Mobile Version / สำหรับโทรศัพท์มือถือ ยินดีต้อนรับท่านผู้มาเยือน www.peoplecine.com ท่านยังไม่ได้ log in นะครับ
โดยส่วนตัว อยากให้ฝันของครูอาร์ตเป็นจริงเหมือนกันแหละครับ แบบว่าหน่วยนี้มีเรื่องนั้น หน่วยนั้นมีเรื่องโน้น มีลูกค้าติดต่ออยากได้เรื่องโน้น ก็วิ่งไปยืมหน่วยนั้นได้ทันที วันใหนเค้าต้องการเรื่องนั้น ก็วิ่งมายืมของหน่วยนี้ไปฉายได้ อะไรเทือกๆนั้น
แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง ดูจะห่างไกลจากฝันเหลือเกิน เพราะขนาดอยู่ในภาวะลำบากลำบนกันขนาดนี้ ยังมีแต่การปัดแข้งปัดขา ฟันราคากันเอง หรือบางพวกก็หากินกันเองด้วยซ้ำไป
ไม่ต้องดูเรื่องอื่นหรอกครับ อย่างเรื่องเครื่องฉายดิจิตอล ที่มีบางราย ซื้อของหลักหมื่น แต่เอาไปหลอกขายเป็นหลักแสน อะไรเทือกๆนั้น คนที่ไม่รู้เรื่องก็ถูกหลอก ซวยกันไป
ดังนั้น อย่าแปลกใจ หรือเสียใจเลยครับ ถ้าสุดท้ายแล้ว จะ"พัง"กันหมดทั้งระบบ
เห็นด้วยกับพี่โหน่งครับ
ฝันเป็นจริงได้แต่ต้องใช้เงินเยอะเพราะค่าลิขสิทธิ์มันแพงครับ
อย่างที่ท่านพี่โหน่งว่าล่ะครับสภาวะการร่อแร่เช่นนี้พวกเดี่ยวกันยังแหบกันเอง ว่ากันเองไม่มีคำว่า แบ่งปัน หรือ ช่วยเหลือกันน้อยคนนักที่จะมีน้ำใจกันจริงๆในยามนี้ แต่ก็ดีที่อย่างน้อยก็ยังมีคนที่ดี และ มีน้ำใจในเวปเราอีก หลายๆคน หลายๆท่าน ที่คอยช่วยเหลือกันได้ ครับ
มาแจมด้วยคนครับ
อย่างที่พี่แอ๊ดว่าเลยครับ ติดอย่างเดียวคือเรื่องลิขสิทธิ์หรือสัมปทานถ้าเป็นสินค้า mass ตัวอื่นๆ
ผมว่าเราคงมีพัฒนาการ ไปไหนต่อไหนแล้วครับ
ความฝันผมก็เคยคล้ายๆกับครูอาร์ตครับ ผมอยากเป็นสายหนังที่อำนวยทั้งเจ้าของลิขสิทธิ์ และลูกค้า
แต่ดูจากระบบโดยรวมแล้ว คงไม่มีเงินรองรับการซื้อสิทธิ์มากมายขณะนั้น และยิ่งปัจจุบันหาจุดคุ้มทุนไม่เจอ
แต่ถ้าเป็น sharing ไม่จำเป็นต้องซื้อเรื่องเดียวกัน เอามารวมกัน แบ่งกันฉายก็ได้ครบทุกเรื่องเหมือนกัน
แต่ก็อีกนั่นแหละครับ..ทับสัมปทานเจ้าของเดิม
สรุปก็คือ รอนิ่งๆดูความเป็นไปของโลกก่อนดีกว่าครับ
