Mobile Version / สำหรับโทรศัพท์มือถือ ยินดีต้อนรับท่านผู้มาเยือน www.peoplecine.com ท่านยังไม่ได้ log in นะครับ เข้าใช้งานระบบ / สมัครสมาชิก/ ลืมรหัสผ่าน

ประธานกรรมการ :ปวีณ เขื่อนแก้ว
เวบมาสเตอร์:อนุกูล วิมูลศักดิ์ 084-819-7374,095-308-6840


= ภายใน24ชั่วโมง , = ภายใน 3 วัน = ทั่วไป , = คลาส2 , = คลาส3 ,
รูป
ย้อนอดีตวันหวานยังหวานอยู่เจ้าของ อ่าน ตอบ ผู้ตอบหลังสุด
-"ศรินทิพย์"ดาราผู้สาบสูญ 84201.. 10/9/2555 13:06
-หลิงชิงเสีย คืนวงการ45610ยังไม่มีคนตอบ
-ราเยส คานนา ดาวดังบอลลีวูดพระเอกช้างเพื่อนแก้ว เสียชีวิตแล้ว75852.. 19/7/2555 9:31
-'ดาวร้าย' หายเข้ากลีบเมฆ67881.. 18/7/2555 15:32
-"เติ้งชุ่ยเหวิน" นางเอกตัวแม่แห่งทีวีบี / หมิงซิงคลับ46800ยังไม่มีคนตอบ
-อาลัยยอดนักแสดง ?เออเนสต์ บอร์กไน? (1917-2012)45680ยังไม่มีคนตอบ
-เล่อตี้ ความงามแห่งยุคสมัย67825.. 6/7/2555 8:05
-องเหม่ยหลิง..76318.. 5/6/2555 15:40
-รวมภาพเก่าๆของนางเอกหนังจีนยุค 7050031.. 18/5/2555 9:15
-ดารานักบู๊ความทรงจำในอดีต ลักษณ์ อภิชาติ80064.. 8/5/2555 1:00
-เตียวเสี้ยนแห่งชอว์ บารเดอร์ส36310ยังไม่มีคนตอบ
-ย้อนรอย "ชอว์บราเดอร์" ในวันที่ "รัน รัน ชอว์" เกษียณอายุ48230ยังไม่มีคนตอบ
-ศ่าล มิตร ชัญบัญชา24881.. 6/4/2555 3:58
-รำลึกมิตร ชัยบัญชากับคุณเอ็ม เฉลิมกรุง27833.. 6/4/2555 3:51
-หลินปอ ดาราหญิงที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งในยุค 2274613.. 24/2/2555 6:07
-อาลัยป้าจุ๊ 75144.. 26/1/2555 15:23
เลือกหน้า
[<<] [20]
จำนวนหัวข้อทั้งหมด 317

(ID:12664) 'ดาวร้าย' หายเข้ากลีบเมฆ


'ดาวร้าย' หายเข้ากลีบเมฆ

ใส่กางเกงยีนส์ขาดๆ คาบไม้จิ้มฟันไว้ที่มุมปาก แถมเวลาเดินชอบยกไหล่ แต่คาแรกเตอร์กวนๆ แบบนี้คือ เอกลักษณ์ของดาวร้ายหนังไทยเมื่อหลายสิบปีก่อน

ภาพยนตร์ไทยยุค 16 ม.ม. ถ้าจะนับจำนวนตามเนื้อหาของเรื่องแล้ว แนวหนังบู๊แอ๊คชั่นจะมีการสร้างออกมาฉายให้คนดูมากที่สุด จนกระทั่งคาบเกี่ยวกับยุคที่วงการหนังไทยเริ่มเปลี่ยนแปลง พร้อมทั้งมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการถ่ายทำหนัง โดยเปลี่ยนมาเป็นหนังไทยระบบ 35 ม.ม.เสียงในฟิล์ม หนังแนวบู๊ดุเดือดเลือดพล่าน ก็ยังครองใจคนดูอยู่เสมอ แม้ว่าจะเริ่มมีหนังแนวอื่นๆ แทรกเข้ามามากขึ้นก็ตาม

สัญลักษณ์และเสน่ห์ของหนังบู๊ไทย นอกเหนือจากจะมีพระเอกรูปหล่อมาดแมนเป็นตัวดึงดูดคนดูแล้ว สิ่งที่ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญคือ ?ดาวร้าย? ซึ่งเป็นเสน่ห์ที่ควบคู่กับหนังแนวนี้ ขณะเดียวกันก็ยังเป็นจุดขายให้บรรดาแฟนหนังบู๊ไทยควักเงินซื้อตั๋วเข้าดูอย่างไม่ลังเลใจอีกด้วย

