ภาพยนตร์เรื่อง เงิน เงิน เงิน ในปีพ.ศ 2508 ผลงานภาพยนตร์เรื่องแรก ที่มิตรชัยบัญชา แสดงในภาพยนตร์ที่ใช้การถ่ายทำด้วยฟิล์ม 35 มม. ในระบบซูเปอร์ซีเนสโคป สีอีสต์แมนและเสียงพากย์ในฟิล์ม

ซึ่งนับเป็นเรื่องแรกที่คู่ขวัญมิตรและเพชราได้แสดงภาพยนตร์ไทยที่สร้างแบบมาตรฐานสากลตลอดทั้งเรื่อง

หนังเข้าฉายเมื่อวันที่28ธันวาคม ปี2508 ที่โรงภาพยนตร์เฉลิมเขตร์

โดยมีสโลแกนคําโฆษณาภาพยนตร์ว่า

“เพลงพราว ดาวพรู ดูเพลิน “

ภาพยนตร์เรื่อง เงิน เงิน เงิน มีความยาวถึงสามชั่วโมงกว่า และเป็นภาพยนตร์ที่มีเพลงประกอบถึงให้ฟังเพลินถึง14เพลง จาก 15 ศิลปินคนดังแห่งยุค

โดยเฉพาะจากคณะสามศักดิ์บอยแบนรุ่นใหญ่ ที่สมาชิกของคณะ "3 ศักดิ์" ประกอบด้วย สักรินทร์ บุญญฤทธิ์ , ทนงศักดิ์ ภักดีเทวา และ มีศักดิ์ นาครัตน์ ที่ได้ร่วมร้องร่วมแสดง สร้างสีสรรค์ให้หนังได้เป็นอย่างมาก

บทบาทในฐานะเดอะแก๊ง #อารามบอย ที่ยุยงส่งเสริมพระเอกให้ไปลงทุนไปเปิดไนท์คลับ ทำให้เกิดสีสันของเรื่องราวต่างๆที่สนุกและวุ่นวายชุลมุนไปหมด

บวกกับ ดารารับเชิญชื่อดัง จำนวนมากเป็นประวัติการ ถึง60 ท่าน เรียกว่าประชันดาราคนดังล้นจอแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนกันเลยทีเดียว

เนื้อหนังเล่าเรื่องถึงขุนหิรัญนายทุนเงินกู้หน้าเลือด ที่คิดดอกเบี้ยแพงแบบขูดเลือดขูดเนื้อ ที่คาดหวังจะให้หลานชายสุดรักของตนไปไล่ที่พวกลูกหนี้ทั้งหลาย

แต่กลับต้องผิดหวังที่ เจ้าตุ๊-อรรคพล หลานชายคนดี กลับขี้ใจอ่อนไปเลือกเข้าข้างชาวบ้านผู้เดือดร้อน แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้มากเพราะเรื่องกฏหมายเป็นเรื่องใหญ่

สุดท้ายจึงลงเอยที่ขุนหิรัญ ยื่นข้อเสนอให้ไปหาเงินมาใช้หนี้จำนวนเงิน 1 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นค่าไถ่ที่ดินของชาวชุมนุมให้เป็นอิสระ ความชุลมุนทั้งหลายจึงบังเกิดขึ้น

ในเรื่องนี้มิตร ชัยบัญชา รับบทบาทเป็น ตุ๊-อรรคพล พระเอกของเรื่อง ซึ่งเป็นการพลิกบทบาทตัวเองจากพระเอกมาดเข้ม หรือ แนวบู้แอคชั่น มาเป็นพระเอกขี้เล่น ดราม่า กุ๊กกิ๊ก

ซึ่งมิตรแสดงออกมาได้ดีเยี่ยมและมีความเป็นธรรมชาติมาก ชนิดที่ว่าแสดงแล้วคนดูเกิดความเชื่อว่าเค้าก็คือ ตุ๊-อรรคพล จริงๆ และ หลงรักในตัวละครตัวนี้กันไปเลย

ในบางฉากบางตอนมิตร ชัยบัญชา กับบทดราม่า ก็เรียกน้ำตา คนดูได้อย่างง่ายดาย

พอถึงบทแสดงเปิ่นๆเด๋อด๋า ตลกฮา ก็เล่นได้น่ารัก สามารถเรียกเสียงหัวเราะกันลั่นสนั่นโรงเลยทีเดียว

