ร่วมทดสอบ Peoplecine mobile Beta0.1

เชื่อว่าสมาชิกคงเคยเห็นแผ่นดีวีดีลิขสิทธิ์ราคาถูก ซึ่งมีลักษณะเป็นภาพเต็มจอ ไม่มีสเปเชียล ฟีเจอร์ใด ๆ เลย ที่สำคัญมีเสียงพากย์ไทยเท่านั้น มันคือ "วานิลลา ดีวีดี" ครับ

วันนี้เลยเอาบทความจากเว็บ "ผู้จัดการออนไลน์" มาฝาก เผื่อจะได้ทำความเข้าใจ รวมทั้งทัศนคติจากการสัมภาษณ์บุคคลต่าง ๆ

โดยส่วนตัวแล้ว แผ่นประเภทนี้ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเอาความง่ายเข้าว่า กล่าวคือ ใส่แผ่นเข้าเครื่องแล้ว ไม่ต้องเข้าเมนูให้วุ่นวาย มันจะเล่นโดยอัตโนมัติเลย นอกจากนี้ผู้ชมส่วนใหญ่ก็ต้องการเสียงพากย์ไทยฉบับเดียวกับในโรงอยู่แล้ว ที่สำคัญ ตัวสเปเชียล ฟีเจอร์ก็ไม่สน จะดูแต่ตัวหนังอย่างเดียว จบแล้วก็จบเลย

แต่สำหรับคอหนังชนิดจริงจัง แผ่นประเภทนี้ก็มองข้ามไปได้ ก็คือไปซื้อแผ่นดีวีดีที่มีรายละเอียดต่าง ๆ ครบถ้วน หรือจะอัพเกรดไปเล่นบลูเรย์ก็ไม่มีใครว่า

"วานิลลา ดีวีดี" จับผีลงหม้อลิขสิทธิ์

ไม่รู้จะดีใจดีหรือไม่ ที่ประเทศไทยติดอันดับประเทศที่มีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เป็นอันดับต้น ๆ ของโลก โดยเฉพาะเรื่องภาพยนตร์ ถ้าใครมาบอกว่าไม่เคยเห็นแผ่นผีเลยสักครั้งในชีวิต ถ้าตายไปก็คงต้องตกนรกหมกไหม้ เพราะละเมิดศีลข้อมุสาฯ
       
หลายๆ คนซื้อแผ่นผีที่ไม่มีลิขสิทธิ์ เพราะเหตุผลว่ามันออกเร็ว บ้างก็ซื้อเพราะว่ามันราคาถูก ดังนั้น การที่ค่ายหนังแผ่นจะออกมาสู้รบปรบมือกับแผ่นผี เขาก็จะต้องมีแผ่นหนังที่ออกเร็วและราคาใกล้เคียงกับแผ่นผี
       
"วานิลลา ดีวีดี' (DVD Vanilla Version) จึงถือกำเนิดขึ้น เพื่อมาเป็นหัวหอกในการสู้รบปรบมือกับแผ่นผีโดยเฉพาะ โดยเจ้าวานิลลา ดีวีดีนั้น เคยประสบความสำเร็จถล่มทลายมาแล้วในประเทศรัสเซีย จนมีหลายๆ คนเรียกดีวีดีแบบนี้ว่าดีวีดีแบบ 'รัสเซียโมเดล'
       
จริงแล้ว ก่อนที่จะมีการทำวานิลลา ดีวีดีขึ้นมา บริษัทจัดจำหน่ายหนังแผ่นหลายบริษัทในบ้านเรา ก็เคยออกแบบโมเดลต่างๆ ของการทำดีวีดีเพื่อมาสู้กับแผ่นผีอยู่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นดีวีดี 5 ที่มีแต่ตัวหนังไม่มีฟีเจอร์ของค่ายเจบิ๊กส์ (แต่ยังมีระบบการเลือกซับไตเติลได้อยู่) หรือ DVD Easy ของ EVS ซึ่งทั้งสองแบบนั้น ไม่ได้สร้างผลสะเทือนให้กับวงการแผ่นผีเท่าใดนัก
       
แต่การที่วานิลลา ดีวีดี หรือรัสเซียน โมเดล กลายเป็นเรื่องที่กล่าวขวัญถึงอย่างกว้างในวันนี้นั้น ก็เพราะยอดขายถล่มทลายกว่า 350,000 แผ่น ของหนังเรื่อง 'อวตาร' ที่ออกมาในรูปแบบของวานิลลา ดีวีดี ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งแสดงให้เห็นว่า รัสเซียโมเดลที่นำเข้ามานั้น ไปได้ดีกับบริบทของเมืองไทย
       
และแน่นอนว่าตัวเลข 350,000 แผ่นนี้ย่อมทำให้เหล่าผีต้องเสียขวัญกันบ้างไม่มากก็น้อย
       
คมชัดและเร็วกว่า ในราคาวีซีดี!
        
