Mobile Version / สำหรับโทรศัพท์มือถือ ยินดีต้อนรับท่านผู้มาเยือน www.peoplecine.com ท่านยังไม่ได้ log in นะครับ เข้าใช้งานระบบ / สมัครสมาชิก/ ลืมรหัสผ่าน
รูป
หนังไทยในอดีต ทุกยุค ทุกสมัยเจ้าของ อ่าน ตอบ ผู้ตอบหลังสุด
- อัศวินดาบกายสิทธิ์ ปี1971 15723.. 9/10/2564 18:16
-ชายชาตรี ปีพ.ศ 2507 10872.. 7/10/2564 13:16
-เงิน เงิน เงิน19344.. 6/10/2564 14:34
-จ้าวนักเลง14801.. 4/10/2564 13:09
-ชาติเสือ 7551.. 26/9/2564 12:59
-คนเหนือคน ปี พ.ศ.25108273.. 18/9/2564 15:36
-เพชรตัดเพชร ปี พ.ศ. 250910584.. 12/9/2564 16:11
-"ฟ.ฮีแลร์"...7821.. 27/7/2564 13:34
-โหมโรง9202.. 2/4/2564 18:08
-โอเคเบตง หนังปี254614861.. 30/3/2564 17:57
-มนต์รักทรานซิสเตอร์10431.. 28/3/2564 18:34
- "โจรพันธ์เสือ"9431.. 27/3/2564 14:55
- "วัยอลวนฮ่า!"9390ยังไม่มีคนตอบ
-2499 อันธพาล ครองเมือง27582.. 18/2/2564 16:56
-เขยใหม่ปึ๋งปั๋ง พ.ศ. 252214291.. 11/2/2564 13:48
- “พันท้ายนรสิงห์”10062.. 18/1/2564 21:42
เลือกหน้า
[<<] [4] [5] [6] [7] [8] [9] [10] [11] [12] [13] [14] [15] [16] [17] [18] [19] [20] [21] [22] [23] [>>]
จำนวนหัวข้อทั้งหมด 535

