Mobile Version / สำหรับโทรศัพท์มือถือ ยินดีต้อนรับท่านผู้มาเยือน www.peoplecine.com ท่านยังไม่ได้ log in นะครับ เข้าใช้งานระบบ / สมัครสมาชิก/ ลืมรหัสผ่าน

ประธานกรรมการ :ปวีณ เขื่อนแก้ว
เวบมาสเตอร์:อนุกูล วิมูลศักดิ์ 084-819-7374,095-308-6840


= ภายใน24ชั่วโมง , = ภายใน 3 วัน = ทั่วไป , = คลาส2 , = คลาส3 ,
รูป
หนังจีนในอดีต ทุกยุค ทุกสมัยเจ้าของ อ่าน ตอบ ผู้ตอบหลังสุด
-เข้าแก็งค์ไหนหัวหน้าตายหมด....The days of being dumb(1992)72759.. 12/2/2551 19:25
-นพดล ดวงพร พูด ย้อนอดีตการฉายหนังดังในอดีต "ผู้ใหญ่มากับทุ่งหมาเมิน"76200ยังไม่มีคนตอบ
-อยากตั้งข้อสังเกต55820ยังไม่มีคนตอบ
-Movie Inside83306.. 13/12/2550 18:55
-ELECTRIC SHADOWS หนังที่มีส่วนผสมของ"แฟนฉัน" กับ"CINEMA PARADISO" จริงหรือ60794.. 10/10/2550 15:49
-ใครมีหนังจีนสากลยุค 80-90 บ้างครับ74022.. 25/9/2550 12:57
-วันนี้มีภาพจากหนังเก่ามาให้ดูครับ1119612.. 10/9/2550 15:42
-การติดตามรถ เมื่อรถหายได้โดยเร็วที่สุด55003.. 6/9/2550 16:48
-วัฒนธรรมอันดีงามในอดีตมาเปรียบเทียบกันปัจจุบันดูซิ56227.. 31/8/2550 16:47
-ฟิล์มอันทรงคุณค่า ......... ที่ได้มา633613.. 29/8/2550 23:52
-โฆษณา และมิวสิควีดีโอ บนแผ่นฟิล์ม715916.. 23/8/2550 13:19
-ตามหาหนังเก่า814115.. 20/8/2550 21:39
-ทดสอบครับ หนังใหม่ๆที่จะเข้าฉายในเมืองไทย จนถึงสิ้นปี50 นี้1986730.. 18/9/2550 12:38
-ทะลักจุดแตก Hard Boiled (โจวเหวินฟะ+เหลียงเฉาเหว่ย)87554.. 17/8/2550 9:22
-กระห้ำ แล้วโลกจะรู้จัก Love Maria ... (1988)74463.. 16/8/2550 19:32
-โรงหนังและหนังขายยาในหนังปีหนึ่งเพื่อนกันและวันอัศจรรย์ของผม608716.. 15/8/2550 23:11
เลือกหน้า
[<<] [70]
จำนวนหัวข้อทั้งหมด 1118

(ID:673) Movie Inside











10 เรื่องที่คุณอาจยังไม่รู้ของ Die Hard Series












เชื่อว่า หลายคนคงได้มีโอกาสไปชม Die Hard 4.0 หรือที่เมืองนอกเขาตั้งชื่อว่า Live Free or Die Hard กันมาบ้างแล้ว การกลับมาของ บรู๊ซ วิลลิส ในบท "จอห์น แม็คเคลน" เที่ยวนี้นอกจากจะเป็นการต่อยอดความสำเร็จของ Series ชุด Die Hard ให้แฟนๆหนังรุ่นใหม่ได้รู้จักแล้ว ยังเป็นการกลับมาทวงบัลลังก์เจ้าพ่อหนังแอ็คชั่นของเฮียวิลลิส อีกครั้งหนึ่งหลังจากที่หนังของเขาในระยะหลังๆจะแป๊กซะเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น 16 Blocks (2006) หรือ Hostage (2005) หนัง Die Hard ภาคล่าสุดนี้ใช้เวลานานถึง 12 ปีเลยทีเดียว หลังจากภาค 3 ที่ชื่อ Die Hard with a Vengeance (1997) ออกฉาย เชื่อว่าแฟนๆเก่าของหนัง Die Hard บางคนอาจจะลืมเลือนไปแล้ว สำหรับตัวผมเองภาคที่ประทับใจที่สุดคงไม่พ้น Die Hard ภาคแรก ที่ออกฉายในปี 1988 นับว่าเป็นหนังแอ็คชั่นที่ทำออกมาได้ดีที่สุดในช่วงนั้นเลยทีเดียว ผมเองจำได้ว่าไปดูหนังเรื่องนี้ที่เซ็นทรัล ลาดพร้าว ดูไปลุ้นไปกับพระเอก คอยเอาใจช่วยให้พระเอกหนีรอดจากการตามล่าของเหล่าร้าย ปวดฉี่ก็ปวดแต่ไม่อยากลุกไปไหน กลัวพลาดตอนสำคัญ ถึงขนาดนั้นเลยทีเดียว






