"อุดรธานี" ศูนย์กลางเศรษฐกิจของภูมิภาคอินโดจีน ลาว เวียดนาม กัมพูชา จึงไม่แปลกที่เมืองอุดรจะเติบโตแบบก้าวกระโดด จากทุนที่ไหลบ่ามาสร้างความศิวิไลซ์ในพื้นที่ไม่ต่างจากกรุงเทพฯ ในฐานะคนรุ่นใหม่ พวกเขามีมุมมองในความเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นกับบ้านเกิดของพวกเขาอย่างไร?!!
"ป๊อบ" วัย 17 ปี นักเรียนมัธยมศึกษา โรงเรียนชื่อดังของเมืองอุดรธานี สะท้อนว่า ความเจริญทำให้มีชีวิตที่สะดวกสบายมากขึ้น มีห้างสรรพพสินค้ามากมายให้เลือกซื้อ ซึ่งมีร้านแบรนด์ดังๆ มาปักหลักจำหน่ายที่นี่มากมาย อยากกิน อยากซื้อ อยากทำอะไรก็ทำได้หมดทุกอย่าง แต่ถ้าถามว่าสิ้นเปลืองไหมก็สิ้นเปลือง แต่ละสัปดาห์ที่พ่อแม่ให้เงินมา เงินก็ไม่พอใช้จ่าย ต้องเก็บเงินเอง บางครั้งแค่มาเดินห้างสรรพสินค้า ตากแอร์ นัดเจอเพื่อนแต่ไม่ได้กินไม่ได้ซื้อสิ่งของเพราะค่าใช้จ่ายไม่พอ
"เมื่อก่อนไม่ได้มีทางเลือกมากนัก เพราะร้านค้าขายมีจำกัด แต่ตอนนี้มีเยอะมาก มีทุกอย่าง แต่ไม่มีเงินมากพอไปซื้อสินค้า ก็ต้องเลือกเอา ตามเงินที่มีอยู่ บางครั้งแค่ไปเดินตากแอร์เย็นๆ แต่ไม่ได้ไปซื้อของอะไรเขา" น้องป๊อบ บอก
ส่วน "อั้ม" บัณฑิตจากรั้วมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ยอมรับว่า สมัยนี้วัยรุ่นชอบไปเที่ยวกลางคืนกลายเป็นวิถีชีวิตยามค่ำคืนแบบใหม่ มีไลฟ์สไตล์ที่ต่างจากแต่ก่อน ส่วนตัวไม่ค่อยชอบเที่ยวกลางคืน เพราะเสียเงินเยอะ แต่จะออกไปเดินเล่นตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ มากกว่า แต่เมื่อเจอของถูกใจก็จะซื้อ แต่ถ้าเงินไม่พอก็จะเก็บเงินมาซื้อภายหลัง แต่ทำให้ค่าใช้จ่ายสูงหากเราทำตามความต้องการของตนเอง เพราะมีสิ่งยั่วยุให้ซื้อของมากขึ้น
"พอออกไปเดินเล่นบนห้าง แต่ละครั้งก็จะเสียเงินไปกับของเล็กๆ น้อยๆ นอกจากนี้ความเจริญต่างๆ ที่เข้ามาทำให้เกิดปัญหาจำพวกอาชญากรรมเพิ่มมากขึ้น เพราะความต้องการที่ไม่พอดีกับตนเอง ทำให้ต้องหาสิ่งเหล่านี้มาให้ได้ แม้จะเกินไปสำหรับตัวเองก็ตาม" อั้ม สะท้อน
เช่นเดียวกับ "ธัญลักษณ์ วรน้อย" วัย 24 ปี นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ชั้นปีที่ 4 บอกว่า ทุกวันนี้เด็กวัยรุ่น นักเรียน และคนทั่วไป ชอบไปเที่ยวทั้งกลางวันกลางคืนมากกว่าแต่ก่อน ไม่ว่าจะเป็นการไปเดินเล่น ช็อป หาที่รับประทานอาหาร เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเซ็นทรัล ตึกคอม เนเวอร์ด้า เจริญศรีไนท์พลาซ่า ยูดีทาวน์ โลตัส บิ๊กซี แม็คโคร หรือแม้แต่ร้านเหล้าผับต่างๆ ที่มีการเปิดตัวกันมาก ทำให้ทั้งนักเรียน นักศึกษา ออกมาใช้ชีวิตทั้งกลางวันและกลางคืน กลายเป็นเมืองที่ไม่เคยหลับไหล
"แต่ก่อนไม่ค่อยมีสถานที่เที่ยวมากนัก จะไปเที่ยวบริเวณหนองประจักษ์ฯ สวนสาธารณะ หรืออื่นๆ หาซื้ออาหารมาทำกิน แต่ทุกวันนี้กิจกรรมแบบนี้เริ่มหายากแล้ว ดูมีความเป็นคนเมืองมากขึ้น แต่คนที่มีน้ำใจทุกคน แม้แต่คนจาก สปป.ลาว ก็ชอบมาเดินเล่น ซื้อของที่อุดรธานี และเวลาซื้อของแต่ละครั้งจะซื้อเยอะมาก"
"ธัญลักษณ์" ยังบอกถึงความแตกต่างของอุดรธานี กับ สปป.ลาว ที่ทำให้คน สปป.ลาวชอบมาจับจ่ายซื้อสินค้าที่อุดรธานีว่า เคยไปเที่ยวประเทศลาว 2-3 ครั้ง แต่ไม่มีห้างสรรพสินค้าเหมือนเมืองไทย ทั้งนี้ คนลาวจะไป 2 จังหวัดในอีสานคือ อุดรธานี และขอนแก่น เพราะมีความเจริญไม่แพ้กัน