(ID:25402) จ้าวนักเลง


ขอขอบคุณข้อมูลจากพี่วิวัยครับ

5 ชม. 
:
:
รําลึก มิตร ชัยบัญชา พระเอกอมตะ
เกิด 28 มกราคม พ.ศ.2477 - เสียชีวิต 8 ตุลาคม พ.ศ.2513
ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจจริงในที่สุดพันจ่าอากาศโท พิเชษฐ์ พุ่มเหม นายทหารหนุ่มครูฝึกทหารอากาศ ผู้ชื่นชอบศิลปะการแสดงก็เข้าสู่วงการบันเทิงในฐานะ
“มิตร ชัยบัญชา “พระเอกหน้าใหม่มาแรง ที่แจ้งเกิดอย่างสวยงามจากผลงานการแสดงเรื่องแรกในชีวิต อย่างภาพยนตร์เรื่อง “ชาติเสือ “
ผลงานภาพยนตร์เรื่องที่สองของพระเอกน้องใหม่ เกิดขึ้นต่อเนื่องทันทีเมื่อผู้อํานวยการสร้างภาพยนตร์ ซื้อหนังสือนิยายเรื่องอินทรีแดง เพื่อมาให้มิตรได้อ่านดูก่อน เมื่อมิตรได้อ่านนิยายเรื่องอินทรีแดงบทประพันธ์ของเศกดุสิต มิตรรู้สึกทันทีว่าเกิดความรักและประทับใจในบทบาทตัวละครที่ชื่อ “โรมฤทธิไกร “ ซึ่งในบทประพันธุ์มี โรมเป็นคนที่มีสองบุคลิกคือในเวลากลางวันเค้าจะเป็นโรมลูกเศรษฐี แต่พอยามค่ำคืนเค้าจะปลอมตัวมาในชุดดํามีหน้ากากนกอินทรีแดง เป็นฮีโร่มาปราบเหล่าร้าย ซึ่งมิตรรู้สึกอินกับบทบาทอินทรีแดงมาก
แต่ยังติดอยู่ที่ว่า บริษัทยังไม่ได้ติดต่อขอซื้อบทประพันธ์ และต้องขออนุญาต เจ้าของบทประพันธ์ คือ เศก ดุสิต หรือชื่อจริงก็คือ คุณเริงชัย ประภาษานนท์( ศิลปินแห่งชาติ)กันเสียก่อน
ทีมงานบริษัททัศไนยภาพยนตร์จึงยกทีมพา มิตร ชัยบัญชา ไปขอพบคุณเศกดุสิตที่บ้านท่าน
เมื่อเสกดุสิตพบหน้าพระเอกมิตร ชัยบัญชาครั้งแรก ก็ถูกใจในอัทธยาศัย ความน้อมน้อมถ่อมตน ความสุภาพเรียบร้อย และนิ่งชื่นชอบเป็นพิเศษกับรูปร่างหน้าตา ที่พระเอกคนนี้มีรูปร่างสูงใหญ่สมชายชาตรี แถมเป็นคนที่เคยชกมวยมาก่อน และยังเคยเป็นทหารที่ได้รับการฝึกการใช้อาวุธ ที่ทำให้มีความคล่องตัวกับการใช้อาวุธและคิวบู้ตามที่ผู้ประพันธ์ได้จินตนาการกับตัวละครตัวนี้เอาไว้ หลังพินิจพิจารณาพักใหญ่
คุณเสก ดุสิต พูดเสียงดังฟังชัดว่า
“คุณคืออินทรีแดงของผม”
เป็นอันว่า ทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่า
“มิตร ชัยบัญชา ก็คือ โรมฤทธิไกร ก็คืออินทรีแดง “
หลังจากการเจรจาวันนั้น คุณประทีป โกมลภิส ก็สั่งเปิดกล้องภาพยนตร์เรื่องใหม่ “จ้าวนักเลง “ ทันที โดยเลือก สาวสวยหน้าคม “อมรา อัศวนนท์ “ มาเป็นนางเอกของเรื่อง รับบท วาสนา สาวสวยที่คอยเป็นสายช่วยพระเอก
การถ่ายทำใช้เวลาถ่ายทําทั้งวันทั้งคืนอยู่หลายเดือน จนเสร็จสมบูรณ์
ในบทบาทของ อินทรีแดง มิตรต้องใช้ความสามารถส่วนตัวที่มี ในฉากการต่อสู้ เมื่อผู้กําสั่งแอ๊กชั่น