ในเรื่องนี้ อี๊ด-เพชรารับบทเป็น “กิ่งแก้ว”บทของสาวสวยที่ชีวิตยากจน แต่งตัวมอซอไม่มีกิน สถานะเกือบเป็นจะขอทาน แต่ก็มีความหวังว่า สักวันชีวิตเธอจะได้พบชายหล่อลูกคนรวยสักคนมาช่วยเหลือ สุดท้ายก็เป็นจริงดั่งฝัน

หนังจบแบบ #แฮปปี้เอนดิ้ง ด้วยความสุขของคนดู ที่ล้วนแล้วแต่อินไปกับเนื้อเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบ

ผู้เข้าชมมีทั้ง รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และน้ำตา ครบรส ครบอารมณ์ พร้อมทั้งยังให้คติสอนใจว่า

“คนเราต้องรู้จักการใช้เงิน และไม่ควรกู้เงินที่ดอกแพง เพราะชีวิตจะล่มจม “

“เงิน เงิน เงิน “ ได้รับการยอมรับว่าเป็นภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในทุกด้านของปีเลยก็ว่าได้ #ได้ทั้งกล่อง #ได้ทั้งเงิน

เป็นภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดแห่งยุคหนังไทยในสมัยนั้น

ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับรางวัลพระราชทานพระสุรัสวดี (รางวัลตุ๊กตาทอง) ในงานพิธีการประกวดภาพยนตร์ รางวัลตุ๊กตาทอง ครั้งที่ 8 ประจำปี พ.ศ. 2508 จัดโดยหอการค้าไทย

มีพิธีประกาศผลอย่างเป็นทางการ ณ เวทีลีลาศ สวนอัมพร เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2509 โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณ จากพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธาน และ พระราชทานรางวัลให้แก่ผู้ได้รับรางวัลในปีนั้น

ซึ่งดารานำชาย-หญิง ที่ได้รับพระราชทานโล่เกียรตินิยมคือคู่ขวัญ มิตร ชัยบัญชา-เพชรา เชาวราษฎร์ และ รางวัลเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม จากเพลง "หยาดเพชร”

ซึ่งต่อมาภายหลังภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภาพยนตร์ของชาติประจำปี พ.ศ. 2555 เนื่องในวันอนุรักษ์ภาพยนตร์ไทยของหอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน)

#วิวัยจิตต์แจ้ง เขียนและเรียบเรียง

เครดิต #ขอบคุณท่านเจ้าของภาพมิตรชัยบัญชา, ภาพคณะสามศักดิ์

#หมายเหตุประกอบเรื่อง ภาพยนตร์เรื่องเงิน เงิน เงิน

ภาพยนตร์ประเภท : Comedy / Romance / Musical / Drama

* ผู้กำกับ : พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ

* พระนิพนธ์ : พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ

* บทภาพยนตร์ : พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ

* ผู้ช่วย : จรี อมาตยกุล

* ผู้ถ่ายภาพ : โสภณ จงเสถียร

* ผู้ลำดับภาพ : จุรัย เกษมสุวรรณ

* อำนวยการสร้าง : หม่อมอุบล ยุคล

* บริษัทผู้สร้าง : ละโว้ภาพยนตร์

* จัดจำหน่าย : เอวันฟิล์ม

* วันที่เข้าฉาย : 28 ธันวาคม 2508 ฉายที่โรงภาพยนตร์เฉลิมเขตร์

* ระบบถ่ายทำ : ภาพยนตร์สีอิสต์แมน 35 มม.ซุปเปอร์ซีเนสโคป พากย์เสียงในฟิล์ม

เงิน เงิน เงิน เป็นภาพยนตร์ไทยที่ออกฉายเมื่อปี พ.ศ. 2508 สร้างโดย ละโว้ภาพยนตร์ กำกับการแสดงโดย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ นำแสดงโดย มิตร ชัยบัญชา, เพชรา เชาวราษฎร์, ชรินทร์ นันทนาคร, สุมาลี ทองหล่อ, สุเทพ วงศ์กำแหง และ อรสา อิศรางกูร ณ อยุธยา ฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2508 ที่โรงภาพยนตร์เฉลิมเขตร์

นำแสดงโดย

มิตร ชัยบัญชา

เพชรา เชาวราษฎร์

ชรินทร์ นันทนาคร

สุมาลี ทองหล่อ

สุเทพ วงศ์กำแหง

อรสา อิศรางกูร ณ อยุธยา

วิไลวรรณ วัฒนพานิช

ล้อต๊อก

ชูศรี มีสมมนต์

พูนสวัสดิ์ ธีมากร

อดุลย์ กรีน

อบ บุญติด

ท้วม ทรนง

สุลาลีวัลย์ สุวรรณทัต

มีศักดิ์ นาครัตน์

พร ภิรมย์

ดนตรีประกอบภาพยนตร์:

