เพื่อนๆสมาชิกทุกคนทั้งขาประจำและขาจต คิดว่า มีความเป็นไปได้ไหมครับ ที่หนังกลางแปลงจะกลับมาโด่งดัง ได้รับความสนใจจากประชาชนทุกเทศทุกวัย ทั้ง คนหนุ่ม คนสาว คนเฒ่า คนแก่ ลูกเล็ก เด็กแดง พี่ ป้า น้า อา ลุง หลาน พ่อ แม่ พี่น้อง และสารพัดเครือญาติ

และคิดว่ามีวิธีการอย่างใดที่จะทำให้หนังกลางแปลงกลับมาได้รับความนิยมได้ดังในอดีต

แต่โดยส่วนตัวผมเชื่อว่ามีความเป็นไปได้สูงที่หนังกลางแปลงจะกลับมา ดังเช่นเพลงลูกทุ่งที่โด่งดังสุดๆๆ ในอดีต แต่กลับมาหายไปในช่วงหนึ่ง ไม่ได้รับความสนใจ เพราะถูกกระแสเพลงสากล และเพลงสตริงกระหน่ำ แม้กระทั่งคลื่นเอฟเอ็มยังไม่ยอมเปิด จนหลายคน หลายภาคส่วน กลัวว่าเพลงลูกทุ่งจะสูญหายไปจากสังคมไทย เหลือเพียงตำนานเท่านั้น จนในที่สุดต้องมีงานกึ่งศตวรรษลูกทุ่งไทยขึ้นมา เพื้อปลุกกระแสหล่อเลี้ยง เป็นต้น

และใครจะเชื่อว่า จากนั้นมาไม่กี่ปี เพลงลูกทุ่งกลับมากระหึ่มอีกครั้ง ยึดทั้งคลื่นวิทยุ ทีวี หนังสือพิมพ์ และสื่อต่างๆ ทุแขนง อย่างทุกวันนี้ แทบจะเรียกได้ว่า ปาฏิหาริย์เลยทีเดียวครับ

ดังนั้น ผมจงเชื่อว่า โอกาสที่หนังกลางแปลงจะกลับมาโด่งดังได้ แต่มีข้อแม้นิดหน่อยครั้ง ส่วนจะเป็นเรื่องอะไรบ้างนั้น ค่อยมาว่ากัน

มีความเป็นไปได้สูงจากหลายปัจจัย ครับ เช่น

- หมอลำ (ลิเก) มีราคาสูง วงดนตรี-หมอลำซิง วัยรุ่นตีกัน ทำให้เจ้าภาพระอา หันมาจ้างหนัง

- แต่ปัจจัยหลัก อยู่ที่หน่วยหนังเอง ต้องพัฒนาตัวเอง ทั้งคุณภาพ การให้บริการ เป็นต้น

ผมคิดว่ามีแนวโน้มที่จะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง ครับ เพราะทุกวันนี้หน่วยหนังแต่ละหน่วยมีการพัฒนามาก จากที่เคยฉายเตาถ่าน แต่ ณ ปัจจุบันเป็นหัวเลเซอร์เกือบทุกหน่วยและคุณภาพของเสียงที่ดีและเยี่ยม 

  ผมยังคิดถึงสมัยก่อนที่นั่งดูหนังจนถึงสว่าง แต่ทุกวันนี้ไม่ค่อยเห็นฉายจนถึงสว่างเลย  หน่วยที่ฮิตมากในขณะนั้น  ก็มี เฮงฟิล์ม  ไทยแหลมทองภาพยนตร์   กรุงเทพภาพยนตร์   ตอนนั้นประดิษฐ์ฟิล์มยังไม่ดังเลย

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับพี่แอ๊ดที่จะจัดงานนี้ขึ้น ผมเชื่อว่าอย่างน้อยก็เป็นการกระตุ้นให้หนังกลางแปลงกลับมาได้เร็วขึ้น เพลงลุกทุ่งยังกลับมาได้เลยครับ หนังกลางแปลงก็ไม่มีวันตายเช่นกัน

เสนอแนะนิดหนึ่งครับ ผมว่าก่อนจัดงาน น่าจะมีการจัดแถลงข่าวให้ยิ่งใหญ่ก่อน เชิญสื่อต่างๆ มาร่วมฟังการแถลงข่าวด้วย เพื่อจะได้ช่วยกันประชาสัมพันธ์ เพื่อนๆสมาชิกต้องช่วยกันครับ ผมพร้อมช่วยเหลืออีกแรงครับ