ในฉากบู๊ มิตรแสดงต่อยจริง เตะจริง แสดงบทบู้เอง อย่างคล่องแคล่วด้วยเชิงมวยที่มีและประสบการณ์ จากวิชาชีพทหาร ทำให้ทุกอย่างลื่นไหลสมจริงทุกประการ
ทีมจัดการเรื่องคอสตูม ก็สุดยอด เตรียมเสื้อผ้าไว้ครบถ้วนตามบทประพันธ์ โดยเฉพาะในบทที่มิตรจะต้องปลอมตัวเป็นหลายคน หลายคาแรคเตอร์ งานนี้ภาพยนตร์เสร็จสมบูรณ์สมปรารถนาของทุกฝ่าย
เมื่อถึงวันหนังเข้าโรงฉาย ในฉากต่อสู้นั้นต้องใช้คำว่า “เหลือกิน “ ชนิดว่าผู้ชมนั่งไม่ติดเก้าอี้กันเลยทีเดียว บ้างก็ออกเสียงเชียร์อินทรีแดง เหมือนเชียร์มวยเลยก็มี
ทั้งนี้นอกจากความสมบูรณ์แบบของตัวภาพยนตร์ตามบทประพันธ์แล้ว เทคนิคใหม่ที่ภาพยนตร์นำมาใช้ในการโปรโมท ก็เรียกได้ว่า มาเหนือชั้น จริงๆ อีกด้วย เพราะตอนหนังเข้าฉายนั้นใครที่ซื้อบัตรชมภาพยนตร์ ที่เฉลิมกรุงเฉลิมบุรีและโรงใหญ่ทั่วประเทศ บัตรชมภาพยนตร์ 1ใบ จะได้รับหน้ากากอินทรีแดง1ชุด และมีเพลงประกอบภาพยนต์ที่ขับร้องโดย นักร้องคนดังแห่งยุค มีศักดิ์ นาครัตน์ ขับร้องเปิดเป็นเพลงเปิดสถานีวิทยุอีกด้วย ส่งผลทําให้หนังยิ่งโด่งดังมากยิ่งขึ้นไปอีกเท่าตัว
ทั้งหมดนี้มีข่าวลือกันว่าทั้งหมดทั้งปวงเป็นไอเดียของมิตร ที่เค้าชอบคิดสิ่งใหม่ๆ เพราะเขามีความคิดสร้างสรรค์ เป็นคนที่Creativeในทุกๆเรื่องนั่นเอง
ผู้กํากับภาพยนตร์ รวมถึงผู้อำนวยการสร้าง หลายท่าน จึงมักมาขอคำปรึกษากับ #พระเอกนักคิดมิตรชัยบัญชา
หนังเข้าฉายเมื่อวันที่7มีนาคมปี2502
ที่โรงภาพยนตร์ศาลาเฉลิมกรุง และศาลาเฉลิมบุรี ทําได้สูงสุดในยุคนั้นถึง1ล้าน2แสนบาท
ซึ่งในปีนั้นนั่นเองที่ภาพยนตร์เรื่อง “จ้าวนักเลง “ ทําให้มิตร ชัยบัญชา โด่งดังที่สุดในเมืองไทย เป็นพระเอกขวัญใจมหาชน
มิตรจะเดินทางไปไหนมีแต่ผู้คนล้อมหน้าล้อมหลัง แฟนคลับตะโกน เรียกพี่มิตร พี่มิตร บ้างก็ขอลายเซ็นและขอรูปถ่าย
ช่วงเวลานั้นกับผลงานการแสดงเรื่องที่สอง พระเอกหนังไทยมิตร ชัยบัญชา เนื้อหอมสุดๆ จนเรียกว่าใครจะขอคิวไปแสดงหนังเรื่องต่อไปเริ่มคิวแน่น
มีการแย่งชิงตัวพระเอกคนดังจนรับงานไม่ทัน ในวันหนึ่งจึงต้องถ่ายทำหนังหลายเรื่อง ส่งผลทันทีให้พระเอกคนใหม่กลายเป็นพระเอกขึ้นแท่นลำดับที่1ของเมืองไทย เพราะ การันตีได้แน่นอนว่า หนังเรื่องไหนมีพระเอกชื่อมิตร ชัยบัญชาแสดงนำ เรื่องนั้นประสบความสำเร็จทางรายได้อย่างแน่นอน!!!
#หมายเหตุเพิ่มเติม อินทรีแดง เป็นบทประพันธ์ซูเปอร์ฮีโร่ฉบับไทยของ เศก ดุสิต โดยมีตัวเอกคือ อินทรีแดง หรือ โรม ฤทธิไกร บทประพันธ์เรื่องนี้ เศก ดุสิตได้เริ่มเขียนขึ้นในปี พ.ศ. 2498