ขอบคุณสำหรับแนวคิดของแต่ละท่าน มันเป็นแค่ความฝันครับ แต่ถ้าถามว่ามีเงินจะทำหรือเปล่า คงเอาเงินไปทำอย่างอื่น ที่ทำทุกวันนี้เพราะชอบและใจรัก ลองคิดดูแล้วตัวเลขเยอะแต่รายจ่ายก็เป็นเงาตามตัว เอาเท่าที่มี เคยปรึกษากับป๋าจุ๋มในเรื่องการแชร์ความรู้ให้เพื่อนสมาชิกเหมือนกัน เช่น เครื่องเสียงการประกอบขยาย การทำซาวด์แดง การซ่อมเครื่องเบื้องต้น และถือโอกาสพบปะพูดคุยกัน ใครมีอะไรมาแบ่งปันกัน ในเวปเรามีหลายคนที่เก่งๆและพร้อมที่จะแบ่งปัน ลองพิจารณาดูนะครับ ฝากทางเวปมาสเตอร์+ป๋าจุ๋ม และท่านอื่นๆครับ
คิดเล่นๆ ถ้าเป็นผมนะ - ผมจะกบดานอยู่นิ่งๆ รอดูจังหวะ+ทิศทางลมอย่างเดียว พ้นช่วงเปลี่ยนผ่านเมื่อไหร่ เห็นความชัดเจนแล้ว ค่อยเดินหน้าลุยกันต่อ
เพราะผมค่อนข้างจะมั่นใจ อย่างที่เคยโพสต์ไปแล้วหลายครั้ง ว่าระบบธุรกิจจัดจำหน่ายหนังในเมืองไทย ยุคหลังเปลี่ยนถ่ายสู่ระบบดิจิตอลแล้ว มีโอกาสสูงมาก (ผมให้เกิน 80%) ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงกันขนานใหญ่ อาจถึงขั้นถอนรากถอนโคนกันเลยทีเดียวก็ได้
ใครจะรู้ล่ะครับ หลังเข้าสู่ยุคดิจิตอลเต็มตัวแล้ว อาจจะ(ย้ำว่าอาจจะ)ไม่มีสายหนังอีกต่อไป หน่วยหนังติดต่อกับ บ.ตัวแทนจำหน่ายโดยตรง หนังดังๆ ถ้าสู้ราคาไหว อยากได้กี่ก็อปปี้ก็เชิญ ไม่มีแบ่งเขต ไม่มีกั๊กฟิล์ม ไม่มีผูกขาด ฯลฯ ก็เป็นได้ครับ
(ถ้าเป็นได้แบบนี้จริง ผมว่าก็ดีไปอีกแบบนะ)
ที่ทั่นโหน่งโพสต์มา เลยขอยกภาพที่ตัดตอนบางส่วนจากนิตยสารเอ็นเตอร์เทน ปักษ์หลัง ประจำเดือนพฤษภาคม หน้าปก FAST & FURIOUS 6 เป็นบทความ “อันเนื่องจาก (คนทำ) หนัง” ซึ่งจะมีผู้กำกับหนังมาเขียนบทความสลับสับเปลี่ยนกันไป และฉบับนี้เป็นมุมมองของคุณ “ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ” (ผู้กำกับ “ชัตเตอร์กดติดวิญญาณ” และ “แฝด”) ในหัวเรื่อง BOX OFFICE กับกรณีของ “พี่มากพระโขนง” ที่ทำรายได้ถึง 500 ล้าน ซึ่งมีประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจครับ
+
+
อีกตอนหนึ่ง
+
+
หนังเรื่องนี้ขอเป็นตำนานของหน่วยผมเลยครับค่าเช่าฟิล์มห้าหมื่นบาท..ต่อคืน..ม้วนละหมื่น..สายหนังจะได้ทุนคืนคงช่วงสั้นๆนี้แหละครับถ้าหมดหน้างานราคาก็น่าจะลงแถมถ้าออกแผ่นแท้..คงราคาต่ำลงอีก..สุดท้ายเท่าที่คุยกับพี่ๆเช็คเกอร์..พี่ๆเขายังไม่วิตกเรื่องฟิล์มเท่าไหร่ครับเข้าใจว่ายังพอมีเหลือสต๊อกที่จะพิมพ์ได้อีกพักใหญ่ๆเพียงแต่ก๊อปปี้แต่ละเรื่องอาจจะต้องน้อยลงในความเห็นส่วนตัวครับ
นั่นสิครับทั่น POP...
