เพิ่งกลับมาจากการบันทึกภาพแบบสดๆ ร้อนๆ มาได้ชั่วโมงเศษ แต่ตอนนี้ เชิญชมภาพเรียกน้ำย่อย 4 ภาพแรก ก่อนที่จะทยอยนำเสนอในโอกาสต่อๆ ไป

ภาพที่เห็นอาจทำให้เกิดความสงสัยว่า ทำไมมาตั้งจอซะมืดค่ำขนาดนี้..

ความจริงแล้ว ทางหน่วยฯ เค้าติดตั้งอุปกรณ์เสร็จเรียบร้อย ซึ่งเริ่มตั้งแต่ช่วงบ่ายๆ และมาเสร็จก็ประมาณเกือบ 5 โมงเย็น จากนั้นก็ลองแสงพร้อมที่จะฉายได้เลย แต่แล้ว..ก็ต้องย้ายที่ตั้งจออย่างกะทันหัน ซึ่งผมเองก็ออกแรงช่วยขนของเล็กๆ น้อยๆ เท่าที่จะทำได้ และรายการสุดท้ายก็คือ การย้ายนั่งร้านโครงจอที่เหลือ 2 แถวล่าง (หลังจากที่ถอด 2 แถวบนออกไปแล้ว) โดยจะต้องยกไปพร้อมกันทีเดียว ซึ่งก็ต้องลงแรงไปพร้อมกับทั้งทีมงานด้วย หลังจากนั้นก็เริ่มติดตั้งกันต่อ ก็เลยได้ภาพออกมาอย่างที่เห็นนี่แหละครับ

@ หนุ่ย : ถ้ายุคนั้นใช่ครับ แต่เนื่องจากสถานการณ์ของหนังกลางแปลงเปลี่ยนแปลงไป นับตั้งแต่ "ธนา" เข้ามาบุกตลาด ประมาณปี พ.ศ. 2530 กลางๆ ลากยาวไปถึงช่วงฟองสบู่แตก และปัจจุบัน ก็เลยเป็นแบบนี้

ในขณะที่กำลังผูกจอยังไม่เสร็จ ก็เริ่มเช็คเสียง และระบบแสง (รอบใหม่) กันต่อเลย และเมื่อทราบว่าจะมีการย้ายจอ ก็เลยต้องกลับไปบ้านอีกรอบ เพื่อไปเอาเลนส์ใน KOWA ขนาด 4 นิ้ว ซึ่งเป็นหนึ่งในเลนส์ที่แจกโดยสมาชิกนามว่า Trilux เมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว มาทดสอบลองฉายดู (ทั้งๆ ที่เจ้าตัวแจ้งว่า มันอมแสง ไม่เหมาะที่จะเอามาฉายกลางแปลง แต่ถ้าฉายภายในบ้านก็โอเคอยู่)

เท่านั้นยังไม่พอ เอาตัวอย่างหนังเก่าที่เป็นแบบสโคป มาต่ออีก 5 เรื่อง สำหรับฉายเพื่อตั้งแสงโดยเฉพาะ รวมกับตัวอย่างที่จัดฉายตามปกติอีก รวมกันแล้วก็ครึ่งชั่วโมง และนับตั้งแต่งานนี้เป็นต้นไป จะนำตัวอย่างที่มีอยู่กว่านับร้อยเรื่องมาสลับเวียนฉาย เพราะในอนาคตหลังต่อไป คงต้องฉายหนังตัวอย่างผ่านเครื่องโปรเจคเตอร์แน่นอน แต่ฟิล์ม 35 ม.ม. ก็ไม่ทิ้งครับ ไล่เก็บไปจนกว่าจะไม่มีฟิล์มเพื่อทำก็อบปี้ออกฉายแล้วนั่นแหละ (ตอนนี้โรงซีนีเพล็กซ์ ติดตั้งเครื่องฉายดิจิตอลคู่ขนานกับระบบฟิล์ม หรือแทนที่ระบบฟิล์มไปเลยก็มี ส่วนคนดู...รับเละ กับราคาตั๋วหนังที่ขึ้นแบบตามอำเภอใจ)