โดยได้แนวความคิดจากภาพยนตร์ของ ร็อก ฮัตสัน ชื่อเรื่อง Captain Lightfoot ในภาพยนตร์เล่นเป็นตีนแมว ที่มีอุดมการณ์ ช่วยเหลือผู้อื่น ใส่หน้ากากสีแดง จึงสร้างเป็นเนื้อเรื่องในทำนองเดียวกัน โดยใช้เป็นนกอินทรีเพราะเป็นนกที่มีอำนาจ บินได้สูงสุด ใครก็บินไม่สูงเท่านกอินทรี มีความยิ่งใหญ่
โดยนำเรื่องราวในสมัยนั้นมาผูกเข้ากับสภาพปัญหาทางสังคม ทั้งการตัดไม้ทำลายป่า การทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งกฎหมาย เอื้อมไม่ถึง
เศก ดุสิต หรือ เริงชัย ประภาษานนท์ ได้เริ่มเขียนอาชญนิยายชุดอินทรีแดงขึ้นเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2498 และวางตลาดเป็นนิยายปกอ่อน 6 ฉบับจบ
ของสำนักพิมพ์อักษรสมิทร์ แต่ละฉบับจะใช้ชื่อชุดตามเหตุการณ์สำคัญภายในเล่มคือ อินทรีแดง, เล็บมังกร, กุหลาบดำ, ชาติทมิฬ, มัจจุราชคำรณ และ มังกรกระเจิง ตามลำดับ ก่อนที่ภายหลังจะเปลี่ยนมาใช้ชื่อตอนเดียวกันว่า “มังกรขาว” ตามชื่อขบวนการวายร้ายของเรื่อง ที่ก่อวินาศกรรมป่วนเมือง หลังจบ มังกรขาว เศก ดุสิต ได้เขียนอินทรีแดงตอนที่ 2 ในชื่อ พรายมหากาฬ ให้กับสำนักพิมพ์บันลือสาส์น ตีพิมพ์ในปี พ.ศ. 2500 จำนวน 10 ฉบับจบ ประสบความสำเร็จขายดีมากจนถึงมีตอนต่อมาอีกหลาย หลังเขียนอินทรีแดงชุดสองหรือพรายมหากาฬจบแล้ว เศก ดุสิตก็หันไปเขียนเรื่องอื่น แต่สุดท้ายต้องกลับมาเขียนอินทรีแดงอีกครั้งเพราะคนอ่านอยากอ่านสาเหตุที่อินทรีแดงถูกใจคนอ่านในยุคนั้น
บทประพันธ์ชุด อินทรีแดง ของ เศก ดุสิต เขียนขึ้นในระหว่างปี พ.ศ. 2498-2513 บทประพันธ์ได้รับความนิยมจากนักอ่านอย่างมาก
ครั้งแรกของ อินทรีแดง ที่ได้มาผงาดบนแผ่นฟิล์มภาพยนตร์ขนาด 16 มม. โดยครั้งแรก รังสรรค์ ตันติวงศ์ และ ประทีป โกมลภิส เตรียมสร้างภาพยนตร์เรื่องที่ 2 ต่อจาก ชาติเสือ ให้ มิตร ชัยบัญชา แสดง ระหว่างนั้น มิตร ชัยบัญชา ได้อ่านนิยายเรื่อง อินทรีแดง ที่บ้านรังสรรค์ ตันติวงศ์ จึงชอบและแจ้งความจำนงค์ว่าต้องการแสดงเป็นอินทรีแดง เพราะมีสองบุคลิก เมื่อผู้สร้างและผู้กำกับเห็นความตั้งใจของพระเอก จึงตัดสินใจพามิตร ชัยบัญชา ไปพบ เศก ดุสิต เพื่อขอซื้อนิยายอินทรีแดง ตอน จ้าวนักเลง ให้มิตร ชัยบัญชา รับบทอินทรีแดงครั้งแรก ในชื่อเรื่อง จ้าวนักเลง เมื่อผู้ประพันธ์พบหน้าพระเอกมิตร เขาถูกใจในรูปร่างสูงใหญ่ แบบชายชาติทหาร และได้กล่าวกับมิตรว่า "คุณคืออินทรีแดงของผม" ภาพยนตร์ได้ออกฉายครั้งแรกวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2502 เมื่อเข้าฉายก็ประสบความสำเร็จ ทำรายได้ถล่มทลาย พร้อมสร้างชื่อให้กับ มิตร ชัยบัญชา กลายเป็นพระเอกขวัญใจ มหาชน นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเรื่อยๆ
