“หลิวเต๋อหัว” ให้สัมภาษณ์เปิดโอกาสว่ามีความเป็นไปได้อยู่เหมือนกัน ที่เขาจะกลับไปรับงานแสดงทางจอโทรทัศน์ กับสังกัดเก่า TVB หากบทมีความเหมาะสม ซึ่งถ้าทุกอย่างเกิดขึ้นจริงๆ ก็ถือจะว่าเป็นครั้งแรกในรอบมากกว่า 20 ปีที่พระเอกอันดับ 1 แห่งวงการบันเทิงฮ่องกง กลับมารับงานแสดงทางจอโทรทัศน์อีกครั้ง
TVB ยักษ์ใหญ่แห่วงการโทรทัศน์ฮ่องกง กำลังพยายามกลับมาทุ่มเท ในการสร้างผลงานซีรีส์ หรือหนังชุดทางโทรทัศน์อีกครั้ง ทั้งดึงตัวผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง หวังจิง มาสร้างซีรีส์ให้กับสถานี และยังมีการติดต่อให้ เจิ้งจือเหว่ย มาอำนวยการสร้างซีรีส์ฟอร์มใหญ่เรื่องใหม่ด้วย
โดยสำหรับโครงการของ เจิ้งจื่อเหว่ย ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนของการพัฒนาบทกันอยู่นั้น ยังมีข่าวว่าดาวตลกคนดังกำลังติดต่อส่งเทียบเชิญให้ หลิวเต๋อหัว ซูเปอร์สตาร์ฮ่องกงมารับบทนำ กับซีรีส์ที่จะมีความยาวประมาณ 30-40 ตอน จนกระทั่งในงานอีเวนต์เมื่อวันที่ 19 ส.ค.ทีผ่านมา หลิวเต๋อหัว ได้กล่าวถึงข่าวที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก แม้จะไม่ได้ยืนยันอะไรอย่างเป็นทางการ แต่เขาก็ไม่ได้ปิดโอกาส สำหรับการรับงานแสดงทางโทรทัศน์อีกครั้ง
“ถ้าบทมีความเหมาะสม ผมก็พร้อมจะพิจารณาครับ” หลิวเต๋อหัว กล่าว แต่ก็ยังไม่วายพูดติดตลกว่า “ถ้าเป็นซีรีส์ไอดอลวัยรุ่น ผมก็จะพิจารณาก่อนเลย”
พระเอกคุณพ่อมือใหม่ยังบอกอีกว่าเขากับ TVB ที่เป็นเสมือนบ้านหลังเก่า ได้มีการพูดคุยเจรจากันอยู่ตลอด ซึ่งถ้าเขาตอบตกลงกับข้อเสนองานแสดงทางโทรทัศน์ขึ้นมาจริงๆ ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องเงินอย่างแน่นอน “จริงๆ ผมพูดคุยกับ TVB มาตั้งแต่สมัยที่ โมนา ฟง บริหารแล้วนะครับ ซึ่งถ้าผมตอบตกลงจริงๆ ก็จะทำทุกอย่างตามวิธีปฏิบัติที่ทำกันมา คงไปขอให้คนอื่นเปลี่ยนแปลงการทำงานเพื่อผมไม่ได้ แต่ถ้าตารางการถ่ายทำจะไปกระทบกับชีวิตประจำวันของผม ก็คงไม่สามารถรับข้อเสนอได้ ทุกอย่างไม่ได้ขึ้นอยู่กับเรื่องเงินอย่างแน่นอน”
หลิวเต๋อหัว เข้าสู่สังกัด TVB เมื่อปี 1981 หลังจบการศึกษาจากสถาบันฝึกฝนนักแสดงของทีวีบีรุ่นที่ 10 และแจ้งเกิดขึ้นมาจากซีรีส์เรื่อง มือปราบจ้าวอินทรี หลังจากนั้น จึงมีผลงานออกมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการได้รับบทเป็น เอี้ยก้วย ในซีรีส์ชุด “มังกรหยก” ด้วย
นอกจากนั้น เขาพร้อมด้วยเพื่อนอีก 4 คน ได้แก่ เหลียงเฉาเหว่ย, หวงเย่อหัว, เหมียวเฉียวเหว่ย และทังเจิ้นเย่ ยังถูกโปรโมตเป็นนักแสดงรุ่นใหม่ไฟแรงของทีวีบีในช่วงยุค 80s ภายใช้ชื่อกลุ่ม “5 พยัคฆ์ TVB” จนได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง แต่แล้ว หลิวเต๋อหัว กับต้นสังกัดกลับมีปัญหาในเรื่องสัญญา สุดท้ายเขาจึงเลือกที่จะไปมุ่งมั่นกับงานเพลง และงานแสดงทางภาพยนตร์แทน
|
|
| |