ในความเป็นจริงแล้ว วานิลลา ดีวีดีนั้น เป็นรูปแบบที่พัฒนาโดย ทเวนตี้ เซนจูรี่ ฟ็อกซ์ โดยมีจุดประสงค์เพื่อลดการกระทำอันละเมิดลิขสิทธิ์ในอเมริกาเอง โดยเริ่มแรก วานิลลา ดีวีดี ซึ่งมีแต่ตัวหนังไม่มีฟีเจอร์อื่นๆ นั้น จะอยู่ในร้านเช่าก่อน นัยว่าถ้าอยากได้ฟีเจอร์เพิ่มเติมก็ต้องไปซื้อหามาเก็บกันเอง ต่อมาทางฟ็อกซ์จึงเอาโมเดลการออกดีวีดีที่มีแต่ตัวหนัง ไปใช้ในการแก้ปัญหาลิขสิทธิ์ในประเทศต่างๆ
       
"แผ่นแบบวานิลลา ดีวีดีนั้น มันจะใช้ในประเทศที่มีปัญหาเรื่องของการละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งที่แรกที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากนั้นเป็นประเทศรัสเซีย ส่วนที่อื่นๆ ที่เคยเห็นนั้น ก็จะมีที่จีน และประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้"
       
ดอน คอลัมนิสต์ / นักวิจารณ์ดีวีดี และนักสะสมแผ่นดีวีดี เล่าให้ฟังว่า ประเทศที่มีแผ่นวานิลลา ดีวีดีขายนั้น จะต้องเป็นประเทศที่มีการละเมิดลิขสิทธิ์รุนแรงประมาณหนึ่ง เลยจำต้องออกแผ่นวานิลลาออกมารบกับแผ่นผี อย่างในไทยนั้น ดีวีดีเรื่องแรกที่ทำในรูปแบบวานิลลาก็คือ 'Aliens vs. Predators 2' ของค่ายต้นกำเนิดดีวีดีวานิลลาอย่าง ทเวนตี้ เซนจูรี่ ฟอกซ์ และขายในราคาที่ถูกกว่าดีวีดีที่มีฟีเจอร์อื่นๆ แถมมาแบบเต็มๆ
       
"ลักษณะเด่นที่สุดของแผ่นวานิลลาเลยก็คือจะต้องเป็นหนังพากย์เท่านั้น คือใช้ภาษาถิ่นนั้นๆ พากย์ทับไปเลย เพราะอย่าลืมว่า แผ่นวานิลลานั้นมีจุดเด่นอยู่ที่การออกเร็วเพื่อสู้กับแผ่นผี ดังนั้นมันจะออกก่อนอเมริกา มันจึงไม่สามารถออกมาเป็นซาวนด์แทร็กได้ เพราะถ้าเป็นซาวนด์แทร็กแล้วมีใครเอาไปก๊อป มันก็จะแพร่กระจายไปได้ทั่วโลก แต่ถ้าหนังที่ออกมาเป็นหนังพากย์ ถ้ามีใครจะเอาไปก๊อปมันก็จะกระจายอยู่ในประเทศนั้นๆ เท่านั้น"
       
"ส่วนฟีเจอร์อื่นๆ อย่างเบื้องหลัง มิวสิกวิดีโอหรือเอ็มวี และลูกเล่นต่างๆ ก็โดนตัดออกไปหมดเลย เพราะคำว่า วานิลลาที่ใช้เรียกแผ่นเหล่านี้นั้นมันมีที่มา 'วานิลลา' นี่มันหมายถึงความง่ายๆ เพลนๆ ธรรมดาๆ เพราะไอศกรีมรสวานิลลานี่เป็นรสพื้นฐาน ใครนึกไม่ออกก็จะต้องสั่งวานิลลาไว้ก่อน ดังนั้นแผ่นแบบวานิลลาก็คือ แผ่นที่มีแต่ตัวหนัง ไม่มีฟีเจอร์อย่างอื่นเลย ออกมาง่าย และธรรมดาที่สุด ซึ่งตลาดที่แผ่นพวกนี้เดินทางไป เขาก็ต้องการแค่นั้นอยู่แล้ว คนที่ต้องการมากกว่านี้ก็ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมาย"
       