ว่าแล้วก็ฉายกันเลยครับ ภาพที่ฉายจากเลนส์ใน ซึ่งก็คมชัดอยู่หรอก (ทั้งๆ ที่แมวก็ฝากรอยขนไว้เพียบ) แต่ก็รู้สึกได้ว่ามันอมแสงจริงๆ ครับ ทั้งจากการฉายตัวอย่าง และตัวหนังเรื่องแรก ซึ่งเป็นแบบสโคป

พอจบหนังตัวอย่างสำหรับตั้งแสงจบลง ก็เริ่มฉายหนังตัวอย่างฉบับจริงต่อกันเลย เริ่มด้วยโฆษณาเก่า แต่บุคคลในนั้นเพิ่งจะเป็นข่าว (เกาะกระแสสักหน่อย)

@ popeye เคยถามแล้วเค้าเขียนขึ้นมาใหม่ครับ ที่สำคัญวันที่มาฉายทั้ง 2 วันนี้ จริงๆ แล้ว ทางหน่วยเค้ารับงานปิดทองฝังลูกนิมิตวัดท่าล้อ อ. เมือง จ. นครสวรรค์ ไว้ด้วย งานเริ่มตั้งแต่ 31 ธันวาคม ปีที่แล้ว ไปจบวันที่ 8 มกราคม พอมาถึงงานนี้ก็ยังหวั่นๆ สงสัยต้องส่งตัวแทนเป็นแน่ (ก็คงเป็น "พลอยฟิล์ม" จากอำเภอท่าตะโก) สรุปแล้ว ทางหน่วยมาเองเลย และให้อีกเจ้าหนึ่งไปฉายแทน สำหรับงานต่อไปก็คือ "ตรุษจีนนครสวรรค์" ซึ่งเริ่มวันที่ 16 - 27 มกราคมนี้ครับ (กะลังติดตามดูอยู่ ดู "นักร้อง" นะครับ 555 ปีที่แล้วยังไม่เข็ด แต่ปีนี้ดีหน่อยไปจัดตรงบนถนนริมน้ำ ไม่ใช่บริเวณหาดทรายริมน้ำ)

ตัวอย่างหนังจีนชวนน่าสงสัย ได้มาจาก "พรสมัยฟิล์ม" เมื่อปีก่อน เพราะไม่มีชื่อเรื่องบอกไว้ในตอนท้าย ตอนนี้กระจ่างแล้ว

หนังเรื่องนี้ เคยดูมาแล้วครับ ทั้งในแบบ "ดิจิตอล 3D เสียงซาวด์แทรค" และแบบ "เสียงไทย 3 มิติ" ซึ่งเป็นแบบ ซึ่งดูใน กทม. ทั้งคู่ และเป็นหนังที่มียอดเช่าจากบริการหนังกลางแปลงมากที่สุดเช่นกัน (เพราะอะไรนั้น น่าจะมีคำตอบในใจ) ผลก็คือ สภาพฟิล์มก็เลยมีทั้งเส้นฝน รอยขีดข่วน และรอยช้ำจากซีนอน แล้วตอนฉาย ปลายม้วน 2 หนังขาดครับ

สังเกตจากตัวฟิล์มอีกอย่างหนึ่ง ม้วน 2 นี้ไม่มีเส้นซาวด์ SDDS (ซึ่งระบบนี้ เลิกใช้ไปแล้ว) แต่ม้วนอื่นมีหมดครับ

คืนแรกก็ผ่านไปได้ด้วยดีครับ กว่าจะจบเรื่องนี้ก็ตีหนึ่งกว่าๆ แถมยังเผลอลืมเลนส์ใน ให้ "จุ๊ยเจริญฯ" ซะแล้ว

สำหรับคืนวันนี้ (5 มกราคม) ก็ยังมีอีก 2 เรื่อง คือ "RED คนอึดต้องกลับมาอึด" กับ "เท่งโหน่งจีวรบิน" และเมื่อสักครู่นี้ก็ได้รับโทรศัพท์จากสมาชิกนามว่า "โกโบริ" ซึ่งก็จะนำภาพยนตร์ไทยในรูปแบบฟิล์ม 16 ม.ม. เสียงในฟิล์ม มาฉายอีก 2 เรื่อง หนึ่งในนั้นก็มี "ขยี้มือปืน" เรื่องหนึ่งล่ะ