ทำทั้งที่ ต้องให้กระหึ่มครับ อย่างน้อยขึ้นหน้า 1 หนังสือพิมพ์หลายฉบับ

วันเปิดงาน อาจมีการเชิญบุคคลสำคัญในวงการภาพยนตร์ หรือการเมือง เช่นรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องไปเปิดงานหรือร่วมเป็นพยานด้วย

ส่วนค่าใช้จ่ายในการจัดงน ผมคิดว่างานนี้น่าจะหาสปอนเชอร์ได้

ซึ่งก่อนจัดงานเราต้องมีการประชุมเตรียมงาน วางแผน ตั้งคณะกรรมการรับผิดชอบฝ่ายต่างๆ ขึ้นมา จากนั้นก็ช่วยกันประชาสัมพันธ์ตามสื่อต่างๆ ใครมีเพื่อนที่ทำหนังสือพิมพ์ ทีวี จัดวิทยุ เช่นวิทยุชุมชน ก็ต้องวานก้นหน่อย ต้องร่วมแรงร่วมใจครับ

หากประชาสัมพันธ์ดีๆ ผมเชื่อว่า จะมีผู้มาร่วมงานจำนวนมาก ภายในงาน เมื่อมีคนไปร่วมงานมาก เราก็สามารถหารายได้สนับสนุนการจัดงานได้ เช่น จัดทำเสื้อ หนังสือ ซีดี ที่ระลักในงานได้ หรือเปิดบู๊ทอาหารเหมือนเทศกาลภาพยนตร์ หรือเทศกาลท่องเที่ยวได้ ดีไม่ดีอาจมีงบฯเหลือไว้จัดงานครั้งต่อไปได้ครับ

ผมเชื่อว่า เพื่อนๆ สมาชิกของเราทุกคน มีคุณภาพ และมีศักยภาพที่จะจัดงานนี้ได้ครับ 

ขอบคุณมากครับ สำหรับข้อเสนอแนะต่างๆ เห็นด้วยครับที่ยุคปัจจุบันเราคงทำหนังกลางแปลงแบบจอใหญ่ผ่าโลก หรือเครื่องเสียงแบบภาคกลางลำบาก(ยกเว้นฉายโชว์) เพราะหาพื้นที่ในการฉายลำบากเวลาเจ้าภาพว่าจ้าง ขณะเดียวกันเปิดเสียงดังมากก็ไม่ไหว เดี่ยวโดนชาวบ้านด่าหรือตำรวจขอร้อง

ที่สำคัญ หาเจ้าภาพจ้างหนังราคาสูงลำบากจริงๆครับ เพราะส่วนใหญ่มองว่า ไม่คุ้ม จ้างหลายหมื่นคนดูไม่กี่คน เห็นแล้วเศร้าใจ ส่วนใหญ่จะจ้างไปแบบแก้บนมากกว่า

ผมเห็นด้วยครับ ที่น่าจะมีวันหนังกลางแปลงขึ้นมา โดยเวียนไปฉายตามพื้นที่ต่างๆ ให้ยิ่งใหญ่ไปเลย มีการโมษณาตามสื่อต่างๆ ซึ่งผมหรือเพื่อนๆทุกคนน่าจะพอดีพวกพ้องในวงการสื่อทั้งวิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นอยู่บ้าง

ที่สำคัญ ผมอยากให้ หน่วยหนังต่างๆ โดยเฉพาะภาคอีสานน่าจะมีการรวมตัวกันตั้งเป็นชมรมหรือสหพันธ์ขึ้นมา แบ่งพื้นที่กันทำมาหากิน ชื้อหนังทุกค่ายรวมกัน แล้วฉายพื้นที่จังหวัดใหนก็แบ่งๆๆ กันไป (แบบฮั้วกันนะครับ) จะได้ไม่ต้องแย่งกัน หันมาช่วยกันพัฒนาหนังกลางแปลงให้ยิ่งใหญ่ กลับมาเหมือนเดิม

เชื่อว่า หนังกลางแปลงจะกลับมาเหมือนเดิม จากนั้น ก็อาจจะทำหนังสักหน่วยให้ยิ่งใหญ่อลังการไว้โชว์ หากของเราดีจริง มีคุณภาพ แม้ราคาจะแพง ผมเชื่อว่า มีคนจ้งแน่นอนครับ ราคาแพงก็ไม่เกี่ยง ชาวบ้านส่วนใหญ่คิดเหมือนกับผม และเมื่อนั้น ผมเชื่อว่า แม้จะมีอินเตอร์เน็ท ดีวีดี วีซีดี โฮมเธียเตอร์ หรือโรงหนังชั้นดี คนก็ยังจะเลือกดูหนังกลางแปลงอยู่ดี