ผมมีเกร็ดเล็กๆน้อยๆ ของภาพยนตร์ชุดนี้ ที่รวบรวมมาจากหนังสือ และ เว็บไซด์ต่างๆ นำมาลงให้ชาว Bloggang ได้อ่านกันประดับความรู้ครับ อาจจะเรียกได้ว่านำมาอ่านให้รกสมองเล่นๆก็ได้ครับ ซึ่งผมพอจะรวบรวมออกมาได้ประมาณ 10 ข้อ จะมีเรื่องอะไรบ้าง ครับเชิญทัศนากันได้เลย......






1. ภาพยนตร์เรื่อง Die Hard ดัดแปลงมาจากนิยายอาชญากรรมของ รอเดอริค ธอร์ป เรื่อง Nothing Lasts Forever โดยในเนื้อเรื่องเดิมเป็น บริษัทน้ำมัน ถูกดัดแปลงใหม่โดยเปลี่ยนเป็น บริษัทนากาโตมิ ของญี่ปุ่น และตัวละครเอก นักสืบ โจ ลีแลนด์ ก็กลายเป็น นายตำรวจนิวยอร์ก จอห์น แม็คเคลน






2. ตึกนากาโตมิพลาซ่า ที่เห็นในหนังสูง 34 ชั้น จริงๆแล้วคือตึก ฟ็อกซ์พลาซ่า และปัจจุบันเป็นสำนักงานใหญ่ของFOX






3. อาวุธคู่กายของ จอห์น แม็คเคลน ก็คือ ปืนบาเรตต้า M 92 และ ปัจจุบันหันมาใช้ปืนสั้นกึ่งออโตเมติก เบเรตต้า Px4 แต่ที่เห็นบ่อยๆ ในหนัง Die Hard ทุกภาคก็คือ พี่แม็คเคลนชอบเก็บปืนกลของศัตรู มาเป็นอาวุธคู่กายเสริมอยู่บ่อยๆ กรณีที่ปืนตัวเองกระสุนหมด






4. หนัง Die Hard 2 : Die Harder ได้นิยายเรื่อง 58 Minutes ของวอลเตอร์ แวเกอร์ นำมาดัดแปลง นิยายเรื่องนี้ว่าด้วยเรื่องของนายตำรวจที่พยายามยับยั้งการยึดสนามบินของผู้ก่อการร้าย โดยมีเวลา 58 นาทีก่อนเครื่องบินที่ภรรยาของเขาโดยสารมาจะดิ่งพสุธา เนื่องจากน้ำมันหมด (เงื่อนไขเวลาถูกยืดเป็น 90 นาทีในหนัง)






5. จริงๆแล้ว วิลลิส ได้บท จอห์น แม็คเคลน มาแบบส้มหล่นเพราะ อาร์โนลด์ ชวาร์ชเนกเกอร์, ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน, ริชาร์ด เกียร์ และ เบิร์ต เรโนลด์ ต่างพากันปฏิเสธบทนี้ทั้งหมด