 เพราะฉะนั้น หนังบู๊จึงไม่เพียงแต่ชื่อของพระเอกนางเอกต้องน่าสนใจเท่านั้น...แต่ชื่อของดาราที่สวมบทบาท ?ดาวร้าย?จะต้องเร้าใจพอๆ กันด้วย

ชุมนุมดาวร้าย

หนังบู๊ไทยในอดีตก่อนปี 2530 นั้น สร้างดาวร้ายประดับวงการมากมายหลายคน โดยเฉพาะหนังไทย ยุค 16 ม.ม. จนเริ่มเข้าสู่ยุคหนัง 35 ม.ม.ระบบเสียงในฟิล์ม ถ้าไล่เรียงชื่อดาวร้ายแล้ว มีหลายคนที่ยังอยู่ในใจของแฟน แม้จะไม่รู้จักชื่อ แต่ถ้าเห็นหน้าจะรู้ทันที ไม่ว่าจะเป็น


อบ บุญติด ,สมพล กงสุวรรณ,สิงห์ มิลินทราศรัย ,ถวัลย์ คีรีวัต,ประมินทร์ จารุจารีต,ฑัต เอกฑัต ,เกชา เปลี่ยนวิถี,ชาณีย์ ยอดชัย ,ทักษิณ แจ่มผล, ประจวบ ฤกษ์ยามดี, อดินันท์ สิงห์หิรัญ , เชาว์ แคล่วคล่อง, ดามพ์ ดัสกร ,พิภพ ภู่ภิญโญ ,คมน์ อรรฆเดช , กฤษณะ อำนวยพร ,สมศักดิ์ ชัยสงคราม ,โดม สิงห์โมฬี ,ลักษณ์ อภิชาติ ,ภูมิ พัฒนายุทธ ,ฤทธิ์ ฤาชา ,แพน บอระเพ็ด, เมือง อพอลโล ,ภุชชงค์ นาคราช ฯลฯ

ยุคสมัยของดาวร้าย นอกจาก "ยุควังสราญรมย์" ที่มีดาวร้ายเกิดขึ้นมาประดับวงการหนังไทยหลายคนแล้ว ต่อมาคือ "ยุคศาลาเฉลิมกรุง" ซึ่งรุ่งเรืองที่สุด เพราะเป็นยุคเฟื่องฟูของหนังบู๊ จนทำให้โรงหนังศาลาเฉลิมกรุงกลายเป็นตลาดนัดดาราดาวร้าย และดาราตัวประกอบมากมาย ขณะเดียวกันยังเป็นสถานที่ติดต่อว่าจ้างดารา รวมทั้งเป็นสถานที่พบปะพูดคุยของเหล่าดาราทั้งที่โด่งดังและไม่มีชื่อ โดยเฉพาะผู้ที่ใฝ่ฝันจะก้าวเข้าสู่วงการนักแสดงหนัง

ดาวร้ายหลายชั้น

นอกจากหน้าตาจะบ่งบอกถึงความเป็นดาวร้ายแล้ว มาดหรือลีลาที่ยียวนกวนประสาทก็เป็นคุณสมบัติอย่างหนึ่งที่แสดงออกชัดเจน แต่ก็มีหนังไทยบางเรื่อง ที่ภาพลักษณ์ดาวร้ายเปลี่ยนไป และเป็นพัฒนาการอีกขั้นหนึ่งของดาวร้าย โดยมาดของดาวร้ายดูดีขึ้น ขยับมาใส่สูทผูกเนคไท แตกต่างจากเดิมที่ใส่กางเกงยีนส์ขาดๆ คาบไม้จิ้มฟันไว้ที่มุมปาก เดินยกไหล่ใส่มาดกวนๆ

สำหรับดาราดาวร้ายที่แสดงหนังบู๊นั้น ถ้าจัดแบ่งตามภาษาคนในวงการหนังจะมี 3 ระดับ คือ

1.ดาวร้ายเมน - ดาราดาวร้ายที่มีชื่อโด่งดัง ถ้าในหนังก็ระดับหัวหน้าโจร ค่าตัวขึ้นอยู่กับการตกลงกับเจ้าของหนัง ค่าตัวในอดีตจะเริ่มต้นที่ 5,000 ถึง 20,000 บาท หรืออาจจะมากกว่านี้ถ้าเป็นหนังฟอร์มใหญ่นายทุนใจถึง

