Mobile Version / สำหรับโทรศัพท์มือถือ ยินดีต้อนรับท่านผู้มาเยือน www.peoplecine.com ท่านยังไม่ได้ log in นะครับ
[1]
คือ ผม ลองดูแล้ว โดยใช้สาย ยี่ห้อหนึ่ง ซึ่งแถมมากับเครื่องเล่น HD Player ซึ่งเขาขายกันในราคา 600 - 700 บาท กับ สาย ยี่ห้อดี ๆ ราคาเส้นหนึ่ง เกือบสามพันบาท ลองมาเสียบดูอย่างละ 2 เส้น ผลปรากฏว่า เอ่อ
สายราคา 700 กับสาย ราคาเกือบสามพัน ด้านภาพและเสียง มันไม่ค่อยจะเห็นความแตกต่างกันครับ เสียงก็ออกครบ เหมือนกัน ภาพ ก็เหมือนกัน (เอ หรือว่าผมดูไม่เป็น ฟังไม่เป็นก็ไม่รู้) เลยงง ๆ ว่า คุณภาพสาย มันจะแตกต่างกันอย่างไรบ้าง นอกจากราคาครับ
ท่านอื่น คิดอย่างไรบ้างครับ พอดีผมหมดตังค์ไปกับเส้น สาย สัญญาณ หลายบาท ทั้ง Coxax และ Optical รวมทั้ง HDMI ยี่ห้อ ดีบ้าง ยี่ห้อทั่วไปบ้างหลายเส้น เลยงง และสับสนครับ
เพื่อนผมใช้เครื่องบลูเรย์ มันก็ซื้อสาย HDMI เส้นละ 2000 มาใช้ครับ
เห็นบอกว่าสัญญาณภาพและเสียงมันจะเสถียรคงที่กว่าสายที่แถมมาว่างั้น
เรื่องแบบนี้ต้องให้ป๋าจุ๋มมาชี้แจงแถลงไขอีกทีครับ หุหุ
เอ่อ นั่นสิครับ ป๋าจุ๋ม ไปไหนครับ เนี่ย !
เข้ามาแถลงไข ข้อสงสัยให้น้อง ๆ หน่อยครับ เผื่อเป็นความรู้ และวิทยาทาน ครับ อิ อิ
จุดธูปเรียกกระทู้โน้นแล้วยังไม่มา ผมเลยถือวิสาสะมา(มั่ว)ตอบแทนป๋าจุ๋มก่อนละกันครับ
ว่ากันตามทฤษฎีแล้ว จะสายเส้นละ 120฿ หรือเส้นละ 4,800฿ ก็ใช้งานได้เหมือนกันครับ ไม่แตกต่าง
เพราะอย่าลืมว่า ในโลกยุคดิจิตอล data ที่วิ่ง มันมีแค่ 0 กับ 1 ถ้ามันส่งไปก็คือไป ถ้ามันส่งไม่ไป ก็คือมันไม่ไป คือไม่มีภาพเลย หรือไม่ก็ภาพแตกเละเทะ อะไรทำนองนั้น
จุดที่อาจทำให้แตกต่างกันได้ เท่าที่นึกออก
1.สายแพงๆ คุณภาพ(น่าจะ)ดีกว่า ส่งถ่ายข้อมูลได้เสถียรกว่า
2.ต่อจากข้างบน เมื่อข้อมูลที่ส่งผ่านเสถียรกว่า ระบบแสดงผล ก็ไม่ต้องพยายามทำ Error Correction (แก้ไขข้อผิดพลาดที่อาจปะปนมากับข้อมูลที่ได้รับ) อะไร จึงไม่มีโอกาสที่จะเกิดปัญหาในการแสดงผลขึ้น
ยกตัวอย่างที่น่าจะเห็นภาพขึ้นมาอีกนิด ก็อย่างทีวีดาวเทียมนี่ไงครับ ถ้าฟ้าใสแดดสวย จานรับสัญญาณได้เต็มที่ ภาพก็นิ่งๆเนียนๆดูสบายตากันไป
