สวัสดีสมาชิกชาวไทยซีนทุกท่านนะคะ และขอฝากเนื้อฝากตัวกับสมาชิกทุกท่านนะคะ ดิฉันชื่อ พิรุณรัตน์ (แฟนคุณโอค่ะ)

ฝากมาจากคุณโอ เทพมงคลค่ะ ตอนนี้ทีมงานทุกคนกำลัง มุ่งมั่นกับการฉายรูปเงาในประเทศลาว คาดว่าจะเสร็จงานแล้วกลับสู่เมืองไทย ในกลางเดือนมิ.ย.นี้ ค่ะ

เป็นงานร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 55 ปี พรรคปฎิวัติประชาชนลาว และเป็นงานรำลึกถึงวีรกรรมกอบกู้เอกราชอันยิ่งใหญ่ของท่านไกรสร พรมวิหาร (ครบรอบ 90 ปี) อดีตผู้นำลาวคนสำคัญ งานนี้ถือเป็นเกียรติอย่างสูงในชีวิตการทำงานของทีมงานเทพมงคล ภาพยนตร์ ขอนแก่น ที่มีโอกาสได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาลลาว ร่วมกับกรมรูปเงากระทรวงแถลงข่าวและวัฒนธรรม ส.ป.ป.ลาว(กรมรูปเงาคือหน่วยงานของรัฐที่ควบคุมจัดฉายสื่อทุกประเภทในลาว)  โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมคือ พณ ท่าน"หมุนแก้ว ออละบุน" และงานนี้มีผู้สนับสนุนรายใหญ่ในการจัดงานครั้งนี้คือบริษัท ลาวเทเลคอม LAO TELECOM ผู้นำระบบมาตรฐาน 3G แห่งประเทศลาว(ถ้าเป็นฝั่งไทยก็ประมาณ AIS นี่แหละ) แต่ที่พิเศษคือเค้าเป็นผู้บุกเบิกระบบ 3G ในลาวมากว่า 2 ปีแล้ว ซึ่งบ้านเรายังไปไม่ถึงไหนกันเลย ตอนนี้คนลาวเค้าโทรศัพท์แบบเห็นหน้ากันในระบบ 3g กันทั่วลาวแล้ว นอกจากนี้ยังให้บริการแบบ Video call และ hi speed internet ผ่านระบบโทรศัพท์มือถือ ในราคาที่ใครๆ ก็มีใช้ได้ วันนี้ก็ฝากนำเสนอภาพบรรยากาศ งานที่ผ่านมาวันที่ 1-2 เมษายน 53 ที่เมืองปากซัน แขวงบอลิคำไซ ประเทศลาวก่อนค่ะ

งานนี้เดินทางจากขอนแก่นไปหนองคายเข้าเวียงจันแล้วตีขึ้นไปบอลิคำไซ ระยะทางทั้งหมด 490 กม

งานนี้นอกจากได้รับการติดต่อจากรัฐบาลลาวแล้วยังได้รับการอำนวยความสะดวกในการจัดฉายหนังกลางแปลงนี้อย่างถูกต้องตามกฏหมายของประเทศลาวจากกรมรูปเงากระทรวงแถลงข่าวและวัฒนธรรม ส.ป.ป.ลาว ซึงคำว่าหนังกลางแปลงประเทศลาวเค้าเรียกว่าการฉายรูปเงา

งานนนี้ผ่านการเข้าไปทำกิจกรรมอย่างถูกต้องทุกอย่างผ่านกรมศุลกากรทั้งฝั่งไทยและฝั่งลาว ผ่านด่านตม.ที่สะพานไทยลาวที่จังหวัดหนองคาย

เมื่อเสร็จสิ้นด้านเอกสารทุกอย่างก็มุ่งหน้าข้ามสะพานมิตรภาพสู่ประเทศลาวกันเลย งานนี้มีทีมงานจากฝั่งไทยไปทั้งหมด 5 คน

งานนี้นำทีมโดยคุณโอ เทพมงคล ค่ะ (งานนี้ไม่ได้ไปด้วยค่ะ ได้แต่คอยส่งกำลังใจให้อยู่ที่ฝั่งไทย)

เมื่อเข้ามาแล้วก็ไปรายงานตัวที่ศุลกากรและด่านตรวจคนเข้าเมืองที่ฝั่งลาว งานนนี้ทีมงานทุกคนทำ Passpot กันทุกคน เพราะสามารถอยู่ในลาวได้ 30 วัน

งานนี้ต้องปรับตัวอย่างมากเลย เพราะฝั่งลาวเค้าย้ายมาขับเลนฝั่งขวา จากขอนแก่นถึงบอลิคำไซใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 2 วัน เพราะหนทางในประเทศลาวนั้นไม่ค่อยดี ทางก็แคบแถมไม่ค่อยราบรื่นเหมือนบ้านเรา

ทีมงานพักที่โรงแรมพัก 1 คืนจากนั้นวันรุ่งขึ้นก็เริ่มตั้งจอ ที่เดิ่นตลาดอินโดจีนเมืองปากซัน แขวงบอลิคำไซ ประเทศลาว

วันนี้หนังกลางแปลงจากไทย จะมาเสนอฉายรูปเงาให้พี่น้องชาวเมืองปากซันได้ชมกัน งานนี้ฉายหนังแค่เรื่องเดียวคือ สบายดีหลวงพระบาง ไปตลอดทุกงาน เป็นก๊อปปี้ที่ใช้ฉายในประเทศลาว เช่าฟิล์มมาจากบริษัท LAO ART ซึงเป็นผู้ร่วมสร้างและเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เรื่องนี้ อย่างถูกต้องตามเอกสารของกรมรูปเงา ของกระทรวงวัฒนธรรมลาว