ยกตัวอย่างนะครับ ทุกวันนี้ วีซีดีบันทึกการแสดงสดทั้งหมอลำแทบทุกคณะ รวมทั้งเสียงอิสาน โปงลางสะออน และคณะใหญ่ๆ วางขายกันเกลื่อน แต่เมื่อเปิดวิก หรือเจ้าภาพว่าจ้าง คนก็แห่ดูกันเต็ม แม้จะดูจากซีดีแล้วก็ตาม ดีไม่ดี ยอดหน้าเวทีอยู่รอด แต่ยอดขายซีดีกับแป๊ก เหมือนที่คณะหมอลำ ลิเกต่างๆ กำลังประสบอยู่ขณะนี้

ผมขอเป็นกำลังใจ ให้ทุกค่ายหนังคับ อยากให้ทุกค่ายหนังทุกหน่วยหนัง ทำหนังกลางแปลงให้ยิ่งใหญ่อลังการไปเลยครับ กล้าได้กล้าเสียกล้าลงทุน เมื่อยิ่งใหญ่จริงๆ ปากต่อปาก คำต่อคำ ผมเชื่อว่า คนจะแห่มาดูและมาจ้างหนังกลางแปลงเหมือนเดิม และอาจฟีเวอรืเหมือนทีแอ๊ด เทวดา เคยทำไว้ในอีต ที่สำคัญต้องช่วยกันโฆษณาให้มากครับ เพราะทุกวันนี้ สื่อสำคัญมาก แม้กลองจะดีหากไม่ตีก็ไม่ดัง

เชื่อผมซิครับ เสียงอิสานราคา 4-5 แสน คนยังกล้าจ้างเลยครับ แล้วทำไม หนังเราจะทำอย่างวงดนตรีไม่ได้ ไม่อยากให้มัวแต่โทษความลำหล้าของเทคโนโลยีต่างๆ เมื่อมีอุปสรรค์ เราก็ต้องแก้เกม พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสครับ

เป็นกำลังใจให้ทุกหน่วยหนังทั่วฟ้าเมืองไทย โดยเฉพาะแถวอีสานบ้านผม สู้ต่อไปครับ แล้วยุคทองของพวกเราจะกลับคืนมา

ขอบคุณอีกครั้งครับ สำหรับข้อคิดเห็นดีที่เพื่อนสมาชิกแนะนำมา

ถ้าจัดคงเป็นที่อุดรครับ

งานนี้ ต้องจัดให้ยิ่งใหญ่นะครับ ที่อุดรธานี จัดที่กลางทุ่งศรีเมืองก็ดีครับ

ฟังคุณเอสเล่า ทำให้นึกถึงอดีตเหมือนกันครับ ไปขอนแก่นจะแวะเยี่ยมครับ มีเพื่อนอยู่ขอนแก่นเยอะเหมือนกันครับ หากทางโรงพยาบาลศรีนครินทร์ มีกิจกรรมอะไรจะประชาสัมพันธ์ทางสื่อ แจ้งผมให้นะครับ จะวานเพื่อนๆๆน้กข่าว ประจำศูนย์ขอนแก่น ช่วยไปทำข่าวให้ครับ

ทำแบบในรูป ครับ แล้วคิดราคา4-5พันบาท ครับรับรอง หนังกลางแปลง จะกลับมาดังเหมือนในอดีตแน่นอนครับ

พี่แสงธรรมดาเล่นปล่อยมุกนี้มา เจ้าของหนังกลางแปลงก็ตายก่อนเกิดซิครับ (ฮาๆๆๆๆ)

ขนมาอย่างนี้ ราคา 4 ซ่า 5 พัน ค่าน้ำรถไม่รู้จะพอหรือเปล่า

แต่แนวคิดพี่ ก็เป็นไปได้นะครับ คือ เจ้าของหนัง คิดราคาถูกเวลารับงาน แต่ต้องหาสปอนเซอร์มาช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ เหมือนบรรดาฟรีคอนเสริต หรือมวยโลก ที่จัดกันเกลื่อนอยู่ทุกวันนี้ ที่เปิดให้ดูฟรี ลงทุนกันหลายล้าน ยังอยู่ได้เลย

ขอบคุณครับ

ต้องไม่มีหนังแผ่น  คนนอนดูหนังอยู่กับบ้านสบายๆ จะออกจากบ้านไปทำไม นับวันมีแต่จะตาย ก็มีแต่พวกเราเท่านั้นแหละครับที่ยังบ้าอยู่  แบบว่าเอามัน