แต่พอฝนมาฟ้าลง สัญญาณอ่อนลงๆ ถ้ายังไม่มาก ระบบ Error Correction ของภาครับ ก็อาจยังพอช่วยถูๆไถๆให้ได้อยู่ ส่วนใหญ่ก็อาจไม่สังเกตเห็น แต่พวกหูตาหาเรื่อง อาจเริ่มจับพิรุธได้บ้าง (เสียงกระตุกนิดๆ ภาพมีโมเสกสองสามก้อน ทำนองนั้น)
ถ้าพายุยังลงไม่หยุด สัญญาณอ่อนลงมากๆ เครื่องรับเอาไม่อยู่แล้ว คราวนี้จากกระตุกเบาๆแทบไม่สังเกต ก็อาจกลายเป็นภาพสะดุดๆๆๆๆ โมเสกๆๆๆๆๆๆ ขึ้นมาอย่างทันทีทันใดให้เราอารมณ์เสียกันเล่นๆ --"
สรุปว่า ถ้าสายนั้น work ก็ใช้ไปเหอะครับ ไม่ต้องซีเรียส
อ้อ ถ้ายังมีพวกหูทองตาทิพย์ เข้ามายืนยันว่าสาย HDMI เส้นละสี่พัน ดีกว่าสายเส้นละสี่ร้อยจริงๆ ยกคำกล่าวประเภทภาพอิ่ม สีเนียน ดูมีมิติ ภาพเคลื่อนไหวประดุจมีชีวิตฯลฯ อะไรแบบนี้ละก็...
ลองจับมาทำ Blind Test ดู (สลับสายไปมาๆ อย่าให้รู้ว่าเส้นใหนเป็นเส้นใหน) รับประกัน 99.99% ตายหงายท้องกลับไปแทบทุกครั้ง O_o"
เห็นด้วยกับคุณโหน่งครับ
สาย HDMI ของแถม กับของซื้อราคา(คุย)แพง สำหรับผมแล้ว สีสัน มิติภาพ แยกไม่ออกครับ แต่แสงของสายแพงจะสว่างกว่านิดหน่อย พอสังเกตุได้ จากพวกเมนูหน้าจอของ HDP แต่ถ้ามองผ่าน ๆ ไม่เห็นความแตกต่างครับ
ขอบคุณครับ คุณโหน่ง สำหรับข้อมูล โดยส่วนตัวนะครับ ผมว่า สาย HDMI หากเป็นเวอร์ชั่นเดียวกัน ราคาสักเท่าไร ไม่น่าจะแตกต่างกันด้านภาพและเสียง แต่อาจจะแตกต่างด้านความทนทาน หรือความอยู่ใช้ได้นานหรือเปล่าครับ
อย่างนี้แล้ว แหะ แหะ ผมจะโดนต้มให้ซ ื้อสาย HDMI เส้นละหลายบาทหรือเปล่าครับเนี่ย แต่โชคดียังไม่ได้ซื้อ เพราะ ถูก ผบทบ. ยังยั้ง ไม่งั้น มีเสียเงินหลายบาทเป็นแน่ ราคาเส้นละหลักพันเลย ต้องซื้อถึงสามเส้ันเชียว
เดี๋ยวรอป๋าจุ๋ม สรุป เคส อีกสักที หรือท่านใด มีประสบการณ์ อย่างไรบ้างหรือไม่ครับ เผื่อเป็นวิทยาทาน และความรู้ให้กับผม และท่านอื่น ๆ ที่เข้ามาอ่านด้วยครับ ว่า ข้อเท็จจริง จริง จริง และจริง จริง มันเป็นอย่างไรครับ
HDMI เวอร์ชั่น ใหม่ล่าสุด 1. 4 สายเส้นละสี่ร้อย กับเส้นละสี่พัน ความแตกต่างนอกจากราคาแล้ว สิ่งใดบ้าง ที่เห็นความแตกต่างอีก