ตายละหว่า โพสต๋ไปโพสต์มาก็บ่ายสองเข้าไปแล้ว ยังไม่ได้ถอดตัวอย่างหนังที่ฉายเมื่อคืนออกเลย ต้องขอตัวก่อนครับ

คุณป๊อบอาย ไปดูหนังจุ้ยเจริญ ที่ไหนมาครับ  จุ้ยเจริญของแท้ต้อง กางเกงสีขาวครับกับหมวก

@ ท่านป๊อบอาย : ตัวอย่าง "ซาโตอิจิ ไอ้บอดซามูไร" ได้มาจากคุณป๊อบ ธวัชชัย เมื่อปีก่อนโน้นครับ มีความยาวนิดเดียว น่าจะไม่ถึง 30 วิ กระมัง

ส่วนภาพที่เห็นนั้น เกิดจากแฟลชสะท้อนครับ เพราะกล้องคอมแพ็คตัวนี้ พยายามใช้ทุกโหมดที่ถ่ายภาพกลางคืนก็แล้ว ถ่ายโดยไม่ใช้แฟลชก็แล้ว บางทีก็ดี บางทีก็มัว การแก้ปัญหาเบื้องต้นก็คือ ถ่ายเป็นคลิปวิดีโอสั้นๆ จับเฉพาะบางตอน ซึ่งมันเป็นไฟล์ avi ครับ แล้วค่อยมาแคปเจอร์อีกที แต่ความละเอียดของวิดีโอ แค่ 640 x 480 เท่านั้นเอง ดูได้จาก 4 ภาพสุดท้ายของ "อีนางเอ๊ยเขยฝรั่ง"  (ถ้าให้ชัวร์เลยคือไฮเดฟ 1080 น่าจะเวิร์กกว่านี้)

ถ้าจะให้ดีที่สุดต้อง DSLR (ที่ไม่ใช่ DSLR Like) แบบที่เฮียแอ๊ดถ่ายนั่นแหละครับ เพราะชัตเตอร์สปีดสูงพอที่จะถ่ายภาพจากจอหนังได้โดยไม่ต้องใช้แฟลช

ส่วนตัวเลนส์ในนั้น ก็อมแสงจริงๆ แหละครับ สรุป...ไว้ใช้ฉายภายในบ้านก็พอล่ะครับ รอหัวฉายเท่านั้นเอง

@ หนุ่ย & jaw : สัญลักษณ์ด้านเครื่องแต่งกาย เมื่อก่อนไม่ได้สังเกตครับ เอาแต่ดูหนังอย่างเดียว

ข่าวร้าย :  หนังที่ "จุ๊ยเจริญฯ" เคยซื้อไว้นับร้อยเรื่อง เมื่อคราวเป็น "สายหนัง" ตอนนี้โละออกไปหมดแล้วครับ ทั้งฟิล์มธรรมดาที่หมดสภาพจากอาการน้ำส้มสายชู และที่กำลังจะไป รวมไปถึงฟิล์มทองด้วย เพื่อเอาไปสกัดเฉพาะผลึกเกลือเงิน เพื่อมาทำเครื่องประดับนั่นแหละครับ ราคาที่ขายไปนั้นแค่ 20 พันเท่านั้นเอง โดยต้องใช้รถบรรทุกสิบล้อขนไปในคราวเดียวถึง 3 คัน T_T

ก่อนหน้านั้นทางหน่วยก็เคยเอารายชื่อหนังจากบริการนี้มาฝากให้ผมเพื่อช่วยประกาศขายเหมือนกันครับ แต่เกรงว่าจะโดนสมาชิกเฉ่งกลับมา ก็เลยไม่โพสต์ แต่แจกให้เฉพาะสมาชิกบางท่านไปครับ ตอนนี้ต้องไปค้นดูก่อนว่ายังเก็บไว้หรือเปล่า (ที่แน่ๆ มีตกหล่นด้วย อาศัยจากความจำด้วยส่วนหนึ่ง เดี๋ยวให้จบกระทู้นี้ก่อน ค่อยไปโพสต์รายชื่อหนังที่ว่านี้ต่อท้าย)

คืนวันนี้ขอพักการนำเสนอไว้ก่อน วันนี้กลับถึงบ้านตอน 5 ทุ่มครึ่ง แต่ยังไม่ได้เลือกภาพ ขอพักผ่อนก่อนครับ