6. ใน Die Hard with a Vengeance ฉบับที่เราได้ชมในโรงภาพยนตร์ ตอนท้ายเรื่อง แม็คเคลนจัดการสอยเฮลิคอปเตอร์ของไซม่อนจนระเบิดเป็นจุล แต่แท้ที่จริงแล้ว ยังมีตอนจบอีกแบบถูกถ่ายไว้แล้ว ก่อนจะโดนสั่งระงับกลางคัน ด้วยความที่มันโหดเหี้ยมเกินไป ในเวอร์ชั่นดังกล่าว แผนการของไซม่อนสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี และเขาก็หนีไปเสวยสุขอยู่ในประเทศอื่น จนอีกหลายเดือนต่อมา แม็คเคลนก็ตามไปเจอตัวแล้ว บังคับให้เล่นเกมส์ "McClane Says" แบบรัสเซียนลูเล็ต ให้ไซมอนตอบคำถาม โดยมีปืนยิงจรวดขนาดเล็กคอยหมุนเปลี่ยนด้านไปเรื่อยๆ เพื่อนๆ สามารถเข้าไปชมตอนจบอีกแบบได้ที่ "Die Hard with a Vengeance - Alternate Ending" ถ้าคิดว่าเน็ตแรงพอล่ะก็ คลิ๊กได้เลยครับ






7. เดิมทีหนังภาค 4 จะใช้ชื่อว่า Die Hard 4.0 เพื่อให้เข้ากับเนื้อหาสุดแสนไฮเทค แต่สุดท้ายทาง FOX ก็ประกาศเป็นทางการว่าในอเมริกาหนังจะใช้ชื่อ Live Free or Die Hard ซึ่งเล่นกับสำบัดสำนวนของคำขวัญรัฐนิวแฮมเชียร์ "Live Free or Die" (ตายเสียดีกว่า ถ้าไม่ได้อยู่อย่างเสรี) แต่จะยังคงใช้ Die Hard 4.0 สำหรับการฉายในหลายประเทศ เนื่องจากกลัวว่าคอหนังนอกอเมริกาจะไม่เข้าใจที่มาของชื่อ Live Free or Die Hard นั่นเอง






8. เดิมทีชื่อของ เจสสิก้า ซิมพ์สัน, บริทนี่ย์ สเปียร์ส และ ปารีส ฮิลตัน เคยถูกนำมาโยงกับบท ลูซี่ แม็คเคลน ลูกสาวของจอห์น แม็คเคลน แต่สุดท้ายก็เป็นแค่ข่าวลือ และบทนี้ก็ตกเป็นของ แมรี่ เอลิซาเบท วินสเตด จาก Final Destination 3






9. บทคู่หูอย่าง ซุส คาร์เวอร์ (ซามวล แอล.แจ็คสัน) ใน Die Hard with a Vengeance เคยถูกปฏิเสธโดย ลอว์เรนซ์ ฟิชเบิร์น และพอเขาเกิดเปลี่ยนใจก็สายเกินไปเสียแล้ว เมื่อซามวล แอล แจ็คสัน ไม่รีรอที่จะเซ็นสัญญาตัดหน้าไปเสียก่อน จนกลายเป็นหนังเรื่องแรกที่เขาได้แสดงร่วมกันกับ บรู๊ซ วิลลิส ก่อนจะมาเจอกันอีกครั้งใน Unbreakable (2000) ของ เอ็ม ไนท์ ชามาลาน

และเชื่อหรือไม่ว่าบทดั้งเดิมของ Die Hard with a Vengeance ถูกเขียนขึ้นเพื่อใช้เป็นภาค 4 ของหนังคู่หูตำรวจ ริกก์ คนมหากาฬ (Lethal Weapon 4) ก่อนจะถูกนำมาดัดแปลงเข้ากับ Die Hard ในที่สุด









10. เดิมที บทแฮกเกอร์หนุ่มที่แม็คเคลนจะต้องหอบกระเตงไปตลอดภาค 4 นั้น เคยถูกวางไว้ว่าจะเป็น จอห์น แม็คเคลน จูเนียร์ ลูกชายแท้ๆของเขา ก่อนที่ปมครอบครัวจะโยงใยกันวุ่นวายไปหมด ผู้เขียนบท มาร์ค บอมแบค จึงตัดสินใจเปลี่ยนตัวละครใหม่แกะกล่อง "แม็ตต์ ฟอสเตอร์"




http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=jasonsjung&group=4












ความเห็น

[1]


(ID:6708)
ตายจริง เฮียถึกเรา เล่นตั้งกะภาคแรก แค่หน้าผากสูงเฉยๆ จนภาค 4 โป๊งเหน่งไปซะแล้ว หุหุหุ