ขณะที่ “นิพาภร วรรณประไพ” สาวอุดรวัย 34 ปี ยอมรับว่า เมืองอุดรธานีเปลี่ยนไปมาก หลังจากมีศูนย์การค้าขนาดใหญ่เข้ามา ทำให้มีทางเลือกในการช็อปปิ้ง และสถานที่แต่ละแห่งอยู่ใกล้ๆ กัน ใช้เพียงแค่รถจักรยานยนต์ก็สะดวก เดินทางไม่ลำบากเหมือนในกรุงเทพฯ
---------------------
คอนโดผุด..ไลฟ์สไตล์เปลี่ยน
จากภาวะเศรษฐกิจเติบโตอย่างฉุดไม่อยู่ของเมืองอุดรธานี สืบเนืองจากคนท้องถิ่น นักท่องเที่ยวชาวลาว และเขยฝรั่ง มีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น กลายเป็นตัวกระตุ้นการลงทุนเพื่อเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ของคนในหัวเมืองแห่งนี้ “สวาท ธีระรัตนนุกูลชัย” ประธานหอการค้าจังหวัดอุดรธานี คีย์แมนสำคัญในการออกแบบและวางรากฐานทางเศรษฐกิจให้เมืองนี้ เล่าว่า โครงการต่างๆ ที่เข้ามาเปิดตัวที่ จ.อุดรธานี อย่าง เซ็นทรัล พลาซา โอเพ่นมอลล์ อย่าง ยูดีทาวน์ ของบริษัทอุดรพลาซ่า รวมถึงกลุ่มคอนโดมิเนียม โรงแรมนั้น ล้วนเป็นสินค้าและบริการในระดับพรีเมียม
“ไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตของคนอุดรเริ่มที่จะเปลี่ยนแปลงไปเหมือนสังคมเมืองกรุงมากขึ้นทุกที และมีความพร้อมในเรื่องการจับจ่ายใช้สอย ยังรวมไปถึงชาวต่างประเทศ ทั้งจากทางตะวันตก ประเทศเพื่อนบ้าน อย่าง สปป.ลาว และเวียดนาม รวมไปถึงคนจีนที่ผ่านมาทางประเทศลาวด้วย”
เมื่อเศรษฐกิจและชีวิตความเป็นอยู่ของคนอุดรธานีดีขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เติบโตควบคู่กันมา “สวาท” ยอมรับว่า อุดรธานียังไม่มีปัญหารถติดมากนัก คนที่อยู่คอนโดซื้อคอนโดก็หวังเพียงว่าอยู่ใกล้ที่ทำงาน อยู่ใกล้แหล่งช็อปปิ้ง และบางคนทำเป็นบ้านหลังที่สอง ขณะที่ชาวต่างชาติก็ซื้อคอนโดเพื่อเอาไว้มาพักผ่อน และอีกเหตุผลอาจใช้เป็นสถานที่เตรียมตัวหรือพักฟื้นร่างกาย หลังจากเข้ามารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่อย่าง เอกอุดร และกรุงเทพฯ ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากคนไข้จากลาว หรือ เวียดนาม
ด้าน “อภิชาติ สินธุมา” ผู้จัดการฝ่ายบริหารอาคาร บริษัท ซี พี แลนด์ จำกัด (มหาชน) ฐานะผู้จัดการโครงการ “กัลปพฤกษ์ คอนโดมิเนียม” เจ้าแรกที่มาเปิดคอนโดมิเนียม 2 โครงการ 662 ห้อง กำลังอยู่ในขั้นตอนการตกแต่งภายใน คาดว่าประมาณเดือนกรกฎาคมนี้ จะส่งมอบให้ลูกค้าได้ ซึ่งสัดส่วนของลูกค้า 50 เปอร์เซ็นต์ จะเป็นคนในท้องถิ่น ส่วน 50 เปอร์เซ็นต์ มาจากส่วนกลางและต่างจังหวัด มีเพียง 2 เปอร์เซ็นต์ ที่เป็นคนจากประเทศลาวมาซื้อ
“คนอุดรมีไลฟ์สไตล์ชีวิตเปลี่ยนแปลงไป ใช้ชีวิตเดินเข้า-ออก กินข้าว-ดูหนังในห้างสรรพสินค้าใจกลางเมืองมากขึ้น เพราะคอนโดมิเนียมส่วนใหญ่อยู่ใจกลางเมืองและใกล้กับศูนย์การค้าต่างๆ ทำให้ชีวิตความเป็นชนบทของอุดรธานีเหลือน้อยลงไป แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมาก เพราะพื้นฐานของคนอุดรไม่เหมือนกับคนกรุงเทพฯ อยู่แล้ว” อภิชาติ บอกทิ้งท้าย
---------------------
(ทุนทะลัก...เมืองอุดร ในมุมมองคนรุ่นใหม่ : โดย...ปัญญาพร สายทอง)