จุดเด่นอีกอย่างของวานิลลา ดีวีดี ก็คือ ขนาดของภาพที่ปรากฏบนจอนั้น จะเป็นสัดส่วน 4:3 ทั้งหมด ไม่ใช้สัดส่วนแบบไวด์สกรีน (16:9) เลย ทั้งนี้ เพราะขนาด 4:3 นั้นเป็นขนาดของจอโทรทัศน์ทั่วไปที่อยู่ในบ้านของกลุ่มเป้าหมายที่คาดว่าจะเป็นลูกค้าของวานิลลา ดีวีดี
       
ถึงจะเป็นวานิลลาก็น่าสน
        
ด้วยความที่แผ่นวานิลลา เป็นหนังพากย์ไทย ดังนั้น มันอาจจะถูกปฏิเสธจากกลุ่มคนที่นิยมดูหนังซาวนด์แทร็กซึ่งมีจำนวนไม่น้อยเลยในประเทศไทย แต่กับกลุ่มคนที่ยอมรับการพากย์ไทยได้ วานิลลา ดีวีดี จึงเป็นอีกทางเลือกที่น่าลอง
       
อดิศร สุขสมอรรถ ชายหนุ่มผู้ชื่นชอบการดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ บอกเล่าถึงรสนิยมในการดูหนังของตัวเองว่าไม่ได้ยึดติดหรือจำเพาะเจาะจงว่าหนังที่ดูต้องเป็นดีวีดี, วีซีดีพากย์ไทยหรือซาวนด์แทร็ก ดังนั้นมุมมองของเขาที่มีต่อ 'วานิลลา ดีวีดี' จึงน่าสนใจไม่น้อย โดยเฉพาะประเด็นที่ว่า วานิลลา ดีวีดี จะช่วยดึงคนชอบดูหนังที่ไม่ยึดติดเสียงซาวนด์แทร็ก ให้สนับสนุนสินค้าถูกลิขสิทธิ์ไม่สนับสนุนแผ่นผีที่ทั้งชนโรงและรวดเร็วได้หรือไม่?
       
"ผมว่าวัตถุประสงค์ที่หวังว่า วานิลลา ดีวีดี จะช่วยยับยั้งการซื้อแผ่นผี มันอาจเป็นการสู้กับศัตรูที่เก่าเกินไปแล้ว โอเค ผมยอมรับว่ารูปแบบนี้ถือเป็นความพยายาม แต่ก็ห่วงว่าจะยับยั้งได้เหรอ? เพราะบางคนเขาก็ติดนิสัย เอาความสะดวกเข้าว่า โดยไม่คำนึงถึงเรื่องละเมิดลิขสิทธิ์ และทุกวันนี้ช่องทางการดูหนังมันก็ไม่ได้มีแต่แผ่นผี แต่ยังมีการดาวน์โหลดที่สะดวกกว่า ง่ายกว่า"
       
แต่ปัจจัยที่ทำให้วานิลลา ดีวีดี ไม่เป็นที่นิยมก็อาจเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะในกรณีที่ซื้อหนังเรื่องใดมาดูแล้วเกิดความรู้สึกอยากเก็บสะสมเอาไว้ ก็คงรอซื้อดีวีดีที่มีรายละเอียด มีเบื้องหลัง มีซาวนด์แทร็กให้ครบถ้วน แล้วพอซื้อแล้วก็อาจจะรู้สึกว่า มันสิ้นเปลือง ทำไมต้องซื้อ 2 ครั้ง ในที่สุด ก็อาจตัดสินใจที่จะเลือกซื้อเฉพาะดีวีดีสำหรับเก็บสะสมเท่านั้น
       
แต่ถึงที่สุดแล้ว อดิศรก็ยังเห็นว่า วานิลลา ดีวีดี คือความพยายามที่จะลุกขึ้นสู้กับการละเมิดลิขสิทธิ์ที่น่าจับตา
       
และเมื่อถาม อภินันท์ บุญเรืองพะเนา นักวิจารณ์ภาพยนตร์ ว่าหากภาพยนตร์ต่างประเทศเรื่องดังถูกวางจำหน่ายในรูปแบบวานิลลา ดีวีดี ที่คุณภาพเทียบเท่าดีวีดี แต่ราคาไม่ต่างจากวีซีดี เพียงไม่มีแอปพลิเคชันใดๆ เช่นดีวีดีปกติ ซ้ำยังมีเฉพาะเสียงพากย์ไทยเท่านั้น เขาจะยอมควักเงินซื้อหรือเปล่า
       
