Mobile Version / สำหรับโทรศัพท์มือถือ ยินดีต้อนรับท่านผู้มาเยือน www.peoplecine.com ท่านยังไม่ได้ log in นะครับ เข้าใช้งานระบบ / สมัครสมาชิก/ ลืมรหัสผ่าน

ร่วมทดสอบ Peoplecine mobile Beta0.1


รูป
สาระน่ารู้ กลอนสอนใจ และเรื่องขำๆเจ้าของ ผู้ตอบหลังสุด
-ว๊าว..อะไรจะขนาดนั้น เด็ก ป.1 ใส่ยกทรง CUP C.. 19/3/2551 18:28
-วันนี้ TV Media ขอเสนอสุดยอดเทคโนโลยีล่าสุด ....... 7/3/2551 17:49
-4 ปีมี 1 ครั้งวันนี้ 29 กุมภาพันธ์.. 1/3/2551 13:56
-พออ่านเรื่องนี้จบน้ำตาผมก็ไหล.. 30/11/2550 14:01
-ด่วน....รูปสาวซ้อนรถมอไซด์ นมหก ดูซะ ก่อนที่จะโดนลบ.. 28/11/2550 17:56
-ถ้าคุณเป็นคนนึงที่เลือกแต่ Taxi คันใหม่ๆ.. 5/10/2550 22:45
-70 ข้อที่คุณยังไมรู้.. 4/10/2550 20:58
-ทึ่งชีวิตเฒ่าตาบอด กลายเป็นช่างซ่อม.. 18/9/2550 11:15
-ต้องอ่านนะ อย่า รับ กระดาษจากคนแปลกหน้า.. 13/9/2550 12:15
-กำลังติดต่อกับหนังกลางแปลงทางภาคใต้ครับ.. 30/8/2550 15:51
-ต้องขอบคุณ ท่านนี้ครับ Oskar Messter ที่ทำให้มีวันนี้.. 27/8/2550 10:26
-แบบเรียนสมัยก่อน.. 27/8/2550 7:51
-จุดไต้ ตำตอ.. 15/8/2550 21:31
-เหตุผลที่ต้องเข้าเวปเกือบทุกวัน.. 15/8/2550 21:28
-สุภาษิตจีน..ดีนะ.. 12/8/2550 23:14
-เมื่อคืนใครได้ดูช่องtitv ตอน5ทุ่มกันบ้างครับ.. 8/8/2550 23:14
เลือกหน้า [1] [2] [3] [4] [5] [6] [7] [8] [9] [10] [11] [12] [13] [14] [15] [16] [17] [18] [19] [20] [21] [22] [23] [24] [25] [26] [27] [28] [29] [30] [31] [32]
จำนวนหัวข้อทั้งหมด 499

ต้องอ่านนะ อย่า รับ กระดาษจากคนแปลกหน้า


นอกจากยาป้ายแล้วยังมียาอีกชนิดหนึ่ง
เพื่อนเราเคยเกือบโดนบน รถเมล์
เขานั่งอยู่คนเดียวกำลังจะกลับถึงบ้าน
แล้วรู้สึก แปลก ๆ เหมือนมี
ผู้ชายมองอยู่ข้างหลัง 2-3 คน พอถึงป้ายราชดำเนิน
ผู้ชาย 1 ในนั้นก็เดินมาหาเค้าแล้วยื่นกระดาษที่ พับไว้
แผ่นนึงให้เค้าแต่ไม่ได้รับ
เพราะปกติเป็นคนขี้ระแวงอยู่ แล้วแต่ชายคนนั้นก็ คะยั้นคะยอ ให้เค้ารับให้ได้แต่เค้าก็ไม่รับอยู่ดี
กลุ่มคนพวกนั้นก็เลยรีบลงจากรถพร้อม กับมองขึ้นด้วยท่า ทางที่หงุดหงิด
พอกลับถึงบ้านเลยเล่าให้พ่อแม่ฟังว่าเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น
พ่อเค้าก็ตกใจว่าเคยมีเรื่องแบบนี้เกิด ขึ้นแล้ว
มันเกิดกับคนแถวๆบ้านนั้นหน่ะแหละ
> คือโดนยื่นกระดาษเหมือนกันแล้วก็รับมาพอเปิดดูก็
ไม่รู้สึกตัวอีกเลยมารู้อีกทีก็อยู่สนามหลวง แต่ไม่มีของติดตัวเลยทั้งกระเป๋าตังและสร้อยคอ ไปแจ้งความก็ทำอะไรใครไม่ได้
> สรุปได้ว่ามันเป็นยามึนชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็น ผง ๆ
เมื่อเปิดมามันก็จะฟุ้งออกมาทันที ใครโดนยานี้จะคล้าย กับโดนยาป้าย
ช่วย ๆ ระวังกันด้วยนะ ครับ เห็นว่าควรระวังจึงส่งมาคุณก็เอาไประวังเพื่อนๆ หรือญาติพี่น้องได้นะครับ