ถ้าฟิล์มหมดจริงๆแล้ว(โอเค อาจไม่ใช่ปีนี้ แต่คงไม่นานเกินรอ) ทีนี้ สายหนัง+หน่วยหนังทั้งหลาย จะทำกันยังไง?
ประกอบกับอีกหลายๆๆเรื่อง ที่จะรุมเข้ามา
-บ.หนัง ที่แพลมๆออกมาแล้ว ว่าอยากเลิกระบบสายหนังเหมือนกัน (ส่วนหนึ่งคงมาจากกรณีพี่มาก 500 ล้านนี่แหละ)
-ทีวีดิจิตอลภาคพื้นดิน ที่จะเอารายการทีวีคมชัด Full HD มาให้เราดูกันถึงในห้องนอน
-เทคโนโลยี 3 G ซึ่งสามารถต่อยอดไปถึงธุรกิจขาย/เช่าหนังออนไลน์ได้ คราวนี้อย่าว่าแต่ในห้องนอนเลย นั่งดูหนัง Full HD จากแท็บเล็ตบนรถเมล์ก็ยังได้ ถ้าไม่เมารถซะก่อนนะ
ผมยิ่งฟันธงได้ด้วยความมั่นใจมาก ว่าธุรกิจการจัดจำหน่ายหนังเรื่องยาว จะต้องเปลี่ยนแปลงแบบแทบไม่เหลือเค้าเดิมอย่างแน่นอนครับ
ถึงอยากให้หน่วยหนังสามัคคีกันไว้ อย่างที่ครูอาร์ตว่าอยู่หรอก จะได้รับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่กำลังเดินทางมาถึง
แต่ในทางปฏิบัติ ก็อย่างว่าแหละนะ...
อาจารย์โหน่ง..สงสัยว่าอีกหน่อยหน่วยหนังอาจจะต้องจานมีดาวเทียมติดหน่วยครับปลดล๊อครหัสก่อนฉายหนังยาวชนโรง..หลังจากลงทุนระบบไปแล้วหน่วยละซักสามสี่ล้าน..รับงานสามสี่หมืน..ร้อยงานได้ค่าของคืนครับ..ชนโรงอย่างเดียวนะครับ555
เจ้ากาละมังโหน่งมันชอบเพ้อเจ้อเรียกญาติมิตรให้มาเพิ่มข้อหาหมั่นใส้กับตัวเองอย่างนี้แหละ(ทั้งๆที่เจ้าตัวเพิ่มเรทติ้งให้กับตัวเองในเรื่องของการยั้งคิดก่อนโพสให้ญาติมิตรทั้งประเทศเกิดความเอนดูอยากรุมประชาฑัณเจ้าตัวมาแล้ว.ฮิฮิ) ทิศทางที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงจากฟิล์มสู่ดิจิตอล...ในมุมมองของผม.ยังไม่มี...ม่บทสรุปสุดท้ายที่ตายตัวออกมาอย่างที่หลายคนหวั่นๆกันครับ....ผมว่าในทุกภาคส่วนที่มีผลกระทบไม่ว่าจะเป็นสายหนังเองหรือบริษัทให้เช่าฟิล์มคงจะมีการหารือกันบ้างแล้วกับปัญหานี้....เพียงแต่ว่ายังหาคำตอบที่เด่นชัดเป็นรูปธรรมยังไม่ได้เพราะหากผลีผลามรีบประกาศออกมาจะมีผลกระทบในหลายๆด้าน..รวมทั้งจะมีคำถามและจะต้องมีข้อมูลในทางปฏิบัติโดยถูกต้องและเด่นชัดพอในเรื่องของการควบคุมและปฏิบัติตามกฏหมายที่ว่าด้วยเรื่องของลิขสิทธิ์ของหนังแต่ละเรื่องด้วย
ผมสรุปเลยละกันว่าคงต้องรอ.......ดูสถานการณ์ไปเรื่อยๆก่อนครับว่าจะมีข้อสรุปออกมาในทิศทางใดยิ่งพูดมากรังจะทำให้เกิดความสับสนของผู้ที่ไม่ทราบข้อมูลมากยิ่งขึ้นไปอีก..และผมเชื่อว่า"หนังกลางแปลงไม่มีวันตายครับ"
เพราะในช่วงชีวิตที่เกิดมาตั้งแต่เยาวว์วัยจนบัดนี้หนังกลางแปลงเป็นอีกหนึงประสบการณ์ชีวิตที่เข้ามาเกี่ยวพันกับชีวิตผมจนมีความคิดที่ว่าไม่อยากเห็นมหรสพพื้นบ้านตั้งแต่เด็กสูญสลายล้มหายจากไปจากสังคมไทยครับ
(เท่าที่ทราบมามีหลายๆฝ่ายที่เกี่ยวข้องกำลังพยายามหาทางออกสำหรับปัญหานี้อยู่ครับและผมก็เชื่อว่าทุกปัญหามีทางออกเสมอ...