แต่ถึงแม้จะตอบหนักแน่นว่า 'ซื้อ' อภินันท์ ก็ไม่ลืมที่จะขยายความว่า ที่บอกว่าซื้อนั้น ไม่ใช่ซื้อดะไปทุกเรื่อง
       
"เราซื้อนะ ถ้าหนังเรื่องนั้นออกมาเร็ว แบบว่าเพิ่งออกจากโรงไปได้ประมาณ 2-3 สัปดาห์ ถ้าเป็นหนังสนุกๆ อย่าง หนังที่โจวซิงฉือเล่น หรือหนังเรื่องคาราเต้ คิด แบบนี้ ก็ซื้อนะ เราดูพากย์ไทยได้ ไม่มีปัญหา แต่ถ้าเป็นหนังที่ขาย 'บท' มีบทดีๆ แล้วเราต้องการฟังเสียง สัมผัสอารมณ์ของนักแสดง เราก็คงไม่ซื้อหรอก รอซื้อแบบที่เป็นซาวนด์แทร็กดีกว่า คือถ้าเป็นเรื่องที่บทดีๆ เราค่อนข้างยึดมั่นถือมั่นน่ะ ต้องฟังซาวนด์แทร็ก"
       
ต่างจาก ณัฐธิตา เพ็ญศิริ สาวพนักงานบริษัทผู้ชื่นชอบการดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หนังแนวฟิล กู๊ด หนังตลกและหนักรักโรแมนติก เมื่อเธอชื่นชอบความสนุกและความบันเทิงมากกว่าจะใส่ใจในรายละเอียดหรือองค์ประกอบปลีกย่อย เสียงซาวนด์แทร็กจึงไม่มีความหมาย และไม่สำคัญสำหรับเธอ
       
"ชอบดูหนังมาก แต่ขอเป็นหนังที่สนุกๆ นะ หนังเศร้าๆ หรือหนังเข้าใจยากนี่ขอบายเลย แล้วก็ขอแต่พากย์ไทยด้วยนะ ไม่ดูหรอก หนังซาวน์แทรค ขี้เกียจอ่านตัวหนังสือที่มันวิ่งอยู่ด้านล่าง ตาลาย"
       
ณัฐธิตาเป็นคนหนึ่งที่ชอบดูหนังประเภท 'ชนโรง' แต่ล่าสุด 'อวตาร' ที่วางขายอยู่ริมฟุตบาทก็ไม่ได้รับการเหลียวแลจากเธอ เพราะครั้งนี้เธอยินยอมพร้อมใจควักเงินซื้ออวตาร ฉบับวานิลลา ดีวีดี แบบไม่เสียดาย ทั้งยังแนะนำเพื่อนซี้ในสำนักงานที่นิยมชมชอบหนังแผ่น ประเภท 9 in 1 ให้หันมาซื้อหนังถูกลิขสิทธิ์ที่มีราคาไม่แพงด้วย
       
โอ๊ย! รีบทักแทบไม่ทันว่าอย่าเพิ่ง เธออย่าเพิ่งซื้อแผ่นผีมา ดูฉันนี่ ซื้อเรื่องนี้มาไม่แพงเลย ภาพชัดด้วย ดูแล้วไม่ปวดตา ไม่ซูม"
       
แต่บางครั้งวานิลลาก็ไม่ช่วยอะไร
        
ถึงแม้วานิลลา ดีวีดี จะเป็นหนึ่งในความพยายามที่จะจัดการกับหนังละเมิดลิขสิทธิ์ แต่ในทุกวันนี้ ปัญหาเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ไม่ได้จำกัดอยู่ที่แผ่นผีเพียงอย่างเดียวแล้ว ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า บางครั้งโมเดลการขายของแบบวานิลลา ดีวีดี ก็ไม่อาจช่วยอะไรได้
       
นาย มิ่งขวัญ (นามสมมติ) อีกหนึ่งคนที่ชื่นชอบการดูหนังมาก โดยแนวหนังที่ชื่นชอบ คือ แนวโรแมนติกและดราม่า ส่วนใหญ่จะดูหนังที่มาจากค่ายหนังที่ชื่นชอบ และดูผ่านแผ่นดีวีดีมาสเตอร์ ผ่านกระบวนการโหลดบิตเทอร์เรนต์
       
