นมาอยู่ ใน 1 ใน 3 ด้วยซ้ำ พอเราเริ่มมาคว้าแชมป์เอเซียได้ ผมเองก็ค่อยๆขยับเป้าหมายให้สูงขึ้น โดยระหว่างปี 2002-2004 ตั้งเป้าจะไปเวิร์ลกรังด์ปรีซ์ เพราะมันเป็นแมตซ์ใหญ่ที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตผม ปีแรกที่ได้สิทธิแข่ง 2002 สหพันธ์ฯให้ไวด์การ์ไปแข่ง และได้แข่งชิงแชมป์โลกด้วย มันเป็นอะไรที่สุดยอกมากสำหรับผม แต่เราก็รั้งอันดับสุดท้ายทั้งสองรายการ"

        " แต่สำหรับผม มันเป็นอะไรที่เหนือความคาดหมายแล้วนะ ลาออกมาก็ไม่น่าอาย อย่างน้อยก็เป็นเฮดโค้ชนำทีมไปแข่งเกมระดับโลกมาแล้วเพราะ การเข้าไปแข่งกับทีมที่มีฝีมือระดับพระกาฬในการแข่งขันระดับโลกแบบนั้น  ทำได้ไม่ง่าย เราเองก็ค่อยๆสั่งสมประสบการณ์มาเรื่อยๆ จากที่ได้รับเชิญ เราก็มาแข่งขันรอบคัดเลือกและทำได้สำหรับ ปีต่อๆไปเป้าหมายเราก็จะยากขึ้น คือต้องพยายามเข้าไปแข่งรอบสุดท้ายให้ได้ "

        " สำหรับเป้าหมายโอลิมปิก ก็เพิ่งมาตั้งเมื่อปี 2007-2008 แต่ก็ต้องยอมรับว่าเหนื่อย เพราะเรามีอะไรหลายอย่างที่ยังห่างไกลกับทีมระดับแชมป์โลกอย่างบราซิล สหรัฐหรือ อิตาลี ทักษะเรายังไม่ดีพอ รูปร่างเราก็ยังไม่ได้ แต่หลังจากที่เราทำผลงานในเวิร์ลกกัรงปรีซ์ในรอบคัดเลือกออกมาดี  เรารู้ว่าเส้นทางเราใกล้เป็นความจริงแล้ว ทีมเราเริ่มเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติได้มากขึ้น เราเล่นกับบราซิล เราเกือบชนะเซ็ตได้ โค้ชเขายังมาซูฮกเราว่าฝีมือดีขึ้นมาก กับอิตาลีเอง เราก็เกือบเอาชนะเขาสามเซ็ตรวด ก่อนที่การขาดความแน่นอนและสมาธิ ทำให้เซ็ตสามแพ้ แล้วเขาอาศัยประสบการณ์และเทคนิคที่ดีกว่าเรา มาเอาชนะเราไปได้ 3-2  ถึงตอนนี้ทีมระดับโลก เราปราบไปเกือบหมดแล้ว เหลือแต่บราซิล, อิตาลี ,เซอร์เบียและรัสเซีย  ที่เหลือก็เอาชนะมาได้หมดแล้ว"

        " กว่า 10 ปีที่ฝึกซ้อมร่วมกันมา ผมรู้ว่าเด็กไม่ค่อยชอบผมมากนัก แต่ที่ทำไปทุกอย่างเพื่อต้องการให้ทีมดีขึ้น จึงพยายามทำเต็มที่ ผมไม่ชอบที่จะเห็นเด็กเราทำอะไรเล่น เมื่อตั้งใจทำแล้วก็ต้องจริงจัง

        ตราบใดที่เรายังอยู่ในการซ้อมและการแข่งขัน ผมอยากให้เด็กทุกคนมุ่งมั่นและจริงจังกับมัน แต่เมื่อไม่ได้อยู่ในช่วงซ้อมหรือแข่งขัน ผมเองยังไงก็ได้ ตลกได้ เฮอากันได้ ผมไม่ได้มีอคติอะไรกับเนักกีฬาแค่อยากให้เด็กเข้าใจว่าผมเองมีเจตนาดี อยากให้เราเดินไปถึงเป้าหมายด้วยกัน"

        แม้...เป้าหมายที่ตั๋วโอลิมปิก ยังเอื้อมมาไม่ได้ แต่การพัฒนาที่เกิดขึ้นกับนักตบสาวไทย "โค้ชอ๊อด" คือกุญแจที่เปิดไขประตูนำตบสาวไทยเดินหน้าสู่...ความสำเร็จ!!!




ความเห็น

[1]


ที่สุด ....ลูกยางไทยในเวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2012





''จิต วิญญาณ'' ของการเป็นนักกีฬา ผสานกับหัวใจที่แกร่งกล้าของผู้เล่นตัวจริงและตัวสำรองที่หลอมรวมเป็นหนึ่ง คือ ชัยชนะ ที่ได้มาเหนือความคาดหมายของทัพนักกีฬาลูกยางสาวไทย ในการกรำศึกเวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2012
   


        ผลงานอันดับ 4 ถือเป็นผลงานที่ดีที่สุดของทีมหญิงไทยที่เคยเข้าร่วมการแข่งขันทัวร์นาเมนต์นี้ นับตั้งแต่ปี 2002 เป็นต้นมา
 

        แม้จะชวดตั๋วโอลิมปิก 2012 แต่ตบสาวไทยไม่เป็นรองใครในโลก

        สะใจกองเชียร์มากขนาดไหน ที่คุณพวกเธอสามารถเอาชนะทีมที่ได้ไปโอลิมปิกสำเร็จ

        วันนี้ทีมวอลเลย์บอลหญิงไทย เข้าไปนั่งอยู่ในหัวใจแฟนกีฬาหลายๆ คนแบบปฏิเสธไม่ได้



กีฬาเวสน์แตกกองเชียร์ทะลัก

        เรียกว่าเป็นภาพแห่งความประทับใจแห่งปี และเป็นที่สุดของที่สุด สำหรับกองเชียร์ชาวไทยที่แห่เข้าชมการแข่งขันในสัปดาห์ที่สาม ที่อาคารกีฬาเวสน์ 1 ศูนย์กีฬาเยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง)

        อาคารแห่งนี้จุผู้ชมได้ 3,800 ที่นั่ง แต่มันจะไปรองรับได้เช่นไรกัน เมื่อบรรดากองเชียร์และแฟนคลับจากทั่วประเทศต่างมุ่งหน้ามา ณ ที่แห่งนี้

        เกมคู่แรกเริ่มแข่ง 12.00 น. แต่คุณเชื่อหรือไม่ว่าอัฒจันทร์ที่นั่งถูกจับจองคนเกลี้ยง แม้กระทั่งช่องทางเดินขึ้น-ลง ระหว่างแถวที่นั่งยังไม่เหลือจะให้เดิน ทุกพื้นที่กลายเป็นที่นั่งเชียร์ หรือแม้แต่ยืนทุกคนก็ยอม จนหลายคนบอกว่าแทบจะขี่คอกันดู

        เชื่อว่าภาพแบบนี้ไม่มีที่ไหนแน่นอน แม้แต่ฟุตบอลที่ว่าแน่ ที่ว่าเจ๋ง แฟนกีฬาชาวไทยยังเยอะไม่สู้

        มั่นใจว่าไม่ต่ำกว่า 6 พันคน ที่เข้าไปอัดแน่นอยู่ในอาคารกีฬาเวสน์ 1 ไม่นับกับที่ล้นออกมานอกอาคาร ฝ่ายจัดการแข่งขันทำได้ดีที่สุดเพียงแค่ตั้งจอทีวีขนาดยักษ์  ไว้ด้านหน้า 3 จอใหญ่ เพื่อให้แฟนลูกยางที่มาได้ร่วมเชียร์และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเกมการแข่งขัน ในแต่ละวัน

        นึกถึงทีไรแล้วชวนให้ชนลุกซู่ทุกที

        กระทั่งนักกีฬาเองยังตะลึง เพราะตอนแข่งก็ไม่ได้ให้เห็นภาพ ตอนจบออกมาก็ไม่ทัน จะเห็นอีกทีก็ตามเฟซบุ๊กที่มีคนไปแท็กให้ ทำเอาหลายคน อึ้ง ทึ่ง ไปตามๆ กัน

        นี่มันสุดยอดจริงๆ นะจะบอกให้



แฟนคลับฝ่าฝนรับล้นสุวรรณภูมิ

        ไม่ใช่วันแข่งขันเท่านั้นที่ผู้คนทะลัก หากแต่ใครจะเชื่อว่าวันเดินทางกลับจะมีคนไปรับนักกีฬามากมายถึงเพียงนั้น

        แม้ฝนจะตกพรำๆ และดึกดื่นขนาดไหน แต่ทุกคนก็พร้อมใจกันมาต้อนรับนักตบสาวกลับสู่มาตุภูมิ โดยทีมวอลเลย์บอลสาวไทยมีกำหนดลงเครื่อง 23.40 น. ภาพเบื้องหน้าที่หนาแน่นไปด้วยฝูงชนเห็นแล้วบอกได้คำเดียวว่ามันเป็นที่สุด จริงๆ

        สาวไทยยิ้มหน้าระรื่น สู้กับแสงแฟลชของช่างภาพมืออาชีพและช่างภาพมือสมัครเล่น เสียงปรบมือ เสียงกลอง ของกลุ่มกองเชียร์ชาวไทย ป้ายแสดงความยินดี และดอกไม้ คละคลุ้งไปทั่ว

        แม้จะแออัดขนาดไหนแต่สาวไทยยังยิ้มสู้ นั่นเพราะต่างคนต่างเป็นกำลังใจให้ซึ่งกันและกัน

        ด้านแฟนคลับบางคนที่ไปรับไม่ได้ต่างส่งข้อความผ่านโลกออนไลน์แสดงความชื่นชม และขอบคุณนักตบที่ทำให้คนไทยมีความสุข และนักตบเองก็ไม่ลืมที่จะขอบคุณกองเชียร์และแฟนคลับด้วยการยิ้มรับ แม้จะเหน็ดเหนื่อยกับการเดินทางมากเพียงใด แต่ใบหน้าทุกคนเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ

        นั่นคือ ภาพแห่งความประทับใจสุดท้าย หลังนักตบลูกยางสาวไทยเดินทางมาถึงมาตุภูมิ





ประวัติศาสตร์โค่น ''มังกร'' คาบ้าน  

        เรียกว่ามีเรื่องราวที่สุดมากมายที่เกิดขึ้นกับลูกยางสาวไทยในเวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2012

        อีกที่สุดที่จะต้องพูดถึงนั่นคือ แม้ร่างกายจะกรอบมากขนาดไหน แต่ด้วยจิตใจที่เข้มแข็งทำให้สาวไทยเก็บชัยชนะเหนือทีมชั้นนำของโลก และอีกหลายทีมที่ได้สิทธิ์ไปโอลิมปิก 2012

        โดยเฉพาะอย่างยิ่งการโค่น ''เจ้าภาพ'' จีนได้เป็นครั้งแรกในแผ่นดินใหญ่ หรือแม้แต่การชำระแค้น ''สาวยุ่น'' ญี่ปุ่น ได้ชนิดไม่เกรงกลัว

        อีกทั้งการเชือดเฉือนกับ ''สาวเติร์ก'' ตุรกี ดีกรีแชมป์คัดโอลิมปิกโซนยุโรป มาแบบสนุกเข้มข้นจนเกือบจะเป็นฝ่ายพลิกเอาชนะ แต่ด้วยร่างกายที่ไม่เต็มร้อยสุดท้ายทำให้สาวไทยพ่ายไป 1-3 เช่นเดียวกับการโคจรมาเจอกับ ''มะกัน'' สหรัฐอเมริกา ทีมอันดับ 1 ของโลก ในรอบสุดท้าย ซึ่งเป็นแมตช์ที่สองในศึกหนนี้ ไทยสามารถยื้อเก็บเซตจาก ''มะกัน'' มาได้ 1 เซต

        หลายคนบอกว่าหากสภาพร่างกายของสาวไทยพร้อมมากกว่าที่เป็นอยู่ไม่แน่ว่าอาจจะเห็นสาวไทยเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่อีกก็เป็นได้




ตบสาวไทยทีมเวิร์กดีที่สุด

        แน่นอนว่ามีปัจจัยมากมายหลายอย่าง สำหรับการที่ทีมใดทีมหนึ่งจะก้าวสู่ความสำเร็จ และเชื่อว่าไม่มีสูตรตายตัว เพราะแต่ละทีม แต่ละนัดที่ลงสนาม ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพ วันนี้ผู้เล่นอาจจะเล่นได้ดีเกินคาด แต่วันถัดมาผู้เล่นอาจจะเล่นไม่ได้ตามแผนที่วางไว้

        แต่ปัจจัยอย่างหนึ่งที่ทำให้ ''สาวไทย'' ก้าวมาได้ไกลขนาดนี้ และประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ นั่นคือ ''ทีมเวิร์ก''

        หากเพ่งกันดีๆ  6 ทีม ที่ผ่านเข้ามาเล่นรอบสุดท้าย เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2012 คอนเฟิร์มเลยว่า ''ทีมชาติไทย'' ถือเป็นทีมที่มีความเป็น ''ทีมเวิร์ก'' ดีที่สุด โดยนัดสุดท้ายที่เจอกับ ''คิวบา'' นักกีฬาลูกยางของไทยแสดงให้ถึงความแตกต่างอย่างชัดเจนถึงความเป็น ''ทีมเวิร์ก''

        การโผเข้ากอดกัน การแตะมือกัน การตบไหล่ หรือแม้กระทั่งการมองหน้ากันแล้วยิ้ม สิ่งต่างๆ เหล่านี้บ่งชี้ว่า ''สาวไทย'' มีความเป็นหนึ่งเดียวและรู้ใจกันมากที่สุด



''บะหมี่'' ตำแหน่งหัวเสาที่เตี้ยที่สุด

        ''บะหมี่'' ฐาปไพพรรณ ไชยศรี ไม่ใช่แค่ผู้เล่นตำแหน่งหัวเสา แต่ถือเป็นผู้เล่นสาระพัดประโยชน์ ตามที่ ''โค้ชอ๊อด'' เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร เคยบอกอย่างแท้จริง

        แมตช์ท้ายในทัวร์นาเมนต์นี้ ''บะหมี่'' เธอกลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญที่พลิกเกมจนทีมไทยก้าวไปหยิบชัยชนะ

        ''บะหมี่'' หรือที่เพื่อนเรียกติดปากว่า ''อาฉี'' ชีวิตผกผันจากอดีตลิเบอโร่ตัวสำรอง สู่หัวเสาที่แทบจะเรียกได้ว่าเตี้ยที่สุดในโลก ด้วยส่วนสูงเพียง 168 ซม.