แต่ผมชอบ คอมเม้นท์ ของ คุณโหน่ง เหลือเกินครับ ฮ่า ฮ่า
"ลองจับมาทำ Blind Test ดู (สลับสายไปมาๆ อย่าให้รู้ว่าเส้นใหนเป็นเส้นใหน) รับประกัน 99.99% ตายหงายท้องกลับไปแทบทุกครั้ง O_o"
เออ นึกขึ้นได้ ขออีกนิดละกันนะครับ
หลักการเดียวกันนี้ ใช้ได้กับการทำสำเนาในระบบดิจิตอลด้วย (การไรท์แผ่นแจกกันนั่นแหละ) เท่าที่ผมจำได้ โอเคว่าระบบ Error Correction ของต้นฉบับที่เป็นภาพ/เสียง (CD,DVD Video) โดยทั่วไปจะไม่เข้มงวดกวดขัน เท่ากับกรณีของการสำเนา Data (เช่น แผ่น Software,Data ต่างๆ) ซึ่งอันนี้ผิดไม่ได้ เพราะถ้าผิดก็คือไฟล์พัง เปิดอ่าน/ใช้งานไม่ได้เลย
แต่ในทางปฏิบัติ ถ้าทำอย่างถูกต้อง copy ไปสิบยี่สิบรอบ ก็ยังแทบจะหาจุดต่างจากต้นฉบับไม่ได้หรอกครับ ไม่อย่างนั้นห้องหนังจีน ก็คงจะทำ PIF ไม่ได้ไปแล้วหละ
หรืออย่างหนังที่โหลดบิทกันมาอีกล่ะ? ต้นฉบับจริงๆ(คนปล่อยคนแรก) อยู่มุมใหนของโลกก็ไม่ทราบ กว่าจะโหลดมาลงเครื่องเราได้ เปลี่ยนมือกันไปกี่ร้อยทอดแล้วไม่ทราบ ถ้ามันดรอปทุกครั้งที่ copy เหมือนสมัยวิดีโอเทป มือท้ายๆคงดูไม่รู้เรื่องไปแล้ว ~>.<~
นี่แหละครับ ดิจิตอล ตามให้ทัน(พ่อค้าและเซลล์) ใช้ให้เป็น จบ
ในทางทฤษฏีแล้ว สายราคาถูกและราคาแพงไม่ต่างกันในเรื่องการใช้งาน เพราะเป็นสายดิจิตอลที่ส่งข้อมูลเป็นดิจิตอล 0 - 1 ตามที่ บักกาละมังโหน่งเจื้อยแจ้วเอาไว้(ให้เป็นอาจารย์ดูจะให้เกลียด(ตูตั้งใจพิมพ์ไม่ได้พิมพ์ผิดว๊อย)บักเวรนี่เกินไป.ฮิฮิ) ความแตกต่างของสายราคาถูกกับสายราคาแพงก็คือ วัสดุอุปกรณ์ที่ผลิตสาย HDMI ออกมาจากโรงงาน (ที่ส่วนใหญ่ผลิตจาก made in chaina ที่ข้างกล่องเขียนไว้ว่าโปรดระวังของแท้.อิอิ) ความพิถีพิถันในการผลิตประกอบสาย วัสดุที่นำมาใช้ ถ้าเป็นสายราคาถูกทางโรงงานก็จะลดต้นทุน โดยอาจใช้สายที่มีคุณภาพพอใช้ได้แค่สายทองแดงทั่วไปที่สามารถนำสัญญาณได้ก็พอ ไม่ระบุที่ไปที่มาว่าผลิตมาจากโรงงานไหน ยี่ห้ออะไร การประกอบสายเข้ากับหัวเสียบ HDMI ก็จะไม่ค่อยพิถีพิถัน สายราคาถูกมักจะมีปัญหาตรงหัวที่เสียบนี่ล่ะครับ เพราะเสียบไปเสียบมาไม่กี่ครั้งก็พังแล้ว หรือเสียบแล้วสัญญาณไม่ออก อันเนื่องมาจากใช้วัสดุคุณภาพไม่ดี ไม่ทนทานต่อการใช้งานถ้าเฮงหน่อย ก็จะเจอปัญหาสายช๊อตให้สยองขวัญเล่น เป็นต้น