2.ดาวร้ายประกอบ - จะเป็นลูกน้อง หรือไม่ก็สมุนคนสนิทของหัวหน้า ส่วนมากจะยืนอยู่ด้านหลังของลูกพี่ ค่าตัวประมาณ 1,500 - 2,000 บาท

3.ดาวร้ายผ่าน - ไม่มีบทบาทอะไรมากนัก ส่วนมากจะถือปืนวิ่งผ่านหน้ากล้องไปมา หรือถ้าลูกพี่สั่งลุยก็ถือปืนวิ่งเข้าใส่คู่ต่อสู้ และถูกยิงตายเป็นคนแรกๆ ไม่มีบทพูดใดๆ ค่าตัวไม่แน่นอน ตั้งแต่ 150 - 300 บาท

นอกจากนี้ การว่าจ้างดาราดาวร้ายก็ยังมีการคิดราคาค่าตัวอีกแบบหนึ่ง โดยคิดเป็น "คิว" เหมาจ่าย คิวหนึ่งๆ อาจจะเป็น 10-15 วัน สำหรับดาวร้ายที่มีชื่อจะได้ค่าตัวราว 10,000 บาทต่อหนึ่งคิว หรือมากกว่านี้ขึ้นอยู่กับบริษัทที่ว่าจ้าง

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นค่าตัวของดาราดาวร้ายไม่ตายตัว มีบ่อยครั้งที่โดนเจ้าของหนังเบี้ยว โดยเฉพาะหนังบู๊ฟอร์มเล็กๆ ที่ทุนน้อย หรือไม่ก็เป็นหนังบู๊ที่ฉายแล้วไม่ทำเงินจนขาดทุนยับเยิน หรือโชคร้ายไปเจอคนสร้างหนังประเภทเขี้ยวลากดิน

2530 ดาวร้ายขายไม่ออก

วงการหนังบู๊ไทยที่เคยเฟื่องฟู เริ่มเปลี่ยนแปลงและตกต่ำนับตั้งแต่ ปี 2530 เป็นต้นมา เพราะเนื้อหาของหนังไทยเปลี่ยนไป


?เพราะนักสร้างหนังหันไปสร้างหนังรัก หนังวัยรุ่นมากขึ้น และทำเงินมากกว่าหนังบู๊ด้วย?

ชินดำ สัตหีบ อดีตดาวร้ายอีกคนที่คลุกคลีอยู่กับวงการหนังบู๊มายาวนาน เผยอีกสาเหตุว่า คนดูหนังบู๊ลดลง มีส่วนอย่างมาก รวมทั้งเนื้อหาสาระของหนังบู๊ เริ่มซ้ำ วนเวียน ไม่มีอะไรแปลกใหม่


?ถึงแม้ว่าคนนิยมดูหนังบู๊ตามโรงใหญ่ในกรุงเทพฯ จะลดลง....แต่ตามต่างจังหวัดก็ยังพอได้ ดังนั้นคนทำหนังบู๊จึงหาทางออกด้วยการสร้างหนังป้อนให้กับสายหนังต่างจังหวัดเป็นหลัก ซึ่งส่วนมากจะเป็นหนังบู๊ที่ลงทุนน้อย จนมาถึงยุคหนังแผ่น จึงเป็นอีกช่องทางหนึ่ง....และคนที่สร้างหนังบู๊ออกมามากมายหลายเรื่องและที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในวงการก็คือ เป้า ปรปักษ์?

เป้า ปรปักษ์ หรือ วินัย ยืนยง นอกจากจะเป็นดาวร้ายหนังบู๊แล้ว ยังเป็นผู้กำกับการแสดงหนังบู๊ที่ใช้นามแฝงมากที่สุดในยุค "ระเบิดภูเขาเผากระท่อม" จนกระทั่งทุกวันนี้เป้า ปรปักษ์ก็ยังผาดโผนอยู่ในวงการหนังบู๊ รวมทั้งรับจัดคิวบู๊ และงานสตันท์ให้กับหนังและละครทีวีที่มีฉากบู๊ดุเดือด

เผ่นไปอย่างเงียบๆ


นับตั้งแต่หนังบู๊เริ่มลดหายไปจากจอเรื่อยๆ โดยเฉพาะตั้งแต่ปี 2530 เป็นต้นมา ส่งผลกระทบกับอาชีพดาราดาวร้ายอย่างเลี่ยงไม่ได้ ดาวร้ายหนังไทยจึงต้องดิ้นรนหาทางออกให้กับชีวิต