        โดยเฉพาะในนัดที่เล่นกับ ''จีน'' ฐาปไพพรรณ ที่ถูกส่งลงมาแทน ''กัปตันกิ๊ฟ'' ตั้งแต่ต้นเซตสาม ''บะหมี่'' สร้างความตกตะลึงให้กับแฟนลูกยางทั่วโลก เมื่อเธอลงมาเป็นตัวเปลี่ยนเกมสร้างความกดดันและปั่นป่วนผู้เล่นจีนจนเสีย กระบวน นอกจากการลอยตัวตบหัวเสาแบบเหนือเนต ''บะหมี่'' ยังบล็อกหมวยสูงใหญ่กว่า 180 ซม. ได้อยู่หมัด

        นั่นคือสิ่งที่ทำให้จีน... ทึ่ง !!

        มากไปกว่านั้น ''บะหมี่'' พิสูจน์ให้เห็นว่าความเตี้ยไม่ใช่อุปสรรคสำหรับการเป็นผู้เล่นในตำแหน่งหัวเสาอีกต่อไป


        ตบสาวเนื้อหอมลีกทั่วโลกรุมจีบ

        การคว้าอันดับ 4 เป็นเพียงผลพลอยได้หลังจบการแข่งขัน แต่ที่เป็นผลลัพธ์ชัดเจนนั่นคือ นักกีฬาไทยกลายเป็นที่สนใจของสโมสรทั่วโลก ที่รุมขายขนมจีมให้ร่วมทีมเป็นว่าเล่น ทั้ง ลีกของอิตาลี และ ลีกในญี่ปุ่น

        จากฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นในการแข่งขันวอลเลย์บอลเวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2012 ตลอด 3 สัปดาห์ ในรอบแรก และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการแข่งขันรอบสุดท้าย ที่หนิงโบ นักตบลูกยางสาวไทยระเบิดโชว์ฟอร์มอย่างสวยหรู ส่งผลให้ได้รับความสนใจจากสโมสรทั่วโลก

        โดยสโมสรญี่ปุ่นสนใจที่จะให้ ''หน่อง'' ปลื้มจิตร์ ถินขาว และ ''อร'' อรอุมา สิทธิรักษ์ ไปร่วมเล่นลีก ขณะที่ทีมลีกของอิตาลี อยากที่จะได้ ''ปู'' มลิกา กันทอง และ อรอุมา ไปร่วมทีม ไม่เท่านั้นทีมงานฝ่ายสถิติของอาร์เจนตินา ยังเดินเข้ากระแซะ ''โค้ชอ๊อด'' บอกว่าลีกอิตาลี สนใจผู้เล่นตัวรับของไทยไปร่วมเล่นด้วยเช่นเดียวกัน


        และทั้งหมดนี้ก็คือบันทึกความสำเร็จอีกขั้นของนักตบลูกยางสาวไทย จนกลายเป็นที่สุดของที่สุดใน ''เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2012''





นุศรา ต้อมคำ ยอดมือเซตของโลก








''ปริ ม อินทวงศ์'' มือเซตในดวงใจที่ยังอยู่ในความทรงจำของแฟนกีฬาลูกยางชาวไทยเสมอมา!!!นับ ตั้งแต่ ปริม อินทวงศ์ โบกมือลาวงการลูกยางไทย และมี ''เลือดใหม่'' เข้ามาทำหน้าที่มือเซตแทน ปริม แต่ก็ยังหาใครที่จะเซตบอลได้เหมือน ''สาวแจน''

       

        จนกระทั่งประเทศไทยมีมือเซตหน้าหวาน ''นุศรา ต้อมคำ'' ที่ก้าวขึ้นมาฉายแววความเก่ง แม้สไตล์การเซตบอลของ นุศรา จะแตกต่างกับรุ่นพี่ แต่ ''ซาร่า'' ของบรรดาแฟนคลับ ก็สามารถพิสูจน์ฝีมือ
ของตัวเองให้เป็นที่ประจักษ์ ยุคสมัยที่เปลี่ยนไป สไตล์การเซตย่อมเปลี่ยนตาม
 

        แต่...การเปลี่ยนแปลงนั้นนำมาซึ่งการพัฒนาและทำเอาอดีตมือเซตรุ่นพี่ทีมชาติ อย่าง ปริม อินทวงศ์ ต้องเอ่ยปากชมกับความสามารถของรุ่นน้องที่เซตบอลได้หลากหลาย มีสไตล์การเล่นของตัวเอง
!!!
 

        พัฒนาการที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ ''ซาร่า'' กลายเป็นนักตบที่กระโดดเข้าไปครองใจแฟนๆ ลูกยางชาวไทยได้อย่างล้นหลาม เพราะหน้าตาที่สวยสด น่ารัก บวกกับฝีมืการเซตที่เล่นบอลได้ทุก
หน้า จึงไม่น่าแปลกใจสักนิดที่ นุศรา จะผงาดคว้ารางวัล ''เซตยอดเยี่ยม'' ในการแข่งขันเวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2012
 




        นุศรา คือยอดมือเซตของโลกในปีนี้ และรางวัลนี้เป็นรางวัลที่ 2 ของเธอหลังจากที่การแข่งขันสโมสรชิงแชมป์เอเชีย นุศรา โชว์ผลงานคว้ารางวัลเซตยอดเยี่ยมมาครองได้เช่นกัน!!!
 

        รางวัลที่ได้คือความสำเร็จ ที่การันตีฝีมือให้กับ นุศรา ได้เป็นอย่างดี เพราะนอกจากรางวัลและเงินรางวัลที่ ''ซาร่า'' จะได้รับแล้ว ผลพลอยได้ที่จะตามมานั้น ''ค่าตัว'' ที่ถูกเพิ่มมูลค่าขึ้นโดยอัตโนมัติ
แน่ นอนว่า'' มือเซต'' คือหัวใจของทีม บอลเซตไม่เข้ามือการทำแต้มก็จะยากขึ้น และเมื่อสโมสรไหนอยากได้ตัว นุศรา ไปเล่นอาชีพ เห็นทีต้องเป็น ''เจ้าบุญทุ่ม'' ลงทุนที่จะได้ตัวยอดมือเซตจาก ''เมืองมสยาม'' ไปครอง!!!
 



        โดยผลงานที่ ''ซาร่า'' ทำไว้ในศึกเวิลด์ กรังด์ปรีซ์นั้น นักตบสาวไทยสามารถเซตตลอดทัวร์นาเมนต์ได้ถึง 183 ครั้ง ฟาวล์ไปเพียงแค่ 2 ครั้ง มีเปอร์เซ็นต์การเซตได้ถึง 9.63 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่อันดับ 2
อาเมียร์ นาส จากตุรกีนั้นมีเปอร์เซ็นต์การเซตเพียงแค่ 7.16 เท่านั้น
 


        เห็นสถิติการเซตของนักตบสาวไทยกับทีมระดับโลกอย่างตุรกี หรือแม้แต่มือเซตทีมแชมป์ 3 สมัยของอมเริกาอย่าง อาลิฮ่า กลาส ที่คว้าอันดับ 4 นั้น มีเปอร์เซ็นต์การเซตเพียงแค่ 4.32 เท่านั้น!!!
 

        ณ เวลานี้ หากจะบอกว่า นุศรา ต้อมคำ คือยอดมือเซตของโลกในปีนี้เห็นจะไม่ผิดแต่อย่างไร และด้วยฝีมือการเซตที่กลายเป็นสุดยอดของเมืองไทย นุศรา จึงกระโดดเข้าไปอยู่ในใจของแฟนๆ กีฬาลูกยางได้อย่างรวดเร็ว
 


        และเมื่อมีโอกาสที่บรรดาแฟนคลับจะได้ใกล้ชิดกับสุดยอดมือเซตอย่าง นุศรา จึงไม่น่าแปลกใจสักนิดที่สนามแข่งขันถ้วย ก ณ โรงยิมฯ ของ มรภ.สวนสุนันทา จะดาษดาไปด้วยแฟนคลับของเหล่าซูเปอร์สตาร์ และหนึ่งในนั้นก็มีแฟนคลับของ ''ซาร่า'' ที่แห่มาให้กำลังใจ ลุ้นและเชียร์กันแบบติดขอบสนาม เรียกว่าวันแรกที่เปิดเกมตบกันในวันที่ 5 ก.ค. ที่ผ่านมา สนามก็แทบจะพังกันแล้ว
 

        แต่...ภาพที่เห็นคือ นักกีฬาทุกคนต่างให้ความเป็นกันเองกับแฟนๆ ที่มาขอถ่ายรูป ทุกคนยิ้มและพูดคุยกับบรรดาแฟนคลับอย่างเป็นกันเอง โดยเฉพาะ นุศรา ที่ให้ความคุ้นเคยกับแฟนๆ คลับที่รอคอยจะได้เจอตัวจริงกับสุดยอดมือเซตของโลก เมื่อได้มาเจอกับตัวจริงก็ไม่ผิดหวัง
 

        แม้...จะเหนื่อยจากการแข่งขัน แต่ นุศรา ก็ยังมีรอยยิ้มให้กับแฟนๆ เสมอ ไม่น่าแปลกใจสักนิดที่เหล่าแฟนคลับของ นุศรา ถึงได้เทใจเชียร์ ''ซาร่า'' กันสุดกำลัง เพราะเธอคือที่ 1 ของโลกที่จับต้องและสัมผัสได้!!! 


















ขอขอบคุณภาพจาก  นสพ. สยามกีฬา ไทยวอลเลย์บอล วันที่ 6-7 และ 7-8กรกฏาคม 2555  และข้อมูลจากเวบ  http://www.nootsara13.com/webboard/index.php?topic=541.0  มาณ.ที่นี้ด้วยครับผม.........



โหดเพื่อชาติ 'โค้ชอ๊อด' เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร
โดย : ทิพย์พิมล เกียรติวาทีรัตนะ



คุยข้างสนามกับ "ยักษ์ใหญ่ ไล่ดุเด็ก" ที่เคี่ยวเข็ญจนวอลเลย์หญิงทีมชาติไทยทำผลงานท็อปฟอร์ม ...ต้องยอมให้โค้ชโหดคนนี้จริงๆ

วันนี้ "โค้ชอ๊อด" เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร พานักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย เหินฟ้าไปไต้หวันเพื่อป้องกันแชมป์ วอลเลย์หญิงชิงแชมป์เอเชีย เรียบร้อยแล้ว


 ก่อนไป โค้ชร่างใหญ่ วัย 45 บอกว่า ไปแข่งเพื่อป้องกันแชมป์ ยากกว่าแข่งเพื่อชิงแชมป์


 ก่อน หน้านั้นอีก ในวันพักผ่อนสบายๆ ปลอดการซ้อม โค้ชอ๊อดเจ้าของส่วนสูง 195 เซ็นติเมตร กลับยุ่งขิงกับการให้สัมภาษณ์ ทั้งแบบเดินสายและมีไมค์มาเกยถึงที่

ระหว่างซ้อมกับออกสื่อ เขาบอกว่า เหนื่อยทั้งคู่ แต่ก็เข้าใจดี เพราะนี่ไม่ใช่ "คิวทอง" ครั้งแรกของเขา ไม่ว่าจะในฐานะอดีตนักกีฬาวอลเลย์บอลชายทีมชาติไทย หรือ โค้ชวอลเลย์บอลหญิงที่มีแฟนๆ ติดตามมากมาย


 คิวแน่นมากที่สุด แค่ไหน?


