Mobile Version / สำหรับโทรศัพท์มือถือ ยินดีต้อนรับท่านผู้มาเยือน www.peoplecine.com ท่านยังไม่ได้ log in นะครับ เข้าใช้งานระบบ / สมัครสมาชิก/ ลืมรหัสผ่าน

ร่วมทดสอบ Peoplecine mobile Beta0.1


รูป
โรงหนังเมื่อครั้งอดีต เจ้าของ ผู้ตอบหลังสุด
-โรงภาพยนตร์ในจังหวัดกาญจนบุรี.. 17/6/2561 21:38
-โรงหนังเก่าเมืองอุดร..... 2/5/2561 12:39
-โรงหนังเฉลิมตรังยังไม่มีคนตอบ
- โรงหนังทับเที่ยงภาพยนตร์.. 9/2/2561 15:01
- สืบสาน เมืองวิกหนังยังไม่มีคนตอบ
-Gaumont Kalee 21 35mm film projector ยังไม่มีคนตอบ
-ก(ล)างเมือง : โรงหนังนี้พี่รัก.. 20/9/2560 9:37
-โรงหนัง ความผูกพันธ์ และความบันเทิงแห่งอดีตยังไม่มีคนตอบ
-กำเนิดโรงหนังไทยยังไม่มีคนตอบ
-ศาลาเฉลิมกรุงยังไม่มีคนตอบ
-ภาพวาดโปสเตอร์หนัง.. 28/5/2560 18:17
-อ.บรรณหาร ไทธนบูรณ์ ช่างวาดภาพหน้าโรงหนังในตำนาน..... 22/4/2560 17:26
-ก.แก้วภาพยนตร์ จากโรงหนังบรอดเวย์สู่จอกลางแปลงยังไม่มีคนตอบ
-สนทนาการชุบชีวิตโรงภาพยนตร์เก่า โดย หอภาพยนตร์ยังไม่มีคนตอบ
-โรงภาพยนตร์ศรีราชา.. 25/3/2560 15:45
-The Todd-AO 70mm Film Festivalยังไม่มีคนตอบ
เลือกหน้า [1] [2] [3] [4] [5] [6] [7] [8] [9] [10] [11] [12] [13] [14] [15] [16]
จำนวนหัวข้อทั้งหมด 248

ประวัติและความเป็นมาของโรงภาพยนตร์เฉลิมกรุงจากอดีตจนถึงปัจจุบัน.


โรงภาพยนตร์.เฉลิมกรุงในวันเปิด ๒ กรกฎาคม พ.ศ.2476



ศาลาเฉลิมกรุงสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๗ โดยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชประสงค์จะให้เป็นโรงมหรสพที่เชิดหน้าชูตาของประเทศ เป็นอนุสรณ์สถานคู่กับสะพานพระพุทธยอดฟ้าและพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกในการเฉลิมฉลองกรุงเทพฯ ๑๕๐ ปี ทรงสละพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์เป็นเงินกว่า ๙ ล้านบาทเป็นค่าก่อสร้าง และเสด็จพระราชดำเนินวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๔๗๓ พระราชทานนามว่า “ศาลาเฉลิมกรุง” เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้ออกแบบ
       
       หม่อมเจ้าสมัยเฉลิม กฤดากร สถาปนิกผู้ออกแบบศาลาเฉลิมกรุง เป็นโอรสในพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระนเรศวรฤทธิ์ ทรงสำเร็จการศึกษาด้านสถาปัตยกรรมจากประเทศฝรั่งเศส ทรงดูงานการก่อสร้างและการออกแบบโรงมหรสพที่อิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรีย เยอรมัน เบลเยี่ยม ฝรั่งเศส อังกฤษ และสเปนก่อนกลับมาประเทศไทย ทรงออกแบบศาลาเฉลิมกรุงเป็นงานชิ้นแรกหลังสำเร็จการศึกษา
       
       จุดเด่นของโครงสร้างศาลาเฉลิมกรุงคือ ไม่ได้ใช้ผนังเป็นตัวรับน้ำหนักแบบสถาปัตยกรรมไทย แต่ใช้โครงสร้างภายในรับน้ำหนักแทน โดยรอบห้องโถงใหญ่กลางจะแบ่งเป็นห้องเล็กห้องน้อย เพื่อให้ผนังและเสาย่อยของแต่ละห้องเป็นตัวช่วยพยุงน้ำหนัก ด้วยวิธีคำนวณให้ลงตัวอย่างสมดุล ด้วยเหตุนี้ห้องโถงใหญ่ของศาลาเฉลิมกรุงจึงกว้างขวาง ทั้งยังมีพาไลชั้นบนยื่นออกมา ๑ ใน ๓ ของพื้นที่ โดยไม่มีเสามาค้ำยันให้เป็นจุดบังตาผู้ชม
       
