ภาพนี้เป็นภาพเหตุการณ์สำคัญตามที่เจ้าของกระทู้อ้างถึง นั่นคือ เหตุการณ์เพลิงไหม้โรงภาพยนตร์นิวนครสวรรค์ (เฉลิมสวรรค์) เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2521 โดยก่อนหน้านั้น ทางโรงได้มีการสร้างต่อเติมด้านหน้าโรง โดยสร้างหลังคาคลุมลานกว้างหน้าโรง ในส่วนของเหตุการณ์เพลิงไหม้นั้น ต้นเพลิงเกิดจากห้องที่อยู่ด้านหลังโรง ส่งผลให้เพลิงลุกลามไปยังตัวโรงภาพยนตร์ แต่นับว่าโชคยังดีที่กองดับเพลิงเทศบาล สามารถสกัดเพลิงไม่ให้ลามไปยังห้องแถวที่อยู่โดยรอบโรงภาพยนตร์ซึ่งสร้างจากไม้ได้ทัน มิฉะนั้นความเสียหายจะมากกว่านี้
ภาพนี้คือที่ตั้งเดิมของโรงภาพยนตร์อโนดาด ซึ่งต่อมากลายเป็นโรงพยาบาลร่มฉัตร
ภาพนี้คือที่ตั้งเดิมของโรงภาพยนตร์ประชาบดี ซึ่งต่อมาเมื่อตระกูลธนารุ่งโรจน์ ได้เริ่มบุกเบิกธุรกิจสายหนังในเขตภาคกลางและภาคเหนือ จึงได้ปรับปรุงโรงภาพยนตร์ประชาบดี และเปลี่ยนชื่อมาเป็น โรงภาพยนตร์ธนารุ่งโรจน์รามา จนกระทั่งเมื่อถึงจุดอิ่มตัว จากการเข้ามาของเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ในปี พ.ศ. 2546 จึงตัดสินใจยุติกิจการโรงภาพยนตร์ แต่ไม่ยุติสายหนัง หลังจากนั้นไม่นานตัวโรงภาพยนตร์ก็ถูกทุบทิ้ง และปล่อยให้ร้าง จนกระทั่งมีการสร้างห้องแถว (ด้านซ้ายตรงกลางที่เป็นอาคารสีส้ม) ขึ้นมาแทนในปัจจุบัน
ด้านหน้าของห้างสรรพสินค้าแฟรี่แลนด์ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยมีโรงภาพยนตร์แฟรี่ เธียเตอร์ อยู่ที่ชั้นสาม เปิดให้บริการระหว่างปี พ.ศ. 2536 ถึง พ.ศ. 2551 หนังที่เข้าฉายในยุคแรกจะมาจากสายหนังที่เป็นของบริการหนังกลางแปลงในศูนย์ท่ารถ ส่วนใหญ่จะเป็น จุ๊ยเจริญภาพยนตร์ กระทั่งปี พ.ศ. 2538 จึงได้ติดตั้งระบบเสียงดอลบี้ ดิจิตอล และปลายปี พ.ศ. 2539 เมื่อโรงภาพยนตร์ศรีไกรลาส (ซึ่งก่อนหน้านั้นปิดปรับปรุงไปพักใหญ่) ได้เปิดให้บริการ ทั้งสองโรงจึงเปลี่ยนมาฉายหนังฝรั่งจากเมเจอร์ ทั้งค่ายฟ็อกซ์-วอร์เนอร์ และโคลัมเบีย-ไทรสตาร์-บัวนา วิสต้า โดยผู้ที่ได้สิทธิ์คือ บริการหนังกลางแปลง พรสมัยฟิล์ม นั่นเอง (ส่วนค่ายยูไอพี ธนาฯ ได้สิทธิ์ไป และต่อมาทางธนาฯ ก็ได้สิทธิ์จากค่ายหนังฝรั่งเมเจอร์ทั้งหมด ผลเป็นอย่างไรก็คงเป็นที่รู้กัน)
ช่วงฟองสบู่แตก ทั้งสายหนังและโรงหนังทั้งสองรับทรัพย์กันไม่หวาดไม่ไหว ที่ประสบรายได้อย่างสูง คงหนีไม่พ้นเรื่อง อนาคอนด้า เลื้อยสยองโลก ที่คนดูเต็มทุกรอบ (แม้แต่เว็บมาสเตอร์เองก็อดดู ทั้งๆ ถูกอาจารย์ที่สถาบันราชภัฏช่วยฝากวานให้ซื้อ ก็ไม่ได้เลย เต็มตลอด) และตอนที่ ไททานิค เข้าฉายปลายปี พ.ศ. 2540
ไม่เพียงแต่ทั้งสองโรงที่ฉายแต่หนังฝรั่งเมเจอร์ หนังฝรั่งฟอร์มกลางและหนังไทย (ที่พรสมัยฟิล์มซื้อ) ก็เคยฉายครับ อย่าง KNOCK OFF ทุบกะโหลกนรก, SEVEN YEARS IN TIBET, ALASKA อลาสก้า หมีน้อยหัวใจมหึมา, WHAT’S DREAM MAY COME พลังรักข้ามขอบฟ้า ตามหาถึงสวรรค์ ก็เข้าฉาย หนังไทยมีเรื่อง ท้าฟ้าลิขิต กับฟ้าทะลายโจร และหนังไทยจากค่ายฟิล์มบางกอก (ทุกเรื่อง) และไฟว์สตาร์ (บางเรื่องซึ่งธนาฯ ไม่ซื้อ)
จนกระทั่งเมื่อเมเจอร์ฯ เข้ามาตีตลาด แถมเจอเงื่อนไขบีบบังคับอีก ทำให้ทั้งสองโรงกลายเป็นโรงหนังชั้นสองไปในทันที คือฉายหนังทีหลังเมเจอร์ ต่อมาก็ฉายสองเรื่องควบ บัตร 40 บาท ในที่สุด โรงภาพยนตร์ศรีไกรลาสปิดตัวไปก่อน เหลือแต่แฟรี่ฯ ที่ยังฝืนต่อจนถึงโปรแกรม SPIDER MAN 3 แฟรี่ฯ ก็รูดม่านปิดตัว ซึ่งในวันปิดตัว เว็บมาสเตอร์ก็อยู่เป็นประจักษ์พยานในเหตุการณ์นั้นด้วย จากนั้นไม่นานนัก ที่นั่งของโรงภาพยนตร์ถูกรื้อถอน อุปกรณ์ในห้องฉายก็ถอดขายไปจนเกลี้ยง (ไม่ต้องถามถึงเรื่องฟิล์มเลย เพราะถูกบรรจุใส่ถุงขยะ และมีลูกน้อง 2 คนช่วยกันขนใส่ลงรถขยะ ผ่านหน้าเว็บมาสเตอร์ ซึ่งวันนั้นประจวบเหมาะมาธุระที่ตัวเมืองพอดี ก็เลยเจอเข้า ก็ไม่กล้าที่จะร้องขอเลย) ก่อนที่จะปิดตายไปพักหนึ่ง ต่อมากลายเป็นที่จอดรถจักรยานยนต์ไปซะแล้ว T_T