 "ไม่มากเท่าไหร่หรอกครับ ก็แค่เต็มวัน ไปจนถึง 4-5 ทุ่ม" รอยยิ้มผุดขึ้นในใบหน้าโค้ชโหด (ในวงการลูกยางเขาว่ากัน)


 แต่ที่ข้อมือ โค้ชโหด เสียงดัง ร่างใหญ่ คนนี้ มีสร้อยประคำติดไว้ตลอดเวลา ว่างๆ ก็ท่องพุทโธ ธัมโม สังโฆ ผ่านประคำทีละลูก


 ประคำทั้ง 12 ลูกที่ร้อยไว้ในเส้นเดียวกันนั้น  นอกจากจะช่วยทำสมาธิแล้ว ยังเป็นสัญลักษณ์แทนบางอย่าง


 เขาให้ทาย...พร้อมอมยิ้มเตรียมเฉลย


"นักกีฬาทั้ง 12 คนของผมครับ"



ทราบว่าคุณพ่อก็เป็นนักกีฬาวอลเลย์บอล


 ครับ เป็นตัวจังหวัด สูง 185 ซม. คุณแม่ก็เป็นนักวิ่งโรงเรียน(หัวเราะ) บ้านผมชอบกีฬา


 ผม เห็นคุณพ่อเล่นมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว ตามไปดูแข่งกีฬาแห่งชาติ กีฬาจังหวัด อีกอย่างผมโตมาในค่ายทหาร จ.นครราชสีมา ในนั้นมีสนามกีฬาเยอะมาก แทบทุกกองพันจะมีสนามวอลเลย์บอลอยู่ด้วย  เสาร์-อาทิตย์ ก็จะเห็นรุ่นพี่ๆ ทีมชาติ กลับมาซ้อม เราไปดู พี่เค้าเล่นเก่ง เลยเริ่มสนใจมากขึ้น


 แต่มาเอาจริงตอนอายุ 15 คุณพ่อเทรนให้ ตื่นตีห้า วิ่งเช้าเย็น รอบค่ายทหารเป็นสิบกิโล ตอนนั้นคิดอยากจะเก่ง คิดอยากติดทีมชาติแล้ว



เสน่ห์วอลเลย์บอลอยู่ตรงไหน


 เกม มันสนุกครับ เร้าใจ ตีไปตีมา สองคือ ผมเรียนรู้เร็วกว่าคนอื่น อาจจะเป็นเพราะสายเลือดก็ได้ (ยิ้ม) ที่เหลือเราก็ฝึกความแข็งแรง เล่นเวท ฟิตเนส สมัยนั้นคุณพ่อฝึกให้กระโดดตียอดกล้วย ยอดไม้


 มุ่งมั่น อยู่ 2 ปี อายุ 17 เขาเปิดคัดตัวทีมชาติ พ่อก็พาไป ก็ติด ผมอายุน้อยที่สุด ยังเรียนไม่จบมัธยมปลายเลย ได้เป็นผู้เล่นสำรองเพราะเด็กมาก  แล้วก็ถูกส่งไปฝึกที่จีน 1 เดือน ไปอยู่ตำบลไทซาน มณฑลกวางเจา ที่นี่เขามีชื่อเสียงด้านวอลเลย์ เล่นกีฬากันทั้งตำบล ได้แชมป์ระดับประเทศ


 ผม ไปกินนอนซ้อม ซ้อมหนักมาก เล่นเวททีละร้อยๆ กิโล ตอนนั้นถือเป็นจุดเปลี่ยน ทำให้เรารู้ว่า คนที่เล่นเก่ง เค้าต้องฝึกซ้อม นักกีฬาก็ทำเป็นอาชีพเพราะรัฐบาลเขาสนับสนุน


 หลังจากกลับมา ก็ไปเข้าไปอยู่สโมสรทหารอากาศ แล้วก็เอนทรานซ์เข้า คณะศึกษาศาสตร์ ภาควิชาพลศึกษา ม.เกษตรศาสตร์ได้ ตอนนั้นได้เล่นเป็นตัวจริงแล้ว แล้วทีมวอลเลย์ชายก็คว้าเหรียญทองซีเกมส์เป็นครั้งแรกด้วย วอลเลย์หญิงก็ได้เข้าชิงแต่ยังไม่ได้แชมป์



เพดานสูงสุดที่มองตอนนั้น ไปไกลแค่ไหน


 ตอน นั้นทีมวอลเลย์บอลของเรามีศักยภาพแค่เป็นแชมป์ซีเกมส์ เราไม่สามารถเอาชนะญี่ปุ่น จีน เกาหลีได้ เพราะสมัยนั้นทีมเหล่านี้ติดท็อปเทนของโลก การศึกษา การบริหารจัดการ การฝึกซ้อม เค้าดีกว่าเราเยอะมาก เรามีงบประมาณน้อย ไม่มีเวลาเตรียมตัว

 


ตอนนั้นมีเบี้ยเลี้ยงไหม


 แรกๆ ไม่มี เพิ่งมามีตอน พ.ศ.2528 ได้วันละ 100 บาท ก็กินไป 120 ติดลบครับ (ยิ้ม) เราไม่ได้เงินอะไรจากการเป็นนักกีฬา เงินพวกนี้ก็เอามากินอาหาร จ่ายค่าที่พัก ตอนนั้นสมาคมไม่มีเงิน เพราะยังไม่เก่งมาก สปอนเซอร์ก็ไม่ได้สนับสนุนมาก ค่อนข้างลำบาก ทุกคนมาทำในฐานะสมัครเล่น

 


ทำไมถึงสนใจการเป็นโค้ช


 เพราะ ตอนนั้นเรียนพลศึกษา แล้วเรียนครู แล้วเรียนทางด้าน coaching ด้วย เราก็สงสัยว่าทำไมโค้ชสอนเราอย่างนี้ อย่างนั้น และเราตั้งใจจะเรียนด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาด้วย ช่วงปี 1 ก็มีคนมาชวนให้ไปสอบนายร้อย แต่เราไม่เอา เลือกอันนี้แล้ว ไม่เปลี่ยนแล้ว



ตอนที่เลือกคณะนี้ ตั้งเป้าไหมว่าอยากเป็นอะไร


 ไม่ ครับ ตอนนั้นแค่อยากเล่นกีฬา เรียนพละเพื่อจะได้เล่นกีฬาอย่างเต็มที่ คิดว่าอนาคตคงเป็นครู และอาจจะเรียนไมเนอร์อื่นๆ สำรอง ตอนนั้นผมเลือกหลายอย่าง ทั้งจิตวิทยาการศึกษา ภาษา การสอนระดับประถม เหมาะกับการเป็นโค้ชหมดเลย (ยิ้ม)


 พอเรียนจบก็เล่นให้ทีมชาติ และสโมสรทหารอากาศมาเรื่อยๆ พอปี 40 ตัดสินใจเลิกเล่นทีมชาติเพราะร่างกายไม่ไหว เล่นจนกระดูกหัวเข่าแตก เพราะเป็นตัวตบต้องกระโดดเยอะ ประกอบกับสมาคมมีโปรเจคท์ทำทีมยุวชนหญิง National team 2001 แล้วขอให้ผมมาทำ สร้างยุวชนเพื่อให้เป็นทีมชาติในอีก 4 ปีข้างหน้า เลยตัดสินใจลองดูสักตั้ง
 จากนั้น สมาคมฯ เลยส่งผมไปเรียนหลักสูตรผู้ฝึกสอนที่สเปน  กลับมาก็ทำทีมเลย


หัวใจสำคัญของการเป็นผู้ฝึกสอนคืออะไร


 เรื่อง การทำทีมชาติว่า มีอะไรบ้าง ง่ายๆ คือ 6 T ได้แก่ Theory รู้ทฤษฎี หลักการของการเป็นโค้ช Teaching การสอน รู้กระบวนการการถ่ายทอดความรู้ให้นักกีฬาและการวางแผนการสอน Training กระบวนการในการสอน การฝึกซ้อม  Technique กลเม็ดเคล็ดลับ เช่น เราจะสอนตัวเซ็ตอย่างไรให้เก่ง Tactic ในการแข่งขันเราจะเอาชนะคู่แข่งขันอย่างไร  และ Teamwork การทำงานเป็นทีม


 นอก จากนี้เรายังเรียนรู้เรื่องการวางแผนทั้ง Internal และ External เช่น Internal เราทำ weakness ให้ strength อย่างไร นักกีฬาเรายังทำ skill ไม่ดี เสิร์ฟ หรือตบไม่ดี  ร่างกายยังไม่แข็งแรง เป็นหน้าที่ของเราที่ต้องทำให้เขาแกร่งขึ้นมาให้ได้


 ส่วน External ต้องเข้าใจว่าอะไรเป็นปัจจัยที่ส่งเสริม สนับสนุน Internal เช่น นักกีฬา ไม่มีเวลาฝึกซ้อม ต้องไปเรียน ต้องกลับบ้าน ผู้ปกครองไม่สนับสนุน เงินทุนไม่พอ เราก็ต้องเข้าใจและส่งแนวความคิด วิธีการให้ผู้บริหารช่วยสนับสนุนแก้ไข


ผู้ฝึกสอนจำเป็นต้องเล่นกีฬาชนิดนั้นๆ เก่งหรือไม่ โดยเฉพาะวอลเลย์บอล


 ผม ว่าไม่จำเป็นต้องเล่นเก่งแต่ให้รู้ว่าจะสอนเทคนิคเค้าอย่างไร ทุกอย่างเรียนรู้กันได้ ใน 6 T แต่ Technique บางครั้งโค้ชต้องเข้าใจ เช่น สอนให้เสิร์ฟให้ข้ามสนาม โค้ชหลายคนสอนได้ แต่จะเสิร์ฟยังไงให้มีประสิทธิภาพและมีคุณภาพในระดับโลก


 จะเห็นว่าโค้ชที่ประสบความสำเร็จในโลก ส่วนใหญ่เป็นนักกีฬาดังๆ  มาก่อน เพราะเขาจะเข้าใจในเทคนิคและแทคติกมาก นี่เป็นหัวใจสำคัญ

 


การที่เป็นนักกีฬาชายแล้วมาคุมทีมหญิง มีความยากง่าย หรือท้าทายอย่างไร


 ตอน นั้นผมอายุ 30 มาคุมเด็กอายุ 16-17 ธรรมชาติก็มีความต่างกันพอสมควร ผู้ชายออกห้าวๆ ผู้หญิงเค้าก็มีความละเอียดอ่อน เป็นเด็กด้วย ช่วงนั้นเค้ายังอ่อนไหว อ่อนแอ พอสมควร แต่เราเข้าใจ เพราะเราเรียนโค้ชมาและเราเรียนวิชาชีพครูมา จิตวิทยาพัฒนาการของเด็กที่เรียนมาจากมหาวิทยาลัยช่วยได้มาก

 

 
ดุ โหด ได้ไหม


  ได้ครับ  ผู้หญิงเนี่ยสู้มากกว่าผู้ชายด้วยในบางครั้ง เวลาที่เค้าสู้ก็น่ากลัวเหมือนกัน

 


ความเป็นผู้ชายของโค้ช กับการฝึกสอนผู้หญิง มีช่องว่างบ้างหรือไม่


 แรกๆ เราต้องวางตัวหน่อย ผมจะไม่ไปถูกเนื้อต้องตัวนักกีฬา แต่จะพูดคุยกันเป็นอาจารย์-ลูกศิษย์ ผมไม่ให้เค้าเรียกเราว่าพี่ จะเป็นครูเป็นอาจารย์กัน

 


เพราะอะไรถึงแบ่งชัดเจนอย่างนั้น ขณะที่ครูบางคนสร้างความสนิทสนมโดยเรียกแทนตัวเองว่าพี่


 ไม่ ได้ครับ (ตอบทันที) เพราะความเคารพมันจะต่างกัน  ถ้าเป็นพี่ก็จะมีความรู้สึกอีกอย่างหนึ่ง ในทางปฏิบัติผมเป็นอาจารย์เค้า ไม่ใช่พี่เค้า เพราะผมต้องสอนทุกอย่าง


 คือ บทบาทของโค้ชเป็นหลายอย่าง เป็นครู เพื่อนในบางโอกาส เวลาที่เค้ามาเล่นด้วย เราเล่นได้ แต่ให้อยู่ในขอบเขต เป็นนักสังคมสงเคราะห์ เป็นนักวิทยาศาสตร์ เป็นที่ปรึกษา ฯลฯ


 ช่องว่างเราพยายามทำให้มีน้อยที่สุด แต่ถ้ามันเกิด เช่น ความไม่เข้าใจกัน  เพราะวัย เราก็จะมีผู้ช่วยโค้ชคอยช่วย  เพราะบางอย่างเค้าไม่สามารถมาคุยกับเราได้ เราก็จะมีผู้หญิงมาช่วย


 ตอนผมไปอยู่ยะลา 4 ปี (ฝึกทีมยุวชนหญิง)ผมมีทันตแพทย์หญิงมาช่วยดูแล ยา สุขภาพ ของเด็ก ผมมีจิตแพทย์ ผมเอาตำรา sport science วิทยาศาสตร์การกีฬาไปให้เค้าดู ผมอยากให้จิตแพทย์ช่วยผมเรื่อง ความเครียด กดดัน วิตกกังวล เพราะเด็กๆ ต้องจากบ้านมาไกล อยู่กับเราตั้ง 4 ปี ผมต้องสร้างสังคม สร้างสิ่งแวดล้อมให้เค้าที่นั่น  ดังนั้นการดูแลสุขภาพจิตและการสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี เป็นหน้าที่ที่ผมต้องทำให้เค้า


 ผมยังได้สถาบันการศึกษามาช่วยผม ดูแลเรื่องการศึกษา เค้าต้องมีเพื่อนที่โรงเรียนใหม่ ภาษาวัฒนธรรมก็ไม่เหมือนกัน ที่นั่นพูดยาวี เด็กผมมาจากอีสาน เหนือ ต้องปรับตัวพอสมควร และผมได้โรงพยาบาล แพทย์ออโธปีดิกท์ มาดูแลเรื่องการบาดเจ็บ สมัยนั้นเด็กๆ ต้องมาลงทะเบียนเป็นผู้อนาถา

 


เพราะอะไร


 เพราะ รักษาฟรี ตอนนั้นสมาคมไม่มีเงินจ่าย แต่ต้องไปทำกายภาพบำบัดทุกวัน เรื่องโภชนาการ เราได้สาธารณสุขจังหวัดมาดูแล คำนวณอาหารว่ากินไปกี่กิโลแคลอรี่ ไปดูซ้อมว่าวันนี้ต้องทานอะไรเพิ่มเติมบ้างเพื่อสร้างความแข็งแรง ส่วนผมจะดูเรื่องฟิตเนส สร้างร่างกายให้แข็งแรง ฝึกเทคนิคให้ดี  ผมไปสร้างวิทยาศาสตร์การกีฬาที่นั่น โดยได้รับการช่วยเหลืออย่างดีจากนายกสมาคมฯ คนปัจจุบัน (สมพร ใช้บางยาง) ซึ่งเป็นรองผู้ว่าฯ ยะลาสมัยนั้น ที่พานักธุรกิจและหน่วยงานต่างๆ มาเจอและให้การสนับสนุนเรา

 


มีวิธีคุมทีมหญิงอย่างไร


 หลายวิธีทั้งทางตรงและทางอ้อม


 ทาง ตรงคือพูดกับเค้าตรงๆ แสดงให้เค้าเห็นตรงๆ ว่าเค้าทำไม่ถูก เราไม่พอใจนะ สิ่งที่เค้าทำไม่ถูกต้อง อาจจะมีการทำโทษบ้าง ถ้าไม่ตั้งใจซ้อม อ่อนแออาจจะต้องซ่อม

