Mobile Version / สำหรับโทรศัพท์มือถือ ยินดีต้อนรับท่านผู้มาเยือน www.peoplecine.com ท่านยังไม่ได้ log in นะครับ
^
^
ถ้าเป็นในเฟซ จะกระหน่ำไลค์ให้ท่วมเลยสิเอ้า โดนใจเหลือเกินครับ ^^
ยอมรับเถอะ - โลกของความฝันvsโลกแห่งความเป็นจริง มันมักไม่ค่อยเข้ามาซ้อนทับกันได้ง่ายๆหรอก
ขนาดของผมเอง ทำให้ดีให้ตายแค่ใหน แต่ตลาดก็มีอยู่แค่นี้ (ลูกค้าประจำไม่กี่เจ้า) โอกาสจะขยายให้ใหญ่โตกว่านี้แทบไม่มี
นอกจากจะแตกแขนงงานออกไปอีก=เหนื่อยหนักมากขึ้น ความเสี่ียงมากขึ้น
ทุกวันนี้ผมก็ต้องจำกัดการลงทุนไปโดยปริยาย หลักพันน่ะพอได้ หลักหมื่นมีคิดหนัก
หลักแสน?ง่ายครับ ไม่ต้องคิดเลย "No" คำเดียว จบ...
ยังไงๆก็ต้องกอดงานประจำไว้ให้ดีก่อน ถึงแม้ว่าจะเป็นงานที่ผมเกลียด ship หายก็เถอะ --"
(ID:181048)
อ่าน2กระทู้ที่มาให้กำลังใจ สมการ X=Y การกระทำสิ่งใดๆมักนำไปสู่ผลลัพธ์นั้นๆ คงต้องยอมรับระหว่างสิ่งที่ชอบกับสิ่งที่ใช่ที่ถูกต้องกับเวลาและสถานการณ์ เดิมที่เราถูกสร้างมาให้ขยันจะได้มีผลลัพธ์มากขึ้น แต่พอมีGOOGLE รู้สึกความขยันจะไม่ค่อยได้ใช้ เราอยากรู้อนาคตเราให้เราดูรุ่นพี่ที่ทำงานก่อนเราสัก5-10ปีที่เหมือนเรา ผมทำหนังมาเกือบ20 ปีเห็นผลลัพธ์นี้บ้างแล้วครับ งานประจำคืองานที่สร้างรายได้หลักของเราอันนี้ผมเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับและที่สำคัญคือครอบครัว ถ้าคนไหนคิดจะทำหน่วยก็อย่าทำให้ครอบครัวเดือดร้อน สมัยก่อนผมเริ่มทำหนังปี39 มี3หน่วยหลังเลิกงานก็จะวิ่งแห่โฆษณาหาล้อมผ้าโดยสมัยนั้นจะเน้นหนังแปลกๆซึ่งเป็นหนังเก่าประเภท ช้างเพื่อนแก้ว งูเก็งกอง แม่บ้านผมซึ่งเป็นครูเหมือนกันก็จะมีหน้าที่ไปเก็บเงินขายตั๋ว ดูแลหน่วยช่วย สัก4-5 ทุ่มก็กลับบ้าน เงินเดือนครูตอนนั้น 6,360 บาทบวก2คนก็หมื่นกว่าบาท เช้าก็ไปทำงานปกติครับ ที่สำนักงานก็เป็นลูกน้องรับงาน ตอนเที่ยงเราก็ออกมากินข้าวที่ร้านเพื่อจะวางแผนให้เด็กๆออกหน่วยไปก่อน เสาร์-อาทิตย์ เราก็ไปเรียนต่อปริญญาโทที่ขอนแก่น ระยะทางไปกลับอำเภอสีชมพูที่ผมอยู่กับจังหวัดขอนแก่นเกือบ 240 กม.ปี 2540-41 ถือว่ากิจการหนังกลางแปลงดีมาก ทั้ง อั๊งยี่/บางระจัน ทำเงินพอสมควร สังเกตจากรถ6ล้อ รถปิ๊กอัพ หมดงวด ปี42 ผมกับภรรยาจบป.โท ทั้ง2 คน จากน้ำพักนำแรงของการทำหนัง การทำงานเราพยายามมองอย่างVISION จะได้ถูกกระแส ประมาณปี48กระแสหนังกลางแปลงลดลง เราก็หันมาทำจ๊อบเพิ่ม คือการทำกิจการร้านวังเพิ่มโลงทอง คนที่ทำก็คือลูกน้องเก่าๆที่เรารักเขาเหมือนน้อง(ลูกน้องประมาณ10คน)แต่ละคนไม่ได้จ้างเป็นเงินเดือน จ้างเป็นงานแต่มีข้าวเลี้ยงทุกวัน ปี 49 เราตัดสินใจขายหน่วยโดยขายให้กับลูกน้องบ้างคนอื่นบ้าง เพราะตอนนั้นผมจะต้องไปรับตำแหน่งใหม่รองผู้อำนวยการโรงเรียน หลายคนบอกว่าเราเจ๊งจากการทำหนัง ถ้าคนที่รู้จักครอบครัวเราจะรู้ดีเงินที่ขายรถหน่วยก็กลายมาเป็นหอพักข้างมหาลัยขอนแก่นหน้าวัดอดุลยารามทุกวันนี้ ปัจจุบันหน่วยของเราคงอยู่เพราะน้องๆทุกคนยังไม่หนีไปไหนยังใช้ชื่อ อาร์ตโปรโมชั่นทีม เหมือนเดิม และที่สำคัญปี2012 ป๋าจาทีเอ ก็ให้วิชาเรามามากพอสมควรในการเปิดกระแสดิจิตอล พอมาปีนี้2014 กระแสดิจิตอลมาแรงมากแต่ผมขออยู่เบื้องหลัง (2ปีที่แล้วเราทำมาก่อนแล้ว)เพราะอะไร? มวยใหญ่เขารู้ดี หาปลาต้องหาก่อนใคร ฝันของเราต้องรักษาไว้แต่ต้องให้ตรงกระแส ทำงานที่อยากทำไม่ใช่ทำงานที่ต้องทำ ลองอ่านหนังสือเหนื่อยชั่วคราว สบายชั่วโคตร แล้วจะรู้ว่า จะต้องทำXอะไรเพื่อให้ได้Yแล้วนำเอาผลลัพธ์นั้น มาต่อเติมฝันของเราต่อไป อยากรู้กระแสโลกลองไปดู คุณ พอลเซ่นบิวเซอร์
(ID:181135)
ดูจอหนังของครูอาร์ตแปลกดีครับมีหลอดไฟติดรอบจอหนังแล้วเวลาฉายปิดไฟมั๊ยครับ...
เลือกหน้า [1]
จำนวนหัวข้อทั้งหมด 11
ถูกเปิด: ถูกคลิ๊กแล้ว: 116947768
ตอนนี้มีผู้เข้าชม : 1 ล่าสุด :ProlBlask , Robbsf , Jamesfap , RobertMIGH , LavillKer , Maciedetpailt , BobbyHOm , Sallycgriet , CarolyncJuh , แสบ chumphon ,