ข้อ 9 มานึกดูดีๆแล้ว เออ จริงแฮะ เข้าเค้าเหมือนกัน



(ID:6711)
เพิ่มเติมข้อมูลให้อีกหน่อย
        หนัง DIE HARD ภาค 3 แค้นได้ก็ตายยาก เนี่ยสร้างโดย บริษัท ซินเนอร์ยี่ ของนายแอนดรู วาจนา ที่เคยเป็นผู้ก่อตั้ง บ.คารอลโค้ ผู้สร้างหนังดังๆมาหลายเรื่อง อาทิ
คนเหล็ก ภาค 2 , Show Girl (ที่ออกมาฉายแล้วเจ๊งละเอียดรูดมหาราช), คัตโทรดไอซ์แลนด์(ชื่อไทย ผ่าขุมทรัพย์ทะเลเดือด ที่ผู้กำกับ แฮรี่ ฮาร์ลิน พยายามดันเมียตัวเองคือ จีน่า  เดวิส(ตอนนั้น)ให้มารับบทนำหญิงของเรื่อง ผลออกมาเจ๊งยับอีกเรื่อง จนทำให้บ.คารอลโค้ไปไม่รอดยุติกิจการลงในที่สุด)
        บ.ซินเนอร์ยี่ ของแอนดรู วาจนาไปดึงตัว จอห์น  แม๊คเทียร์แนน ผู้กำกับจาก die hard จากภาคแรกให้กลับมากำกับภาค 3 (หลังจากที่ภาค 2  แฮรี่  แฮมลินทำหน้าที่กำกับ)และนำ
บทภาพยนตร์Simon'Say(เป็นหนังที่เกี่ยวกับการโทรศัพท์ป่วนเมืองของวายร้ายที่ชื่อไซม่อน)
มาทำการดัดแปลงพล๊อตของหนังเป็น die hard 3 ซะโดยโยงให้ ไซมอน กรูเบอร์เป็นพี่ชายของ ฮันน์  กรูเบอร์ (ที่รับบทโดย อลัน ริคแมน ดาราอังกฤษที่รับบทหัวหน้าตัวร้าย ใน die hard ภาคแรก) ส่วนไซมอน กรูเบอร์ รับบทโดย เจเรมี่ ไลออนส์ ดาราสมทบมากฝีมือ  ที่ตามพล๊อตเรื่องแล้ว ไซม่อน ต้องการที่จะมาคิดบัญชี แม๊คเคลน แก้แค้นแทนน้องชายที่ตายไปในภาคแรกพร้อมๆกับปล้น
ทองในธนาคารกลางของรัฐไปด้วย
       หนังเรื่องนี้ถูกซื้อมาฉายในเมืองไทยโดย เอแพ๊กซ์ โดยคุณวิวัฒน์  ตันสัจจา ที่ทำสัญญาซื้อขายโดยตรงกับ บ.ซินเนอร์ยี่ ไม่ได้ซื้อผ่านบ.เมเจอร์ผู้จัดจำหน่ายทั่วโลก
อย่าง บ.ฟ๊อกซ์ และให้เสียงพากย์โดยการดึงเอานักพากย์หลายๆท่านเข้ามาให้เสียงไทย
หนึ่งในนั้นคือ คุณโต๊ะ พันธมิตรที่ตอนนั้นยังไม่มีชื่อเสียงโด่งดังเหมือนทุกวันนี้ รับหน้าที่พากย์เสียงพระเอก จอห์น  แม๊คเคลน
        โดยมีคนฉายหนังเรื่องนี้(ใครกันน้อ...ฮิฮิ)ยืนยันและนอนยันว่าชัวร์ไม่มั่วนิ่ม..ไม่เมาเบียร์เด็ดๆ
คิกคิก...ดูหนังเรื่องนี้ทีไร..นึกถึงพี่นิ..แห่งสมบูรณ์ภาพยนตร์อุดรธานีทู๊กทีซิน่า...อิอิ




(ID:6712)

สงสัยอยู่อย่างเดียวครับ สิบสองปีที่แล้วที่ภาคแรกฉาย โรงหนังที่เซ็นทรัลลาดพร้าวชื่อโรงว่าอะไรครับ มีท่านใดทราบบ้างครับ รบกวนด้วยนะครับ




(ID:6713)
-ช้อมูลดีจริงๆครับ



(ID:6987)

        โห! คุณจาทีเอ นอกจากจะเก่งเรื่องเครื่องฉาย DIGITAL แล้ว ยังรู้เกร็ดหนังเกี่ยวกับเบื้องหลังที่ละเอียดอย่างนี้ สุดยอดครับ