 


ซ่อมอย่างไร


 เอา ใหม่ ทำใหม่ แล้วนักกีฬาจะกลัวมาก เพราะมันเหนื่อย ผมสั่งให้วิ่ง 2,000 เมตร ในเวลาไม่เกิน 9 นาที ผมต้องการ maximum power ถ้าไม่ผ่านคนเดียว เอาใหม่หมด


 ผมบอกแล้ว ผมเป็นคนที่โหด แต่การทำอย่างนี้จะทำให้ทีมรักและสามัคคีกัน เค้าก็จะเกลียดผมทั้งทีม (ยิ้ม) ไม่ ใช่ผมไม่สน ไม่แคร์ รู้ว่าเค้าโมโห นิดๆ หน่อยๆ เดี๋ยวก็หาย หรืออาจจะโกรธสักพัก เดี๋ยวเค้าก็จะคิดได้เอง ว่าสิ่งที่ทำเป็นสิ่งที่ดีแล้ว


 การเรียนโค้ชมาทำให้เราได้ รู้ว่าการใช้จิตวิทยากับนักกีฬา ทำได้หลายแบบ กีฬาประเภททีมบางอย่าง เพื่อให้เกิดความสามัคคี  เค้าจำเป็นต้องยากลำบากด้วยกัน ทำงานด้วยกัน บางครั้งคนนี้ทำผ่าน ดีทุกอย่าง แต่จะมีคนที่อ่อนแออยู่คน เค้าจะต้องช่วยคนที่อ่อนแอให้ผ่านให้ได้


 บางครั้งผมสอนเค้า เรื่องการทำงานเป็นทีม ทีมของผม จะแตกออกมาเป็น  TEAM คือ Together, Everyone , Achieve และ More ทุกคนต้องช่วยกันมันถึงจะมีความก้าวหน้า มากกว่า ต่างคนต่างไป ต่างคนต่างเป็น  ดังนั้นการเล่นกีฬาเป็นทีมเราต้องรู้จักให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ช่วยเหลือกัน

 


ความโหด จำเป็นหรือมีข้อดีอย่างไร


 อาจจะมองว่าโหดนะ แต่มันเป็นการพัฒนาคุณภาพทางจิต ภาษาไทยอาจจะเรียกว่าโหด


 เงื่อนไข หรือเวลาที่เรากำหนดให้ เขาจะต้องใช้ความพยายามสูงสุดในชีวิต ความสามารถสูงสุดที่เค้าจะทำได้ เค้าอาจจะโกรธโค้ชว่าทำเต็มที่แล้วยังไม่ผ่าน แต่ผมต้องการให้เค้าไปช่วยเพื่อนให้ผ่าน เอาพลังของความเห็นอกเห็นใจ ช่วยเหลือกัน  ทุกอย่างเค้าจะต้องเอาชนะใจโค้ชให้ได้ และการเอาชนะใจผม เค้าจะต้องรักและสามัคคีกัน  สองคือ จะต้องมีจิตวิญญาณของการต่อสู้มาก และ ต้องต่อสู้ด้วยกัน นี่คือสิ่งที่ทำให้นักกีฬาพัฒนาเรื่องคุณภาพทางจิต
 

ผม จะฝึกซ้อมให้นักกีฬามี คุณภาพ 4 ด้านคือ 1.ด้านร่างกาย เช่น ความแข็งแรง เร็ว ทนทาน   2.ด้านเทคนิค ต้องอยู่ในระดับโลก เช่น การเสิร์ฟ ตบ 3.คุณภาพทางจิต ต้องดี ไม่หวั่นไหวเวลาแข่งขัน สามารถควบคุมอารมณ์ได้ดี ทั้งมีความดุดัน ก้าวร้าวในการเล่น และกระตุ้นเพื่อนร่วมทีมให้เห็นว่าตัวเองมีจิตวิญญาณเรื่องการต่อสู้ที่แท้ จริง ไม่ทำเล่น เช่น การเล่นเวท ระหว่างเล่น ผมจะสอนให้เค้าคิดว่า เค้าต้องเก่ง ขณะที่ยกอยู่ ทีมคู่แข่งขันของเราก็ทำเหมือนกัน อาจจะทำมากกว่าเราด้วยซ้ำ

 


เมื่อเปรียบเทียบกัน เพราะอะไรทีมหญิงจึงดูโดดเด่นกว่าทีมชาย


 หลาย ปัจจัย ทีมชายไม่ได้ซ้อมต่อเนื่อง เพราะนักกีฬาต้องเรียน รับราชการส่วนใหญ่เป็นทหารบก ทหารอากาศกัน สมาคมเองเขาก็อยากทำให้ต่อเนื่อง งบประมาณก็ไม่ค่อยมี และรูปร่างที่ค่อนข้างเสียเปรียบในเอเชีย

 

แต่นักกีฬาหญิง รูปร่างก็เสียเปรียบเหมือนกัน?


 ครับ แต่ระบบวิธีการฝึกซ้อมเป็นอีกอย่างหนึ่ง

 


ชัยชนะตอนเป็นนักกีฬา กับ ตอนเป็นโค้ช แตกต่างหรือเหมือนกัน


 เหมือน กัน แต่ตอนโค้ช เรามีความอิ่มใจสุขใจที่ได้เห็นเพื่อนร่วมทีมทุกคนมีความสุข แฟนๆ ก็มีความสุข สตาฟโค้ชก็มีความสุข เพราะผมก็เคี่ยวกับเค้า บางทีตีหนึ่งตีสองยังต้องทำการบ้านที่ผมให้ไป ผมอาจจะบ้าเกินไปหรือเปล่า (ยิ้ม) แต่มันเป็นวิธีการทำงานของผม


 ช่วงแข่งขัน เราต้องทำงานต่อเนื่อง เหนื่อยหน่อย เพราะทีมสตาฟผมต้องอยู่สนามทั้งวัน ต้องทำคอมพิวเตอร์ วิเคราะห์เกมการแข่งขันทุกคู่ เพื่อเอามาศึกษาในตอนค่ำ เช่น วันรุ่งขึ้นเราแข่งกับเกาหลี ผมก็จะเลือกแมตช์ที่เกาหลีเล่นดีเอามาวิเคราะห์ เปรียบเทียบที่เคยเล่นกับเรา ดูจุดอ่อน จุดแข็ง และผู้เล่นกับเราพรุ่งนี้ ต้องเลือกมาศึกษาและสรุปมาพรีเซ็นต์ให้นักกีฬาฟังในวันรุ่งขึ้น  เพื่อเตรียมไปฝึกซ้อมตามแผน บ่ายพักผ่อน เย็นแข่งขัน

 

 

กับสาวๆ โหดที่สุด แค่ไหน


 จริงๆ ผมใจดีนะเวลาอยู่ข้างนอก แต่เวลาซ้อมมีบ้าง คือเราทำให้เค้ามีคุณภาพทางจิตที่สูง ผมเน้นว่าต้องดีมาก เวลาสอนนักกีฬา เราจะสอนให้เค้าใช้ความพยายามสูงสุดเพื่อให้เค้าเก่งกว่าในขั้นที่เค้าดี อยู่แล้ว ผมต้องการให้เค้าใช้ความสามารถให้มากกว่าความพยายามที่มีอยู่ เช่น เรื่องเทคนิคถ้าทำไม่ได้ก็ต้องเอาใหม่ เราต้องสร้างให้เค้ามีความมั่นคงทางจิต และความมั่นคงด้านเทคนิค ใครเริ่มอ่อนแอจะโดนดุ บางทีก็แกล้ง เล่นดีอยู่แล้วก็บอกว่าเล่นไม่ดี แต่ไม่บ่อย เล่นดีก็ชม ผมจะชมอย่างจริงใจ ชมต่อหน้า ตะโกนเสียงดัง บางทีก็เดินไปชมแบบส่วนตัว  หรือถ้าทำไม่ได้ ก็จะตะโกนว่า อีกนิดเดียวๆ พยายามหน่อย


 เวลาฝึกซ้อม 2 ชั่วโมงครึ่ง นักกีฬาผมต้องมีสมาธิ ใจจดจ่อ ถ้าเหม่อลอย เล่นผิดพลาด จะกระทบคนอื่นหมด เพราะวอลเลย์บอลเล่นเป็นทีม ทุกคนจะมาทำเล่นไม่ได้ในการฝึกซ้อม แต่เล่นให้สนุกได้


 เห็นได้ว่านักกีฬาผมมีทางออกหลายทาง เวลาแข่งขันเค้าจะยิ้มแย้มหัวเราะ แต่จริงๆ เครียดกัน (ยิ้ม) แต่ผมสอนเค้าให้รู้จักให้กำลังใจกัน

 


ความเป็นผู้หญิง กับกีฬาวอลเลย์บอล มีส่วนให้กีฬาวอลเลย์บอลดีขึ้นอย่างไร


 กีฬา วอลเลย์บอลมีเสน่ห์มากขึ้นตรงผู้หญิงเล่น ตรงที่ หนึ่ง ผู้เล่นเป็นผู้หญิง ชุดแข่งขันทำให้นักกีฬาดูมีเสน่ห์ ทำให้เค้าดูสวย รูปร่างดี สอง ธรรมชาติของการแข่งขันวอลเลย์บอลมีการตีโต้กันไปมา ไม่เหมือนผู้ชายที่แรงมาก ตีตู้มหาย ดูไม่ทันเลยแต่มันมันส์ มันสะใจ แต่ผู้หญิงมีการตีโต้ไปมา กว่าจะสำเร็จ มันเป็นเสน่ห์สำหรับคนดู 1 พอยท์อาจจะ 7 วินาที หรือ 14 วินาที เราทำวิจัยกันมา เวลาเท่านี้มันบิวท์อารมณ์พอดี ได้ลุ้นนิดหน่อย นี่คือธรรมชาติการเล่นวอลเลย์บอลหญิง


 โดยเฉพาะอย่างยิ่งแต้ม สำคัญๆ มันเบียดกันมาทีละนิด จนมาถึง 23 24 25 มันบีบคั้นหัวใจพอสมควร ฉะนั้นผมถึงมีการฝึกซ้อมที่เรียนว่า phychology skill training แปลเป็นไทยว่าการฝึกฝนทางจิต เราเพิ่มเงื่อนไขให้นักกีฬาเริ่มซ้อมที่ 23 เท่า เพื่อให้นักกีฬาเคยชิน กับแต้มที่สูสี แต่เงื่อนไขของผมจะยากขึ้นมาอีกนิดคือ ทีมเอห้ามแพ้ ถ้าแพ้เอาใหม่ ที่ 23 เท่า โดยให้ทีมบีเสิร์ฟก่อน แล้วทีมบีของผม ไม่ใช่ผู้หญิงนะ เป็นผู้ชาย


 การ ที่เราเล่นกับรัสเซีย คิวบาได้ เพราะความเพียรพยายาม ถ้าเราเอาผู้หญิงมาตี มันไม่คณนามือเค้าแล้ว สบาย แล้วผู้ชายที่ผมเอามา เป็นอดีตทีมชาติ ตบบอลแรงและเร็วมาก

 


 
แล้วหัวจิตหัวใจของนักสู้ของนักกีฬาหญิง มีมากแค่ไหน


 มี มาก ผู้หญิงเวลาสู้ สู้น่ากลัวนะ สุดใจขาดดิ้นเลย แต่บางทีก็ขาดสติ หลับหูหลับตาตี สู้ชิบหายเลย (หัวเราะ)จะตีให้ตาย ใจสู้ แต่ก็ต้องใช้สมองด้วย


 ทีมเราตัวไม่สูง ในเวทีโลกเราเล็กกว่าเค้า สิ่งที่เอาชนะเค้าได้คือความแน่นอนในการเล่น ต้องมีความเร็ว ความคล่องตัวต้องสูง หลอกซ้ายหลอกขวา เทคนิคเหล่านี้นักกีฬาไม่ได้เก่งเอง ต้องฝึกฝน ต้องสร้างร่างกายให้แข็งแรงก่อน

 

โค้ชจะต้องเป็นคนที่เข้าใจผู้หญิงมากๆ ?
 

ก็น่าจะอย่างนั้นครับ (ยิ้ม)

 


การไปแข่งแบบมีชัยชนะพ่วงมาเยอะๆ กับการไปแข่งแบบไร้อันดับ อย่างไหนยากกว่ากัน


 ขอบ คุณที่เป็นห่วงครับ เราเตรียมทีมกันอย่างเต็มที่ว่าเราจะไปป้องกันแชมป์ เรามีนักกีฬาบาดเจ็บ เราก็พยายามรักษาฟื้นฟู ทุกคนยอม ทุ่มเท นี่เป็นคุณค่าของการลงทุน


 การที่เราจะได้แชมป์หรือไม่ได้ ชัยชนะไม่ได้สำคัญมากกว่าความพยายามที่ได้ชัยชนะ เราคิดว่าทีมเราได้พยายามอย่างเต็มที่ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้ชัยชนะแต่เราก็รู้ว่ามันมีคุณค่าสำหรับเรา เพราะมันเป็นการลงทุนด้วยความตั้งใจ
 

ผมเข้าใจว่าบางช่วงเรา ผ่านเวลาที่ยากลำบาก นักกีฬาบาดเจ็บ เราแพ้ เราต้องการกำลังใจ เราต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ชนะก็ชนะด้วยกัน แพ้ก็แพ้ด้วยกันเพราะเราทำงานกันเป็นทีม
 

ชัยชนะต่างๆ หรือถ้วยรางวัลเราคงเก็บไว้ที่บ้าน แต่เราจะแบกความภาคภูมิใจ ความหวังไปครับ 

 

นักกีฬาได้เรียนรู้อะไรจากโค้ชเยอะ ในทางกลับกันโค้ชได้เรียนรู้อะไรจากนักกีฬาบ้าง

 

ได้ เยอะเลยครับ ผมได้ความรัก ที่ผมสัมผัสได้ว่าเค้ารักผม เค้าห่วงใยผม พวกเรามีการเล่นบัดดี้ ให้ของขวัญกัน ในวันเกิดต่างๆ  ก็มีเป่าเค้ก ชุดนี้เป็นเจเรชั่นที่ 4 แล้วย รุ่นที่รีไทร์ไปแล้วก็ยังโทรหา มากินข้าว ยังผูกพันกัน กีฬาประเภททีมมันเหนียวแน่นและยาวนาน


ชีวิตจริงผมไม่มีลูก มีพวกเขาเหมือนลูก ความสำเร็จของพวกเขา ก็คือความสุขของผม.