       ที่สำคัญกว่านั้น ด้านข้างของศาลาเฉลิมกรุงทั้ง ๒ ด้านติดกับถนน ผู้ออกแบบจึงทำทางออกเป็นประตูบานใหญ่ด้านละ ๕ คู่ ใช้ท่อนเหล็กวางพาดไว้เป็นกลอน เพียงยกท่อนเหล็กออกก็ผลักบานประตูออกไปได้เลย ส่วนชั้นบนนอกจากจะมีทางออกด้านหน้าแล้ว ด้านข้างยังมีทางลงออกไปนอกโรงได้ทั้ง ๒ ข้าง จึงสามารถระบายคนเต็มโรงออกได้หมดภายใน ๓ นาที ซึ่งโรงภาพยนตร์ทุกวันนี้ก็ยังไม่อาจทำได้อย่างศาลาเฉลิมกรุง
       
       ครั้งหนึ่ง เคยมีคนพิเรนตะโกนขึ้นขณะกำลังฉายหนังมีคนดูอยู่เต็มโรงว่า ไฟไหม้! คนทั้งโรงแตกตื่นวิ่งออกจากโรงกันสุดชีวิต แต่ก็ไม่มีการเหยียบกันถึงบาดเจ็บล้มตาย เพราะออกได้สะดวกทุกด้าน เป็นการพิสูจน์ถึงความปลอดภัยในด้านนี้ของศาลาเฉลิมกรุง การเหยียบกันตายหรือถูกไฟคลอกตายเกลื่อนอย่างที่เคยเห็นเป็นข่าวในต่างประเทศนั้น เชื่อได้เลยว่าไม่มีทางจะเกิดขึ้นที่ศาลาเฉลิมกรุง

       
       เมื่อแรกที่สร้างเสร็จนั้น ศาลาเฉลิมกรุงถือได้ว่าเป็นโรงภาพยนตร์ที่ทันสมัยที่สุดในเอเซีย และเป็นโรงแรกที่ติดเครื่องปรับอากาศ ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศของเฉลิมกรุงเป็นที่ร่ำลือกันว่าหนาวกว่าฤดูหนาวเสียอีก นอกจากนี้ภายในยังตกแต่งอย่างวิจิตรสวยหรู มีการใช้ไฟนีออนประดับเป็นแห่งแรก และยังเล่นแสงสีทั้งภายนอกภายในอีกด้วย.

 
แม้จะลงมือสร้างมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ๒๔๗๓ แต่ศาลาเฉลิมกรุงก็เสร็จไม่ทันงานเฉลิมฉลองกรุงเทพฯ ๑๕๐ ปีในวันที่ ๖ เมษายน พ.ศ.๒๔๗๕ มาเปิดอย่างทางการในวันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๔๗๖ ใช้เวลาสร้าง ๓ ปีเต็ม ซึ่งขณะนั้นพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ ทรงไม่สบายพระราชหฤทัยในเรื่องการเมือง ได้เสด็จไปประทับที่อังกฤษ โปรดเกล้าฯให้เจ้าพระยาศรีพิพัฒน์รัตนราชโกษาธิบดี (ม.ร.ว.มูล ดารากร) เป็นผู้แทนพระองค์มาทำพิธีเปิด ถึงวันนี้ก็ครบรอบ ๘๓ ปีแล้ว
       
       ศาลาเฉลิมกรุงเปิดประเดิมด้วยการฉายภาพยนตร์อเมริกันเรื่อง “มหาภัยใต้ทะเล” มีคนเบียดเสียดเข้าชมกันแน่น ซึ่งคนจำนวนมากต้องการมาดูโรงมากกว่าดูหนัง ตอนก่อนฉายภาพยนตร์ ศาลาเฉลิมกรุงจะเปิดม่านแล้วเล่นแสงสีประกอบเพลงขณะที่แอร์ก็เย็นฉ่ำ ผู้ชมต่างกล่าวกันว่า แค่ก่อนหนังฉายนี้ก็คุ้มค่าชมแล้ว