(ID:7018)











Movie Inside Star wars

นำมาฝากให้แฟนเว็บเพื่อนคนรักหนังกันอีกนะครับ





 













รับปากกันไว้ ว่าจะนำเรื่องราวที่คุณไม่เคยรู้(หรือบางคนอาจรู้แล้วก็ได้) ของหนัง Star Wars มาเล่าสู่กันฟัง เอาเป็นว่าอ่านไว้ประดับความรู้ก่อนเข้าไปดู Episode III ก็ดีครับ อาจจะดูเข้าใจมากขึ้นก็เป็นได้



ก่อนอื่นเรามาดูภาพแผนผังด้านบนกันครับ นี่คึอแผนผังเกี่ยวกับตัวละครหลักๆ ตั้งแต่ Episode I จนถึง Episode VI เลยครับ โดยแบ่งเป็นซีกซ้ายและขวา หรือด้านผู้ร้ายกับพระเอก ก็คงไม่ผิดนัก จะเห็นว่า รูปของดาร์ธ เวเดอร์ส และ อนาคิน สกายวอร์คเกอร์ จะอยู่ตรงกึ่งกลางของภาพเปรียบเสมือน มี2 ด้านอยู่ในตัวบุคคลเดียว ส่วนคนอื่นใครเป็นใครเชิญทัศนากันตามสะดวกครับ













รูปนี้ผมชอบมากๆครับ แบ่งออกเป็นด้าน Jedi และ Sith อย่างชัดเจน โดยมีรูปใบหน้าของ อนาคิน สกายวอร์คเกอร์และ ดาร์ธ เวเดอร์ส อยู่กลางภาพอย่างละซีกใบหน้า ซึ่งบ่งบอกความหมายของภาคนี้(Episode III)ได้เป็นอย่างดี







เอาล่ะครับมาเข้าเรื่องกันดีกว่า ผมไปค้นหาข้อมูลที่น่าสนใจ หลายๆอย่างเกี่ยวกับหนังชุดนี้มาสนองแฟนๆ Star Wars จากนิตยสารหลายฉบับ โดยจะคัดมาแค่บางส่วนเท่านั้น ขอเริ่มจากตัวเอกของเรื่องเลยละกันครับ















- ชื่อ ดาร์ธ เวเดอร์ (Darth Vader) มาจากการผสมคำว่า เดธ วอเทอร์ (Death Water) กับ ดาร์ค ฟาเธอร์ (Dark Father) อืมม..พระเจ้าจอร์จ มันยอดมากเลยชื่อนี้
- นอกจากนี้ลูคัส เคยตั้งใจจะให้ ดาร์ธ เวเดอร์ เป็นแค่นักล่าเงินรางวัลคนหนึ่ง แต่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลง เขาจึงนำคาแรคเตอร์ดังกล่าว ไปสร้างเป็นตัวละคร โบบ้า เฟ็ทท์ ใน Episode V แทน
- ชุดของดาร์ธ เวเดอร์ เป็นการผสมผสานชุดของสิงห์มอเตอร์ไซด์(ไม่ใช่วิน หน้าปากซอยนะ), เสื้อคลุมของพระในสมัยกลาง(ยุคมืด), หน้ากากกันแก๊สพิษ และหมวกของพวกนาซีเข้าไว้ด้วยกัน














- ชื่อเดิมของ ลุค สกายวอร์คเกอร์ที่ลูคัสตั้งไว้คือ ลุค ดาร์คไลท์เตอร์ และ ลุค สตาร์คิลเลอร์










- ลูคัส ได้ไอเดียของตัวละครชิวแบคก้ามาจากหมาขนยาวตัวหนึ่งของภรรยาชื่อ อินเดียน่า ซึ่งชอบมานั่งหน้ารถหมือนเป็นผูช่วย (แต่เสียงร้องเอมาจากหมี-สิงโต-ช้างน้ำและอูฐ) และภายหลังเขายังได้นำชื่อมันไปตั้งเป็นชื่อพระเอกหนังเรื่อง Raiders of the Lost Ark (1981) ที่ผู้ชมรู้จักกันดี...อินเดียน่า โจนส์