 





ที่มาของข้อมูล    http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/life-style/lifestyle/20110913/409038/โหดเพื่อชาติ---โค้ชอ๊อด-เกียรติพงษ์-รัชตเกรียงไกร.html
 







ทีมที่ลงแข่งขันในอาเซอร์ไบจาน ซูเปอร์ลีก 2012-2013 ประกอบด้วย
Azerbaijani Super League 2012-13


ทีมที่ลงแข่งขันในอาเซอร์ไบจาน ซูเปอร์ลีก 2012-2013 ประกอบด้วย

Azerbaijani Super League 2012-13

Volleyball Clubs:

- Rabita Baku
- Azerrail Baku
- Lokomotiv Baku
- Igtisadchi Baku
- Azeryol Baki Baku
- Lokomotiv Biledjeri Baku
- Telekom Baku


ขอบคุณข้อมูลจากคุณTony


นัก
กีฬาไทยทั้ง 7 คนประกอบด้วย นุศรา ต้อมคำ, ปลื้มจิตร์ ถินขาว, อำพร หญ้าผา,
มลิกา กันทอง, อรอุมา สิทธิรักษ์, วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์ และ วรรณา บัวแก้ว


สำหรับ
สโมสรอิกทิสาดชิ บากู ก่อตั้งขึ้นในปี 2007
ได้ข้าร่วมแข่งขันในอาเซอร์ไบจาน ซูเปอร์ลีก และในฤดูกาล 2009-10
สโมสรประสบความสำเร็จคว้าที่ 3 ในการแข่งขันชิงแชมป์อาเซอร์เรล บากู
และนอกจากนั้นผู้เล่นที่เซ็นสัญญาเล่นในฤดูกาล 20120-2013
จะเป็นนักตบสาวไทย 7 คนแล้วยังมีนักกีฬาอาเซอร์ไบจาน 1 คน คือ อินดิลี่
อัมบูยาว่า ที่จะเล่นในตำแหน่งลิเบอโร่  ซึ่งนั่นหมายถึงว่า
จะลงเล่นในตำแหน่งนี้สลับกับ วรรณา บัวแก้ว กับ แนนซี่ เจน มีคาล่า
นักตบสาวผู้มากประสบการณ์จากอเมริกา ในตำแหน่งบีหลัง
ซึ่งแน่นอนว่าตำแหน่งนี้จะต้องนำมาเล่นคู่กับ "เจ้าปู" มลิกา กันทอง
โดยมีผู้ฝึกสอนเป็นชาวตุรกี ราเซต
และนี้เป็นครั้งแรกที่มีการเซ็นสัญญานักกีฬาทั้งทีมไปแข่งแข่งขันลีกอาชีพ

 
      และหากนักตบสาวไทยโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมพาทีมติดอยู่ 1 ใน 37 ทีมจาก
116 สโมสรของยุโรป ก็จะได้สิทธ์เข้าร่วมแข่งขัน CEV ลีก
หรือรายการยูโรเปี้ยน คัพ
ซึ่งเป็นลีกใหญ่ของสหพันธ์วอลเลย์บอลยุโรปที่มีทั้งหมด 55 ประเทศ
ซึ่งทีมที่จะลงแข่งขันในอาเซอร์ไบจาน ซูเปอร์ลีก 2012-2013 ประกอบด้วย
แชมป์เก่า ราบิต้า บากู, โลโคโมวี่ บากู, วีเค บากู, อาเซอร์โยลาเซอวี่
บากู และโลโคโมวี่ บีเลติก


ขอบคุณข้อมูลจากสยามกีฬา
http://www.nootsara13.com/webboard/index.php?topic=605.0





7สาวไทยนำอิกทิสซัสชิรั้งฝูงรอบแรกตบลีกอาเซอร์ฯ
01/12/2012 23:36:23


7 นักตบสาวไทย นำทีมอิกทิสซัสชิ บากู เก็บชัยนัดสุดท้าย หลังไล่ทุบ บากิ อาเซอร์ยาฟ 3 เซตรวด เก็บ 3 แต้มส่งท้ายรอบแรก รั้งจ่าฝูง "อาเซอร์ไบจาน ซูเปอร์ลีก" มี 15 แต้ม จากการแข่งขัน 6 นัด โดยรอบสอง เตรียมลงสังเวียน วันที่ 21 ธ.ค. นี้ ประเดิมฉะ อาเซอร์ราล บากู


        การแข่งขันวอลเลย์บอล อาเซอร์ไบจาน ซูเปอร์ลีก 2012-2013 ที่ 7 นักตบสาวไทย ประกอบด้วย "เจ้าหน่อง" ปลื้มจิตร์ ถินขาว, วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์, อรอุมา สิทธิรักษ์, นุศรา ต้อมคำ, มลิกา กันทอง, อำพร หญ้าผา, และ วรรณา บัวแก้ว ลงแข่งในนามของทีมอิกทิสซัสชิ บากู และลงแข่งมาแล้ว 5 นัด ชนะ 4 แพ้ 1 โดยพ่ายให้กับ แชมป์เก่า ราบิต้า บากู
 
 
        และเมื่อคืนวันที่ 30 พ.ย. ที่ผ่านมา อิกทิสซัสชิ บากู ลงสนามแข่งในนัดสุดท้ายของรอบแรก พบกับ ทีมบากิ อาเซอร์ยาฟ และปรากฏว่า นัดนี้นักตบสาวไทยในคราบของอิกทิสซัสชิ บากู ยังโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมเอาชนะมาได้ 3 เซต ด้วยสกอร์ 25-15, 27-25, 25-12 เก็บ 3 คะแนนได้สำเร็จ
 
 
        โดยเมื่อจบการแข่งในรอบแรก อิกทิสซัสชิ บากู มี 15 คะแนน แข่ง 6 นัด ชนะ 5 แพ้ 1 ขึ้นนำเป็นจ่าฝูง โดยที่ 2 เป็นของ ราบิต้า บากู มี 12 คะแนน แข่ง 5 นัดชนะ 4 แพ้ 1
 
 
        และนัดสุดท้าย ราบิต้า บากู จะเจอกับเทเลคอม ในวันที่ 18 ธ.ค. เช่นเดียวกับทีมอาเซอร์ราล บากู ที่มี 12 คะแนน จากสถิติ แข่ง 5 นัด ชนะ 4 แพ้ 1 เช่นกัน หากนัดสุดท้ายทั้งสองทีมเอาชนะได้ก็จะมี 15 แต้มเท่ากับไทย โดยนัดสุดท้ายในรอบแรกจะแข่งในวันที่ 18 พ.ย. ราบิต้า เจอกับ เทเลคอม และ อาเซอร์ราล เจอกับ บากิ อาเซอร์ยอฟ
 
        ส่วนผลคู่อื่นๆ ดังนี้ ราบิก้า บากู ชนะ โลโคโมวี่ บาลาซารี่ 3-0 เซต 25-9, 25-15, 25-12, อาเซอร์ราล บากู ชนะ โลโคโมวี่ บากู 3-1 เซต 25-23, 23-25, 28-26, 25-20
 
        สำหรับการแข่งขันในรอบที่ 2 จะเริ่มขึ้นในวันที่ 21 ธ.ค. 55 และทีมอิกทิสซัสชิ บากู ลงสนามนัดแรกพบกับ อาเซอร์ราล บากู ในวันที่ 21 ธ.ค. 55 เวลา 19.00 น.

http://www.siamsport.co.th/sport_volleyball/121201_436.html



โค้ชอ๊อดรับคุมบากู/ไทยเบฟหนุน100ล้าน
วันพฤหัสบดีที่ 10 มกราคม 2556 เวลา 22:39 น



ส.วอลเลย์บอล ไทย ยิ้มร่า “ไทยเบฟ” เตรียมต่อสัญญายาว พร้อมเพิ่มเงินสนับสนุนเป็นปีละ 25 ล้านบาท รวม 4 ปี 100 ล้านบาท ตั้งเป้าพาตบยางสาวไทยเข้าชิงชัยโอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่บราซิล ให้ได้ ขณะที่ “โค้ชอ๊อด” เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร ใจอ่อน บินคุม 7 นักตบสาวในฐานะหัวหน้าผู้ฝึกสอน "อิกทิซาดชิ บากู" หลังโดนตามตื้ออยู่นาน รับค่าเหนื่อย 5 แสนบาทต่อเดือน



“บิ๊กติ๋ม” เรืออากาศโท ชาญฤทธิ์ วงษ์ประเสริฐ ผู้อำนวยการสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่นักตบลูกสาวไทยจำนวน 7 คน ได้แก่ ปลื้มจิตร์ ถินขาว, มลิกา กันทอง, วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์, นุศรา ต้อมคำ, อำพร หญ้าผา, อรอุมา สิทธิรักษ์ และ วรรณา บัวแก้ว เดินทางไปเล่นวอลเลย์บอลลีกอาชีพให้กับทีมอิกทิซาดชิ บากู ที่ประเทศอาเซอร์ไบจาน ตั้งแต่เมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งในตอนนั้นทางสโมสรก็ต้องการให้ “โค้ชอ๊อด” เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมสาวไทย ร่วมเดินทางไปด้วย แต่ “โค้ชอ๊อด” ได้ตอบปฏิเสธ เนื่องจากติดภารกิจค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตาม สโมสรอิกทิซาดชิฯ ได้ติดต่อมาที่ “โค้ชอ๊อด” ให้ไปรับตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนอีกครั้ง เนื่องจากต้องการผู้ฝึกสอนที่มีฝีมือไปช่วยพาทีมคว้าแชมป์ลีกของอาเซอร์ไบ จาน โดยหลังจบเลกแรกก็ทำผลงานได้ดี อยู่ในอันดับต้นๆ ของตารางคะแนน ซึ่งล่าสุด “โค้ชอ๊อด” ได้ตอบรับกับตำแหน่งดังกล่าวแล้ว ด้วยเหตุผลต้องการไปดูแลนักกีฬาอย่างใกล้ชิด และภารกิจต่าง ๆ ที่ต้องรับผิดชอบได้เบาบางลงแล้ว โดยจะได้รับค่าเหนื่อยประมาณ 5 แสนบาทต่อเดือน มีสัญญากันจนถึงเดือน เม.ย.นี้
   
ด้าน เรืออากาศโท ชาญฤทธิ์ กล่าวต่อว่า หลังจากที่ “โค้ชอ๊อด” และ 7 นักตบลูกยางสาวไทยเสร็จสิ้นการเล่นลีกอาชีพที่อาเซอร์ไบจาน ในเดือน เม.ย.แล้ว จะต้องมีการเตรียมทีมอย่างจริงจัง สำหรับลงแข่งขันรายการ "เวิลด์กรังปรีซ์ 2013" ที่จะเริ่มในเดือน ส.ค.นี้ โดยวางแผนไว้ว่าอาจจะส่งนักกีฬาชุดนี้ลงชิงชัยศึกมหาวิทยาลัยโลก ที่เมืองคาซาน ประเทศรัสเซีย ในเดือน ก.ค. เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมด้วย
   
“บิ๊ก ติ๋ม” ยังกล่าวด้วยว่า ตามที่ สมาคมวอลเลย์บอลฯ ได้รับการสนับสนุนจาก บ.ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) มาอย่างต่อเนื่อง โดยสัญญาฉบับใหม่จะเริ่มในปีนี้นั้น จากการหารือล่าสุด บ.ไทยเบฟฯ ได้เตรียมให้งบประมาณสนับสนุนมากขึ้น จากเดิมปีละ 16.5 ล้านบาท รวม 4 ปีเป็นเงิน 66 ล้านบาท เพิ่มเป็นปีละ 25 ล้านบาท ระยะเวลา 4 ปี พ.ศ. 2556-2559 เป็นเงิน 100 ล้านบาท เพื่อเป้าหมายนำทีมวอลเลย์บอลสาวไทยไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่กรุงริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล ให้ได้ ซึ่งการเซ็นสัญญาจะมีขึ้นในเร็ว ๆ นี้.

http://www.dailynews.co.th/sports/177476






โค้ชอ๊อดซุ่มเงียบบินคุมบากูฟัน5แสนต่อเดือน
11/01/2013 23:51:31



"โค้ช อ๊อด" เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร กุนซือวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ซุ่มเงียบตกลงเซ็นสัญญา บินไปคุมทีมอิกทิสซัสชิ บากู ต้นสังกัดของ 7 สาวไทยแล้ว ฟันค่าเหนื่อย 5 แสนบาทต่อเดือน โดยไม่บอกลูกทีมทราบ หวังเซอร์ไพรส์ ขณะที่ทางสโมสรก็ปิดข่าวเงียบเช่นกัน



        "โค้ชอ๊อด" เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร กุนซือวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ที่ตกลงเซ็นสัญญา ไปร่วมคุมทีมให้กับสโมสรอิกทิสซัสชิ บากู ลีกของอาเซอร์ไบจาน ต้นสังกัด 7 สาวไทย หลังจากโดนทาบทามมาพร้อมกับนักกีฬาสาวไทย แต่ก่อนหน้านี้โค้ชอ๊อดได้ให้การปฏิเสธ เนื่องจากติดภารกิจค่อนข้างมาก

