เมื่อปีที่แล้ว เจ้าของบริการ "ลูกหมูภาพยนตร์" เคยโพสต์ข้อความเชิญผมไปชมการจัดฉายภาพยนตร์ ณ สถานที่ดังกล่าว แต่เนื่องจากตอนนั้นผมติดเรื่องงานประจำที่ทำอยู่ ก็เลยจำต้องเลื่อนไปก่อน

กระทั่งเดือนมกราคมปีนี้ หลังจากที่ผมทราบข่าวเกี่ยวกับงานตรุษจีนนครสวรรค์ พร้อมกับมีความตั้งใจที่จะเที่ยวและบันทึกภาพมาฝากให้สมาชิกได้ชมกัน ปรากฏว่า ก่อนวันที่ผมจะไปงานตรุษจีนนครสวรรค์นั้น ก็มีโอกาสได้ไปเที่ยววัดพระธาตุผาแก้ว ซึ่งตั้งอยู่ที่ อ. เขาค้อ จ. เพชรบูรณ์ ซึ่งระหว่างที่รถตู้คณะเดินทางมาเติมปั๊มแก๊ส NGV ที่ อ. วังทอง จ. พิษณุโลกนั้น ก็ผ่านบริเวณทางเข้าของวัดนี้ด้วย แต่สิ่งที่ผมให้ความสนใจ นั่นคือ คอนเสิร์ตลูกทุ่งของศิลปินที่ผมชื่นชอบ ซึ่งเป็นคิวต่อเนื่องของพวกเธอที่ต่อจากงานตรุษจีนนครสวรรค์ ร่วมครึ่งเดือน แต่อย่างว่า โอกาสนั้นมีค่าเป็นศูนย์ เพราะผมกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปก่อนแล้ว

กระทั่งเมื่อผมออกจากงานตรุษจีนนครสวรรค์ ตามหลังนักร้องที่มาร่วมงานซึ่งกลับไปแล้วก่อนหน้าหลายชั่วโมง ระหว่างรอขึ้นรถไฟกลับบ้าน ก็นึกแว่บถึงเรื่องข้อความที่บริการ "ลูกหมูภาพยนตร์" เคยโพสต์ไว้ตอนนั้น ทำเอาคืนนั้นไม่ได้หลับไม่ได้นอน เพราะอยากให้ถึงตอนเช้าเร็วๆ จะได้เข้าบ้าน และเปิดอินเตอร์เน็ตเพื่อสืบหาข้อมูลดังกล่าว จนในที่สุดก็ค้นหาจนเจอ เลยโทรศัพท์ไปสอบถาม

ระหว่างที่แจ้งความประสงค์ว่าจะไปชมภาพยนตร์ของบริการนี้ โดยระบุวันที่ที่จะไป ปรากฏว่าท่านยินดีที่จะให้ผมได้เข้าชมการจัดฉายภาพยนตร์กลางแปลงด้วย

และแล้วเหมือนมีเหตุที่ทำให้ผมต้องไปก่อนหน้าวันที่ 16 ก.พ. 1 วัน ก็เพราะวันนั้น มีงานศาลเจ้าที่ อ. บางมูลนาก จ. พิจิตร ประกอบกับในตอนค่ำ มีคอนเสิร์ตลูกทุ่งของค่ายอาร์สยาม (ซึ่งนักร้องคนละคนกัน เพิ่งจะมีผลงานเพลงได้ไม่มากนัก) ก็เลยจำต้องแวะที่นั่นก่อน

กระทั่งเช้าวันที่ 16 ก.พ. ก็ได้เข้าตัวเมืองนครสวรรค์ เพื่อไปรอที่ออฟฟิศสายหนังของ "ธนาเอ็นเตอร์เทนเมนท์" ตั้งแต่เช้า กว่าเจ้าของหน่วยจะมาถึงก็ประมาณ 11 นาฬิกา หลังจากนั้นก็นำฟิล์มภาพยนตร์ที่เช่าไปฉายใส่กระบะท้ายรถ รวมทั้งหนังตัวอย่างใหม่ๆ 2 เรื่อง หนึ่งในนั้นก็คือ "เป้ท่าทราย" ดังภาพประกอบ

กว่าจะไปถึงบริเวณวัดเขาสมอแคลง อ. วังทอง จ. พิษณุโลก ก็ปาเข้าไปร่วมๆ บ่ายสองกว่า อากาศก็ร้อนอบอ้าว ในใจก็กลัวฝนตกเหมือนกัน เพราะก่อนหน้านั้นก็มีฝนตกเล็กน้อยในที่ต่างๆ