ลงจอแบบมินิเธียร์เตอร์ โค้งเรดาร์ 16 เมตร จากทีมงานซูปเปอร์จิ๋วเทพมงคล ภาพยนตร์ ขอนแก่น

งานนี้มีผู้สนับสนุนหลักคือบริษัท ลาวเทเลคอมค่ะ

ขอบคุณระบบเสียงมิวสิคซาวด์ ผู้สนับสนุนจากฝั่งไทย

ปรื MX604 ของมิวสิคซาวด์รุ่นใหม่แต่งมาเพื่อรองรับสัญญาณหนังซาวด์แดงโดยเฉพาะ

ขอนอกเรื่องนิดนึง ที่เมืองปากซัน บรรยากาศดีมาก เป็นกันเองดี ภาษาลาวก็เว่าคล้ายๆกัน แต่ก็มีบางคำที่ใช้ไม่เหมือนกัน ก็ต้องปรับตัวกันไป ตัวเมืองดูสงบราบเรียบ

อีกภาพเป็นสะพานน้ำซันอันเป็นต้นกำเนิดตำนานเพลง กุหลาบปากซันอันโด่งดัง

งานนี้ได้รับเกียรติจากกรมรูปเงากระทรวงแถลงข่าวและวัฒนธรรม ส.ป.ป.ลาว โดยมีคุณพ่อเฉลียง นักพากย์เบอร์ 1 ของกระทรวงวัฒนธรรมลาว (ถ้าใครชอบดูหนังเคเบิลทีวีช่อง ลาวสตาร์ หนังทุกเรื่องจะเป็นเสียงของคุณพ่อเฉลียง อดีตนักพากย์มากประสบการณ์จากโรงภาพยนตร์ชั้นนำในเวียงจันทร์เช่น โรงภาพยนตร์ บัวสะหวัน / ลาวเจริญ / โอเดียน ซึ่งเป็นโรงหนังของลาวในยุคนั้น นับได้ว่าเป็นบุคคลสำคัญของประเทศลาว  เมื่อคนทำหนังจาก 2 ฝั่งไทยลาวได้มีโอกาสมาเจอกันงานนี้คุณโอเลยถือโอกาสขอฝากตัวเป็นลูกรักของพ่อเฉลียง โดยหวังว่าเมื่อกลับมาลาวอีกครั้ง ก็จะได้มีผู้หลักผู้ใหญ่ที่เราได้รู้จักกันในฝั่งลาว และก็สัญญาว่าถ้าพ่อเฉลียงมาเที่ยวฝั่งไทยก็จะทำหน้าที่เป็นผู้ต้อนรับที่ดีเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีคุณแม่ขันธรีย์ นักพากย์ฝ่ายหญิง เบอร์ 1 ของกระทรวงวัฒนธรรมลาวอีกคน ที่ให้เกียรติมาร่วมงานในครั้งนี้ (ได้ฝากตัวเป็นลูกรักอีกแล้ว) ไม่ว่าตัวละครในหนังจะมีกี่ตัว มีกี่ เสียง แต่เพียง 2 คนนี้ให้เสียงภาษาลาวได้ครบทุกคนเลย สุดยอดพรสวรรค์ด้านเสียงจริงๆ

จากนั้นก็มีการแจกรางวัลของบริษัลาวเทเลคอมก่อนฉายหนังเรื่องสบายดีหลวงพะบาง

เมื่อถึงเวลาเปิดงานแล้วก็ไม่รอช้า คุณพ่อเฉลียงและคุณแมขันธรีย์ มือถือไมค์ไฟล่องบท ลงเสียงประกาศเรียกคนดูอย่างมาดมั่นครับ บรรยากาศแบบนั้นบอกได้เลยว่าตื้นตันสุดๆ ยิ่งเห็นคนดูเยอะ เห็นแล้วหายเหนื่อยเลย

และที่ต้องพากย์เสียงเป็นภาษาลาวสดๆเพราะต้องการให้คนดูได้เห็น ว่าการพากย์สดๆมันดูมีสีสันกับการฉายในสมัยก่อนอย่างยิ่ง และช่วยให้เด็กๆและคนรุ่นใหม่ได้เข้าถึงบรรยากาศที่หาชมยาก และไม่บ่อยนักที่จะมีกิจกรรมอย่างนี้ นี่คือความใส่ใจจากกรมรูปเงา กระทรวงแถลงข่าวและวัฒนธรรม

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ บริษัท ลาวเทเลคอม ผู้สนับสนุนรายใหญ่ของทีมงานเทพมงคล

ขอบคุณ บริษัท Lao Art เจ้าของลิขสิทธ์ ภาพยนตร์เรื่อง สบายดีหลวงพะบาง

ขอบคุณ กรมรูปเงากระทรวงแถลงข่าวและวัฒนธรรม สปป.ลาว

ขอบคุณมิตรรักแฟนชมพี่น้องชาวลาวทุกท่านอีกครั้ง

สุดยอดจริงๆๆ ครับ ขอคารวะให้ครับ คนดูแน่นขนัด ทราบมาว่า คนดูหลักหมื่นคน เป็นไปได้ไหงครับ อัศจรรย์จริง ๆๆ อยากให้ภาพนี้ เกิดขึ้นในเมืองไทยบ้างครับ