"คือต้องรอมันออกแผ่นมาสเตอร์ก่อนถึงจะโหลด ไม่ดูหนังซูม ไม่เอาพากย์ผี โหลดเอา"
       
ช่องทางการดูหนังของมิ่งขวัญ มีไปดูตามโรงภาพยนตร์บ้าง ซึ่งหนังที่ดูก็จะเป็นหนังฟอร์มยักษ์ ที่มีการลงทุนสูงๆ แต่ปกติจะดูหนังทุกวัน วันละหนึ่งเรื่อง โดยผ่านการโหลด ส่วนการดูในโรงภาพยนตร์ก็สัปดาห์ละหนึ่งครั้ง
       
"คือโหลดไว้วันนี้ แล้วพรุ่งนี้ได้ดู เราก็โหลดต่อ หนังเก่า หนังใหม่ หนังรางวัล หนังที่คนว่าไม่สนุก เราดูหมด ยกเว้นหนังตลกกับหนังผี ไม่ค่อยดู ชอบดูหนังที่สร้างมาจากชีวิตจริง อ้างอิงเหตุการณ์ในอดีตหรือจากนวนิยายชื่อดัง"
       
สาเหตุที่มิ่งขวัญไม่นิยมซื้อแผ่นหนังมาดูก็บอกด้วยเหตุผลง่ายๆ คือ ไม่มีเงิน แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ลงทุนซื้อของเขาเลยทีเดียว เพราะหากหนังเรื่องไหนที่สนุก โดนใจ และชื่นชอบเป็นพิเศษ เขาก็จะซื้อแผ่นแท้มาเก็บไว้ดู
       
อย่างไรก็ตาม มิ่งขวัญไม่คิดอยากซื้อของที่ถูกลิขสิทธิ์มาไว้ดู โดยแจงเหตุผลว่าเบื้องต้นขอโหลดเอามาดูก่อน แต่ถ้าชอบเรื่องไหนเป็นพิเศษก็จะต้องลงทุนควักเงินในกระเป๋าจ่ายเงินไปให้เจ้าของลิขสิทธิ์แน่นอน
       
อีกมุมหนึ่ง เอกชัย (สงวนนามสกุล) นักดูหนัง ที่ชอบการดูหนังผ่านโรงภาพยนตร์ และหากจะตัดสินใจซื้อหนังสักเรื่องก็มีหลายตัวเลือก เช่น ซื้อแผ่นผีกรณีที่มีเวลาว่างมาก โดยจะซื้อ 5 เรื่องและได้แถมอีก 1 เรื่อง ซึ่งลักษณะหนังที่ซื้อจะเป็นหนังนอกกระแสตลาด เพราะหากเป็นหนังในกระแสส่วนมากก็ดูในโรงอยู่แล้ว
       
"บางทีก็ซื้อแผ่นผีเยอะเหมือนกันนะ แต่ก็นิยมซื้อ ดีวีดี ตอนมันตกรุ่นหน่อย ก็จะได้ของราคาถูกลง ปกติเราก็ดูหนังในโรงอยู่แล้วครับ สะใจดี"
       
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจะมีรัสเซียโมเดลออกมา แต่เอกชัยก็ยังคงซื้อแผ่นผีเหมือนเดิม เพราะออกมาเร็วกว่า และก็รู้สึกว่าราคาถูกกว่าของแท้อยู่ดี
       
กระนั้นเขาก็แสดงทัศนะไว้ว่าการออกโมเดลมารูปแบบนี้นั้นสามารถช่วยให้สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ลดลงได้บ้าง แต่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาทั้งระบบได้ เพราะคนที่ดูหนังส่วนใหญ่ดูเอาเรื่องราวมากกว่าที่จะมากังวลเรื่องฟังก์ชันภาษา
       
"อีกมุมหนึ่งเป็นเพราะลักษณะของตลาดที่ต่างกัน หนังแผ่นมาสเตอร์ที่ขายตามห้างสรรพสินค้า ราคาสูง ซึ่งคนที่ให้ความสนใจมีไม่มาก ส่วนแผ่นผี มีวางขายตามสถานที่ต่างๆ เต็มไปหมด ขายราคาถูก ถึงไม่มีหน้าปกเรื่อง แต่ออกมาเร็วด้วย คนก็ซื้อได้ง่าย"
       
เอกชัยทิ้งท้ายว่า พฤติกรรมคนไทย ชอบซื้อของแบบง่ายๆ แบกะดิน ต่อราคาได้ รับรองว่าแผ่นผีจะยังไม่ตายในเร็ววันนี้แน่นอน อีกวิธีหนึ่งที่ช่วยได้ก็คือการปราบปรามอย่างจริงจัง ก็จะสามารถทำให้สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ลดลงได้บ้างเหมือนกัน
       