พ.ศ 2508

พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริจักรพันธุ์

คณะสามศักดิ์

ชรินทร์ นันทนาคร

เอื้อ สุนทรสนาน

แก้ว อัจฉริยะกุล

สง่า อารัมภีร์

สมาน กาญจนผลิน

ชาลี อินทรวิจิตร

สุรพล โทณะวณิก

พร ภิรมย์

ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทำด้วยฟิล์ม 35 มม. ในระบบซูเปอร์ซีเนสโคป สีอีสต์แมนและเสียงพากย์ในฟิล์ม นับเป็นเรื่องแรกที่มิตรและเพชราได้แสดงภาพยนตร์ไทยมาตรฐานสากลตลอดเรื่อง มีความยาวถึงสามชั่วโมงเศษ รวมทั้งได้สร้างปรากฏการณ์ยิ่งใหญ่ของวงการภาพยนตร์ไทยด้วยการรวมนักแสดงในยุคนั้นไว้มากมายถึง 60 กว่าคน โดยมีใช้คำโฆษณาว่า เพลงพราว ดาวพรู ดูเพลิน และยังมีเพลงประกอบ 14 เพลงจาก 15 นักเพลง

สามารถทำรายได้มากเป็นประวัติการณ์

ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับรางวัลตุ๊กตาทอง ในงานมอบรางวัลตุ๊กตาทอง ประจำ พ.ศ. 2508 เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2509 ได้แก่ โล่เกียรตินิยมในฐานะดารานำชาย-หญิง ที่ทำเงินรายได้มากที่สุด (มิตร ชัยบัญชา-เพชรา เชาวราษฎร์) และรางวัลเพลงประกอบยอดเยี่ยม (เพลง "หยาดเพชร") และภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภาพยนตร์ของชาติประจำปี พ.ศ. 2555 เนื่องในวันอนุรักษ์ภาพยนตร์ไทยของหอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน)

เรื่องย่อ:ขุนหิรัญ (อบ บุญติด) นายทุนเงินกู้ วัตโกเศรษฐกิจ มอบหมายให้หลานชาย ตุ๊ อรรคพล (มิตร ชัยบัญชา) เอาสัญญาเงินกู้ไปขู่บังคับชาวบางรื่นสุข ให้ย้ายออกด่วนเพื่อเอาที่ดินไปทำธุรกิจตึกแถวร่วมกับ คุณนายเม้า (สุลาลีวัลย์ สุวรรณทัต) หุ้นส่วน

ซึ่งอรรคพลไม่ชอบวิธีการเช่นนี้ และเมื่อได้พบกับชุมชนที่สุขสงบ เรียบง่าย รวมทั้งกลุ่มวงดนตรีแก๊งค์เด็กวัดอารามบอย ทำให้ความหวังที่จะทำธุรกิจบันเทิงอย่างที่ตนเองฝันไว้ผุดขึ้นมาอีกครั้ง จึงรวมกลุ่มกับแก๊งค์เด็กวัดเพื่อเปิดกิจการไนท์คลับ แต่ก็ถูกกลั่นแกล้งจากท่านขุน

ขณะเดียวกัน ภารดี (สุมาลี ทองหล่อ) น้องสาวแอบรักชอบกับ รังสรรค์ (ชรินทร์ นันทนาคร) ครูสอนเปียโนฐานะยากจน เมื่อหลานชายกับหลานสาวไม่ได้ดังใจ เศรษฐีหน้าเลือดอย่างท่านขุน จึงไล่ทั้งคู่ออกจากบ้าน โดยยื่นเงื่อนไขให้เอาเงินมาไถ่ที่ราคาหนึ่งล้านบาท

เหตุการณ์พลิกผันให้อรรคพลพบกับแม่ที่พลัดพรากกัน (วิไลวรรณ วัฒนพานิช) และได้ กิ่งแก้ว (เพชรา เชาวราษฎร์) เด็กขอทานผู้เป็นเสมือนพลังใจ จนทำให้ความสัมพันธ์พัฒนาเป็นความรัก และช่วยกันหาทางนำเงินมาไถ่ถอนที่ได้สำเร็จ