 
        อย่างไรก็ตาม สโมสรอิกทิสซัสชิ บากู ไม่ละความพยายาม ได้ติดต่อมายังโค้ชอ๊อดอีกครั้งในช่วงท้ายการแข่งขันเลกแรก โดยอยากให้ "โค้ชอ๊อด" คุมทีมในตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอน และล่าสุด "โค้ชอ๊อด" ได้ตกลงเซ็นสัญญาและเดินทางไปคุมทีมสโมสรอิกทิสซัสชิ บากู เป็นที่เรียบร้อย

 
        ล่าสุด "บิ๊กติ๋ม" ร.ท.ชาญฤทธิ์ วงษ์ประเสริฐ ผู้อำนวยการสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย เผยว่า ทางสโมสรต้องการให้โค้ชอ๊อดร่วมเดินทางไปตั้งแต่แรกเริ่ม แต่ตอนนั้นได้ตอบปฏิเสธ เนื่องจากติดภารกิจหลายอย่าง

 
        กระทั่งสโมสรอิกทิสซัสชิ เองได้ติดต่อประสานงานกับโค้ชอ๊อดอยู่เรื่อยๆ เพื่อให้ไปรับตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอน เนื่องจากต้องการผู้ฝึกสอนที่มีฝีมือไปทำทีมให้ประสบความสำเร็จด้วยการคว้า แชมป์ลีกของอาเซอร์ไบจาน เพราะหลังจบเลกแรกนักกีฬาของไทย ทำผลงานได้ดี สามารถทำคะแนนอยู่อันดับต้นของตาราง

 
        "โค้ชอ๊อดได้ตอบรับการไปคุมทีมเป็นที่เรียบร้อย เพราะภารกิจที่รับผิดอบอยู่เบาบางลงกว่าเดิมมาก ที่สำคัญอ๊อดเองก็อยากไปดูแลนักกีฬาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากนักกีฬาชุดนี้ยังเป็นความหวังของสมาคมวอลเลย์บอลในการแข่งขัน รายการสำคัญต่างๆ ทั้งเวิล์ด กรังด์ปรีซ์ ที่จะเริ่มขึ้นอีกไม่กี่เดือน"

 
        "ที่สำคัญต้องเตรียมตัวอย่างจริงจังสำหรับโอลิมปิก 2016 ที่ประเทศบราซิล โดยอ๊อดได้รับค่าเหนื่อยประมาณห้าแสนบาทต่อเดือน เซ็นสัญญาจนถึงเดือนเมษายนนี้ ซึ่งก็คือจนจบฤดูกาล" ร.ท.ชาญฤทธิ์ กล่าวทิ้งท้าย

 
        ขณะที่แหล่งข่าวงใน เปิดเผยว่า ก่อนที่โค้ชอ๊อดจะเดินทางไปร่วมคุมทีมที่อาเซอร์ไบจาน ได้เดินทางไปทำธุระส่วนตัวที่ประเทศจีนก่อนหลายวัน จากนั้นจะเดินทางต่อไปยังบากู ประเทศอาเซอร์ไบจาน

 
        โดยที่นักตบสาวไทยที่บากู ไม่มีใครทราบเกี่ยวกับการเดินทางของ "โค้ชอ๊อด" ในครั้งนี้แม้แต่คนเดียว เนื่องจาก "โค้ชอ๊อด" ต้องการสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับลูกทีม ขณะที่ทางสโมสรอิกทิสซัสชิ บากู ก็ปิดข่าวเงียบ โดยไม่บอกล่าวแก่นักตบสาวไทยแต่อย่างใด

http://www.siamsport.co.th/sport_volleyball/130111_387.html



วอลเลย์บอลเพื่อชาติเบี้ยซ้อมนักกีฬาเทียบเท่าค่าแรงขั้นต่ำ


"สู้เพื่อชาติจริงๆ ตั้งแต่นายกสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทยจนถึงนักกีฬาทุกคน"

            เบี้ยเลี้ยงนักตบทีมชาติชุดใหญ่ยันชุดเล็ก รับค่าแรง 300 บาทต่ิอวัน เท่ากับค่าแรงขั้นต่ำของรัฐบาลด้านสมาคมยืนยันนี่คือเรื่องจริง แย้มข่าวดีมีผู้สนับสนุนให้ 40 ล้าน
           
   รายได้ในการฝึก ซ้อมของนักกีฬาวอลเลย์บอลทีมชาติไทย จากทางสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย ได้มีมารตฐานในการให้ค่าตอบแทนการฝึกซ้อมต่อเดือน จำนวนเงินเดือนล่ะ 9,000 บาท ตกเฉลี่ยต่อวัน 300 บาท ซึ่งเท่ากับรายได้ค่าแรงขึ้นต่ำที่ทางรัฐบาลได้ตั้งขึ้น ส่วนข้อมูลได้รับยืนยันได้จากจากร.ท.จักรสุวรรณ โตเจริญ เลขาธิการสมาคมวอลเลย์บอแห่งประเทศไทย ซึ่งทุกข้อมูลทางสมาคมไม่มีการปิดบังแต่อย่างใดและพร้อมที่จะให้ประชาชนได้ รับทราบและเข้าใจในทิศทางเดียวกัน

   จากกรณีเบี้ยเลี้ยงการฝึกซ้อม ของนักกีฬาวอลเลย์บอลทีมชาติไทย ได้รับเงินในการฝึกซ้อมต่อเดือน เดือนล่ะ 9,000 บาท โดยเป็นมารตฐานที่ทุกทีมในสมาคมจะได้รับ ไม่ว่าจะเป็น วอลเลย์บอลทีมชาติชาย-หญิง ,เยาวชนชาย-หญิง , ยุวชนชาย-หญิง ตลอดจนทีมวอลเลย์บอลชายหาดทุกชุด ในการรับเงินนักกีฬาจะได้รับต่อเมื่อมีการเข้าเก็บตัวฝึกซ้อมเพื่อเข้าร่วม แข่งขันในรายการต่างๆที่ทางสมาคมได้ส่งสมัครเพื่อเข้าร่วม


   

   ร.ท.จักรสุวรรณ โตเจริญ เลขาธิการสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย ( ซ้าย )

   ขณะ ที่ ร.ท.จักรสุวรรณ โตเจริญ เลขาธิการสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย ได้ออกมาชี้แจงให้กับทีมงาน SMM และ รายการวอลเลย์บอลคอนเนอร์ ได้ทราบว่า  ในเรื่องของเงินเดือนที่นักกีฬาของเราได้รับนั้น เป็นไปตามงบประมาณที่เราได้รับการสนับสนุนจากด้านต่างๆ และเป็นเรื่องจริงที่นักกีฬาได้รับต่อเดือน เดือนล่ะ 9,000 บาท นั้นเป็นมารตฐานที่สมาคมได้ตั้งขึ้น เพราะเรามีงบประมาณไม่มากมายตามที่หลายๆคนได้ทราบ

   ทางเลขาสมาคม ยังได้กล่าวต่ออีกว่า "อีกอย่างเรามีนักกีฬาที่เราดูแลหลายชุดและหลายประเภท ลองคิดง่ายๆตัวกลมๆ นักกีฬาทีมชาติไทย ชายหญิง 24 คน เยาวชน ชายหญิง 24 คน ยุวชน ชายหญิง 24 คน รวมเป็น 72 คน ตกคนล่ะ 9,000 บาท ต่อเดือน เดือนนึงเราจ่ายไป 648,000 บาท ยังไม่รวมของทีมงานสต๊าฟโค้ชและอื่นๆ ส่วนของการเดินทางนั้นการแข่งขันแต่ล่ะครั้งที่เดินทางไปต่างประเทศค่าตั๋ว เครื่องบินรวมค่าใช้จ่ายต่อคน คนล่ะ 120,000 - 150,000 บาท ไปแข่ง 1 รายการ เดินทาง 18 - 20 คน นักกีฬาและสต๊าฟโค้ช คิดคร่าวๆก็ 3 ล้านกว่าบาท ลองคำนวนกันดูทั้งหมดครับ ว่าทุกชุดตั้งแต่ชุดใหญ่ถึงชุดเล็กสุด ต่อปีเราเดินทางไปแข่งขันกี่ครั้ง


   

   เดินทางกันตลอดปีสำหรับนักกีฬาวอลเลย์บอล

   นัก กีฬาทุกคน สมาคมดูแลและให้ทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมกันหมด เพราะทุกคนได้รับใช้ชาติ การดูแลสวัสดิการในด้านต่างๆเราดูแลอย่างเต็มที่ และในส่วนของรายได้ในการแข่งขันของแต่ล่ะคน ในเรื่องของเงินรางวัลต่างๆ ทางสมาคมไม่เคยยุ่งเกี่ยวแต่อย่างใด แต่ขอเพียงแค่ 1 % เข้าไปสมทบทุนกองสวัสดิการที่ทางสมาคมจัดขึ้น และเงินในส่วนนี้จะเป็นส่วนที่จัดไว้เพื่อดูแลนักกีฬาในภายภาคหน้า

   จาก นั้นได้เพิ่มเติมอีกว่า ตอนนี้สมาคมได้รับการช่วยเหลือในบางส่วน สิ่งที่เราต้องการยังมีอีกเยอะเราอยากให้มีการเก็บตัวในการฝึกซ้อมของนัก กีฬาให้นานขึ้น เพราะตอนนี้ก็เก็บเพียงแค่ 1 เดือน - 2 เดือน ถ้ามีงบประมาณที่เข้ามา จะเพิ่มในส่วนของการฝึกซ้อมให้มากยิ่งขึ้น และที่สำคัญที่สุดคืองบประมาณเก็บตัวเพื่อปั้นนักกีฬาโดยเฉพาะ เพราะตอนนี้เรายังไม่มีนักกีฬาที่จะมาทดแทนตัวหลักได้อย่างเต็มเม็ดเต็ม หน่วย เพราะยังไม่มีงบในส่วนที่จะเก็บตัวช้างเผือกโดยเฉพาะ

   ท้าย สุดได้ทิ้งท้ายกับทีมงาน SMM ว่า  เรื่องของกรณีรายรับรายจ่าย เงินต่างๆ ทุกบาททุกสตางค์ พวกเราทุกคนในสมาคมสามารถชี้แจงได้ เราบริหารด้วยเงินอันน้อยนิดถ้าเทียบกับผลงานของเรา ถือว่าเกินความคาดหมายมากๆ ในตอนนี้สมาคมของเราได้เป็นที่ยอมรับจากสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ ให้สมาคมเราเป็นสมาคมที่พัฒนาได้ดีที่สุด ตอนนี้ต่างประเทศเค้ามองเราด้วยภาพลักษณ์ที่ดี เราอยู่ในระดับเกรด 4 ดาว จากเต็ม 5 ดาว ซึ่ง 5 ดาวมีเพียงแค่ 20 ประเทศ จาก 230 ประเทศทั่วโลก และเราได้ 4 ดาว ซึ่งก็เป็นความภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก และเร็วๆนี้จะมีข่าวดีเมื่อ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจะเข้ามาสนับสนุนเราปีล่ะ 10 ล้านบาทเป็นจำนวน 4 ปี  ร.ท.จักรสุวรรณ โตเจริญ เลขาธิการสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย กล่าว

   อนึ่ง นักกีฬาวอลเลย์บอลทีมชาติไทยจะได้เงินมากกว่า 9,000 บาท ก็ต่อเมื่อ เก็บตัวฝึกซ้อมรายการที่ทางกกท.ดูแล ซึ่งจะได้เงินเดือนในการฝึกซ้อมเดือนล่ะ 18,000 บาท โดยเบื้องต้นจะมีรายการแข่งขันซีเกมส์และกีฬาเอเชี่ยนเกมส์เท่านั้น แต่ทุกฝ่ายที่ทำให้จนสามารถเดินมาได้ถึงทุกวันนี้ ต้องยอมรับที่สู้ด้วยใจมาโดยตลอด ตั้งแต่นายกสมาคมจนถึงนักกีฬาทุกคน


ขอบคุณข่าวและรูปจาก smmonline
http://www.smmonline.net/news/61675-



ปู มลิกา กันทอง ตบสาวผู้ปิดทองหลังพระ...กับชีวิตที่ไม่ปรุงแต่ง


แวดวงกีฬาลูกยางไทยยุคนี้ก้าวมาไกลจนเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก

        ผู้เล่นหลายๆ ต่อหลายคนถูกยกย่องและกล่าวขวัญถึงความโดดเด่นในการเล่นตามตำแหน่ง

        แต่จะมีผู้เล่นคนไหนที่เล่นได้สารพัดประโยชน์ ไม่ว่าจะตีหัวเสาซ้ายขวา ตีสั้น บอลโค้งหน้า โค้งหลัง บอลเสิร์ฟ ที่สำคัญเทคนิคการตีที่คมเชือดเฉือน ทั้งตบบิด ตบหัก เรียกว่าครบเครื่องที่สุดแล้วสำหรับ ''ปู'' มลิกา กันทอง นักตบสาวชาวอ่างทอง

        จึงไม่แปลกหากแฟนกีฬาวอลเลย์บอลหลายคนจะยกย่องว่า ''ปู'' มลิกา กันทอง เป็นผู้เล่นที่ฉลาดที่สุดในทีม ไม่ใช่แค่ฉลาดที่จะเล่น หากแต่เธอสามารถทำตามเทคนิคที่โค้ชกำหนดให้ได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้ ''ปู-มลิกา'' กลายเป็นฟันเฟืองขับเคลื่อนทีมลูกยางสาวไทย

        แมตช์สำคัญหลายต่อหลายแมตช์ ''โค้ชอ๊อด'' เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร กุนซือใหญ่ยอมรับเต็มปากว่า ''มลิกา'' คือ ตัวเปลี่ยนเกมคนสำคัญ

        แต่อาจจะเป็นเพราะหลายคนยึดเอาความหนักผู้เล่นคนอื่นๆ จนลืมมองผู้เล่นสารพัดตำแหน่งอย่าง ''ปู-มลิกา'' ประกอบกับบุคลิกส่วนตัวที่เป็นคนเงียบๆ เรียบๆ ง่ายๆ เลยทำให้เธอไม่ค่อยโดดเด่นมากนักทั้งที่เป็นคนเติมเต็มให้กับทีมอย่างแท้ จริง และนั่นทำให้เป็นที่มาของคำว่า ''นักตบสาวผู้ปิดทองหลังพระ'' 