       
       ศาลาเฉลิมกรุงฉายหนังต่างประเทศเกือบทั้งหมด นานๆจะมีหนังไทยแทรกเข้ามา เพราะตอนนั้นมีหนังไทยที่สร้างในระบบ ๓๕ มม. เสียงในฟิล์มปีละ ๒-๓ เรื่องเท่านั้น พอเกิดสงครามโลกในปี ๒๔๘๔ ทั้งหนังเทศหนังไทยก็หยุดชะงักหมด มีแต่หนังญี่ปุ่นของบริษัทเอวะไฮคิววะซะ ซึ่งไม่เป็นที่นิยมของคนดู เฉลิมกรุงเลยหันมาเสนอละครชายจริงหญิงแท้ เริ่มด้วยเรื่อง “นางบุญใจบาป” โดยคณะวิจิตรเกษม ของบัณฑูรย์ องค์วิศิษฐ์ จากนั้นจึงเกิดคณะละครขึ้นหลายคณะเช่น อัศวินการละคร เทพศิลป์ รวมทั้งคณะศิวารมณ์ของนาวาอากาศเอกสวัสดิ์ ฑิฆัมพร ผู้จัดการบริษัทสหศินีมาจำกัด ผู้บริหารศาลาเฉลิมกรุงเอง และยังขยายไปเล่นที่ศาลาเฉลิมนคร โอเดี่ยน และวิกนาครเขษมด้วย..

เมื่อสงครามสงบ หนังอเมริกันกลับเข้ามา หนังไทยเกิดใหม่ในระบบ ๑๖ มม. ใช้คนพากย์ ศาลาเฉลิมกรุงได้เซ็นสัญญากับบริษัทเมโทรโกลด์วินเมเยอร์ ฉายปีละ ๒๖ สัปดาห์ นอกนั้นฉายหนังของบริษัทอื่นๆกับหนังไทย จนในปี ๒๕๐๐ จึงเลิกสัญญากับบริษัทเมโทรฯ หันมาสนับสนุนหนังไทยซึ่งผลิตกันออกมามากแล้ว
       
       เมื่อศาลาเฉลิมกรุงมาเป็นโรงหลักของหนังไทย บริเวณเวิ้งรอบศาลาเฉลิมกรุงจึงเป็นแหล่งชุมนุมของบุคคลในวงการหนัง มีทั้งผู้สร้าง ผู้แสดง ตัวประกอบเดินกันขวักไขว่ รวมทั้งบริษัทจัดจำหน่าย ซื้อขาย ให้เช่าหนัง เรียงรายรอบศาลาเฉลิมกรุงที่เรียกกันว่า “มะขามสแควร์” เพราะสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของศาลาเฉลิมกรุงก็คือ มีต้นมะขามปลูกเรียงรายรอบโรง
       
       ต่อมาความเจริญของกรุงเทพฯแพร่กระจายออกไป มีศูนย์การค้าใหม่และใหญ่เกิดขึ้นที่สยามสแควร์ ทำให้การชุมนุมของคนดูหนังเปลี่ยนย่านไปด้วย วังบูรพาที่เคยรุ่งเรืองตามหลังเฉลิมกรุงมาก็ต้องเงียบเหงาลง จนโรงภาพยนตร์ คิงส์ ควีนส์ แกรนด์ของย่านวังบูรพาต้องปิดตัวลง รวมทั้งโรงภาพยนตร์เอ็มไพร์ที่ปากคลองตลาด โรงภาพยนตร์เฉลิมเขตร์ที่กษัตริย์ศึกก็ต้องปิดกิจการด้วย ศาลาเฉลิมไทยถูกทุบทิ้ง ศาลาเฉลิมกรุงจึงถูกเพื่อนทอดทิ้งให้โดดเดี่ยวอย่างหงอยเหงา แต่ก็ไม่อาจเปลี่ยนกิจการหรือทุบทิ้งเหมือนโรงอื่นได้ เพราะศาลาเฉลิมกรุงมีความสำคัญอยู่ในประวัติศาสตร์ของวงการบันเทิงไทย เกี่ยวพันกับชีวิตของผู้สร้างและนักแสดงหลายยุค ทั้งยังเป็นโรงมหรสพพระราชทาน มีความสำคัญอย่างที่อาจถือเป็นโรงภาพยนตร์แห่งชาติได้
       