แม้ในเวลาต่อมาจะมีหนังบู๊แอ๊คชั่นบ้าง แต่ก็เป็นหนังบู๊ยุคใหม่ ที่มักจะจ้างนักแสดงดาวร้ายวัยรุ่นหน้าใหม่เป็นหลัก ซึ่งค่าตัวถูกกว่า และมีเวลาว่างให้กับการแสดงมากกว่าด้วย ต่างจากดาวร้ายที่มีชื่อที่มีค่าตัวสูง

จากการเปิดเผยของอดีตดาวร้ายคนหนึ่ง เขาบอกว่า เมื่อหมดยุคหนังบู๊แล้ว ดาราดาวร้ายก็ต้องปรับเปลี่ยนตามความถนัดของตัวเอง โดยส่วนหนึ่งก็ต้องหันไปรับงานแสดงเป็นตัวประกอบในละครทีวีบ้าง หันไปประกอบอาชีพอื่นบ้าง

สำหรับดาราดาวร้ายที่มีชื่อและมีความสามารถ ก็หันไปเปิดโรงเรียนสอนการแสดง หรือไม่ก็รับเล่นละครในบทบาทตัวร้ายเป็นครั้งคราว เช่น ละครทีวีบางเรื่องของ ?ฉลอง ภักดีวิจิตร?

...และดาวร้ายบางคนก็ล้มหายตายจากไปอย่างเงียบๆ

ดาวร้ายเปลี่ยน(วัย)ไป

ในปัจจุบัน แม้ว่าแนวหนังบู๊ไทยอย่างในอดีตจะไม่มีแล้ว แต่หนังไทยแนวบู๊แอ๊คชั่นก็ไม่ถึงกับหายไปจากจอจนหมดสิ้น เพราะทุกวันนี้เริ่มมีการทยอยนำหนังบู๊ในอดีตกลับมาสร้างใหม่อีกครั้ง เช่น อินทรีแดง ,เสาร์ห้า, เจ็ดประจัญบาน เป็นต้น


เพียงแต่ว่าเป็นหนังและละครบู๊สมัยใหม่ สร้างด้วยรูปแบบและเทคนิคใหม่ๆ รวมทั้งมีดาราดาวร้ายรุ่นใหม่ๆ แสดง และแตกต่างจากยุคเก่าอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะดาวร้ายนั้น การจะให้ชื่อประทับใจอยู่ในคนดูได้เหมือนกับดาวร้ายในอดีตนั้น...ไม่มีแล้ว

เพราะฉะนั้น เมื่อกระแสหนังบู๊ยุคดิจิทัลเข้ามาแทนที่ อดีตดาวร้ายหนังไทยที่เคยสร้างความสุขให้แฟนหนังไทยได้ชื่นชม ก็ต้องยอมรับกับความเปลี่ยนแปลงนี้

?เอาไงดีล่ะ...ลูกเพ่? ดาวร้ายลูกน้องถามลูกพี่ด้วยสีหน้ากังวล

หัวหน้าดาวร้ายหรือลูกพี่ครุ่นคิดชั่วขณะ ก่อนจะหันตะโกนสั่งลูกน้อง

?เผ่นก่อนโว้ยพวกเรา!?

สิ้นเสียงของลูกพี่ บรรดาดาวร้ายทั้งหมดก็วิ่งกรูกันขึ้นรถจี๊ป ก่อนจะขับออกไปอย่างรวดเร็วจนฝุ่นตลบกระทั่งหายลับไปที่เนินเขาแถวสระบุรี


"หน้าตาของเรามันดาวร้าย" ดามพ์ ดัสกร


ดามพ์ ดัสกร หรือชื่อจริง ดามพ์ เผด็จดัสกร ดาวร้ายชื่อดังระดับตำนานอีกคนหนึ่งของเมืองไทย แจ้งเกิดในการหนังโดย โดยได้รับการชักชวนจากท่านมุ้ย-ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล เมื่อ 30 กว่าปีก่อน ดารารุ่นพี่ที่เป็นแบบอย่างในฝันของดามพ์ คือ เกชา เปลี่ยนวิถี