- ชื่อ "โยดา" มาจากภาษาสันสกฤต หมายถึง "นักรบ"
- แม้ โยดา ใน Episode I - III จะเป็นตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นจากคอมพิวเตอร์ แต่โยดาใน Episode V และ VI เป็นการใช้หุ่นชัก และให้เสียงพากย์โดยนักเชิดหุ่นฝีมือดี แฟรงค์ อ๊อซ
- การเชิดหุ่นโยดา จะใช้ผู้ช่วยอีก 2 คน เพื่อให้การเคลื่อนไหวที่ซับซ้อน มีความคล่องตัวและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน














- จักรพรรดิ์พัลพาทีนที่ปรากฏตัวเป็นครั้งแรกใน Episode V นี้ ผู้แสดงเป็นหญิงชราที่ถูกจับมาโปะเมคอัพหนาเตอะเข้าไป โดยมี คลิฟ เรวิลล์ เป็นผู้ให้เสียง ไม่ใช่ เอียน แม็คเดียร์มิด ที่สวมบทจักรพรรดิ์ใน Episode VI - Return of the Jedi และกลับมารับบทวุฒิสมาชิกพัลพาทีนอีกครั้ง ใน Episode I - III
(หมายเหตุ - ลูคัส ตัดสินใจให้ เอียนฯ มาแต่งหน้าเป็นจักรพรรดิ์ พัลพาทีนอีกครั้งเพื่อนำภาพที่ถ่ายทำใหม่ มาตัดต่อทับภาพเดิมในฉบับ Special Edition -DVD)







 







- อเล็ค กินเนสส์ เกือบจะไม่ได้มาแสดงเป็น โอบี-วัน เคโนบี ใน Episode V - The Empire Strikes Back เพราะเพิ่งไปผ่าตัดดวงตามา















- ชื่อ"แพดเม่" นำมาจากคำภาษาสันสกฤตที่แปลว่า "ดอกบัว"
- นาตาลี พอร์ตแมน มีปัญหาระหว่างการถ่ายทำไม่น้อย เพราะอยู่ในช่วงกำลังโตเป็นสาว เมื่อถ่าย Episode II ไปได้ครึ่งเรื่อง ลูคัสพบว่า เสียงของพอร์ตแมนเปลี่ยนไป จนต้องไปปรับเสียงในแล็บ และลงเสียงใหม่บางส่วน อีกทั้งลูคัสยังอยากให้เสียงของแพดเม่ และองค์หญิงอมิดาลา แตกต่างกันเล็กน้อย ก็ต้องนำเสียงไปปรับแก้กันอีกรอบ





 









เป็นยังไงกันบ้างครับ สาวก Star Wars ทุกท่านที่ได้ชม Revenge of the Sith ชอบภาคนี้กันมากน้อยแค่ไหนเอ่ย แต่ที่แน่ๆ ในอเมริกา หนังทำลายสถิติเปิดตัวสูงสุดตลอดกาลไปเรียบร้อยแล้ว โดยล่าสุดหนังทำรายรับเปิดตัว 4 วันไปประมาณ 158.5 ล้านเหรียญ ลบสถิติเดิมของ The Matrix Reloaded ไปเรียบร้อย โรงเรียนเจได นับได้ว่าเป็นรายรับที่สูงเอามากๆเลยทีเดียว

วันนี้มาว่ากันต่อเกี่ยวกับ เกร็ด Star Wars ที่คุณอาจยังไม่เคยรู้ดีกว่านะครับ ยังมีอีกหลายเรื่องเลยทีเดียว อ้อ..บอกไว้ก่อน บางเรื่องในที่นี้ เกี่ยวข้องกับ เนื้อเรื่องใน Episode III จึงอาจมี Spoiled (เฉลยเรื่องในหนัง) ใครที่ยังไม่ได้ดู อาจอ่านข้ามไปได้ครับ.....