ความเห็น

[1]


บทความจากเพื่อนส่งมาครับ นำมาให้อ่านจะได้ระวังกันน่ะ


ใจเย็นครับทุกท่าน!!

เรื่องยาป้าย ยาสั่งเนี่ย จนถึงวันนี้ ในทางการแพทย์ ก็ยังไม่เคยมีการพิสูจน์ว่า มีจริงๆเลยนะครับ
ถ้าตอบแบบไม่เกรงใจกัน ก็ต้องบอกว่า ส่วนใหญ่ ที่บอกว่าโดนยาๆ เนี่ย จริงๆแล้วไม่ได้โดนยาอะไรหรอกครับ แต่โดนวาทะศิลป์อันชวนเคลิ้มของพวกโจร(พูดจนลิงหลับ)มากกว่า แต่ครั้นจะไปบอกว่า โดนหลอก ตรงๆก็เกรงจะเสียหน้า ก็เลยโบ้ยว่าโดนยาสั่งอะไรไปโน่น

คิดง่ายๆ ถ้ายาที่ว่ามีจริง วิสัญญีแพทย์(หมอวางยาสลบ)ทั่วโลก ก็คงยิ้มไปแล้วละมังครับ ไม่ต้องคำนวณ ไม่ต้องรอดมยา กว่าจะออกฤทธิ์ ป้ายทีเดียว คนไข้สลบไปเลย สะดวกสุดๆ


หรือลองคิดดูดีๆ ถ้ายาที่ว่ามันแรงขนาดนั้นจริง โจรมันจะไม่เคยพลาด เผลอป้ายใส่ตัวเองบ้างเลยรึไงกัน?? ไม่งั้นก็ต้องเคยมีพาดหัวข่าว "โจรอ่อนหัด โดนยาป้ายของตัวเองสลบเหมือด ไปฟื้นที่โรงพัก" ไปแล้วสิครับ???



คืออย่างนี้ครับ คุณโหน่ง ยาที่ว่านี้มีจริง ๆ นะครับ แต่การได้มาของยาชนิดนี้นั้นเป็นการแอบสั่งเข้ามาจากต่างประเทศและขายเป็นการเฉพาะ ซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อยาแล้วกัน เพราะเกรงว่าจะกระทบถึงบุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย แต่ข้อมูลนี้เป็นเรื่องจริงซึ่งได้มาจากน้องสาวของผมเอง เพราะตอนนี้เรียนสาขาแพทยศาสตร์ และจะต้องรู้เกี่ยวกับในภาคที่เป็นเภสัชบางส่วนด้วยครับ

ยาที่ว่านี้มีทั้งแบบชนิดเม็ด ชนิดผง ชนิดน้ำ และแบบอีมัลชั่นซึ่งใช้เฉพาะวิสัญญีแพทย์ในต่างประเทศเท่านั้น แต่ในบ้านเราไม่กล้าใช้เพราะมีผลข้างเคียงอย่างมาก