เขามีผลงานด้านการแสดงหนังกว่า 300 เรื่อง ส่วนใหญ่จะเป็นหนังบู๊ และที่ทำให้มีชื่อเสียงโด่งดังจนถึงทุกวันนี้ คือ ดาวร้ายที่มีหน้าตาบุคลิกบ่งบอกถึงความเป็นดาวร้ายทุกอย่าง ปัจจุบันแม้วัยจะผ่านเลย 60 ไปหลายปีแล้ว แต่ก็ยังรับงานแสดงหนังและละครทีวีเป็นบางครั้ง ในฐานะดาราเกียรติยศ


ชีวิตในวันนี้ของ ดามพ์ ดัสกร นอกจากจะเปิดสถาบันสอนศาสตร์แห่งศิลปินการแสดง ?โรงเรียนดามพ์ เผด็จดัสกร?แล้ว ยังเข้าสู่สนามการเมืองโดยเข้าสังกัดพรรคภูมิใจไทย

ทำไมหนังบู๊วันนี้จึงหายไป

เป็นเพราะยุคสมัย และแนวเรื่องของหนัง อีกอย่างหนึ่งก็คือระบบการทำหนังต่างจากยุคก่อน ถ้ามองในแง่ของยุคสมัยแล้ว หนังบู๊สมัยก่อน คือภาพสะท้อนความจริงอย่างหนึ่งของสังคมบ้านเรา ซึ่งมีมากกว่ายุคนี้มาก พวกเจ้าพ่อ ผู้มีอิทธิพล หรือพวกนักเลงท้องถิ่นมีมาก เพราะฉะนั้นภาพต่างๆ เหล่านี้จึงถูกถ่ายทอดผ่านหนังบู๊ จึงทำให้ยุคก่อนโน้นหนังบู๊จึงมีมาก


อีกอย่างหนึ่ง ด้วยแนวเรื่องของหนังไทยเปลี่ยนไป เป็นหนังรักหนังวัยรุ่นซะหมด ยิ่งเดี๋ยวนี้หนังผีก็เยอะ...จะให้เราไปเล่นหนังจุ๋มจิ๋มพวกนี้มันก็ดูไม่เหมาะ เพราะหน้าตาของเรามันดาวร้าย

อีกสาเหตุก็คือระบบการทำหนังยุคนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อน ยุคนี้ต้องขึ้นอยู่กับค่ายกับความต้องการของคนสร้างหรือผู้กำกับ ซึ่งสามารถสั่งให้ดาราเป็นตัวละครอะไรก็ได้....แต่สำหรับคนสร้างหนังยุคก่อนเขามองคาแรกเตอร์ของดาราที่เล่น อย่างผมคาแรกเตอร์เป็นดาวร้าย ก็ต้องเป็นดาวร้าย จะให้ไปสวมบทบาทกะเทยไม่ได้

ในฐานะที่คลุกคลีวงการดาวร้ายมานาน ดาวร้ายยุคก่อนกับยุคนี้แตกต่างกันอย่างไร

ใครที่สวมบทบาทเป็นดาวร้ายจะมีความชัดเจน มีคาแรกเตอร์เฉพาะ มองแล้วต้องเป็นดาวร้าย ทั้งกิริยาท่าทาง แววตา มาดการเดินเหินบอกได้เลยว่า เป็นดาวร้าย เพราะฉะนั้น ดาราดาวร้ายชื่อดังในอดีต จึงมีความทัดเทียมกับพระเอก

แต่เดี๋ยวนี้มันไม่มี ดาวร้ายที่มีชื่อติดปากคนดูอย่างในยุคของผมไม่มีเลย ไม่มีความเป็นดาวร้ายที่ชัดเจน เพราะมันสะเปะสะปะ....อย่างเล่นหนังเรื่องหนึ่งรับบทดาวร้าย แต่พอไปเล่นหนังอีกเรื่องเป็นกะเทย แล้วพอไปเล่นหนังอีกค่ายหนึ่งเขาให้รับบทเป็นชายใหญ่ชายเล็ก....เลยไม่รู้ว่ามีคาแรกเตอร์อะไรกันแน่ ซึ่งมันไม่มีความขลังว่างั้นเถอะ

ในช่วงโด่งดังสุดขีดนั้น เคยรับค่าตัวสูงสุดเท่าไหร่

ผมเคยได้ค่าตัวสูงสุด 150,000 บาท(หนึ่งแสนห้าหมื่นบาท)โดยแสดงหนังเรื่อง ?คาราเต้บันลือโลก? เป็นหนังของนักสร้างหนังประเทศญี่ปุ่น