        และเพื่อให้แฟนกีฬาชาวไทยได้รู้จักเธอมากขึ้น วันนี้ ''สยามกีฬา รายวัน'' มีโอกาสบุกไปหาเธอถึงห้อง เพื่อจับเข่าคุยถึงชีวิตและเส้นทางของ... ''ปู'' มลิกา กันทอง

เกือบได้เป็นนักกีฬาว่ายน้ำ

        การก้าวเข้าสู่สนามวอลเลย์บอลของ ''ปู-มลิกา'' เริ่มต้นขึ้นเมื่อตอนอายุ 12 ปี โดย ''ปู'' เล่าว่า ตอนแรกไม่ชอบเล่นกีฬาเลย เล่นอะไรไม่เป็น แต่พอดีว่าตอนเรียนประถม หนูตัวสูงที่สุดในโรงเรียน คือจบป.6 สูง 164 เซนติเมตร อาจารย์เลยจับมาเล่นวอลเลย์บอล ตอนแรกจะไม่เล่นเขาก็บังคับ แต่อาจารย์มาคุยกับแม่และเขาเป็นญาติกับแม่ด้วย ก็เลยต้องเล่น พออยู่ ป.6 มีรุ่นพี่เรียนอยู่ที่โรงเรียนกีฬาสุพรรณฯ เขาชวนไปเรียนด้วย ก็ไปคัดเลือกทุกอย่างตามขั้นตอน แต่ไปในช่วงกลางเทอมเลยไม่ได้เรียน แต่มีโค้ชว่ายน้ำเข้ากลางเทอมได้เลย แต่หนูบอกว่าหนูใส่ชุดไม่ได้หนูอาย มันโป๊

หิ้วกระติก 4 ปี กว่าจะเก่ง

        ม.1 มาสอบเข้าเรียนที่โรงเรียนกีฬาสุพรรณฯ ตอนนั้นเล่นยังไม่เป็นเลย ยังต้องหิ้วกระติกอยู่เลย จนมา ม.2 พอเล่นได้บ้าง จากนั้น ม.3 รุ่นที่เรียนปี 30 มีหนูแค่คนเดียว นอกนั้นนักกีฬาเป็นทีมโรงเรียนอุลิตไพบูลย์ ของจังหวัดชัยนาท ยกทีมเลย อาจารย์คนที่เป็นโค้ชเลยมาคุยกับผู้ช่วยกีฬาโรงเรียนสุพรรณฯ เพื่อขอให้ไปอยู่กับทีมอุลิต ซึ่งพอไปอยู่กับเขาต้องไปเริ่มใหม่หมดทุกอย่าง เพราะตอนอยู่กีฬาสุพรรณฯ เด็กค่อนข้างเยอะอาจารย์ก็ซ้อมได้ไม่ทั่วถึง ไม่ได้ติวเข้ม อาจจะพอได้บ้างแต่ไม่เป๊ะ พอไปอยู่นู้นเริ่มใหม่ และก็พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ซ้อมหนักมาก พอจบ ม.3 มีหลายโรงเรียนติดต่อมา แต่หนูบอกไม่ไป หนูมาจากสุพรรณฯ ก็จะกลับไปเรียนที่สุพรรณฯ และก็มาติดเป็นตัวแทนยุวชนทีมชาติไทยตอน ม.4 ที่กลับมาอยู่กีฬาสุพรรณฯ ได้ไปแข่งชิงแชมป์อาเซียนกับชิงแชมป์เอเชีย แต่ตอนนั้นก็ยังหิ้วกระติกน้ำอยู่เหมือนกัน
     
ติดธงลุย อช.เกมส์ ที่กาตาร์

        พอเรียนจบ ม.6 ก็มาเข้าเรียนมหาวิทยาลัยที่ ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ ช่วงปี 1 ประมาณกลางเทอม ทางทีมชาติก็เรียกเข้าไปเก็บตัวเตรียมไปแข่งขันเอเชียนเกมส์ ที่กาตาร์ ซึ่งหนูคัดเลือกติดและได้เล่นทีมชาติมาตั้งแต่ตอนนั้น พอติดทีมชาติมันต้องซ้อมหนักมากเลยต้องเปลี่ยนมาเรียนที่อาร์แบค เพราะนั่งรถไป-กลับมหาลัยกับที่ซ้อมไม่ไหวระยะทางมันไกล ซ้อมเช้าเสร็จต้องนั่งรถกลับไปเรียน เรียนเสร็จกลับมาซ้อมอีก เหนื่อยและท้อ บางทีซ้อมหนักๆ ทนไม่ไหวอยากจะเลิก ก็โทรศัพท์ไปบอกแม่ว่าหนูไม่เอา หนูจะเลิก แม่ก็จะบอกว่าเลิกได้ แต่รอให้แข่งแมตช์นี้ก่อนแล้วค่อยเลิก แต่พอจบแมตช์มันหายเหนื่อยแล้วก็ไม่รู้จะเลิกทำไม (หัวเราะ)
     
วันนี้สำเร็จเกินความฝัน

        มาถึงจุดนี้ หนูถือว่าประสบความสำเร็จมากๆ ตอนแรกไม่คิดไม่ฝันมาก่อนว่าจะติดทีมชาติและจะมาได้ถึงขนาดนี้ จากที่เล่นไม่เป็นเลย ต้องหิ้วกระติกน้ำให้เพื่อนร่วมทีม และพอมาไกลได้ขนาดนี้มันดีมาก แต่พอมาถึงตรงนี้มันก็ยังอยากไปให้ถึงที่สุด อยากไปโอลิมปิกสักครั้ง มันคือความฝันสูงสุดของนักกีฬาทุกคน ก็ได้แต่หวังว่าอีกสี่ปีข้างหน้าพวกเราจะได้ไปแข่งขันโอลิมปิก


''ปู'' เป็นคนง่ายๆ กินง่ายๆ

        คนที่ไม่รู้จักจะหาว่าหนูหยิ่ง แต่หนูไม่ได้หยิ่ง แต่หนูไม่กล้าเข้าไปคุยกับใครก่อน หนูเป็นคนเฉยๆ ยิ้มยาก มีคนเคยบอกว่าหนูไม่ค่อยยิ้ม จะให้หนูเดินยิ้มอารมณ์ดีตลอดมันก็ไม่ใช่ ส่วนเรื่องอาหารขอแบบง่ายๆ เร็วๆ อะไรก็ได้ ไม่เกี่ยงกินได้หมด แต่ส่วนมากที่กินประจำก็ กะเพราหมูสับ, ผัดซีอิ๊ว, ก๋วยเตี๋ยว บ้าง การแต่งตัวสบายๆ เสื้อยืดกางเกงยีน ง่ายที่สุดเร็วที่สุด เพราะไม่ได้ไปไหนอย่างมากก็แค่เดินห้าง กระโปรงใส่แค่ตอนไปมหาลัย ชีวิตแทบจะไม่มีกระโปรง เวลานั่งมันลำบาก ถ้าใส่กระโปรงมันต้องนั่งหนีบ ต้องระวัง หนูทำไม่ได้ แต่ถ้าเป็นชุดบังคับให้ใส่ก็ใส่

        ส่วนเรื่องรักสวยรักงามเหรอ เข้าร้านทำผมบ้างบางโอกาสที่ไม่เหนื่อย ไปอบไอน้ำบ้าง ผิวไม่มีอะไรแค่ทาครีมธรรมดา ถ้ามีเวลาว่างจากการแข่งขัน ถ้าว่างหลายๆ วันก็กลับบ้าน ถ้าหยุดแค่เสาร์-อาทิตย์ ก็ไปเที่ยวกับพี่กิ๊ฟ, พี่หน่อง
     
อนาคตอยากกลับไปอยู่กับแม่

        สำหรับอนาคตเอาตรงๆ เลยไม่อยากใช้ชีวิตที่กรุงเทพฯ รู้สึกว่ามันวุ่นวาย แค่ก้าวออกจากห้องก็เสียตังค์แล้ว แต่ตอนนี้อยากเรียนให้จบ เพื่อจะได้หางานทำ หนูอยากกลับไปอยู่บ้าน อยากไปอยู่ใกล้ๆ แม่ รู้สึกว่ามันสบายใจมากกว่า อนาคตหากเป็นไปได้ตามที่คิดก็คือหากิจการอะไรเล็กๆ ทำที่บ้าน อยากปลูกต้นไม้ ทำต้นไม้ขาย หนูชอบต้นไม้ ชอบดอกไม้ แต่ก็ยังไม่รู้จะได้กลับไปตอนไหน
     
''ความรัก'' จะอยู่ได้ถ้าเข้าใจกัน

        มุมมองความรัก หนูว่าต้องสามารถคุยกันได้ทุกเรื่อง ไม่ต้องปิดบังเรื่องนู้นเรื่องนี้ เพราะถ้าคุยได้ทุกเรื่องแล้วมันจะอยู่กันได้ง่ายกว่า ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นผู้หญิงหรือเป็นผู้ชาย แต่หนูว่าผู้ชายบางทีเขาจะปิดบังเรา และความเข้าใจมันต่างกันในบางสิ่งบางอย่าง ไม่เหมือนผู้หญิงด้วยกันที่เข้าใจได้มากกว่า แต่สุดท้ายมันอยู่ที่การปรับตัวเข้าหากันมากกว่า สำหรับหนูถ้าจะแต่งงาน วันนึงเจอคนที่ใช่ก็คงแต่ง แต่อยู่เฉยๆ ดีอยู่แล้วไม่ปวดหัว 

        หนูไม่รู้ว่าแม่เสียใจกับหนูหรือเปล่า เพราะหนูไม่ค่อยได้อยู่กับแม่ แต่ถ้าตอนเด็กเขาบอกห้ามหนูก็จะไม่ทำ ขี้กลัวมากตั้งแต่เด็ก ไม่เคยห่างแม่ ไปไหนไปกับแม่ กินอะไรแม่ต้องซื้อให้ ทุกวันนี้เวลากลับบ้านอยากกินก๋วยเตี๋ยวทีก็ต้องชวนแม่ไปด้วย แต่ถ้าแม่ไม่ไปหนูก็ไม่ไป

        หนูว่าเขาคงภูมิใจ และมีความสุขที่หนูมาอยู่ตรงนี้ได้ 

        และนี่คือคำกล่าวทิ้งท้ายของ ''ปู'' มลิกา กันทอง นักตบสาวผู้ปิดทองหลังพระ กับการดำเนินชีวิตในแบบที่เรียบง่ายและไม่ปรุงแต่ง


http://www.siamsport.co.th/Column/120804_162.html



อิกติซัดชี่ บากู เซ็น 7 สาวไทย ยกทีมเล่นลีกอาเซอร์ไบจาน


สู้ เต็มที่ เล่นตามศักยภาพ เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่ารูปร่างเป็นเพียงแค่องค์ประกอบของเกม เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ใจ ที่รวมพลังเป็นหนึ่งจนพานักตบสาวไทยก้าวสู่ความสำเร็จ ผงาดรั้งที่ 4 เวิลด์กรังด์ปรีซ์ 2012

        นั้นพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า นักกีฬาที่มีรูปร่างเล็กไซส์มินิ แต่ความสามารถใช่จะมินิตามไปด้วย เพราะไม่ว่าจะต้องเจอกับคู่แข่งที่น่าเกรงขามหรือสูงใหญ่แค่ไหน นักตบสาวไทยก็ผ่านมาได้ แพ้บ้าง ชนะบ้างนั้นคือธรรมชาติของเกมกีฬา

        ผลงานที่ผ่านสายตาชาวโลก ส่งผลให้ นักตบสาวไทย กลายเป็น ''สินค้า'' ชั้นดีที่หลายสโมสรในต่างประเทศหมายตาอยากจะได้ไปร่วมทีมเล่นลีกอาชีพ ซึ่งก่อนหน้านี้ ทั้ง ''เจ้าหน่อง'' ปลื้มจิตร์ ถินขาว, วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์ นั้นเล่นอยู่ที่จีน

        ในขณะที่ ''ซาร่า'' นุศรา ต้อมคำ และ ''เจ้าแป้น'' ปิยะนุช แป้นน้อย นั้นเล่นอยู่ที่อาเซอร์ไบจาน

        แต่ละคนต่างก็เป็นที่ต้องการต้องใจของสโมสรแตกต่างกันไป ก่อนที่จะมีข่าวแพร่สะพัดออกมาว่า สโมสรจาก อาเซอร์ไบจาน ''อิกติซัดชี่ บากู วีซี'' สนใจจะเซ็นสัญญาไทยยกทีมไปเล่นให้กับ อิกติซัดชี่ บากู ในการแข่งขัน อาเซอร์ไบจาน ซูเปอร์ลีก 2012-2013 โดยสนนราคาค่าตัวตามอัตราส่วนความสามารถของนักกีฬา และเป็น ''เจ้าอร'' อรอุมา สิทธิรักษ์ ที่ได้รับค่าตัวสูงสุดตลอด 6 เดือนที่ไปเล่นรวมเป็นเงินเกือบ 5 ล้านบาท รองลงมาก็เป็น ''ซาร่า'' นุศรา ต้อมคำ และตามลำดับและศักยภาพของนักตบสาวแต่ละคน!!!