อย่างที่บอกแหละครับว่า ยาเหล่านี้เป็นยาควบคุมเฉพาะ แต่ทว่าก็มีมิจฉาชีพกลุ่มหนึ่งในต่างประเทศประกาศขายทางเว็บไซต์ และก็มีพวกมิจฉาชีพบ้านเราที่คิดชั่วร้ายและกระเป๋าหนักแอบสั่งเข้ามา (โดยสั่งมาพร้อมกับยาเสพติดประเภทยาอีหรือยาไอซ์ด้วยเพราะราคาจะแพงมาก) หลังจากนั้นก็จะขายให้กับพรรคพวกที่รู้กัน

ทำไมไม่เคยมีความผิดพลาด เพราะว่าตัวผู้กระทำผิดเองก็ต้องระวังตัวเหมือนกัน เพราะฉะนั้น การสัมผัสยาเหล่านี้จะใช้สิ่งที่มีลักษณะเคลือบมันเพื่อป้องกันการซึมของยาเข้าสู่ร่างกาย นั่นคือ พาราฟิน ส่วนที่เป็นผงก็จะต้องปิดปากปิดจมูกอยู่ดี เพราะถ้าฟุ้งขึ้นมาก็ไม่ต้องบรรยายครับ

ผมมีประสบการณ์ที่เคยเกือบเสียทรัพย์สินของมีค่ามาแล้ว เรื่องเกิดขึ้นเมื่อก่อนวันแม่ ปี 2539 คือ ตอนนั้นจะโดยสารรถไฟกลับบ้านที่สถานีนครสวรรค์เพื่อมาลงที่สถานีชุมแสงแล้วขึ้นรถเมล์เข้าบ้าน (จริง ๆ แล้วไปรถเมล์ก็ได้ แต่ค่าโดยสารมันถูกกว่ากัน 2-3 บาท) พอไปถึงสถานีและก็ยืนดูตารางรถ ตอนนั้นเป็นเวลา 9 โมงกว่า แต่รถที่จะไปเป็นรถธรรมดาซึ่งจะถึงสถานีเวลาตอนเที่ยง ก็เลยจะเดินเข้าไปนั่งรอและอ่านหนังสือฆ่าเวลาที่ชานชลาสถานี ปรากฏพอผมหันออกมาก็เจอะกับคน 3 คนแบบล้อมหน้าหลังซึ่งถามว่าจะไปไหน ผมก็ตอบว่าไปชุมแสง ในช่วงที่ผมพูดตรงนี้แหละ ผมก็มีอาการเหมือนกับจะสลึมสลือแต่ยังมีสติดีอยู่และรู้ตัวด้วย พอผมพูดจบก็เลยเดินออกมาไปอีกมุมหนึ่งซึ่งเป็นห้องทำงานของสถานีที่เป็นที่จองตั๋วล่วงหน้าก็เลยเข้าไปอาศัยหลบอยู่ชั่วคราว และแจ้งเจ้าหน้าที่ทราบ ก็เลยเดินทะลุมองผ่านช่องขายตั๋วก็เห็นกลุ่ม 3 คนดังกล่าว ขึ้นรถโดยสารสองแถวหนีออกไปแล้ว ส่วนผมก็ยังมึน ๆ งง ๆ อยู่สักพักก็ทุเลาลงเพราะคาดว่าคงจะโดนแต่ไม่มาก และทรัพย์สินยังอยู่ครบไม่งั้นเสียท่าไปแล้ว และตั้งแต่นั้นมาผมก็ระวังตัวตลอด แม้กระทั่งช่วงเวลาไปในสถานที่คับแคบซึ่งเสี่ยงที่จะโดนล้วงกระเป๋า และการเดินทางนั่งรถโดยสารหรือรถไฟที่เป็นตอนกลางคืนด้วยครับ



เลือกหน้า
[1]
จำนวนหัวข้อทั้งหมด 3

กลับขึ้นข้างบน / กลับหน้าแรก

ค้นกระดานข่าว:


ถูกเปิด: ถูกคลิ๊กแล้ว: 117964392 ตอนนี้มีผู้เข้าชม : 1 ล่าสุด :Jerekioxgew , พีเพิลนิวส์ , นุกูล , จาทีเอ , อั้น , เอก , นนท์ , แสบ chumphon , วัตร , เอ๋ ,