       เมื่อไม่อาจฝืนกระแสความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยได้ หลายฝ่ายจึงร่วมกันคิดที่จะอนุรักษ์ศาลาเฉลิมกรุง และด้วยความเห็นชอบของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์กับบริษัทสหศินีมาผู้ดูแลศาลาเฉลิมกรุง จึงได้มอบให้ บริษัท เฉลิมกรุงมณีทัศน์ จำกัด เข้ามาปรับปรุงศาลาเฉลิมกรุงให้สดใสขึ้นใหม่ เพื่อให้เป็นโรงมหรสพที่เชิดหน้าชูตาของประเทศ ตามพระราชประสงค์ที่ทรงสร้าง พร้อมกับปรับปรุงเวิ้งรอบศาลาเฉลิมกรุงที่ทรุดโทรมให้เป็นศูนย์การค้าในแนวอนุรักษ์ความเป็นไทยในชื่อ “ดิ โอลด์สยามพลาซ่า” และปิดเพื่อปรับปรุงครั้งใหญ่เมื่อวันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๓๕
       
       ศาลาเฉลิมกรุงแนวใหม่ในปัจจุบันกลายเป็น “เฉลิมกรุง โรเยล เธียเตอร์” ซึ่งไม่ได้ฉายภาพยนตร์เป็นการค้าอย่างแต่ก่อน แต่เป็นเวทีส่งเสริมการแสดงสร้างสรรค์ ทั้งไทยและสากล เปิดใหม่ในวันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๔๖ เริ่มด้วยนำโขนมาประยุกต์กับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ประกอบแสงสีและเทคนิคพิเศษควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ เรียกว่า “โขนจินตนฤมิต” นอกจากนั้นยังจัดรายการศาลาเพลงเป็นประจำทุกเดือน นำการแสดงละครชายจริงหญิงแท้ที่เคยเริ่มที่เฉลิมกรุงกลับมาแสดงอีกในบางโอกาส จัดฉายภาพยนตร์การกุศล งานรำลึกความหลัง และส่งเสริมงานสร้างสรรค์ที่มีคุณค่าทั่วๆไป ไม่ว่าจะเป็นของไทยหรือต่างประเทศ
       
       แม้ยุคสมัยจะเปลี่ยนไป ย่านของความบันเทิงได้กระจายห่างออกไปจากศาลาเฉลิมกรุง แต่โรงมหรสพพระราชทานจากรัชกาลที่ ๗ แห่งนี้ ก็ยังยืนอยู่อย่างสง่างาม เพื่อส่งเสริมงานแสดงที่ทรงคุณค่า อันเหมาะสมกับคุณค่าของศาลาเฉลิมกรุง..


 

ขอบคุณข้อมูลจากคอลัม.เรื่องเก่าเล่าสนุกโดย โรม บุนนาค.เวบmanageronline ครับ.       


ความเห็น

[1]


มีแต่ผ่านแต่ยังไม่เคยเช้าไปดูไม่รู้ว่าทุกวันนี้นอกจากคอนเสิร์ตแล้วยังมีหนังฉายให้ดูมั๊ยครับ



                      ศาลาเฉลิมกรุงแนวใหม่ในปัจจุบันกลายเป็น “เฉลิมกรุง โรเยล เธียเตอร์” ซึ่งไม่ได้ฉายภาพยนตร์เป็นการค้าอย่างแต่ก่อน แต่เป็นเวทีส่งเสริมการแสดงสร้างสรรค์ ทั้งไทยและสากล เปิดใหม่ในวันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๔๖ เริ่มด้วยนำโขนมาประยุกต์กับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ประกอบแสงสีและเทคนิคพิเศษควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ เรียกว่า “โขนจินตนฤมิต” นอกจากนั้นยังจัดรายการศาลาเพลงเป็นประจำทุกเดือน นำการแสดงละครชายจริงหญิงแท้ที่เคยเริ่มที่เฉลิมกรุงกลับมาแสดงอีกในบางโอกาส จัดฉายภาพยนตร์การกุศล งานรำลึกความหลัง และส่งเสริมงานสร้างสรรค์ที่มีคุณค่าทั่วๆไป ไม่ว่าจะเป็นของไทยหรือต่างประเทศ....ตามนี้จ้า.เฮียแอ๊ด.อิอิ



เลือกหน้า
[1]
จำนวนหัวข้อทั้งหมด 2

กลับขึ้นข้างบน / กลับหน้าแรก

ค้นกระดานข่าว:


ถูกเปิด: ถูกคลิ๊กแล้ว: 113034147 ตอนนี้มีผู้เข้าชม : 1 ล่าสุด :ElvasThed , Eldarxks , HAN , migNer , Serzety , RobertVon , Davidhkc , RandyClake , Serzwid , WalterFup ,