        นอกจากนั้นยังได้คนทำสถิติและนักกายภาพให้ไปกับทีมด้วย ซึ่งข้อตกลงนี้เจรจาผ่านเอเยนซี่ หาใช่สโมสรโดยตรง  แต่เห็นยอดเงินที่นักตบแต่ละคนจะได้รับแล้วถือเป็นโอกาสทำเงินให้กับตัวเอง งานนี้สมาคมฯ จึงเปิดทางให้ทั้ง 7 สาวประกอบด้วย อรอุมา สิทธิรักษ์, นุศรา ต้อมคำ, มลิกา กันทอง, อำพร หญ้าผา,วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์,ปลื้มจิตร์ ถินขาว  และ วรรณา บัวแก้ว นั้นตัดสินใจกันเองว่าจะเล่นให้กับสโมสรไหน เพราะนอกจาก อิกติซัดชี่ บากู ก็ยังมีสโมสรจากจีน และญี่ปุ่น รวมถึง อิตาลี ติดต่อกันเข้ามาเพื่อจะนำนักตบของไทยไปเล่นให้กับสโมสรของตัวเอง แต่ค่าเหนื่อยที่ได้รับนั้นหาใช่ทรัพย์ก้อนใหญ่เหมือนที่ อิกติซัดชี่ บากู ยื่นมาให้

        สุดท้ายทั้ง 7 ตกลงใจที่จะตอบรับไปยกทีมไปเล่นลีกอาชีพให้กับ ''อิกติซัดชี่ บากู'' ซึ่งกลายเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของวงการลูกยางอาชีพโลก เพราะยังไม่มีใครที่อาจหาญจะซื้อทีมทั้งทีมไปเล่นให้กับสโมสรของตัวเอง แต่ อิกติซัดชี่ บากู นั้นทำเพราะได้เห็นศักยภาพของนักตบสาวไทยในเวทีโลก และมั่นใจว่าหากยกทีมไปเล่น ย่อมดีกว่าเอาไปเพียงแค่บางตำแหน่ง

        เมื่อนักตบสาวไทยตกลงใจที่จะเซ็นสัญญาไปเล่นลีกอาเซอร์ไบจาน นามของ ''อิกติซัดชี่ บากู'' ชื่อของทั้ง 7 ก็ถูกนำไปขึ้นในทะเบียนสโมสรตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา และนั้นหมายถึง ทั้ง 7 สาวจะไม่สามารถเปลี่ยนใจหรือเปลี่ยนแปลงอะไรได้อีกแล้วจนกว่าจะครบสัญญา 6 เดือน

        แต่..การเจรจานั้นเป็นการเจรจาระหว่างนักกีฬากับเอเยนซี่ ซึ่งเป็นสมาคมฯ เองก็ไม่เคยส่งนักกีฬาไปเล่นลีกอาชีพโดยผ่านเอเยนซี่มาก่อน เพราะตลอดเวลาที่นักตบสาวไทยถูกส่งไปเล่นลีกอาชีพยังต่างแดนนั้น สมาคมจะเป็นผู้เลือกสโมสร และดูข้อตกลงว่ารับได้หรือไม่จากนั้นก็จะเลือกให้นักกีฬาว่าจะให้ไปอยู่กับ สโมสรอะไรเพื่อป้องกันนักกีฬาถูกโกงค่าตัวและถูกลอยแพ เมื่อเดินทางไปยังประเทศนั้นๆแล้ว

        ด้วยเหตุนี้เอง เมื่อเอเยนซี่เจรจากันตกลงตามข้อเสนอทุกอย่าง ทางสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทยจึงส่งหนังสือแจ้งไปยังสโมสร อิกติซัดชี่ บากู วีซี ให้มาเซ็นสัญญากับนักกีฬาทั้งและสมาคมวอลเลย์บอลที่เมืองไทยในวันที่ 21 ก.ย.ณ โรงแรมอเล็กซานเดอร์ เพื่อเป็นการยืนยันว่า 7 นักตบสาวทีมชาติไทยจะไม่ถูกลอยแพและไม่โดนโกงค่าเหนื่อยตามที่ตกลงกันไว้

        การเซ็นสัญญาผ่านไปอย่างราบรื่น ท่ามกลางความดีใจของทุกๆ ฝ่ายและนับจากนี้ไปอีก 6 เดือนนักตบทีมชาติไทย จะเดินทางไปเล่นในนามของสโมสร อิกติซัดชี่ บากู ซึ่งจะว่าไปแล้วก็เหมือนดาบสองคม แน่นอนว่า คมแรกนักกีฬาย่อมได้ประสบการณ์ที่จะได้ประลองกับนักตบฝีมือพระกาฬที่แห่ ทะลักไปเล่นลีกอาชีพที่อาเซอร์ไบจาน และได้ยืดระยะเวลาซ้อมกันไปอีก 6 เดือน

        แต่..อีกคมคือ ที่อาเซอร์ไบจาน ก็มีนักตบฝีมืออยู่ไม่น้อย แต่จู่ๆ อิกติซัดชี่ บากู เล่นยกทัพ''ทีมชาติไทย'' ไปทั้งทีม ส่วนอีก 2 คนก็เป็นนักตบสาวจากอเมริกา คือ  แนนซี่  เจน มีคาล่า นักตบสาวผู้มากประสบการณ์จากอเมริกา  ในตำแหน่งบีหลัง และ  คือ อินดิลี่ อัมบูยาว่า ที่จะเล่นในตำแหน่ง ลิเบอโร่  จากตุรกี ซึ่งแน่นอนว่าการลงสนามแข่งขัน 7 คนแรกนั้นย่อมเป็นสาวไทย

        ส่วน แนนซี่ นั้นทางสโมสรน่าจะดึงเข้ามาเพื่อเล่นในตำแหน่งบีหลังคู่กับ ''เจ้าปู'' มลิกา กันทอง ในขณะที่ ลิเบอโร่ คงจะใช้สองคนเช่นเดียวกับสไตล์การเล่นของไทย เพราะวรรณา รับตบได้ยอดเยี่ยม และเธอก็โชว์ลีลารับลูกตบจากจีนให้เป็นที่ประจักษ์มาแล้วใน อช.คัพ ที่ผ่านมา ฉะนั้นอินดิลี่ ต้องเป็นลิเบอโร่ที่รับเสิร์ฟดี

        นักกีฬาทั้ง 9 คนของ อิกติซัดชี่ บากู วีซี ไร้นักตบ''เจ้าถิ่น'' และอาจจะทำให้สร้างความไม่พอใจกับนักกีฬาอาเซอร์ไบจานได้ แม้จะเป็นการตัดสินใจของ''เจ้าของเงิน'' แต่อย่างน้อยก็ควรจะมีนักกีฬา อาเซอร์ฯ ที่ได้เล่นในทีมบ้าง ไม่เช่นนั้นแล้วอาจจะเหตุเดียวกับเวียดนามที่กำลังจะออกระเบียบห้ามนักกีฬา ต่างชาติมาเล่นลีกเวียดนาม เพราะทำให้นักกีฬาของเวียดนามไม่มีการพัฒนา และหากเวียดนามทำอย่างนั้นจริงๆ นักตบไทยก็จะขาดที่ค้าโชว์ลีลาตบเพราะในอาเซียนเวียดนามคือสังเวียนที่นักตบ ไทยไปเล่นลีกอาชีพมากที่สุด!!!

        แต่..เมื่อตกลงใจเซ็นสัญญากันไปแล้ว ทั้ง 7 สาวไม่ต้องหวั่นกับเหตุการณ์ของวันพรุ่งนี้คิดและทำเพียงแค่วันนี้เพื่อให้ ดีที่สุด พาสโมสร อิกติซัดชี่ บากู ไปให้ถึงเป้าหมายเหมือนกับที่ ทำให้ทีมชาติไทยได้ถึงเป้าหมาย เพราะไม่ว่านักตบสาวไทยจะอยู่ที่ไหน หรือเล่นในนามของใคร คนไทยก็ยังเอาใจช่วยเสมอ และในลีก อาเซอร์ไบจานซูเปอร์ลีก การันตีได้เลยว่า อิกติซัดชี่ บากู วีซี จะมีกองเชียร์ที่เป็นคนไทยหลายล้านคนที่จะคอยส่งกำลังใจไปลุ้นไปเชียร์เพื่อ ทั้ง 7 สาวประสบความสำเร็จกับการเล่นลีกอาชีพครั้งนี้!!!






http://www.siamsport.co.th/Column/120921_259.html



บรรลุข้อตกลงอิกติซาดควัก20ล้านเซ็นคว้า7ตบสาวไทย

           

            อิกติซาดชิ บากู ทีมจากลีก อาเซอร์ไบจาน บรรลุข้อตกลงร่วมแถลงข่าวเซ็นนักตบสาวไทยทั้ง 7 คนเป็นที่เรียบร้อย ขณะที่รายได้รวมของทั้ง 7 คน เกือบ 20 ล้านบาท
           
   บรรลุ ข้อตกลงเป็นที่เรียบร้อยสำหรับการเซ็นสัญญาระหว่าง ทีมอิกติซาดชิ บากู กับ 7 นักกีฬาหญิงวอลเลย์บอลทีมชาติไทย และได้มีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในวันที่ 21 กันยายน 2555 เวลา 16.00 น. ณ ห้องบุศรา โรงแรมอเล็กซานเดอร์ กรุงเทพมหานคร โดยมี มิสเตอร์ตูน อาฟซาร์ และ มิสเตอร์ชาฮิน เบย์รามูว ตัวแทนจากทีมอิกติซาดชิ บากู มาร่วมในงาน และ นายสมพร ใช้บางยาง นายกสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทยร่วมเป็นประธานในงานแถลงข่าวครั้งนี้ ขณะที่รายได้รวมของนักกีฬาทั้ง 7 คน รวมแล้ว 19.3 ล้านบาท

   

   ด้าน นายสมพร ใช้บางยาง นายกสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทยและประธานของงานนี้ ได้กล่าวสั้นๆ ในการแถลงข่าวว่า  รู้สึกยินดีกับนักกีฬาทั้ง 7 คน ที่ได้เซ็นสัญญาในครั้งนี้ เชื่อว่าจะเป็นผลดีของวงการวอลเลย์บอลไทย และผลดีต่อนักกีฬาเองในเรื่องของรายได้ และอยากให้ทุกๆ คนนำวัฒนธรรมและความเป็นไทยไปเผยแพร่ให้กับต่างชาติได้รู้จัก โดยเฉพาะรอยยิ้มของเรา ขอให้ทุกๆ คนประสบผลความสำเร็จในครั้งนี้

   ขณะ ที่ มิสเตอร์ชาฮิน เบย์รามูว ตัวแทนจากทีมอิกติซาดชิ บากู ได้กล่าวต่อว่า ทีมอิกติซาดชิ บากู ของเรานั้นเป็นทีมที่ตั้งได้เพียงแค่ 5 ปี และสโมสรของเราเป็นทีมมหาวิทยาลัยเท่านั้น แต่จะดีมากที่ได้นักกีฬาทั้ง 7 คนไปร่วมทีมในครั้งนี้ และผมยังรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เห็น วรรณา บัวแก้ว ลิเบอโร่ของทีมชาติไทยอีกครั้ง หลังจากที่ วรรณา เคยไปเล่นที่อาเซอร์ไบจานและได้รับรางวัลลิเบอโร่ยอดเยี่ยม ส่วนการได้ตัวผู้เล่นทั้ง 7 คนไปนั้นเชื่อว่าทีมจะประสบความสำเร็จในลีกอย่างแน่นอน

   

   จาก นั้นเป็นการเซ็นสัญญาของนักกีฬาทั้ง 7 คน ประกอบไปด้วย วิลาวัณย์ อภิญญาพงษ์, ปลื้มจิตร์ ถินขาว, อรอุมา สิทธิรักษ์, นุศรา ต้อมคำ, อัมพร หญ้าผา, มลิกา กันทอง และ วรรณา บัวแก้ว การเซ็นครั้งนี้นักกีฬาทั้ง 7 คนเซ็นไว้ระยะเวลาการเล่น 6 เดือน โดยแต่ละคนจะได้รับค่าเหนื่อยที่แตกต่างกัน

   

   ส่วนรายได้ของนักกีฬาแต่ละคนมีดังต่อไปนี้
   - อรอุมา สิทธิรักษ์ รับค่าเหนื่อยรวม 4.5 ล้านบาท
   - นุศรา ต้อมคำ รับค่าเหนื่อยรวม 3.7 ล้านบาท
   - ปลื้มจิตร์ ถินขาว รับค่าเหนื่อยรวม 2.4 ล้านบาท
   - วิลาวัณย์ อภิญญาพงษ์ รับค่าเหนื่อยรวม 2.4 ล้านบาท
   - มลิกา กันทอง รับค่าเหนื่อยรวม 2.4 ล้านบาท
   - อัมพร หญ้าผา รับค่าเหนื่อยรวม 2.1 ล้านบาท
   - วรรณา บัวแก้ว รับค่าเหนื่อยรวม 1.8 ล้านบาท
   *** รวมทั้ง 7 คน 19.3 ล้านบาท

   

   อนึ่ง 7 นักวอลเลย์บอลสาวไทย จะเดินทางไปร่วมฝึกซ้อมในช่วงต้นเดือนตุลาคม 2555 นี้ ซึ่งทาง ทีมอิกติซาดชิ บากู อยากให้นักกีฬาไปให้เร็วที่สุดเพราะจะได้ให้นักกีฬาร่วมฝึกซ้อมกับทีม และ เปิดตัวให้กับแฟนๆ ของทีมได้เห็นนักกีฬาทั้ง 7 คนเร็วที่สุด เพราะแฟนวอลเลย์บอลที่อาเซอร์ไบจานต่างตื่นเต้นไม่น้อยกับการที่จะได้เห็น นักกีฬาทั้ง 7 คนในยูนิฟอร์มของทีม

http://www.smmonline.net/news/64463-



ขอแสดงความยินดีกับคนไทยเราคะ เก่งจัง.....


เลือกหน้า
[1]
จำนวนหัวข้อทั้งหมด 11

กลับขึ้นข้างบน / กลับหน้าแรก

ค้นกระดานข่าว:


ถูกเปิด: ถูกคลิ๊กแล้ว: 117966367 ตอนนี้มีผู้เข้าชม : 1 ล่าสุด :Robertbaito , Jerekioxgew , Landexpzgew , พีเพิลนิวส์ , นุกูล , จาทีเอ , อั้น , เอก , นนท์ , แสบ chumphon ,