       
สุดท้ายแล้ว หากจะเปรียบเทียบง่ายๆ วานิลลา ดีวีดี ก็อาจจะเปรียบได้กับอาหารราคาถูกที่ภัตตาคารทำออกมาขาย โดยลดคุณภาพของวัตถุดิบลงมานิดหน่อย ส่วนการซื้อแผ่นผีนั้น ก็น่าจะเหมือนกับการไปซื้ออาหารราคาถูกกับร้านที่ไปขโมยของคนอื่นมาขายอีกที และการโหลดบิตมาลองดูแล้วซื้อเฉพาะเรื่องที่ชอบ ก็เหมือนกับการเข้าไปกินอาหารในร้านแล้วชักดาบ เพราะบอกว่ารสชาติอาหารไม่อร่อย (ทั้งๆ ที่กินลงท้องไปแล้ว)
       
ทีนี้อยากจะเป็นผู้บริโภคแบบไหน ก็ตามใจท่านเลยนะครับ เพราะสุดท้ายแล้ว วานิลลา ดีวีดี ก็เป็นเพียงแค่อีกทางเลือกหนึ่ง ที่มาเสนอตัวให้ผู้บริโภคเลือกใช้บริการก็แค่นั้น ส่วนเราจะเลือกหรือไม่ก็แล้วแต่วิจารณญาณและพื้นฐานความคิดที่ติดตัวเรามา

สำหรับผมแล้ว  แผ่นดีวีดี ที่ในบ้านผมที่อยู่ในตู้นะครับ  จะเป็นแผ่น ดีวีดี แท้ เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ  (ส่วนมากจะซื้อตอนลดราคานะครับ แหะ แหะ แบบว่างบน้อยน่ะครับ ตอนออกใหม่ ๆ  ราคาแพง ๆ ก็ยั้งไว้ก่อน)  ยกเว้น แผ่นแท้บ้านเราไม่มีขาย  หรือมีขายแต่คุณภาพห่วย  เช่น  เซนเซอร์  ภาพไม่ดี ตัดเยอะ    เสียงพากย์ไม่ดี  ถ้าเป็นแบบนี้ ผมจะซื้อแผ่นแม่สาย  หรือแผ่นผีทันทีครับ

อีกเรื่องหนึ่ง ที่ทำให้แผ่นผีไม่ตาย คือ  คุณภาพแผ่น ที่แผ่นแท้ลิขสิทธิบ้านเรา บางบริษัท ก็ทำมาไม่มีคุณภาพ  เช่น เสียงไม่ดี  ภาพไม่ชัด  มีการเซนเซอร์  และตัดออกหลายฉาก  ทำให้นักดูหนัง (โดยเฉพาะ ผมเองครับ) ต้องหันไปพึ่งแผ่นผีแม่สายบ้าง  จากโซนอื่นบ้าง โหลดบิท บ้างมาดู  เพราะแผ่นแท้ลิขสิทธิ์เอง ทำผลงานออกมาเทียบกับโซนอื่นแล้ว ไม่มีคุณภาพ

ผมเคยซื้อหนังเรื่อง

1.  คู่ใหญ่ฟัดเต็มสปีด ภาค 2 แบบ 2 แผ่น  ราคาสองร้อยปาย ๆ 

2.  ผีชีวะ ภาค 3 แบบดีวีดี 9

 ทั้งสองแผ่นนี้ ราคาแผ่นสองร้อยกว่าบาท ปรากฏว่า ซื้อมาเก็บใส่กลอง พร้อมห่อพลาสติกอย่างดี ยังไม่ได้ดู ประมาณ สัก 2 เดือนได้ จะนำมาดู โอ้ว แม่เจ้า  ราขึ้นเต็มเลยครับ ในแผ่นหนังเสียด้วย ถ้าเป็นสเปเชียลฟิวเจอร์ก็ว่าไปอย่าง แต่อันนี้ ตัวหนัง ครับ หนังเพรียว ๆ เลย เปิดดูไม่ได้เลย 

ก็เลยเก็บเอาไว้เป็นอนุสรณ์ ของแพง ไว้อย่างนั้นน่ะครับ  ด้วยความน้อยใจก็เลยซื้อแผ่นผีแม่สาย ประชดเสียเลยทั้งสองเรื่องนี้