หลังจากหนังเรื่องจ้าวนังเลง เรื่องแรกบนจอเงินประสบความสำเร็จ ก็ห่างหายไปอีกหลายปี จนมาถึงปี พ.ศ. 2505 ก็สร้างเรื่องที่สอง อินทรีแดง ตอน ทับสมิงคลา เข้าฉายปลายปี พ.ศ. 2505 ที่โรงภาพยนตร์เอ็มไพร์ ปรากฏว่าประสบเช่นกันความสำเร็จด้านรายได้ ภาพยนตร์ชุด อินทรีแดง เรื่องที่สามที่มาเป็นภาพยนตร์จอใหญ่ ในปี พ.ศ. 2506 คือ อินทรีแดง ตอน อวสานอินทรีแดง ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างโดยดุสิตภาพยนตร์ ที่มีครูเนรมิตเป็นผู้กำกับและเป็นการมารับบทวาสนาโดยเพชรา เชาวราษฎร์ เป็นครั้งแรกซึ่งก่อนหน้านี้รับบทโดย อมรา อัศวนนท์
* ปี พ.ศ. 2509 อินทรีแดงก็ผงาดฟ้า ในเรื่อง ปีศาจดำ ภาพยนตร์ของ ดุสิตภาพยนตร์ แต่มาครั้งนี้ได้ ส.อาสนจินดา มาทำหน้าที่กำกับ มิตรสวมบทบาทอินทรีแดงออกปฏิบัติการไล่ล่าเหล่าร้าย โดยมีวาสนาที่รับบทโดยคุณเพชราอีกครั้ง ภาพยนตร์เข้าฉายเมื่อ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2509 เป็นหนัง 16 มม. และไม่ประสบความสำเร็จด้านรายได้ ปี พ.ศ. 2511 มีการนำนิยายเรื่อง อินทรีแดงมาสร้างเป็นหนังอีกครั้ง จากบทประพันธ์ตอน ภูตมรณะ ในชื่อเรื่อง อินทรีแดง ตอน จ้าวอินทรี ได้ ฉลอง ภักดีวิจิตร ในนาม ดรรชนี มาทำหน้าที่ผู้กำกับ ออกฉายในเมื่อ 21 มีนาคม พ.ศ. 2511
มีรายชื่อตอนดังนี้
#มังกรขาว พิมพ์ครั้งแรก 2499 พิมพ์ครั้งที่สอง ปี 2505 โดย สำนักพิมพ์ บรรลือสาสน์ 7 เล่มจบ
#พรายมหากาฬ พิมพ์ครั้งแรกปี 2500 สำนักพิมพ์ บรรลือสาสน์ 10 เล่มจบ สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม นำมาพิมพ์ใหม่ 4 เล่มจบ
#จ้าวนักเลง พิมพ์ครั้งแรกปี 2501 สำนักพิมพ์ บรรลือสาสน์ 12 เล่มจบ
#ปีศาจดำ พิมพ์ครั้งแรกปี 2502 พิมพ์ครั้งที่สอง ปี 2507 สำนักพิมพ์ บรรลือสาสน์ 10 เล่มจบ
#อินทรีคืนรัง สร้างเป็นภาพยนตร์โดยใช้ชื่อว่า #อินทรีทอง



ความเห็น

[1]


(ID:204802)
https://www.youtube.com/watch?v=7th_7Gg-Esk&t=41s




เลือกหน้า
[1]
จำนวนหัวข้อทั้งหมด 1

กลับขึ้นข้างบน / กลับหน้าแรก

ค้นกระดานข่าว:


ถูกเปิด: ถูกคลิ๊กแล้ว: 116951136 ตอนนี้มีผู้เข้าชม : 1 ล่าสุด :Sallycgriet , BrianerpGep , AnthonykDraib , Kristenmswony , Edwinjophorie , Stanley , RobertMIGH , ProlBlask , Robbsf , Jamesfap ,