ถ้าเป็นสายราคาแพงมียี่ห้อ โรงงานก็อาจจะใช้สายที่มีคุณภาพมากขึ้น อาทิเป็น สายทองแดงปลอดอ๊อกซิเจน ที่บรรดาเซียนหูทองเค้าว่ากันว่า เป็นสายที่นำสัญญาณที่เลอเลิศ และแน่นอนว่าราคาก็เลอเลิศตามไปด้วย รวมทั้งตบแต่งรูปลักษณ์ของสายให้ออกมาดูดีเป็นสายถัก หรือฉนวนหุ้มก็ออกแบบมาให้เป็นลวดลายสวยงาม รวมถึงกล่องบรรจุที่ทำเป็นกล่องไม้บ้าง กล่องกำมะหยี่บ้าง เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า เพื่อให้สามารถทำกำไรให้มากที่สุด
สรุปก็คือ หากจะหาซื้อสาย HDMI มาใช้ก็เลือกดูจากความประณีตของการผลิตสายจากผู้ผลิต คุณภาพของวัสดุอุปกรณ์ การบริการหลังการขาย ส่วนเรื่องของราคาของสายที่ขายกันอยู่ตอนนี้ ก็ขึ้นอยู่กับผู้ซื้อล่ะครับว่าควรจะซื้อราคาเส้นละห้าพัน หรือสองหมื่นดี หรือว่าซื้อเส้นละสามร้อยกว่าบาทดี อันนี้แล้วแต่งบประมาณ กำลังซื้อของแต่ละบุคคล และความพอใจของผู้ซื้อครับ
สำหรับคำถามว่าสายราคาแพงกับสายราคาถูกมันแตกต่างกันมากหรือไม่ที่ท่านนันถามมานั้น ผมแนะให้ดูลิ้งของเวบที่มีคนตั้งคำถามแบบนี้และมีข้อโต้แย้งกันดุเดือดให้พิจรณากัน ให้กดดูข้อมูลในลิ้งที่ผมทำเตรียมไว้ให้แล้ว
กดตรงนี้จ้า
รบกวนอ่านทุกตัวอักษรนะครับแล้ว พิจรณาว่าข้อสรุปจริงๆแล้ว เป็นอย่างประโยคของเจ้ากาละมังโหน่งที่ว่าไว้ว่า "ถ้าสายนั้น work ก็ใช้ไปเหอะครับ ไม่ต้องซีเรียส" หรือไม่ ถ้าไม่ใช่ก็เรียนเชิญโทรไปด่าบักตัวดีที่บ้านได้เลย เป็นมาตรการขนานเบา กรณีหมั่นใส้มากๆอยากใกล้ชิดสนิทสนม แนะนำให้โทรสอบถามที่เจ้าตัวว่าบ้านช่องอยู่หม่องไหน ถามให้ละเอียดนะครับจะได้ไม่หลง แย้วนั่งแท๊กซี่ไปหาบักเวรเนี่ยได้เลย เตรียมไม้หน้าสามไปด้วย เจอหน้าเมื่อไหร่ให้หวดไม่ต้องนับ แย้วมาเอาค่าแท๊กซี่ที่ จาทีเอ ..ฮ่าฮ่า..แผนยืมดาบเพื่อหวดเจ้าโหน่งจาสำเร็จมั๊ยน๊อ...คิกคิก เกือบลืม..ถ้าจะนั่งรถไปอุดรแย้วหวดเฮียแอ๊ดให้ด้วยอีกคน..จะเป็นการดีมากทีเดียวเจียว..แหะ.แหะ..วางแผนแกล้งตูดีนัก..ฮึ่ม.!.บักตัวยุ่งเนี่ย.