สำหรับในงานนี้เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 - 20 ก.พ. ในงานก็มีมหรสพ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์จากบริการ "ลูกหมูภาพยนตร์" ซึ่งผูกขาดกับงานนี้มาโดยตลอด และเป็นการฉายแบบโต้รุ่ง ซึ่งหาดูยากมากในเขตภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน (ส่วนใหญ่จะเป็นทางภาคอีสานมากกว่า) และยังมีคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง ลิเก รำวงย้อนยุค รวมไปถึงสวนสนุกต่างๆ อีกทั้งมีร้านค้าในงานมากทีเดียว

ประเดิมเรื่องแรกด้วย THE KARATE KID หนังยาว 7 ม้วน ตอนที่ถ่ายภาพนี้เป็นม้วนจบแล้ว

เรื่องที่ 3 "ท้าชน" (Fireball) วันนี้เพิ่งได้ดูแบบเต็มๆ เพราะก่อนหน้านั้นเคยดูจาก "จุ้ยเจริญฯ" ช่วงกลางๆ เรื่อง อีกอย่างหนึ่ง ผมไม่ค่อยถูกโฉลกกับหนังแนวนี้สักเท่าไหร่ คราวก่อนก็เคยเกิดความรู้สึกแบบนี้กับหนังเรื่อง "พันธุ์เอ็กซ์ เด็กสุดขั้ว"

แต่เนื่องจากหนังเรื่องนี้ได้รับการกล่าวถึงในหนังสือ "เอ็นเตอร์เทน ฉบับพิเศษ ย้อนเวลา 300 หนังไทย ในรอบ 40 ปี" ก็เลยต้องพิสูจน์กันสักหน่อย

เกิดอะไรขึ้นกับซับไตเติ้ลภาษาอังกฤษ อยู่ๆ ก็จมหายไปใต้จอ เจ้าของบอกว่า เพิ่งได้เซ็นจูรี่มาไม่นาน และตัวเครื่องก็กำลังปรับปรุงอยู่ ฉายๆ ไป ได้ยินเสียงแกรกๆ ดังในเครื่องเป็นระยะๆ แล้วฟิล์มก็ไหลเลื่อนลง ผลก็คือ "ซับหาย" ก็เลยฉายมันอย่างนั้นแหละ และใบตัดแสงก็ยังไม่ได้ปรับตั้งให้ได้ที่ ภาพก็เลยออกฟุ้ง

ยอมรับว่าตั้งแต่มีหัวข้อเกี่ยวกับความนิ่งของภาพขึ้นมา ผมก็เริ่มจับผิดเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้กับจออื่นๆ ไปทั่ว แต่จากการประเมินให้คะแนนตามมาตรฐานของผมกับ 2 บริการในครั้งที่ผ่านมา (ก็อยู่ในเว็บเรานี่แหละ) ผมให้ 9.5 คะแนนทั้งคู่ครับ ถ้าเครื่องนี้ได้ปรับปรุงอีกสักหน่อย ก็คงจะได้ 9.5 เช่นกัน

เรื่องที่ 4 ซึ่งเป็นเรื่องสุดท้าย นั่นคือเรื่อง "ห้าแถว" ช่วงนี้คนดูเหลือน้อยมาก และก็หายไปหมดก่อนหนังจะจบเรื่อง กะว่าจะฉายเรื่อง "สามชุก" เป็นการปิดท้าย แต่ในที่สุดก็ต้องจบลงแค่เรื่องนี้ ในเวลาตีสี่ครึ่ง

ช่วงนี้ผมก็เริ่มเตรียมเดินทางกลับ จนกระทั่งประมาณตี 5 กว่าๆ ผมก็มาถึงสถานีรถไฟพิษณุโลกเพื่อเดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ ต้องขอบคุณบริการ "ลูกหมูภาพยนตร์" อีกครั้งที่ให้ผมได้เดินทางมาสัมผัสกับบรรยากาศแบบนี้ โอกาสหน้าได้คงได้ไปเยี่ยมเยียนกันอีกครับ

ตรงข้ามออฟฟิศของธนา มีร้านก๋วยเตี๋ยวลิ้นวัวอร่อยมากเลยครับ

ผมพึ่งกลับมาจากดูพี่หมูฉายหนังที่วัดเขาสมอแครงครับ วันนี้ฉายเรื่องแรก เรื่อง เกรียนโครต มหาประลัย "Kick-Ass" เรื่องสอง บุปผาราตรี 3.1 แสงเค้าดีจริงครับแต่ต้องปรับใบพัดตัดแสงอีกนิดหน่อยอย่างที่ครูนุกล่าว ผมดูได้เรื่องเดียวก็ขอตัวลาพี่หมูกลับเพราะพรุ่งนี้มีงานเช้า แต่พรุ่งนี้เย็นๆ จะแวะเข้าไปชมอีกครับ น่าเสียดายไม่ได้เจอครูนุเพราะไม่ทราบข่าวว่าครูนุจะมาที่พิษณุโลก จะได้พาไปหาอะไรอร่อยๆแถวในเมืองกินกัน

ชุดฉายสุดยอดคับ