ทุกปัญหามีทางออก มันเป็นความฝันครับ ตอนเด็กๆเราอยากมีอยากเป็นเจ้าของหน่วยหนัง พอโตพอมีเงินทำเราก็ทำทำจนเป็นอาชีพเสริมถามว่าคุ้มไหม? ผมตอบได้เลยว่าคุ้มถ้าคิดว่าคือชอบ แต่ถ้าเป็นเรื่องเงินลองถามคนทำหน่วยสิครับว่าเป็นอย่างไร หนังกลางแปลงคือการปรุงแต่ง ปรับนั้นซ่อมซื้อตลอดเวลา ไม่มีคำว่าพอ จะหางานที่ได้ราคาคงยาก นานๆทีปีนี้ผมรับงาน หมื่น-สองหมื่น นับได้เลยไม่เกิน 10 งาน ค่าใช้จ่ายเป็นเงาตามตัว งานหมื่นของต้องใหญ่อลังการ
ผมนั่งมองมุมกลับปรับมุมเปลี่ยน จะให้เลิกไม่เลิกหรอกครับ เพียงแต่ต้องหาการต่อยอด อย่างที่พี่ป๊อบว่าต่อไปหน่วยหนังต้องมีจานดาวเทียมติดไปด้วยไม่นานหรอกครับ เรื่องของสายหนังตัดไปครับ ลองดูสมัยเพจเจอร์ออกมาใหม่ๆเห่อมาก ต่อมาไม่นานโทรศัพท์มือถือตามมา ไม่ใช่แค่โทรหรือรับได้อย่างเดียวแต่เป็นทุกสิ่งทุกอย่าง เกม หนัง ไลน์ เฟส เปิดปิดประตู้บ้าน ขายประกัน ฯลฯ
หนังกลางแปลงเป็นการรวมตัวกันเท่านั้นของคนที่อยู่ในยุคและความชอบ ร่วมสมัยกัน อย่าคิดมากครับมันเป็นแค่ความฝันที่พยายามจะเติมให้เต็มเท่านั้นครับ
สวัสดีครับครูผมนั่งมองมุมกลับปรับมุมเปลี่ยนตอนเป็นเด็กทุกคนจะมีความฝันกันทุกคนครับแล้วแต่จะฝันแบบไหนอย่างผมชอบหนังตั่งแต่เด็กจนปัจจุบันครับ
ถ้าเป็นอย่างครูฝันไว้ก็ดีมากครับ เอื้ออาทรกันดีครับ
เลือกหน้า [1] จำนวนหัวข้อทั้งหมด 18
ถูกเปิด: ถูกคลิ๊กแล้ว: 117956675
ตอนนี้มีผู้เข้าชม : 1 ล่าสุด :Jerekioxgew , พีเพิลนิวส์ , นุกูล , จาทีเอ , อั้น , เอก , นนท์ , แสบ chumphon , วัตร , เอ๋ ,