เอาข้อมูลจากเวบบอร์ดร้านเครื่องเสียงปิยะนัสมาให้อ่านเป็นข้อมูล สำหรับสาย HDMI เวอร์ชั่นต่างๆว่ามันเป็นอันหยัง รวมทั้งสายเวอร์ชั่น 1.4 ด้วยจะได้กระจ่างในรายละเอียดครับ
ลำดับการพัฒนาของสาย HDMI
Version 1.0/1.2 มีแบนด์วิธ 5Gbps รองรับการใช้งานที่ความละเอียด 1080i หรือ 720P
Version 1.3 คือที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน มีแบนด์วิธ 10.2 Gbps รองรับการใช้งานที่ความละเอียด 1080 P 24 bit 60 Hz
และVersion ต่อไป 1.4 มีแบนด์วิธเท่ากับ Version 1.3 ที่ 10.2 Gbps แต่เพิ่มเติมในส่วนของ
-ความสามารถในการรองรับมาตรฐานความละเอียด 4K*2K หรือเท่ากับ 3,840*1,260 ซึ่งเป็นมาตรฐานที่สูงกว่า 1080 P ในปัจจุบัน
-รองรับระบบ 3D Video (จอใหม่ๆเค้ากำลังผลิตออกมาเป็นระบบ 3 D อย่างในญี่ปุ่นเริ่มมีโชว์บ้างแล้ว)
-Audio return channel ฟังก์ชันนี้น่าสนใจปกติเวลาเราต่อสาย HDMI
เราจะต่อผ่านแอมป์ไปเข้าทีวีแต่ถ้าเกิดเราต้องการฟังสียงทีวีออกที่แอมป์เรา
ก็ต้องต่อสายอนาล็อก 1 คู่จากทีวีมาแอมป์ แต่ถ้าเป็น HDMI Version 1.4
คุณไม่ต้องใช้สายอนาล็อกอีกแล้ว เสียงจะส่งกลับมาทางสาย HDMI
ที่เราต่อเข้าทีวีได้เลย เป็นการสื่อสารแบบสองทาง
ฟังก์ชันนี้ผมว่าเจ๋งดีครับ
-รองรับ Ethernet ซึ่งหมายความว่าสาย HDMI รุ่นใหม่สามารถใช้เชื่อมต่อสัญญาณ internet ได้ด้วย
และการเชื่อมต่อ internet นี่ละที่ทำให้ต้องมีการดีไซน์โครงสร้างสายขึ้นใหม่เพราะต้องเพิ่มจำนวนสายภายในอีก 1 คู่ และอนาคตที่กำลังจะมาถึงคุณจะไม่เห็น Version ของสาย HDMI
ติดบนกล่องแล้วนะครับ เพราะทาง HDMI LLC ที่เป็นคนวางกฎเกณฑ์เกี่ยวกับสาย
HDMI เค้าจะไม่อนุญาตให้เขียนเวอร์ชันลงบนกล่องเพื่อป้องกันความสับสน
โดยเค้ากำหนดมาตรฐานใหม่มาแทนการใช้ชื่อเวอร์ชันว่าเป็น HDMI High speed กับ Standard speed
โดยในส่วนของ HDMI High speed จะรองรับแบนด์วิธ 10.2 Gbps
ซึ่งสายที่มีคุณภาพสูงควรมีควมยาวไม่เกิน 8 m. ส่วน Standard speed
จะรองรับแบนด์วิธ อย่างต่ำ 2 Gbps สำหรับ 720P,1080i หรือ 1080 P
ความยาวสายไม่เกิน 25 m.ทั้งสองแบบจะมีทั้งแบบที่รองรับ Ethernet
กับไม่รองรับ Ethernet
สิ่งที่ผมสรุปได้จากสาย HDMI Version 1.3 กับ 1.4
ถ้าเป็นเทคโนโลยีในปัจจุบันฟังก์ชันที่เพิ่มมาใหม่แทบไม่ได้ใช้ประโยชน์
เพราะความละเอียดจอ ที่ 1080P ไม่มีความแตกต่าง และในเรื่องของเสียง DTS HD
หรือ Dolby true hd ก็ไม่ต่างกันเพราะสองเวอร์ชันนี้แบนด์วิธเท่ากัน จะต่างกันที่ Interernet ซึ่งก็ไม่มีความจำเป็นอะไรมากนัก
ขอบพระคุณมาก ๆ ครับ ลุง ป๋า JTR สำหรับข้อมูล อ่านแล้ว ร้องอ๋อ อ้อ เข้าใจเต็ม ๆ เลยครับ แหม ป๋า เป็นกูรู ด้านนี้จริง ๆ ครับ
เย้ มาแล้วๆ ^^
(เล่นองค์จริงๆ จุดธูปเรียกตั้งกะเมื่อวาน เพิ่งมาวันนี้ ฮึ ฮึ ฮึ)
มีประโยชน์อย่างสูงลิ่ว
ขอบคุณมากครับ
เลือกหน้า [1] จำนวนหัวข้อทั้งหมด 13
ถูกเปิด: ถูกคลิ๊กแล้ว: 116990133
ตอนนี้มีผู้เข้าชม : 1 ล่าสุด :Akimoxagew , Landyxogew , RobertMIGH , Landexpzgew , Charlesfroms , Gregorydruct , LavillKer , BrianerpGep , Kristenmswony , AnthonykDraib ,