เมเจอร์-เอสเอฟ แข่งทุ่มทุนเปลี่ยนเทคโนโลยี สู้ศึกโรงหนังดิจิตอล  ล่าสุด เมเจอร์ เทอีกกว่า 200 ล้าน สร้างโรง "เรียล ดี 3 มิติ" เพิ่มประสิทธิภาพการชม พร้อมระบบเสียง 4 Way ประเดิม 11 โรงดิจิตอลพารากอน ด้านเอส เอฟ อัดอีก 500 ล้าน ผนึกโซนี่ เปลี่ยนระบบฉาย สู่ "ดิจิตอล ซีเนม่า 4เค" เพิ่มความคมชัดภาพ ตั้งเป้าเปิดครบ 100 โรงปีหน้า
   นายวิชา พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์  กรุ้ป จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทใช้งบลงทุนอีกกว่า 200 ล้านบาท เพิ่มประสิทธิภาพโรงภาพยนตร์ระบบดิจิตอล ด้วยเครื่องฉาย เอ็นอีซี ดีแอลพี 4เค ซึ่งใช้เทคโนโลยีระบบ เรียล ดี(Real D) 3 มิติ เทคโนโลยีสูงสุดของระบบดิจิตอล 3 มิติ เข้า ใช้ในโรงภาพยนตร์เครือเมเจอร์ที่เป็นแฟล็กชิพ โดยเริ่มต้นที่สยาม พารากอนทั้ง 11 โรง ซึ่งขณะนี้ปรับเปลี่ยนเสร็จเรียบร้อยแล้ว 2 โรง และจะแล้วเสร็จทั้ง 11 โรงก่อนสิ้นปีนี้
   "ปกติการปรับเปลี่ยนเครื่องฉายต่อโรง ใช้งบประมาณ 4-5 ล้านบาท แต่สำหรับระบบใหม่ เรียล ดี 3 มิติ จะใช้งบเพิ่มอีก 2.5 เท่า คือจะใช้งบลงทุนต่อโรงประมาณ 12.5 ล้านบาท หรือประมาณ 200 ล้านบาท ในจำนวนโรงดิจิตอลของสาขาพารากอนทั้งหมด 11 โรง" นายวิชากล่าวและว่า จะดำเนินการเปลี่ยนระบบการฉายของโรงดิจิตอลให้เป็น เรียล ดี ในโรงที่เป็นแฟล็กชิพเท่านั้น อาทิ สาขารัชโยธิน รัชดาภิเษก และเอกมัย เนื่องจากต้นทุนของระบบใหม่นี้ค่อนข้างสูง
   สำหรับระบบเรียล ดี ถือเป็นระบบดิจิตอลที่มีประสิทธิภาพสูงสุด จากระบบฉายดิจิตอล ที่มี 3 ระบบหลักๆ คือ มาสเตอร์อิมเมจ ดอลบี้ และ เรียล ดี ซึ่งจะให้ปริมาณแสงหรือความสว่างมากถึง 27% ขณะที่ดอลบี้ให้ปริมาณแสงประมาณ 12% นอกจากนี้ บริษัทยังปรับเปลี่ยนระบบเสียง เป็นระบบ 4 Way ที่เพิ่มมิติของเสียงทั่วทิศทางมากขึ้น รวมทั้งยังมีแผนเปลี่ยนขนาดจอให้ใหญ่เต็มพื้นที่ทุกโรง เพื่อเพิ่มอรรถรสในการชม ซึ่งจะมีการทยอยลงทุนต่อเนื่อง
   การปรับเปลี่ยนโรงภาพยนตร์จากระบบฟิล์ม มาเป็นระบบดิจิตอลเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับภาพยนตร์ ทำให้คนออกมาชมภาพยนตร์มากขึ้น นอกเหนือจากการช่วยประหยัดต้นทุนด้านฟิล์ม ซึ่งสามารถประหยัดไปได้ 4-5 ล้านบาทต่อเรื่อง สำหรับค่าก๊อบปี้ฟิล์ม ซึ่งในส่วนนี้ทางผู้ผลิตภาพยนตร์ ที่ได้ประโยชน์เพิ่มจากการลดต้นทุน และการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ชม จะมีส่วนช่วยในการสนับสนุนด้านเงินทุน (subsidize)เครื่องฉายส่วนหนึ่ง ตามโปรแกรม The Virtual Print Fee (VPF) ซึ่งเป็นระบบที่ใช้กันทั่วโลกสำหรับการลงทุนโรงภาพยนตร์ระบบดิจิตอล เนื่องจากเจ้าของภาพยนตร์ได้รับประโยชน์จากการปรับเปลี่ยนระบบฉายสู่ดิจิตอลด้วย
   อย่างไรก็ตาม การปรับเปลี่ยนโรงภาพยนตร์สู่ระบบดิจิตอล มีส่วนในการผลักดันให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์ขยายตัว หากแต่ไม่สามารถประเมินเป็นมูลค่าเพิ่มที่เกิดขึ้นเป็นตัวเลขได้ชัดเจน นอกจากราคาตั๋วที่ปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 10-12% แล้ว ยังมีมูลค่าของปริมาณการเข้าชมที่เพิ่มขึ้น และต้นทุนการผลิตฟิล์มที่หายไปด้วย แต่ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งอาจประเมินได้จากการเติบโตของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ซึ่งปีนี้มีแนวโน้มเติบโตไม่น้อยกว่า 20-25% จากตลาดรวม 5,000 ล้านบาท
   นายสุวิทย์ ทองร่มโพธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส เอฟ ซีเนม่า ซิตี้ฯ เปิดเผยว่า ใช้งบลงทุนประมาณ 500 ล้านบาท ปรับปรุงโรงภาพยนตร์ให้เป็นระบบดิจิตอล ทั้งหมด 100 โรงภายในปี 2555 จากปัจจุบัน เอส เอฟ มีโรงภาพยนตร์ระบบดิจิตอล 22 โรง และจะเพิ่มอีก 25 โรงในปีนี้ เป็นระบบโซนี่ ดิจิตอล ซีเนม่า 4เค ที่ให้ความละเอียดและคุณภาพภาพที่คมชัดสูง 4เค และยังรองรับภาพยนตร์ที่ส่วนใหญ่ภาพยนตร์ฮอลลีวูด ผลิตเป็นระบบดิจิตอลเกือบทั้งหมดแล้ว ขณะนี้เข้าฉายในประเทศไทยมีประมาณ 30 เรื่อง จากจำนวนที่เข้าฉายทั้งหมด 250 เรื่องต่อปี
                พร้อมกันนี้ เอสเอฟมีแผนร่วมมือกับโซนี่ นำคอนเทนต์ใหม่ๆ เข้ามาบริการในโรงภาพยนตร์มากขึ้น เช่น คอนเสิร์ต กิจกรรมต่าง ๆ ที่โซนี่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ ซึ่งในอนาคตมองว่าเป็นโอกาสในการขยายธุรกิจส่วนนี้เพิ่มขึ้น สำหรับเครือเอส เอฟ คาดว่าถึงสิ้นปีรายได้จะเติบโตไม่น้อยกว่า 20% หรือมีรายได้จากการจำหน่ายบัตรชมภาพยนตร์ราว 1,500 ล้านบาท โดยไตรมาสสุดท้าย จะเปิดโรงภาพยนตร์ใหม่ อีก 2 แห่ง คือ เทอร์มินอล 21และเซ็นทรัล พระราม 9 รวม 19 โรง จากปัจจุบันมี 192 โรง 

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,675   2 - 5  ตุลาคม พ.ศ. 2554