- ก่อนหน้าที่ แฮริสัน ฟอร์ด จะมารับบทเป็น ฮาน โซโล จนมีชื่อเสียงโด่งดังจนถึงทุกวันนี้ จอร์จ ลูคัส เคยคิดที่จะให้ฮาน โซโล แสดงโดยนักแสดงผิวดำ ดังนั้นนักแสดงผิวสีมากมาย รวมทั้งนักดนตรีก็เข้ามารับการทดสอบ แต่ในท้ายที่สุด ลูคัส ก็เปลี่ยนใจ (เฮ้อ..โชคดีที่เปลี่ยนใจนะ จอร์จ!!)
- ในตอนคิดเรื่องใหม่ๆ ฮาน โซโล ต้นฉบับคือปีศาจตัวสีเขียวและมีจมูกงอ โดยมีนิสัยใจคอ นำมาจากเพื่อนของเขาที่ชื่อ ฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปล่า











- ในตอนคิดเรื่อง ลูคัสคิดตัวละครลุงและป้า ของลุค สกายวอร์คเกอร์เป็นคนแคระ






- แครี ฟิชเชอร์ คิดหนักเมื่อต้องลดน้ำหนักอย่างมากในการรับบท เจ้าหญิงลีอา แต่ในท้ายที่สุด ลูคัส ก็ปล่อยให้เธอแสดงตามสบายกาย











- ใน Episode VI ลูคัสใช้ชื่อตอนว่า Revenge of the Jedi แถมมีการพิมพ์ใบปิด Teaser หนังออกมาแล้วด้วย แต่ในท้ายที่สุดลูคัสก็เปลี่ยนใจและใช้ชื่อตอนว่า Return of the Jedi แทนเพราะคำว่า Return(ชัยชนะ) ดูจะเหมาะสมกับเหล่าเจได มากกว่าคำว่า Revenge ที่แปลว่า ล้างแค้น ซึ่งถูกนำมาใช้ใน Episode III จนได้








- โอบีวัน เป็นคนที่ไม่ชอบการบินเอามากๆ เขาจึงมักปล่อยให้เป็นหน้าที่ของดรอยด์ประจำยานมากกว่า ถ้าไม่เชื่อลองดูในตอนต้นเรื่องของ Episode III ก็ได้ครับ











- อันนี้ขอ Spoiled เล็กน้อยนะครับ ใครที่ยังไม่ได้ดู Episode III ข้ามไปก่อนก้ได้ อันเนื่องมาจาก R2-D2 และ C-3PO เป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดตั้งแต่ Episode I ฉะนั้น วุฒิสมาชิก เบลล์ ออร์กานา ต้องสั่งให้นำ C-3PO ไปลบความทรงจำทั้งหมดทิ้งเพื่อปกป้องที่อยู่ของโอบีวันและโยดา ไม่ให้ฝ่ายจักรวรรดิล่วงรู้ และเพื่อเป็นการซ่อนตัวทายาทของอนาคิน สกายวอร์คเกอร์ให้พ้นหูพ้นตาขององค์จักรพรรดิด้วย ดังนั้นจึงมีเพียง R2-D2 ตัวเดียวที่ยังคงมีความทรงจำอันแสนเศร้าครั้งนี้เก็บไว้ในตัวมันอย่างไม่อาจลืมได้








- General Grievous ปรากฏตัวต่อเหล่าเจไดครั้งแรกในสมรภูมิบนดาว Hypori ด้วยร่างกายที่เป็นจักรกลทั่วทั้งตัว ยกเว้นส่วนดวงตา ที่ส่วนหัวได้มีการฝังโปรแกรมวิธีการต่อสู้ของเจไดไว้ในสมอง จึงทำให้สามารถต่อสู้กับอัศวินเจไดได้อย่างสบายๆ เขาได้รับการฝึกต่อสู้จาก Darth Tyranus ซึ่งมันมากพอที่จะล้มเจไดลงได้ และกรีวัสก็เริ่มสะสมดาบไลท์เซเบอร์ของอัศวินเจได ที่มันเอาชนะมาได้ ซึ่งดูเหมือนว่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่มีวันหยุดเสียด้วย (ถ้าไม่มาเจอ ลูกผู้ชายตัวจริง อย่างเจได โอบีวัน เคโนบี เสียก่อน ฮิฮิ)











- Revenge of the Sith เป็นหนัง Star Wars ภาคเดียวที่ได้เรตหนัง PG -13 แทนที่จะเป็นเรต PG เหมือนกับภาคก่อนๆ ซึ่งลูคัส ให้สัมภาษณ์ว่า เขาเองตั้งใจที่จะให้หนังได้เรต PG-13 อยู่แล้ว ด้วยเหตุที่หนังภาคนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของตัวละครที่เคยเป็นฮีโร่ ไปสู่การเป็นดาร์ธ เวเดอร์ ผู้ชั่วร้าย และการกระทำที่ชั่วร้ายต่างๆของเขา ไม่เหมาะสำหรับเด็กๆ 5-6 ขวบเป็นแน่แท้