มองหนังบู๊สมัยใหม่เป็นอย่างไรบ้าง


เท่าที่ดูนะ...หนังบู๊สมัยใหม่เนื้อหาสาระมีความเป็นจริงน้อย ใช้เทคนิคทางความพิวเตอร์มากไป คือดูแล้วมันไม่ใช่ของจริง เลยทำให้หนังขาดอารมณ์ที่แท้จริง อีกอย่าง ขาดความละเอียดอ่อน ไม่ต่อเนื่อง ผู้กำกับขาดความละเอียด อย่างหนังบางเรื่องตัวละครใส่เสื้อตัวเดียว แต่บางคัทบางตอนสีเสื้อแตกต่างกัน ภาพมันโดดและทำให้ขัดความรู้สึก

สำหรับหนังยุคก่อน แม้เครื่องไม้เครื่องมือจะไม่ทันสมัยเหมือนเดี๋ยวนี้ แต่การแสดงมันเป็นของจริง ไม่ว่าเตะถีบ คลุกฝุ่นกันจริงๆ หรืออย่างอาวุธปืน ก็เป็นของจริงทั้งหมด เพียงแต่ใช้กระสุนสำหรับฝึกซ้อมเท่านั้น

ทุกวันนี้ยังรับงานหนังและละครอยู่หรือเปล่า

รับบ้าง...แต่ต้องเป็นบทที่เราถนัดหรือเหมาะสมกับคาแรกเตอร์ตัวเรา ซึ่งก็คือดาวร้าย อย่างละครของอาหลองหรือฉลอง ภักดีวิจิตร


สำหรับละครทีวี.เรื่องอื่นๆนั้น ก็อย่างที่รู้กันนั่นแหละ เนื้อหาละครมีแต่เรื่องรักอิจฉาริษยาแทบทั้งนั้น ไอ้เราจะไปเล่นเป็นบทพ่อนางเอกก็ไม่เหมาะ...อีกอย่าง ผมไม่ชอบบทที่ลูกสาวลูกชายทะเลาะหรือโต้เถียงกับพ่อแม่ ผมถือมาก จึงไม่ชอบที่จะเล่นละครแนวอย่างนี้

มีคนรุ่นใหม่ๆ อยากจะเป็นดาวร้ายบ้างไหม

ที่โรงเรียนดามพ์ เผด็จดัสกรของผมก็มีเข้ามาเรียนอย่างต่อเนื่อง และมีหลายคนที่ผ่านการเรียนแล้วเข้าสู่วงการแสดงไปแล้ว การเป็นดาวร้ายไม่ใช่ของง่าย มันเป็นศิลปะการแสดงที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน ต้องมีองค์ประกอบอื่นๆ ด้วย ทั้งกิริยามารยาท การเคารพนับถือรุ่นพี่ๆ การเข้าถึงผู้หลักผู้ใหญ่ ซึ่งเรื่องเหล่านี้คนจะเข้าวงการแสดงโดยเฉพาะการเป็นดาวร้ายต้องเรียนรู้


ทำไมถึงเล่นการเมือง

การเป็นนักแสดงของผมก็เป็นการรับใช้ประชาชนอย่างหนึ่งในแง่ของความบันเทิงอยู่แล้ว ดังนั้นการเล่นการเมืองจึงไม่ใช่เรื่องยากอะไร และตลอดเวลาการแสดงเป็นดาวร้ายของผม ได้รู้เห็นความเลวร้ายต่างๆในสังคมผ่านเนื้อหาของหนัง โดยเฉพาะเรื่องอิทธิพลท้องถิ่น และความไม่เป็นธรรมต่างๆ จากประสบการณ์เหล่านี้ ผมคิดว่าน่าจะนำมารับใช้ในการแก้ปัญหาได้ในเส้นทางการเมืองได้

 

 

 



ความเห็น

[1]


(ID:133679)

ชาติ ชโลธร อีกคนครับ




เลือกหน้า
[1]
จำนวนหัวข้อทั้งหมด 1

กลับขึ้นข้างบน / กลับหน้าแรก

ค้นกระดานข่าว:


ถูกเปิด: ถูกคลิ๊กแล้ว: 116951456 ตอนนี้มีผู้เข้าชม : 1 ล่าสุด :Sallycgriet , BrianerpGep , AnthonykDraib , Kristenmswony , Edwinjophorie , Stanley , RobertMIGH , ProlBlask , Robbsf , Jamesfap ,