 





- ลูคัส ให้คำนิยามของคำว่า "Sith" หมายถึง คนที่คิดถึงแต่ตัวเอง และเห็นแก่ตัว มีคนแบบนี้มากมาย แต่เพราะว่าพวกเขาถูกชักนำด้วยพลังและความทะเยอทะยาน พวกเขาเลยฆ่ากันตายเอง ตอนนี้เลยเหลือแค่ 2 คือ มาสเตอร์และลูกศิษย์ นอกจากนี้ Sith ยังทำสิ่งต่างๆ ด้วยความเชื่อมั่นในความโลภ พวกเขาใช้ความรู้สึกดิบๆ ไม่ว่าจะเป็นความเกลียด, ความโกรธ, ความขมขื่น ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นด้านมืดของพลังทั้งนั้น พลังเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวให้แกแล๊คซี่คงอยู่ด้วยกัน มันมีทั้งด้านดีและด้านเลว Sith เรียนรู้ที่จัดการกับทั้งสองด้านของพลัง แต่แล้วเขาก็ตกไปในหลุมพลางของด้านมืด













- หากใครสังเกตให้ดีๆ จะพบว่า ในฉากประชุมสภาแห่งสาธารณรัฐ ใน Episode I จะมีเผ่าพันธ์ของเจ้า E.T. คอยาวๆ มาโผล่ในฉากกับเขาด้วย ซึ่งลูคัส แกแอบเอามาใส่ในหนัง โดยได้รับการอนุญาตจากเพื่อนซี้ สปิลเบิร์ก เรียบร้อยแล้ว






เล็กๆ น้อยๆที่คุณยังไม่รู้ของผู้กำกับ จอร์จ ลูคัส











- ลูคัส ร่วมแสดงใน Episode III - Revenge of the Sith ด้วย ในบท Baron Papanoida (โผล่มาตอนไหน ลองไปหาดูในโรงกันเองนะครับ ผมเองยังหาไม่เจอเลย)
- ใน Episode II ฉากภายในที่ประชุมวุฒิสภาแห่ง สาธารณรัฐ ช่วยสังเกตกันให้หน่อยว่า มีใครเห็นชายหนุ่มผมหยิก ไว้เครา พุงพลุ้ย ใส่เสื้อผ้าเหมือนมนุษย์โลกในยุคปัจจุบัน แถมยังสวมนาฬิกาข้อมือบ้างหรือเปล่า เพราะนั่นก็คือ พ่อยอดขมองอิ่ม ลูคัส เชียวนะ (สงสัยต้องกลับไปเปิด DVD ดูอีกรอบ ไม่รู้พี่จอร์จแกแอบไปซ่อนตัวอยู่ตรงไหน)
- เมื่อสมัย Star Wars Episode IV เสร็จสมบูรณ์และออกฉาย ลูคัสกลัวเหลือเกินว่าหนังจะเจ๊งอย่างที่ใครๆพูดกัน ในวันที่เปิดตัวครั้งแรก เขาตั้งใจว่าจะหนีไปให้ไกลคนจากสตูดิโอ เขากับภรรยาหลบไปนั่งในคาเฟ่แห่งหนึ่ง และได้เห้นฝูงชนมากมายมาชุมนุมกันที่ถนน ก่อนที่ทั้งคู่จะตกตะลึง เมื่อได้รู้ว่า ผู้คนเหล่านั้นกำลังออกันอยู่หน้าโรงหนัง เพื่อเข้าคิวดูหนังของเขานั่นเอง !!!!


http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=jasonsjung&month=05-2005&date=24&group=4&gblog=2













เลือกหน้า
[1]
จำนวนหัวข้อทั้งหมด 6

กลับขึ้นข้างบน / กลับหน้าแรก

ค้นกระดานข่าว:


ถูกเปิด: ถูกคลิ๊กแล้ว: 116962565 ตอนนี้มีผู้เข้าชม : 1 ล่าสุด :Carrra , นนท์ , RobertMIGH , Bryantoxymn , Jerekioxgew , ProlBlask , Sallycgriet , BrianerpGep , AnthonykDraib , Kristenmswony ,